เราขอให้พื้นที่ในส่วนนี้ได้ระบายในสิ่งที่อัดอั้นในใจ
เราเรียนอยู่ปีสองเเล้วตอนนี้ก็เหลือสอบวิชาสุดท้ายจะปิดเทอมเเล้ว เครียดมากเลย ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเป็นคนเรียนไม่เก่ง สอบก็ได้คะเเนนน้อย พยายามเเล้ว อ่านเเล้ว ลองวิธีอื่นเเล้วเเต่ก็ได้เเค่นี้ เหนื่อย ท้อ ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เคยท้อขนาดที่หาที่เรียนใหม่ ไม่เอาเเล้ว ไม่อยากสู้เเล้ว เเต่เวลาเราคุยกับคนทางบ้านที่ไร มันจะปวดใจทุกที บอกก่อนเลยว่าฐานะทางบ้านเราไม่ได้รวย ขัดสนอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้เราก็กู้เรียนถ้าไม่กู้ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม เราเรียนอยู่มหาลัยเเห่งหนึ่งที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งโดยพื้นฐานเเล้วภาษาของเราเต็ม 10 เราให้ 4 เพราะเราไม่ได้เลย เเต่เพราะว่าตอนสอบเราบังเอิญสอบได้ที่นี้ พ่อกับเเม่ก็บอกเรียนที่นี้แหละไม่ต้องไปสอบเเล้วมันเปลืองตังค์ เราจำคำพูดที่พ่อเคยบอกกับเราในวันที่มาส่งเราสอบได้ว่า "พ่อไม่รุ้จะเอาปัญญาหาเงินจากที่ไหนมาส่งลูกเรียน เเต่พ่ออยากให้ลูกได้เรียน " เราเเทบร้องให้เมื่อได้ยินคำนั้นจากปาก เเต่ด้วยที่เราไม่เคยเเสดงความรักกับพ่อเเม่ด้วยการพูดหวานๆ กอดเเทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเราในครอบครัว เพราะการที่พ่อเเม่เราไม่เคยเเสดงความรักในเเบบนั้นเเต่ไหนเเต่ไร บ้านเราทำไร่หลายอย่าง ไรอ้อย ไร้ข้าวโพด มันสัมปะหลัง ครอบครัวเราเพิ่งทำไรครั้งเเรกก่อนหน้านั้นทำนาปกติ ตามชาวบ้านทั่วไปทำ ครั้งเเรกกับการลงทุนทำไร เราแทบไม่ได้กำไรเลย เงินจากที่ขายได้พ่อกับแม่ต้องเอามาให้เราจ่ายค่าเทอมนู้นนี้นั้น จิปาถะ หมดเงินกับเรา 50000-60000 ก่อนที่เราจะมาเรียนที่นี้ด้วยซ้ำ ตอนที่มาส่งเราที่มหาลัยคือเเค่มาส่งจริงๆมาเลยถึงเเล้วก็กลับ ก่อนกลับเค้าบอกเราว่าพ่อต้องกลับเเล้วนะดูเเลตัวเองด้วย ถึงเราอยากให้เค้าอยู่กับเราสักสองสามวันเหมือนที่พ่อเเม่คนอื่นเค้าทำกันเเต่เรารู้เหตุผลทั้งหมด เราก็บอกกให้กลับเลยเราอยู่ได้(เราค่อนข้างที่จะไม่ปรึกษาปัญหากับครอบครัวเลย เท่าที่จำได้เราไม่เคยเลย) ช่วงเเรกที่เราเรียน เราตั้งใจมากเพราะเราได้ยินมาว่าเกรดมหาลัยมันยากใครๆก้ว่า มหาลัยนี้เข้าง่าย จริงคะเข้าง่ายจริง ออกง่ายกว่า ที่ยากคือจบเพราะที่นี้จบยากตอนจบต้องมีสอบ จบ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่จบ เรียนไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยมันท้อ เริ่มคิดถึงบ้านเราโทรกลับบ้านทุกวันบอกพ่อเเม่มันยาก โทรไปร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เรารู้อยู่เเล้วว่าสำหรับเราไม่มีทางเลือกมากต้องทนให้ได้เพราะเราเป็นพี่คนโต พ่อเเม่ค่อนข้างหวังกับเรามาก ครอบครัวของเราพ่อกับเเม่ก็อยุ่ด้วยกันตลอดจนวันนึงเราโทรกลับบ้านเราคุยกับเเม่ แม่บอกว่าแม่มาทำงานที่ต่างจังหวัดเมื่อเราได้รู้เราเเทบไม่อยากเรียนเเล้วเพราะพ่อเเม่เราอยู่ด้วยกันตลอดเเต่ตอนนี้ต้องเเยกมาทำงานเพราะเรา เรามันตัวซวย ณ ตอนนั้นเราคิดเเบบนั้นจริงๆ เราจบปีหนึ่งมา เกรดเราไม่สวยมากเเต่ก็ถือว่าไม่ได้เเย่คือพอไปได้ เราเรียนวิทยาศาสตร์ ลองคิดดูว่าภาษาอังกฤษสำหรับเราที่ไม่มีพื้นอยู่เเล้วเเต่เราต้องเรียนศัพท์ที่เป็นเฉพาะทาง มันเหนื่อนมากในช่วงเริ่มต้นแต่เราก่ผ่านมันมา จนกระทั้งปีสองการเรียนก้เริ่มยากขึ้นตามชั้นปีครั้งนี้มันหนักกว่าตอนปีหนึ่งเเน่นอน คือแบบมันไม่ไหวจนเราโทรกลับบ้าน พ่อกับเเม่บอกกับเราว่า ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านคือตอนนั้นใจเราออกไปเเล้ว 80% เราเตรียมไว้เเล้วจะเรียนใหม่ จะเริ่มใหม่เเม้ว่าเรารู้อยู่เเก่ใจเเล้วก้ตามว่าฐานะทางบ้านเราเป็นยังงัย เราพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น หลายครั้งต่อหลายครั้งเราก็เกลียดตัวเอง เกลียดจิตสำนึกตัวเอง เราอยากจะพูดออกไปเวลาเราอยากได้ อยากทำ ไม่ต้องการอะไร ออกจากปากบ้าง แต่ทุกครั้งเราก็บอกว่าไม่เป็นไรออกไปทุกที เทอมเเรกเราผ่านมันมาได้เเม้เกรดเราจะหล่นลงมากก็ตามเเต่เราก็พยายามได้เเค่นี้ เราทำใจเริ่มใหม่ในเทอมสองของปีสอง เรื่องเรียนที่ว่ายากมากเเล้วเทอมนี้มีเเต่ปัญหาต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อเรามารู้ว่าเพื่อนในกลุ่มที่เรารักมากมาโกหก ใส่ความเรา บอกกับใครต่อใครว่าเรายืมเงินเเล้วไม่คืน 2000 บาท เราไม่เคบรู้เรื่องนี้จนกระทั้งเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนคนนี้พูดอะไรยังงัยสรุปทุกคนในกลุ่มโดนใส่ความหมด เหมือนว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นโรคโกหกตัวเองคือสร้างจินตนาการ ว่าตัวเองมีนุ้นนี้ บอกคนอื่นว่าเคยไปนู้นไปนี้ทั้งที่ไม่เคย เราหลังจากที่รุ้ว่าโดนเพื่อนที่รักมากทำกับเราแบบนี้ เราก็ร้องให้หนักมาก เพราะเราเป็นคนที่ถ้าสำหรับเพื่อนเราให้เกินร้อย เราได้เพื่อนที่ดีมาตลอดเราไม่เคยเจอคนเเบบนี้เลยทำใจยาก หลังจากเรื่องเพื่อนผ่านไป คราวนี้คือเรื่องที่เราเเทบไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราเพราะพ่อเรารักเเม่มากเเละเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด (เราไม่ขอเล่ารายละเอียดว่าทะเลาะเรื่องอะไร) พ่อกับเเม่เราทำเลาะกันแทบจะอย่าร้าง พ่อโทรเรียกให้เเม่กลับมาจากที่ๆเเม่ทำงานเเล้วทำร้ายร่างกายเเม่ ทุบข้าวของภายในบ้านเสียหาย น้องเราโทรมาร้องไห้บอกพ่อจะฆ่าเเม่ น้องเราเป็นผู้ชายอยู่ในช่วงวัยรุ่นทั้งสองคนกลาง 18 คนเล็ก 14 เราได้ยินเรื่องนี้ตอนเเรกเราแทบไม่เชื่อ เเต่อยู่ๆใจมันหวิวๆเราร้องให้ไม่หยุด ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งอาทิตย์นั้นเราเเทบไม่ไปเรียนขังตังเองไว้ในห้อง ไม่ได้ไปสอบแลบ พอผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงคราวนี้น้องเราโทรมาหาร้องให้หนักมากคราวนี้เรากลัวมากน้องเราไม่เรียนพ่อว่าพ่อ บอกให้เราโทรไปหาป้าซึ่งเป้นพี่สาวพ่อมาพากลับไป น้องเราบอกว่าบอกให้ใครก็ได้มาเอามันไป จะไปไหนก็ไปมันทำร้ายเเม้ ทำลายข้าวของ ทำลายทุกอย่าง เราจุกพูดไม่ออก เราโทรหาป้าทั้งน้ำตาบอกให้ป้ามาบ้าน มาห้ามพ่อที บ้านป้ากลับเราอยู่กลับคนละอำเภอไกลพอสมควร ช่วงเกิดเรื่องเราก็โทรหาเเม่ไม่ได้พ่อพังโทรศัพท์ทิ้งเราไลน์หาน้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเราเห็นหน้าเเม่ เราเเทบร้องไห้เเต่เราต้องกลั้นไว้ หน้าตาเเม่เขียวช้ำมาก เเม่บอกว่าของเสียหายไม่เป็นไรไม่ตายก็หาใหม่ได้ ลูกตั้งใจเรียนก็พอ เดียวพ่อไม่ส่งเเม่จะส่งเอง ยิ่งทำให้เรากดดันมากเพราะจากที่บอกข้างต้นเเล้วว่าเราเรียนไม่เก่ง พอเเม่พูกจบเราก็บอกว่าแม่ทนอีกหน่อยนะอีกสองปีลูกก็จบแล้วจะเป็นคนเลี้ยงดูเอง นั้นคือคำพูดหวานที่สุดในชีวิตที่เคยพูดเเล้ว เรื่องเกิดขึ้นระหว่างช่วงสอบหนังสือเราเเทบไม่ได้อ่านทำให้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคะเเนนเลย จากเรื่องครั้งนี้ปกติเราจะโทรหาเเม่ทุกวันโทรหาพ่อบ่อยอาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง ตอนนี้เราเเทบไม่โทรกลับบ้านเลย เราไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นเรารู้ว่าเราอาจเห็นเเก่ตัว เเต่เราไม่อยากรับรู้จริงๆ แม่เราจากที่เคยทำงานขายหลายอย่าง หลังจากเกิดเรื่องเเทบไม่ออกจากบ้านเลย พ่อเราก็หายออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนที่ต่างจังหวัดซึ่งมีเเค่เรากับป้าที่สามารถติดต่อได้ น้องเราก็เเทบไม่กล้าออกไปไหน ตอนนี้พ่อกลับบ้านเเล้วเเต่ทุกอย่างก็คงไม่กลับมาเหมือนเดิมเเล้วน้องคุยเเชทกับเรามาบอกว่าจบ ม 6 แล้วไม่รุ้จะได้เรียนต่อรึป่าว น้องบอกไม่ได้เรียนไม่เป็นไรขอให้เราเรียนให้จบก็พอ เราเลยบอกกลับไปว่าอดทนอีกนิดถ้าพี่จบพี่จะเป็นคนส่งเรียนเอง ทนอีกนิดถ้าอยากเรียนๆรามไปก่อน (เพราะเเม่เราไม่ส่งแน่ๆเพราะเเค่เราก้ส่งไม่ไหวแล้ว) หรือถ้ารอได้หยุดก่อนสองปีเเล้วพี่จะส่งเอง เพราะตอนนี้พ่อกับเเม่แทบจะส่งเราไม่ไหวกับค่าอยู่ค่ากินซึ่งเดือนๆนึงตกเกือบหมืน แม่จากที่ไปทำงานส่งเงินให้เราได้เเต่ละเดือนตอนนี้ไม่มีงานทำต้องรับจ้างเก็บพริก ทำไร ทำนา วันต่อวัน เรารู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงชีวิตเค้าเหลือเกิน เราโทรกลับไปหาเเม่เราคิดไว้เเล้วว่าคงไม่กลับเพราะเรารู้สถานการณ์ทางบ้านดีเราคุยกับเเม่เรื่องทั่วไปแม่ถามเรื่องเรียนซัมเมอร์เราบอกว่าไม่ได้เรียนแม่บอกว่าปิดเทอมนี้ไม่ต้องกลับหรอกเรารู้ดีอยู่เเล้วเราก้บอกไม่กลับหรอกค่าเครื่องเเพง ทั้งที่อีกใจเราก็อยากกลับไปบ้านเเทบขาดใจอยากหนีปัญหาเรื่องเรียน อยากเห็นหน้าพ่อเเม่ เราออกจากบ้านมาเรียนมหาลัยเราได้กลับบ้านสองครั้ง เราเจอหน้าเเม่เเค่เครั้งเดียวหลังจากที่จากกันตอนมาส่งเรา เราสงสารน้อง สงสารเเม่ สงสารพ่อ เกลียดตัวเองเพราะตอนนี้เราคือความหลังสุดท้ายเเล้ว เราจะทำยังงัยกับชีวิตตอนนี้ดี มันเหมือนทุกอย่างประดังเข้ามาในชีวิตเวลาเดียวกัน หาทางออกไม่ได้ ..........
ทางออก 18+
เราเรียนอยู่ปีสองเเล้วตอนนี้ก็เหลือสอบวิชาสุดท้ายจะปิดเทอมเเล้ว เครียดมากเลย ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเป็นคนเรียนไม่เก่ง สอบก็ได้คะเเนนน้อย พยายามเเล้ว อ่านเเล้ว ลองวิธีอื่นเเล้วเเต่ก็ได้เเค่นี้ เหนื่อย ท้อ ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เคยท้อขนาดที่หาที่เรียนใหม่ ไม่เอาเเล้ว ไม่อยากสู้เเล้ว เเต่เวลาเราคุยกับคนทางบ้านที่ไร มันจะปวดใจทุกที บอกก่อนเลยว่าฐานะทางบ้านเราไม่ได้รวย ขัดสนอยู่บ่อยครั้ง ตอนนี้เราก็กู้เรียนถ้าไม่กู้ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม เราเรียนอยู่มหาลัยเเห่งหนึ่งที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งโดยพื้นฐานเเล้วภาษาของเราเต็ม 10 เราให้ 4 เพราะเราไม่ได้เลย เเต่เพราะว่าตอนสอบเราบังเอิญสอบได้ที่นี้ พ่อกับเเม่ก็บอกเรียนที่นี้แหละไม่ต้องไปสอบเเล้วมันเปลืองตังค์ เราจำคำพูดที่พ่อเคยบอกกับเราในวันที่มาส่งเราสอบได้ว่า "พ่อไม่รุ้จะเอาปัญญาหาเงินจากที่ไหนมาส่งลูกเรียน เเต่พ่ออยากให้ลูกได้เรียน " เราเเทบร้องให้เมื่อได้ยินคำนั้นจากปาก เเต่ด้วยที่เราไม่เคยเเสดงความรักกับพ่อเเม่ด้วยการพูดหวานๆ กอดเเทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเราในครอบครัว เพราะการที่พ่อเเม่เราไม่เคยเเสดงความรักในเเบบนั้นเเต่ไหนเเต่ไร บ้านเราทำไร่หลายอย่าง ไรอ้อย ไร้ข้าวโพด มันสัมปะหลัง ครอบครัวเราเพิ่งทำไรครั้งเเรกก่อนหน้านั้นทำนาปกติ ตามชาวบ้านทั่วไปทำ ครั้งเเรกกับการลงทุนทำไร เราแทบไม่ได้กำไรเลย เงินจากที่ขายได้พ่อกับแม่ต้องเอามาให้เราจ่ายค่าเทอมนู้นนี้นั้น จิปาถะ หมดเงินกับเรา 50000-60000 ก่อนที่เราจะมาเรียนที่นี้ด้วยซ้ำ ตอนที่มาส่งเราที่มหาลัยคือเเค่มาส่งจริงๆมาเลยถึงเเล้วก็กลับ ก่อนกลับเค้าบอกเราว่าพ่อต้องกลับเเล้วนะดูเเลตัวเองด้วย ถึงเราอยากให้เค้าอยู่กับเราสักสองสามวันเหมือนที่พ่อเเม่คนอื่นเค้าทำกันเเต่เรารู้เหตุผลทั้งหมด เราก็บอกกให้กลับเลยเราอยู่ได้(เราค่อนข้างที่จะไม่ปรึกษาปัญหากับครอบครัวเลย เท่าที่จำได้เราไม่เคยเลย) ช่วงเเรกที่เราเรียน เราตั้งใจมากเพราะเราได้ยินมาว่าเกรดมหาลัยมันยากใครๆก้ว่า มหาลัยนี้เข้าง่าย จริงคะเข้าง่ายจริง ออกง่ายกว่า ที่ยากคือจบเพราะที่นี้จบยากตอนจบต้องมีสอบ จบ ถ้าไม่ผ่านก็ไม่จบ เรียนไปเรื่อยๆ มันเหนื่อยมันท้อ เริ่มคิดถึงบ้านเราโทรกลับบ้านทุกวันบอกพ่อเเม่มันยาก โทรไปร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เรารู้อยู่เเล้วว่าสำหรับเราไม่มีทางเลือกมากต้องทนให้ได้เพราะเราเป็นพี่คนโต พ่อเเม่ค่อนข้างหวังกับเรามาก ครอบครัวของเราพ่อกับเเม่ก็อยุ่ด้วยกันตลอดจนวันนึงเราโทรกลับบ้านเราคุยกับเเม่ แม่บอกว่าแม่มาทำงานที่ต่างจังหวัดเมื่อเราได้รู้เราเเทบไม่อยากเรียนเเล้วเพราะพ่อเเม่เราอยู่ด้วยกันตลอดเเต่ตอนนี้ต้องเเยกมาทำงานเพราะเรา เรามันตัวซวย ณ ตอนนั้นเราคิดเเบบนั้นจริงๆ เราจบปีหนึ่งมา เกรดเราไม่สวยมากเเต่ก็ถือว่าไม่ได้เเย่คือพอไปได้ เราเรียนวิทยาศาสตร์ ลองคิดดูว่าภาษาอังกฤษสำหรับเราที่ไม่มีพื้นอยู่เเล้วเเต่เราต้องเรียนศัพท์ที่เป็นเฉพาะทาง มันเหนื่อนมากในช่วงเริ่มต้นแต่เราก่ผ่านมันมา จนกระทั้งปีสองการเรียนก้เริ่มยากขึ้นตามชั้นปีครั้งนี้มันหนักกว่าตอนปีหนึ่งเเน่นอน คือแบบมันไม่ไหวจนเราโทรกลับบ้าน พ่อกับเเม่บอกกับเราว่า ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านคือตอนนั้นใจเราออกไปเเล้ว 80% เราเตรียมไว้เเล้วจะเรียนใหม่ จะเริ่มใหม่เเม้ว่าเรารู้อยู่เเก่ใจเเล้วก้ตามว่าฐานะทางบ้านเราเป็นยังงัย เราพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น หลายครั้งต่อหลายครั้งเราก็เกลียดตัวเอง เกลียดจิตสำนึกตัวเอง เราอยากจะพูดออกไปเวลาเราอยากได้ อยากทำ ไม่ต้องการอะไร ออกจากปากบ้าง แต่ทุกครั้งเราก็บอกว่าไม่เป็นไรออกไปทุกที เทอมเเรกเราผ่านมันมาได้เเม้เกรดเราจะหล่นลงมากก็ตามเเต่เราก็พยายามได้เเค่นี้ เราทำใจเริ่มใหม่ในเทอมสองของปีสอง เรื่องเรียนที่ว่ายากมากเเล้วเทอมนี้มีเเต่ปัญหาต่างๆเข้ามาในชีวิต เมื่อเรามารู้ว่าเพื่อนในกลุ่มที่เรารักมากมาโกหก ใส่ความเรา บอกกับใครต่อใครว่าเรายืมเงินเเล้วไม่คืน 2000 บาท เราไม่เคบรู้เรื่องนี้จนกระทั้งเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนคนนี้พูดอะไรยังงัยสรุปทุกคนในกลุ่มโดนใส่ความหมด เหมือนว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นโรคโกหกตัวเองคือสร้างจินตนาการ ว่าตัวเองมีนุ้นนี้ บอกคนอื่นว่าเคยไปนู้นไปนี้ทั้งที่ไม่เคย เราหลังจากที่รุ้ว่าโดนเพื่อนที่รักมากทำกับเราแบบนี้ เราก็ร้องให้หนักมาก เพราะเราเป็นคนที่ถ้าสำหรับเพื่อนเราให้เกินร้อย เราได้เพื่อนที่ดีมาตลอดเราไม่เคยเจอคนเเบบนี้เลยทำใจยาก หลังจากเรื่องเพื่อนผ่านไป คราวนี้คือเรื่องที่เราเเทบไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราเพราะพ่อเรารักเเม่มากเเละเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด (เราไม่ขอเล่ารายละเอียดว่าทะเลาะเรื่องอะไร) พ่อกับเเม่เราทำเลาะกันแทบจะอย่าร้าง พ่อโทรเรียกให้เเม่กลับมาจากที่ๆเเม่ทำงานเเล้วทำร้ายร่างกายเเม่ ทุบข้าวของภายในบ้านเสียหาย น้องเราโทรมาร้องไห้บอกพ่อจะฆ่าเเม่ น้องเราเป็นผู้ชายอยู่ในช่วงวัยรุ่นทั้งสองคนกลาง 18 คนเล็ก 14 เราได้ยินเรื่องนี้ตอนเเรกเราแทบไม่เชื่อ เเต่อยู่ๆใจมันหวิวๆเราร้องให้ไม่หยุด ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งอาทิตย์นั้นเราเเทบไม่ไปเรียนขังตังเองไว้ในห้อง ไม่ได้ไปสอบแลบ พอผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงคราวนี้น้องเราโทรมาหาร้องให้หนักมากคราวนี้เรากลัวมากน้องเราไม่เรียนพ่อว่าพ่อ บอกให้เราโทรไปหาป้าซึ่งเป้นพี่สาวพ่อมาพากลับไป น้องเราบอกว่าบอกให้ใครก็ได้มาเอามันไป จะไปไหนก็ไปมันทำร้ายเเม้ ทำลายข้าวของ ทำลายทุกอย่าง เราจุกพูดไม่ออก เราโทรหาป้าทั้งน้ำตาบอกให้ป้ามาบ้าน มาห้ามพ่อที บ้านป้ากลับเราอยู่กลับคนละอำเภอไกลพอสมควร ช่วงเกิดเรื่องเราก็โทรหาเเม่ไม่ได้พ่อพังโทรศัพท์ทิ้งเราไลน์หาน้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเราเห็นหน้าเเม่ เราเเทบร้องไห้เเต่เราต้องกลั้นไว้ หน้าตาเเม่เขียวช้ำมาก เเม่บอกว่าของเสียหายไม่เป็นไรไม่ตายก็หาใหม่ได้ ลูกตั้งใจเรียนก็พอ เดียวพ่อไม่ส่งเเม่จะส่งเอง ยิ่งทำให้เรากดดันมากเพราะจากที่บอกข้างต้นเเล้วว่าเราเรียนไม่เก่ง พอเเม่พูกจบเราก็บอกว่าแม่ทนอีกหน่อยนะอีกสองปีลูกก็จบแล้วจะเป็นคนเลี้ยงดูเอง นั้นคือคำพูดหวานที่สุดในชีวิตที่เคยพูดเเล้ว เรื่องเกิดขึ้นระหว่างช่วงสอบหนังสือเราเเทบไม่ได้อ่านทำให้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคะเเนนเลย จากเรื่องครั้งนี้ปกติเราจะโทรหาเเม่ทุกวันโทรหาพ่อบ่อยอาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง ตอนนี้เราเเทบไม่โทรกลับบ้านเลย เราไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นเรารู้ว่าเราอาจเห็นเเก่ตัว เเต่เราไม่อยากรับรู้จริงๆ แม่เราจากที่เคยทำงานขายหลายอย่าง หลังจากเกิดเรื่องเเทบไม่ออกจากบ้านเลย พ่อเราก็หายออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนที่ต่างจังหวัดซึ่งมีเเค่เรากับป้าที่สามารถติดต่อได้ น้องเราก็เเทบไม่กล้าออกไปไหน ตอนนี้พ่อกลับบ้านเเล้วเเต่ทุกอย่างก็คงไม่กลับมาเหมือนเดิมเเล้วน้องคุยเเชทกับเรามาบอกว่าจบ ม 6 แล้วไม่รุ้จะได้เรียนต่อรึป่าว น้องบอกไม่ได้เรียนไม่เป็นไรขอให้เราเรียนให้จบก็พอ เราเลยบอกกลับไปว่าอดทนอีกนิดถ้าพี่จบพี่จะเป็นคนส่งเรียนเอง ทนอีกนิดถ้าอยากเรียนๆรามไปก่อน (เพราะเเม่เราไม่ส่งแน่ๆเพราะเเค่เราก้ส่งไม่ไหวแล้ว) หรือถ้ารอได้หยุดก่อนสองปีเเล้วพี่จะส่งเอง เพราะตอนนี้พ่อกับเเม่แทบจะส่งเราไม่ไหวกับค่าอยู่ค่ากินซึ่งเดือนๆนึงตกเกือบหมืน แม่จากที่ไปทำงานส่งเงินให้เราได้เเต่ละเดือนตอนนี้ไม่มีงานทำต้องรับจ้างเก็บพริก ทำไร ทำนา วันต่อวัน เรารู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงชีวิตเค้าเหลือเกิน เราโทรกลับไปหาเเม่เราคิดไว้เเล้วว่าคงไม่กลับเพราะเรารู้สถานการณ์ทางบ้านดีเราคุยกับเเม่เรื่องทั่วไปแม่ถามเรื่องเรียนซัมเมอร์เราบอกว่าไม่ได้เรียนแม่บอกว่าปิดเทอมนี้ไม่ต้องกลับหรอกเรารู้ดีอยู่เเล้วเราก้บอกไม่กลับหรอกค่าเครื่องเเพง ทั้งที่อีกใจเราก็อยากกลับไปบ้านเเทบขาดใจอยากหนีปัญหาเรื่องเรียน อยากเห็นหน้าพ่อเเม่ เราออกจากบ้านมาเรียนมหาลัยเราได้กลับบ้านสองครั้ง เราเจอหน้าเเม่เเค่เครั้งเดียวหลังจากที่จากกันตอนมาส่งเรา เราสงสารน้อง สงสารเเม่ สงสารพ่อ เกลียดตัวเองเพราะตอนนี้เราคือความหลังสุดท้ายเเล้ว เราจะทำยังงัยกับชีวิตตอนนี้ดี มันเหมือนทุกอย่างประดังเข้ามาในชีวิตเวลาเดียวกัน หาทางออกไม่ได้ ..........