สวัสดีค่ะ จะมารายงานให้เพื่อนๆทราบว่า ตอนนี้คุณแม่ก็ยังมีชีวิตอยู่นะคะ จากที่หมอบอกว่าจะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน เพราะปกติมะเร็งท่อน้ำดีลามไปตับอ่อนระยะสุดท้ายจะเสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น แต่ดิฉันก็ไม่ลดละความพยายามในการดูแลคุณแม่ จนตอนนี้ อยู่มา 1 ปี 2 เดือน อาการโดยทั่วไปก็มีอ่อนเพลียบ้าง แต่ยังเดินได้ ทานข้าวได้ อยากจะบอกเพื่อนๆว่า เรื่องใบทุเรียนเทศเราลองให้คุณแม่ทาน รอบแรกนี่คือทรุดเลยค่ะ แต่พอท่านหยุดแล้วอาการก็ดีขึ้น ผ่านมาหลายเดือน ก็ยังอยากลองอีกรอบ พอทานได้แค่ 3 วัน ไข้ขึ้นสูง ตัวเหลืองตาเหลืองเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แล้วก็มีข่าวคนในจังหวัดทานทุเรียนเทศสุดท้ายก็เสียชีวิตกันหลายราย เพราะเค้าเลือกที่จะรักษาทางนี้โดยเลี่ยงคีโม ฉายแสง อยากจะบอกเลยว่ายังไงถ้ามีโอกาสได้รับการรักษาก็เต็มที่สุดๆไปเลยค่ะ แล้วดูแลเรื่องอาหาร + จิตใจไปพร้อมๆกัน และพอเราปรึกษากับคุณหมอ เค้าบอกว่าสมุนไพรตัวนี้ทาง อย.ยังไม่รับประกันในเรื่องความปลอดภัย เพราะมีความเป็นพิษต่อ ตับ ไต และสมอง เพื่อนๆคนไหนจะลองให้ผู้ป่วยทาน ต้องคิดให้ดีๆนะคะ อย่าให้เป็นเหมือนเคสคุณแม่เรา ยิ่งไปซ้ำเติมให้หนักขึ้นกว่าเดิม อย่าเป็นเหยื่อทางการตลาดแบบที่เราเคยเป็นมา ตั้งแต่ป่วยมาเสียดายที่คุณแม่ไม่เคยได้รับการ คีโม หรือ ฉายแสง จึงอาศัยเรื่องอาหารการกินที่เราบำรุงให้เท่านั้นเองค่ะ ส่วนเรื่องยา มีที่ให้ทานอยู่ที่เดียวก็คือ เบญจอมฤทธิ์ ทานมา 1 ปี เป็นของ รพ.แพทย์แผนไทยโดยตรงค่ะ ต้องพบคุณหมอก่อนรับยาทุกครั้ง ผู้ป่วยหลายรายที่ไปรับยาพร้อมแม่ ก็อยู่นานกันทั้งนั้นเลยค่ะ ก็คิดว่าน่าจะมีส่วนช่วยไม่ให้มะเร็งลุกลาม แต่สุดท้ายแล้วคุณหมอที่นี่เค้าจะรับเคสที่ ไม่ได้รับการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบันนะคะ เพราะยาอาจจะไปตีกันได้ ยังไงเค้าก็ให้ความสำคัญกับการรักษาแผนปัจจุบันมาก่อนอันดับแรก เพราะมีผลการรายงาน การวิจัยที่ชัดเจนมากกว่า ไว้มีอะไรคืบหน้าจะมาบอกเล่าให้ฟังใหม่นะคะ
บอกเล่า หลังแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย มา1ปีกว่า