ทางออก 18+

เราขอให้พื้นที่ในส่วนนี้ได้ระบายในสิ่งที่อัดอั้นในใจ


เราเรียนอยู่ปีสองเเล้วตอนนี้ก็เหลือสอบวิชาสุดท้ายจะปิดเทอมเเล้ว   เครียดมากเลย  ก่อนอื่นต้องบอกว่าเราเป็นคนเรียนไม่เก่ง  สอบก็ได้คะเเนนน้อย   พยายามเเล้ว  อ่านเเล้ว  ลองวิธีอื่นเเล้วเเต่ก็ได้เเค่นี้  เหนื่อย ท้อ  ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง เคยท้อขนาดที่หาที่เรียนใหม่   ไม่เอาเเล้ว   ไม่อยากสู้เเล้ว  เเต่เวลาเราคุยกับคนทางบ้านที่ไร  มันจะปวดใจทุกที    บอกก่อนเลยว่าฐานะทางบ้านเราไม่ได้รวย  ขัดสนอยู่บ่อยครั้ง  ตอนนี้เราก็กู้เรียนถ้าไม่กู้ก็ไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนจ่ายค่าเทอม  เราเรียนอยู่มหาลัยเเห่งหนึ่งที่มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ  ซึ่งโดยพื้นฐานเเล้วภาษาของเราเต็ม  10  เราให้  4  เพราะเราไม่ได้เลย  เเต่เพราะว่าตอนสอบเราบังเอิญสอบได้ที่นี้   พ่อกับเเม่ก็บอกเรียนที่นี้แหละไม่ต้องไปสอบเเล้วมันเปลืองตังค์  เราจำคำพูดที่พ่อเคยบอกกับเราในวันที่มาส่งเราสอบได้ว่า   "พ่อไม่รุ้จะเอาปัญญาหาเงินจากที่ไหนมาส่งลูกเรียน   เเต่พ่ออยากให้ลูกได้เรียน "  เราเเทบร้องให้เมื่อได้ยินคำนั้นจากปาก  เเต่ด้วยที่เราไม่เคยเเสดงความรักกับพ่อเเม่ด้วยการพูดหวานๆ  กอดเเทบจะไม่เคยเกิดขึ้นกับเราในครอบครัว   เพราะการที่พ่อเเม่เราไม่เคยเเสดงความรักในเเบบนั้นเเต่ไหนเเต่ไร  บ้านเราทำไร่หลายอย่าง  ไรอ้อย  ไร้ข้าวโพด  มันสัมปะหลัง   ครอบครัวเราเพิ่งทำไรครั้งเเรกก่อนหน้านั้นทำนาปกติ  ตามชาวบ้านทั่วไปทำ   ครั้งเเรกกับการลงทุนทำไร  เราแทบไม่ได้กำไรเลย  เงินจากที่ขายได้พ่อกับแม่ต้องเอามาให้เราจ่ายค่าเทอมนู้นนี้นั้น  จิปาถะ   หมดเงินกับเรา 50000-60000   ก่อนที่เราจะมาเรียนที่นี้ด้วยซ้ำ   ตอนที่มาส่งเราที่มหาลัยคือเเค่มาส่งจริงๆมาเลยถึงเเล้วก็กลับ   ก่อนกลับเค้าบอกเราว่าพ่อต้องกลับเเล้วนะดูเเลตัวเองด้วย  ถึงเราอยากให้เค้าอยู่กับเราสักสองสามวันเหมือนที่พ่อเเม่คนอื่นเค้าทำกันเเต่เรารู้เหตุผลทั้งหมด  เราก็บอกกให้กลับเลยเราอยู่ได้(เราค่อนข้างที่จะไม่ปรึกษาปัญหากับครอบครัวเลย   เท่าที่จำได้เราไม่เคยเลย) ช่วงเเรกที่เราเรียน   เราตั้งใจมากเพราะเราได้ยินมาว่าเกรดมหาลัยมันยากใครๆก้ว่า มหาลัยนี้เข้าง่าย   จริงคะเข้าง่ายจริง  ออกง่ายกว่า  ที่ยากคือจบเพราะที่นี้จบยากตอนจบต้องมีสอบ จบ  ถ้าไม่ผ่านก็ไม่จบ   เรียนไปเรื่อยๆ  มันเหนื่อยมันท้อ  เริ่มคิดถึงบ้านเราโทรกลับบ้านทุกวันบอกพ่อเเม่มันยาก  โทรไปร้องไห้ไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่เรารู้อยู่เเล้วว่าสำหรับเราไม่มีทางเลือกมากต้องทนให้ได้เพราะเราเป็นพี่คนโต  พ่อเเม่ค่อนข้างหวังกับเรามาก   ครอบครัวของเราพ่อกับเเม่ก็อยุ่ด้วยกันตลอดจนวันนึงเราโทรกลับบ้านเราคุยกับเเม่ แม่บอกว่าแม่มาทำงานที่ต่างจังหวัดเมื่อเราได้รู้เราเเทบไม่อยากเรียนเเล้วเพราะพ่อเเม่เราอยู่ด้วยกันตลอดเเต่ตอนนี้ต้องเเยกมาทำงานเพราะเรา  เรามันตัวซวย   ณ  ตอนนั้นเราคิดเเบบนั้นจริงๆ  เราจบปีหนึ่งมา  เกรดเราไม่สวยมากเเต่ก็ถือว่าไม่ได้เเย่คือพอไปได้   เราเรียนวิทยาศาสตร์ ลองคิดดูว่าภาษาอังกฤษสำหรับเราที่ไม่มีพื้นอยู่เเล้วเเต่เราต้องเรียนศัพท์ที่เป็นเฉพาะทาง  มันเหนื่อนมากในช่วงเริ่มต้นแต่เราก่ผ่านมันมา   จนกระทั้งปีสองการเรียนก้เริ่มยากขึ้นตามชั้นปีครั้งนี้มันหนักกว่าตอนปีหนึ่งเเน่นอน  คือแบบมันไม่ไหวจนเราโทรกลับบ้าน  พ่อกับเเม่บอกกับเราว่า  ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านคือตอนนั้นใจเราออกไปเเล้ว  80%  เราเตรียมไว้เเล้วจะเรียนใหม่ จะเริ่มใหม่เเม้ว่าเรารู้อยู่เเก่ใจเเล้วก้ตามว่าฐานะทางบ้านเราเป็นยังงัย  เราพยายามไม่คิดถึงเรื่องนั้น  หลายครั้งต่อหลายครั้งเราก็เกลียดตัวเอง  เกลียดจิตสำนึกตัวเอง  เราอยากจะพูดออกไปเวลาเราอยากได้   อยากทำ  ไม่ต้องการอะไร  ออกจากปากบ้าง   แต่ทุกครั้งเราก็บอกว่าไม่เป็นไรออกไปทุกที  เทอมเเรกเราผ่านมันมาได้เเม้เกรดเราจะหล่นลงมากก็ตามเเต่เราก็พยายามได้เเค่นี้   เราทำใจเริ่มใหม่ในเทอมสองของปีสอง   เรื่องเรียนที่ว่ายากมากเเล้วเทอมนี้มีเเต่ปัญหาต่างๆเข้ามาในชีวิต  เมื่อเรามารู้ว่าเพื่อนในกลุ่มที่เรารักมากมาโกหก   ใส่ความเรา  บอกกับใครต่อใครว่าเรายืมเงินเเล้วไม่คืน  2000  บาท เราไม่เคบรู้เรื่องนี้จนกระทั้งเพื่อนคนอื่นๆในกลุ่มมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนคนนี้พูดอะไรยังงัยสรุปทุกคนในกลุ่มโดนใส่ความหมด  เหมือนว่าเพื่อนคนนั้นจะเป็นโรคโกหกตัวเองคือสร้างจินตนาการ   ว่าตัวเองมีนุ้นนี้  บอกคนอื่นว่าเคยไปนู้นไปนี้ทั้งที่ไม่เคย   เราหลังจากที่รุ้ว่าโดนเพื่อนที่รักมากทำกับเราแบบนี้   เราก็ร้องให้หนักมาก  เพราะเราเป็นคนที่ถ้าสำหรับเพื่อนเราให้เกินร้อย   เราได้เพื่อนที่ดีมาตลอดเราไม่เคยเจอคนเเบบนี้เลยทำใจยาก  หลังจากเรื่องเพื่อนผ่านไป  คราวนี้คือเรื่องที่เราเเทบไม่คิดว่ามันจะเกิดขึ้นกับชีวิตของเราเพราะพ่อเรารักเเม่มากเเละเป็นคนมีเหตุผลมาตลอด  (เราไม่ขอเล่ารายละเอียดว่าทะเลาะเรื่องอะไร)  พ่อกับเเม่เราทำเลาะกันแทบจะอย่าร้าง  พ่อโทรเรียกให้เเม่กลับมาจากที่ๆเเม่ทำงานเเล้วทำร้ายร่างกายเเม่  ทุบข้าวของภายในบ้านเสียหาย  น้องเราโทรมาร้องไห้บอกพ่อจะฆ่าเเม่  น้องเราเป็นผู้ชายอยู่ในช่วงวัยรุ่นทั้งสองคนกลาง 18  คนเล็ก  14   เราได้ยินเรื่องนี้ตอนเเรกเราแทบไม่เชื่อ  เเต่อยู่ๆใจมันหวิวๆเราร้องให้ไม่หยุด ไม่อยากเจอหน้าใครทั้งอาทิตย์นั้นเราเเทบไม่ไปเรียนขังตังเองไว้ในห้อง  ไม่ได้ไปสอบแลบ   พอผ่านไปประมาณอาทิตย์นึงคราวนี้น้องเราโทรมาหาร้องให้หนักมากคราวนี้เรากลัวมากน้องเราไม่เรียนพ่อว่าพ่อ   บอกให้เราโทรไปหาป้าซึ่งเป้นพี่สาวพ่อมาพากลับไป   น้องเราบอกว่าบอกให้ใครก็ได้มาเอามันไป  จะไปไหนก็ไปมันทำร้ายเเม้  ทำลายข้าวของ  ทำลายทุกอย่าง  เราจุกพูดไม่ออก  เราโทรหาป้าทั้งน้ำตาบอกให้ป้ามาบ้าน  มาห้ามพ่อที  บ้านป้ากลับเราอยู่กลับคนละอำเภอไกลพอสมควร  ช่วงเกิดเรื่องเราก็โทรหาเเม่ไม่ได้พ่อพังโทรศัพท์ทิ้งเราไลน์หาน้องซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องเราเห็นหน้าเเม่   เราเเทบร้องไห้เเต่เราต้องกลั้นไว้  หน้าตาเเม่เขียวช้ำมาก   เเม่บอกว่าของเสียหายไม่เป็นไรไม่ตายก็หาใหม่ได้  ลูกตั้งใจเรียนก็พอ เดียวพ่อไม่ส่งเเม่จะส่งเอง  ยิ่งทำให้เรากดดันมากเพราะจากที่บอกข้างต้นเเล้วว่าเราเรียนไม่เก่ง  พอเเม่พูกจบเราก็บอกว่าแม่ทนอีกหน่อยนะอีกสองปีลูกก็จบแล้วจะเป็นคนเลี้ยงดูเอง   นั้นคือคำพูดหวานที่สุดในชีวิตที่เคยพูดเเล้ว  เรื่องเกิดขึ้นระหว่างช่วงสอบหนังสือเราเเทบไม่ได้อ่านทำให้ไม่ต้องพูดถึงเรื่องคะเเนนเลย   จากเรื่องครั้งนี้ปกติเราจะโทรหาเเม่ทุกวันโทรหาพ่อบ่อยอาทิตย์ละสองถึงสามครั้ง   ตอนนี้เราเเทบไม่โทรกลับบ้านเลย  เราไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้นเรารู้ว่าเราอาจเห็นเเก่ตัว  เเต่เราไม่อยากรับรู้จริงๆ   แม่เราจากที่เคยทำงานขายหลายอย่าง   หลังจากเกิดเรื่องเเทบไม่ออกจากบ้านเลย   พ่อเราก็หายออกจากบ้านไปอยู่กับเพื่อนที่ต่างจังหวัดซึ่งมีเเค่เรากับป้าที่สามารถติดต่อได้  น้องเราก็เเทบไม่กล้าออกไปไหน   ตอนนี้พ่อกลับบ้านเเล้วเเต่ทุกอย่างก็คงไม่กลับมาเหมือนเดิมเเล้วน้องคุยเเชทกับเรามาบอกว่าจบ ม 6  แล้วไม่รุ้จะได้เรียนต่อรึป่าว  น้องบอกไม่ได้เรียนไม่เป็นไรขอให้เราเรียนให้จบก็พอ  เราเลยบอกกลับไปว่าอดทนอีกนิดถ้าพี่จบพี่จะเป็นคนส่งเรียนเอง  ทนอีกนิดถ้าอยากเรียนๆรามไปก่อน (เพราะเเม่เราไม่ส่งแน่ๆเพราะเเค่เราก้ส่งไม่ไหวแล้ว) หรือถ้ารอได้หยุดก่อนสองปีเเล้วพี่จะส่งเอง  เพราะตอนนี้พ่อกับเเม่แทบจะส่งเราไม่ไหวกับค่าอยู่ค่ากินซึ่งเดือนๆนึงตกเกือบหมืน    แม่จากที่ไปทำงานส่งเงินให้เราได้เเต่ละเดือนตอนนี้ไม่มีงานทำต้องรับจ้างเก็บพริก ทำไร ทำนา วันต่อวัน  เรารู้สึกเหมือนเป็นตัวถ่วงชีวิตเค้าเหลือเกิน  เราโทรกลับไปหาเเม่เราคิดไว้เเล้วว่าคงไม่กลับเพราะเรารู้สถานการณ์ทางบ้านดีเราคุยกับเเม่เรื่องทั่วไปแม่ถามเรื่องเรียนซัมเมอร์เราบอกว่าไม่ได้เรียนแม่บอกว่าปิดเทอมนี้ไม่ต้องกลับหรอกเรารู้ดีอยู่เเล้วเราก้บอกไม่กลับหรอกค่าเครื่องเเพง  ทั้งที่อีกใจเราก็อยากกลับไปบ้านเเทบขาดใจอยากหนีปัญหาเรื่องเรียน   อยากเห็นหน้าพ่อเเม่   เราออกจากบ้านมาเรียนมหาลัยเราได้กลับบ้านสองครั้ง  เราเจอหน้าเเม่เเค่เครั้งเดียวหลังจากที่จากกันตอนมาส่งเรา   เราสงสารน้อง  สงสารเเม่  สงสารพ่อ   เกลียดตัวเองเพราะตอนนี้เราคือความหลังสุดท้ายเเล้ว  เราจะทำยังงัยกับชีวิตตอนนี้ดี  มันเหมือนทุกอย่างประดังเข้ามาในชีวิตเวลาเดียวกัน  หาทางออกไม่ได้ ..........
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
อาจจะเป็นการระบายของคุณแต่ผมขอมารบกวนเล็กน้อย  
สู้ๆครับผม แล้วก้าวผ่านช่วงเวลานี้ไปครับผม
คนเรามีต้นทุนทางชีวิตที่ต่างกัน แต่เราเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ครับ
อย่างแรก ตั้งใจเรียน ตั้งใจสอบ ให้ดีที่สุดตามความสามารถตนครับ
อย่างสอง เรื่องราวของเพื่อนปล่อยวาง คนเราเจอทั้งเพื่อนดีและไม่ดี เพื่อนไม่ดีเพียงคนเดียวไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น
อย่างสาม เรื่องราวครอบครัวอันนี้ตอบยาก แต่เมื่อเป็นความต้องการของมารดาคุณแล้ว คุณต้องตั้งใจเรียน จิตใจเข็มแข็งไว้ครับ เป็นที่พึ่งทางใจของมารดาคุณ น้องคุณ ครอบครัว ของคุณครับ  ทางออกอยู่ที่คุณจะเลือกครับ ผมขอรบกวนแต่เพียงเท่านี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่