แปะไว้ให้สำหรับคนที่กำลังคิดจะไป แล้วอยากเห็นเส้นทางทั้งหมดก่อน
เหมืองสมศักดิ์
อยู่ทางเส้นเดียวกับปิล็อก ทางขึ้นบ้านอิต่อง ปากทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิประมาณ 5 กม ถ้าเห็นซุ่มประตูป้าย "ชาวบ้านอิต่องยินดีต้อนรับทุกท่าน" แสดงว่าพึ่งเลยไปครับ ทางลงจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงป้ายนี้ครับ
สมัยก่อนเป็นเหมืองดีบุก ปัจจุบันหยุดขุดแร่ชั่วคราว ตอนนี้เปิดเป็นโฮมสเตร์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปพักได้ โดยปกติ ราคาคืนละ 1400-1600 รวมค่ารถ 4WD (รับจากแถว ๆ ปากทางเข้า) ค่าอาหาร 2 มื้อ (เย็น กับ เช้า) ค่าห้องพัก และขนมเค้กสุดอร่อยไม่อั่น
บรรยากาศที่พักเงียบสงบสุด ๆ ที่สำคัญ คือ
ไม่มีสัญญาณมือถือ และไม่มี wifi เพราะฉะนั่นใครจะลงไป คุยรำลา ก่อนนะครับ ลงไปข้างล่าง ถึงบ้านป้าเกร็น แล้วติดต่อใครไม่ได้แล้วนะ (จริง ๆ มันมีที่ ๆ มีสัญญาณนะ แต่มีอยู่ที่เดียว คือ หน้าห้องน้ำวัด ซึ่งต้องขับลึกเข้าไปอีกหน่อย)
ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ได้เอา CRF ออกมาขี่ทางไกล แบบเป็นกึ่งทัวร์ริ่งแบบนี้ มีริวิวแบบมั่ว ๆ แถมไปนิดนึงหละกันนะครับ
ตอนไปเรียน DirtCamp ทาง Ap honda ให้ CRF250l ถูกวางเป็น รถขี่ "ท่องเที่ยว เชิง Enduro" คือไม่ได้เป็นรถ Enduro จ๊า แต่มัน คือ รถขี่ท่องเที่ยวทั่วไป ที่พอเอาไปทาง Enduro ได้ด้วย
ส่วนใหญ่เท่าที่คุยกับพี่ๆ สายโหด มักจะเชียร์ CRF มากกว่า KLX เพราะ CRF ได้พื้นฐานเครื่องที่แรงกว่า ที่เหลือเขาจับยกโมดิฟายใหม่เกือบหมด ทั้งโช็ค ทั้งคลัช ทั้งสเตอร์ และ ณ ตอนนี้มีสายโหดบางท่านอัพเครื่องให้กลายเป็น 300cc ได้แล้วด้วย ส่วนตัวผมมือสมัครเล่นไม่กะโมดิฟาย ผมว่า CRF กับ KLX ก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่
1.ความเร็วที่ทำได้ - ผมใช้สเตอร์หลัง 48 หน้าของเดิมติดรถ + ยางหนามโมโตครอส
ไมล์ผมถ้าเทียบกับ GPS จะเร็วไป 20 km/hr (คือ ถ้าหน้าปัดโชว์ 150 km/hr GPS จะโชว์แค่ 130 km/hr)ความเร็วที่วิ่งสบายๆ คือ 110-120 km/hr(ตามความเร็วบน GPS)
เท่าที่ลอง 130 km/hr จะเริ่มตึง ๆ มือ แต่คิดว่าไปต่อได้อีกหน่อยน่าจะไหลถึง 140 km/hr ได้
2.อาการชกมวย - เท่าที่ลองจะเริ่มมาตั้งแต่ความเร็วเกิน 100
แต่ปัจจัยหลักไม่ได้มาจากความเร็ว ส่วนใหญ่มาจาก พื้นผิวถนน คือ ถ้าไม่เรียบนึดนึง จะส่งมาผลที่ล้อหน้าเราเลย หรือ ไม่ก็เวลาที่ขับตามรถทัวน์ แล้วลมมันดันจะเห็นอาการชัด พออาการมาผมลองแก้ด้วยวิธี เอาขาหนีบถังให้แน่นขึ้นนิดนึง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า ไว้สักแป๊บนึง ก็จะหยุดส่าย แล้วก็ขี่ต่อได้ปกติ
3.กำลังเครื่องตอนแซง - ตอนแซงรถยนต์ทั่วไป ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ค่อนข้างมีปัญหาตอนแซงรถทัวน์ เพราะกำลังเครื่องไม่ได้มีมากพอจะกระชาก ไป 140-150 แซงพรวดได้ เวลาแซงตอนที่ขี่ตามตูดจะโดนลมตีหน้ารถส่าย ๆ ดูน่ากลัว พอขึ้นขวาแซงก็ต้องใช้หลายวินาทีกว่าจะแซงผล (สมัยใช้ Vstorm บิดปุ๊บแซงว๊าบ) เพราะฉะนั่นเวลาผมเจอรถทัวน์ข้างหน้า นี่ต้องเล็งดี ๆ
4.ถังน้ำมัน - เล็กมากกกกกก ต้องเติม ๆ ทุก ๆ ชั่วโมง ถึง ชั่วโมงครึ่ง ถ้าดู google map แล้วบอกว่าทางนี้ใช้ 3 ชั่วโมง ก็เตรียมเติมน้ำมันประมาณ 2 ครั้ง อย่างทางไปปิล็อก พอพ้นเขื่อนวชิรลงกรณ์มา ก็เรียกแทบว่าจะไม่มีปั๊มแหละ สุดท้ายต้องใช้บริการน้ำมันขวด ๆ ของชาวบ้าน
แต่มีข้อดีอย่างนึงของ CRF คือ ที่ไมล์มีเกล์น้ำมันบอก อุ่นใจขึ้นนิดนึง
5.โค้ง - เท่าที่ผมลองการเข้าโค้งถึงเป็นยางหนาม ก็เข้าได้ไม่มีปัญหา เข้าที่ความเร็ว 100 ก็ได้ มีส่ายนิด ๆ แก้ด้วยหนีบถังแน่น ๆ หน่อย ช่วยได้เยอะมาก ข้อดี คือ ถนนในโค้งแย่ ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา อัดลงหลุมทั้งในโค้งไปเลยก็ยังได้ ( แต่ต้องไปเร็วมากนะครับ 555)
6.ทางลุย - สำหรับมือสมัครเล่นอย่างผม ถือว่าเกินพอครับ กำลังเครื่องเหลือ ๆ (เชียร์ว่าอัพ size สเตอร์ก็จะดีครับ 48++ แล้วก็เปลี่ยนยางซะหน่อย ยางเดิม ดอกไม่ค่อยโหด) ขี่ทั่วไปอย่างเหมืองสมศักดิ์ เขากระโจม แบบมือสมัครเล่นเหมือนผม ช่วงล่างเดิม ๆ เอาอยู่ แต่ถ้ามีแบบกระโดดลอยทั้ง 2 ล้อ นี่ไม่พอมือจริง ๆ ครับ ลงมาที่แทบจะเรียกว่าล้อหลังยุบติดซุ่มล้อเลย ใครสายโหด แนะนำยัด Ohlin เลยครับ ลองของคนอื่นมา อยากบอกว่าฟินเว่อร์
7.ที่ชอบ คือ ไมล์มีบอกเกย์น้ำมัน สามารถตั้งจับระยะทริปได้ 2 ทริป แต่ที่น่าเสียดายคือมันไม่มีวัดรอบ
โดยรวมผมว่า CRF โอเคเลยนะ แต่เหมาะกับขี่คนเดียวมากกว่า ถ้าจะมีคนซ้อน แล้วขี่ท่องเที่ยว ผมว่าอาจต้องไป 500x น่าจะดีกว่า
spoil - ทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ บ้านป้าเกร็น
เหมืองสมศักดิ์
อยู่ทางเส้นเดียวกับปิล็อก ทางขึ้นบ้านอิต่อง ปากทางเข้าเหมืองสมศักดิ์ ห่างจากอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิประมาณ 5 กม ถ้าเห็นซุ่มประตูป้าย "ชาวบ้านอิต่องยินดีต้อนรับทุกท่าน" แสดงว่าพึ่งเลยไปครับ ทางลงจะอยู่ทางซ้ายมือก่อนถึงป้ายนี้ครับ
สมัยก่อนเป็นเหมืองดีบุก ปัจจุบันหยุดขุดแร่ชั่วคราว ตอนนี้เปิดเป็นโฮมสเตร์ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปพักได้ โดยปกติ ราคาคืนละ 1400-1600 รวมค่ารถ 4WD (รับจากแถว ๆ ปากทางเข้า) ค่าอาหาร 2 มื้อ (เย็น กับ เช้า) ค่าห้องพัก และขนมเค้กสุดอร่อยไม่อั่น
บรรยากาศที่พักเงียบสงบสุด ๆ ที่สำคัญ คือ ไม่มีสัญญาณมือถือ และไม่มี wifi เพราะฉะนั่นใครจะลงไป คุยรำลา ก่อนนะครับ ลงไปข้างล่าง ถึงบ้านป้าเกร็น แล้วติดต่อใครไม่ได้แล้วนะ (จริง ๆ มันมีที่ ๆ มีสัญญาณนะ แต่มีอยู่ที่เดียว คือ หน้าห้องน้ำวัด ซึ่งต้องขับลึกเข้าไปอีกหน่อย)
ถือว่าเป็นครั้งแรก ที่ได้เอา CRF ออกมาขี่ทางไกล แบบเป็นกึ่งทัวร์ริ่งแบบนี้ มีริวิวแบบมั่ว ๆ แถมไปนิดนึงหละกันนะครับ
ตอนไปเรียน DirtCamp ทาง Ap honda ให้ CRF250l ถูกวางเป็น รถขี่ "ท่องเที่ยว เชิง Enduro" คือไม่ได้เป็นรถ Enduro จ๊า แต่มัน คือ รถขี่ท่องเที่ยวทั่วไป ที่พอเอาไปทาง Enduro ได้ด้วย
ส่วนใหญ่เท่าที่คุยกับพี่ๆ สายโหด มักจะเชียร์ CRF มากกว่า KLX เพราะ CRF ได้พื้นฐานเครื่องที่แรงกว่า ที่เหลือเขาจับยกโมดิฟายใหม่เกือบหมด ทั้งโช็ค ทั้งคลัช ทั้งสเตอร์ และ ณ ตอนนี้มีสายโหดบางท่านอัพเครื่องให้กลายเป็น 300cc ได้แล้วด้วย ส่วนตัวผมมือสมัครเล่นไม่กะโมดิฟาย ผมว่า CRF กับ KLX ก็ไม่ได้ต่างกันมากเท่าไหร่
1.ความเร็วที่ทำได้ - ผมใช้สเตอร์หลัง 48 หน้าของเดิมติดรถ + ยางหนามโมโตครอส
ไมล์ผมถ้าเทียบกับ GPS จะเร็วไป 20 km/hr (คือ ถ้าหน้าปัดโชว์ 150 km/hr GPS จะโชว์แค่ 130 km/hr)ความเร็วที่วิ่งสบายๆ คือ 110-120 km/hr(ตามความเร็วบน GPS)
เท่าที่ลอง 130 km/hr จะเริ่มตึง ๆ มือ แต่คิดว่าไปต่อได้อีกหน่อยน่าจะไหลถึง 140 km/hr ได้
2.อาการชกมวย - เท่าที่ลองจะเริ่มมาตั้งแต่ความเร็วเกิน 100 แต่ปัจจัยหลักไม่ได้มาจากความเร็ว ส่วนใหญ่มาจาก พื้นผิวถนน คือ ถ้าไม่เรียบนึดนึง จะส่งมาผลที่ล้อหน้าเราเลย หรือ ไม่ก็เวลาที่ขับตามรถทัวน์ แล้วลมมันดันจะเห็นอาการชัด พออาการมาผมลองแก้ด้วยวิธี เอาขาหนีบถังให้แน่นขึ้นนิดนึง แล้วโน้มตัวไปข้างหน้า ไว้สักแป๊บนึง ก็จะหยุดส่าย แล้วก็ขี่ต่อได้ปกติ
3.กำลังเครื่องตอนแซง - ตอนแซงรถยนต์ทั่วไป ไม่ค่อยมีปัญหา แต่ค่อนข้างมีปัญหาตอนแซงรถทัวน์ เพราะกำลังเครื่องไม่ได้มีมากพอจะกระชาก ไป 140-150 แซงพรวดได้ เวลาแซงตอนที่ขี่ตามตูดจะโดนลมตีหน้ารถส่าย ๆ ดูน่ากลัว พอขึ้นขวาแซงก็ต้องใช้หลายวินาทีกว่าจะแซงผล (สมัยใช้ Vstorm บิดปุ๊บแซงว๊าบ) เพราะฉะนั่นเวลาผมเจอรถทัวน์ข้างหน้า นี่ต้องเล็งดี ๆ
4.ถังน้ำมัน - เล็กมากกกกกก ต้องเติม ๆ ทุก ๆ ชั่วโมง ถึง ชั่วโมงครึ่ง ถ้าดู google map แล้วบอกว่าทางนี้ใช้ 3 ชั่วโมง ก็เตรียมเติมน้ำมันประมาณ 2 ครั้ง อย่างทางไปปิล็อก พอพ้นเขื่อนวชิรลงกรณ์มา ก็เรียกแทบว่าจะไม่มีปั๊มแหละ สุดท้ายต้องใช้บริการน้ำมันขวด ๆ ของชาวบ้าน
แต่มีข้อดีอย่างนึงของ CRF คือ ที่ไมล์มีเกล์น้ำมันบอก อุ่นใจขึ้นนิดนึง
5.โค้ง - เท่าที่ผมลองการเข้าโค้งถึงเป็นยางหนาม ก็เข้าได้ไม่มีปัญหา เข้าที่ความเร็ว 100 ก็ได้ มีส่ายนิด ๆ แก้ด้วยหนีบถังแน่น ๆ หน่อย ช่วยได้เยอะมาก ข้อดี คือ ถนนในโค้งแย่ ๆ ก็ไม่ใช่ปัญหา อัดลงหลุมทั้งในโค้งไปเลยก็ยังได้ ( แต่ต้องไปเร็วมากนะครับ 555)
6.ทางลุย - สำหรับมือสมัครเล่นอย่างผม ถือว่าเกินพอครับ กำลังเครื่องเหลือ ๆ (เชียร์ว่าอัพ size สเตอร์ก็จะดีครับ 48++ แล้วก็เปลี่ยนยางซะหน่อย ยางเดิม ดอกไม่ค่อยโหด) ขี่ทั่วไปอย่างเหมืองสมศักดิ์ เขากระโจม แบบมือสมัครเล่นเหมือนผม ช่วงล่างเดิม ๆ เอาอยู่ แต่ถ้ามีแบบกระโดดลอยทั้ง 2 ล้อ นี่ไม่พอมือจริง ๆ ครับ ลงมาที่แทบจะเรียกว่าล้อหลังยุบติดซุ่มล้อเลย ใครสายโหด แนะนำยัด Ohlin เลยครับ ลองของคนอื่นมา อยากบอกว่าฟินเว่อร์
7.ที่ชอบ คือ ไมล์มีบอกเกย์น้ำมัน สามารถตั้งจับระยะทริปได้ 2 ทริป แต่ที่น่าเสียดายคือมันไม่มีวัดรอบ
โดยรวมผมว่า CRF โอเคเลยนะ แต่เหมาะกับขี่คนเดียวมากกว่า ถ้าจะมีคนซ้อน แล้วขี่ท่องเที่ยว ผมว่าอาจต้องไป 500x น่าจะดีกว่า