สวัสดีค่ะ...วันนี้ขออนุญาต ยืมแอคเคาท์เพื่อนมาฝึกรีวิวนะ
ส่วนตัวเป็นเจ้าของร้านกาแฟ และเป็นบาริสต้าด้วยค่ะ แต่วันนี้เว้นวรรคการทำกาแฟ มาเข้าครัวเพราะจะเตรียมทำเมนูพิเศษให้ลูกค้าอยากจะขายเมนูอื่นๆเพิ่มมากกว่าเบอเกอรี่ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นเมนูอาหารที่ไร้ควัน ไม่มีกลิ่นฉุน และที่สำคัญจะต้องไม่ทำให้บรรยากาศของร้านกาแฟเปลี่ยนไป ดังนั้น ข้อตกลงในการเมนูอาหารในครั้งนี้ จะต้องเป็นเมนูอาหาร อบ ปิ้ง ย่าง นึ่ง เท่านั้น
ซึ่งอย่างแรกที่ต้องเตรียมคงจะเป็นอุปกรณ์การทำอาหาร แน่นอนเรื่องงบประมาณ และความสะดวกสบาย เข้ากับร้านกาแฟที่มีพื้นที่ไม่มากหนัก งานนี้คงต้องคิดหนักว่า จะเลือกอะไรดี ระหว่าง เตาอบ กับหม้ออบลมร้อน ....
***************************
เริ่มด้วยการหาข้อมูล สำหรับข้อดี “เตาอบ” และ “หม้ออบลมร้อน”
พูดถึง “เตาอบ” มีขนาดให้เลือก ทั้งเล็ก และใหญ่ เหมาะสำหรับทำขนม อบขนมปัง อุ่นอาหาร ทำความสะอาดง่าย แค่ดึงถาดรองและตะแกรงออกมาล้างเท่านั้น
ส่วน “หม้ออบลมร้อน” มีขนาดกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่ สะดวก ง่าย เคลื่อนย้ายได้เหมาะสำหรับทำอาหารคาว สามารถทำขนมได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับเตาอบ ส่วนเรื่องการทำความสะอาดอาจจะยุ่งยากเรื่องการถอดอุปกรณ์ ทั้งตัวหม้อ ตะแกรงต่างๆ
ทั้งหมดนี่เป็นความคิดส่วนตัวนะค่ะ อาจจะมีข้อมูลไม่มาก เพราะใช้ความรู้ที่เคยสัมผัสได้จากเพื่อนๆ ที่รู้จัก ไม่อยากถาม อากู๋ (กู๋เกิล= Google) ให้เสียเวลา เอาความสะดวกสบายของตัวเองจะดีกว่า และเหมาะกับเมนูพิเศษที่ไม่ต้องมีอะไรมากมาย ไม่อยากทำอะไรยุ่งยาก ขอสบายๆ ง่ายๆ ไว้ก่อน
จึงตัดสินใจเลือก “หม้ออบลมร้อน” คะ เพราะอยากทำอาหารคาว มากกว่าจะที่ใช้เตาอบที่ดูอลังการเกินตัวมากไป
แต่จะใช้ยี่ห้อไหนล่ะ …. โชคดีที่พีสาวแนะนำให้ลองใช้ “หม้ออบลมร้อน” อยู่ยี่ห้อนึง จริงๆจะใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้สำหรับคนทดลองใช้แบบเราๆ
แต่ เป็นคนดีไซนนิดนึงและราคาไม่แพงมาก เลยเอาตัวนี้มา มีแก้วที่ทนต่อความร้อน ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ขนาด 12 ลิตรกำลังพอดี สำหรับการทำเมนูอาหารง่ายๆ แถมมีหูหิ้ว ด้วยน้ำหนักเพียง 6.2 กิโลกรัม
หลังจากที่ได้อุปกรณ์การทำอาหารในครั้งนี้เรียบร้อย อันดับต่อไปคือการเตรียมเมนูอาหาร แต่ยังคิดไม่ออกว่า จะทำอะไรดี มองไปรอบๆ กล่องบรรจุหม้ออบลมร้อน มีรูปเมนูอาหารตัวอย่าง555 จะอบ ปิ้ง ย่าง ทำได้หมดเลย เน้นอาหารคาว มากกว่าขนม
สำหรับพิเศษที่จะทำในวันนี้ คือ “พิซซ่า” เพราะไม่เคยทำมาก่อน อยากจะลองพิสูจน์ฝีมือพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ ดูซิว่า ระหว่างฝีมือบาริสต้าที่วันๆ จับแต่เครื่องทำกาแฟ จะหันมาเอาดีกับหม้ออบลมร้อน ดูซิ จะรุ่งหรือจะล่วง แต่ที่แน่ๆ กำลังใจจากคนรอบข้าง แอบกระซิบว่า ถ้าทำอร่อยและกินได้ ต่อไปจะไม่ง้อเดลิเวอรี่ให้เสียเวลา พูดแบบนี้จะรอช้าอยู่ทำไม รีบออกไปจ่ายตลาด ซื้อทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพิซซ่าสำเร็จรูป ไส้กรอกรมควัน แฮม เห็ดแชมปิญอง พริกหวาน ซอสพิซซ่า มายองเนส ออริกาโน่ มอสซาเรลลา (ชีสแท่ง)
เมื่อได้วัตถุดิบเป็นที่เรียบร้อย เราเริ่มทำพิซซ่ากันดีกว่า ว่าแล้วก็เอาแผ่นพิซซ่าสำเร็จรูปวางลงในจาน ทาด้วยซอสพิซซ่า โรยออริกาโน่ เบาๆ ไม่ต้องเยอะ ประเดี๋ยวจะหมดเร็ว 555
จากนั้นเตรียมแต่งหน้าพิซซ่า ด้วยไส้กรอกแฮม เห็ดแชมปิญอง พริกหวาน ตามใจชอบเลย บีบมายองเนสลงบนหน้าพิซซ่า เพื่อเพิ่มรสชาติ ปิดท้ายการแต่งหน้าพิซซ่า ด้วยการโรยมอสซาเรลลา (ชีสแท่ง) และผงออริกาโน่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เตรียมเข้าเตาอบได้เลย
อุปกรณ์พร้อม พิซซ่าพร้อม เตรียมอบได้เลย และสำหรับ “หม้ออบลมร้อน” Halogen สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 65-250 องศาเซลเซียส ด้วยกำลังไฟ 1,200 -1,400 วัตต์ อาหารสุกทั่วถึงด้วยระบบหมุนเวียนลมร้อน ตัวเครื่องมีระบบนิรภัยเมื่อยกหูจับในแนวตั้ง เครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติ
เมื่อนำพิซซ่าวางบนตะแกรงในหม้ออบลมร้อนแล้ว จึงปรับอุณหภูมิที่ 250 องศาเซล ใช้เวลาประมาณ 10 นาที …. จับเวลา ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก … ระหว่างรอเวลา เราสามารถแอบมองพิซซ่าที่สุดแสนจะน่ารับประทานได้ทุกวินาที
แค่ไม่กี่นาทีเราก็จะได้หม่ำพิซซ่าแล้วนะ ….
หลังจากพิซซ่าถาดแรกในชีวิต ผ่านไปได้ฉลุย มีแต่คนชมว่า อร่อย แป้งกรอบ เพราะอบได้ที่พอดี งานนี้ต้องบอกว่า ฝีมือดี หม้ออบเริ่ด ติดใจจนต้องเตรียมทำเมนูต่อไป ตั้งใจว่า จะลองทำไก่หมักซอสโทริยากิ และผักโขมอบชีส เมนูง่ายๆ ที่สามารถสั่งรับประทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ โดยไม่ทำลายบรรยากาศในร้านกาแฟ
ท้ายนี้ต้องยอมรับว่า ติดใจหม้ออบลมร้อน เพราะเหมาะสำหรับการทำเมนูอาหารง่าย ไม่ต้องมีปรุงแต่งอะไรมากมาย กลับมีมูลค่า น่ารับประทานมากขึ้น แถมยังพกพาไปไหนได้สะดวก ขอเพียงแค่มีปลั๊กไฟ และหม้อใบนี้ก็สามารถทำอาหารได้แค่ไม่กี่นาที ใครขี้เกียจทำมาแวะกินที่ร้านกาแฟของเค้านะ อยู่ใน ม.ศิลปากร
[CR] รีวิวพิซซ่า เมนูพิเศษในร้านกาแฟที่มีหม้ออบลมร้อนเป็นพระเอก
ส่วนตัวเป็นเจ้าของร้านกาแฟ และเป็นบาริสต้าด้วยค่ะ แต่วันนี้เว้นวรรคการทำกาแฟ มาเข้าครัวเพราะจะเตรียมทำเมนูพิเศษให้ลูกค้าอยากจะขายเมนูอื่นๆเพิ่มมากกว่าเบอเกอรี่ค่ะ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องเป็นเมนูอาหารที่ไร้ควัน ไม่มีกลิ่นฉุน และที่สำคัญจะต้องไม่ทำให้บรรยากาศของร้านกาแฟเปลี่ยนไป ดังนั้น ข้อตกลงในการเมนูอาหารในครั้งนี้ จะต้องเป็นเมนูอาหาร อบ ปิ้ง ย่าง นึ่ง เท่านั้น
ซึ่งอย่างแรกที่ต้องเตรียมคงจะเป็นอุปกรณ์การทำอาหาร แน่นอนเรื่องงบประมาณ และความสะดวกสบาย เข้ากับร้านกาแฟที่มีพื้นที่ไม่มากหนัก งานนี้คงต้องคิดหนักว่า จะเลือกอะไรดี ระหว่าง เตาอบ กับหม้ออบลมร้อน ....
***************************
เริ่มด้วยการหาข้อมูล สำหรับข้อดี “เตาอบ” และ “หม้ออบลมร้อน”
พูดถึง “เตาอบ” มีขนาดให้เลือก ทั้งเล็ก และใหญ่ เหมาะสำหรับทำขนม อบขนมปัง อุ่นอาหาร ทำความสะอาดง่าย แค่ดึงถาดรองและตะแกรงออกมาล้างเท่านั้น
ส่วน “หม้ออบลมร้อน” มีขนาดกลาง ไม่เล็กไม่ใหญ่ สะดวก ง่าย เคลื่อนย้ายได้เหมาะสำหรับทำอาหารคาว สามารถทำขนมได้ แต่ก็ไม่ดีเท่ากับเตาอบ ส่วนเรื่องการทำความสะอาดอาจจะยุ่งยากเรื่องการถอดอุปกรณ์ ทั้งตัวหม้อ ตะแกรงต่างๆ
ทั้งหมดนี่เป็นความคิดส่วนตัวนะค่ะ อาจจะมีข้อมูลไม่มาก เพราะใช้ความรู้ที่เคยสัมผัสได้จากเพื่อนๆ ที่รู้จัก ไม่อยากถาม อากู๋ (กู๋เกิล= Google) ให้เสียเวลา เอาความสะดวกสบายของตัวเองจะดีกว่า และเหมาะกับเมนูพิเศษที่ไม่ต้องมีอะไรมากมาย ไม่อยากทำอะไรยุ่งยาก ขอสบายๆ ง่ายๆ ไว้ก่อน
จึงตัดสินใจเลือก “หม้ออบลมร้อน” คะ เพราะอยากทำอาหารคาว มากกว่าจะที่ใช้เตาอบที่ดูอลังการเกินตัวมากไป
แต่จะใช้ยี่ห้อไหนล่ะ …. โชคดีที่พีสาวแนะนำให้ลองใช้ “หม้ออบลมร้อน” อยู่ยี่ห้อนึง จริงๆจะใช้ยี่ห้ออะไรก็ได้สำหรับคนทดลองใช้แบบเราๆ
แต่ เป็นคนดีไซนนิดนึงและราคาไม่แพงมาก เลยเอาตัวนี้มา มีแก้วที่ทนต่อความร้อน ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ขนาด 12 ลิตรกำลังพอดี สำหรับการทำเมนูอาหารง่ายๆ แถมมีหูหิ้ว ด้วยน้ำหนักเพียง 6.2 กิโลกรัม
หลังจากที่ได้อุปกรณ์การทำอาหารในครั้งนี้เรียบร้อย อันดับต่อไปคือการเตรียมเมนูอาหาร แต่ยังคิดไม่ออกว่า จะทำอะไรดี มองไปรอบๆ กล่องบรรจุหม้ออบลมร้อน มีรูปเมนูอาหารตัวอย่าง555 จะอบ ปิ้ง ย่าง ทำได้หมดเลย เน้นอาหารคาว มากกว่าขนม
สำหรับพิเศษที่จะทำในวันนี้ คือ “พิซซ่า” เพราะไม่เคยทำมาก่อน อยากจะลองพิสูจน์ฝีมือพร้อมกับอุปกรณ์ใหม่ ดูซิว่า ระหว่างฝีมือบาริสต้าที่วันๆ จับแต่เครื่องทำกาแฟ จะหันมาเอาดีกับหม้ออบลมร้อน ดูซิ จะรุ่งหรือจะล่วง แต่ที่แน่ๆ กำลังใจจากคนรอบข้าง แอบกระซิบว่า ถ้าทำอร่อยและกินได้ ต่อไปจะไม่ง้อเดลิเวอรี่ให้เสียเวลา พูดแบบนี้จะรอช้าอยู่ทำไม รีบออกไปจ่ายตลาด ซื้อทุกอย่างให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นแผ่นพิซซ่าสำเร็จรูป ไส้กรอกรมควัน แฮม เห็ดแชมปิญอง พริกหวาน ซอสพิซซ่า มายองเนส ออริกาโน่ มอสซาเรลลา (ชีสแท่ง)
เมื่อได้วัตถุดิบเป็นที่เรียบร้อย เราเริ่มทำพิซซ่ากันดีกว่า ว่าแล้วก็เอาแผ่นพิซซ่าสำเร็จรูปวางลงในจาน ทาด้วยซอสพิซซ่า โรยออริกาโน่ เบาๆ ไม่ต้องเยอะ ประเดี๋ยวจะหมดเร็ว 555
จากนั้นเตรียมแต่งหน้าพิซซ่า ด้วยไส้กรอกแฮม เห็ดแชมปิญอง พริกหวาน ตามใจชอบเลย บีบมายองเนสลงบนหน้าพิซซ่า เพื่อเพิ่มรสชาติ ปิดท้ายการแต่งหน้าพิซซ่า ด้วยการโรยมอสซาเรลลา (ชีสแท่ง) และผงออริกาโน่ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เตรียมเข้าเตาอบได้เลย
อุปกรณ์พร้อม พิซซ่าพร้อม เตรียมอบได้เลย และสำหรับ “หม้ออบลมร้อน” Halogen สามารถปรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 65-250 องศาเซลเซียส ด้วยกำลังไฟ 1,200 -1,400 วัตต์ อาหารสุกทั่วถึงด้วยระบบหมุนเวียนลมร้อน ตัวเครื่องมีระบบนิรภัยเมื่อยกหูจับในแนวตั้ง เครื่องจะหยุดทำงานอัตโนมัติ
เมื่อนำพิซซ่าวางบนตะแกรงในหม้ออบลมร้อนแล้ว จึงปรับอุณหภูมิที่ 250 องศาเซล ใช้เวลาประมาณ 10 นาที …. จับเวลา ติ๊กต๊อก ติ๊กต๊อก … ระหว่างรอเวลา เราสามารถแอบมองพิซซ่าที่สุดแสนจะน่ารับประทานได้ทุกวินาที
หลังจากพิซซ่าถาดแรกในชีวิต ผ่านไปได้ฉลุย มีแต่คนชมว่า อร่อย แป้งกรอบ เพราะอบได้ที่พอดี งานนี้ต้องบอกว่า ฝีมือดี หม้ออบเริ่ด ติดใจจนต้องเตรียมทำเมนูต่อไป ตั้งใจว่า จะลองทำไก่หมักซอสโทริยากิ และผักโขมอบชีส เมนูง่ายๆ ที่สามารถสั่งรับประทานคู่กับเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ โดยไม่ทำลายบรรยากาศในร้านกาแฟ
ท้ายนี้ต้องยอมรับว่า ติดใจหม้ออบลมร้อน เพราะเหมาะสำหรับการทำเมนูอาหารง่าย ไม่ต้องมีปรุงแต่งอะไรมากมาย กลับมีมูลค่า น่ารับประทานมากขึ้น แถมยังพกพาไปไหนได้สะดวก ขอเพียงแค่มีปลั๊กไฟ และหม้อใบนี้ก็สามารถทำอาหารได้แค่ไม่กี่นาที ใครขี้เกียจทำมาแวะกินที่ร้านกาแฟของเค้านะ อยู่ใน ม.ศิลปากร