เกลียดมากแฟนชาวอังกฤษ ชอบล้อเรื่อง "กินหมา"

ขอเล่าเรื่องย่อๆ เลยนะคะ  เรามีแฟนเป็นคนอังกฤษคบกันมาได้สองปีกว่าแล้ว  แต่ว่าเป็นการคบการออนไลน์นะคะ  คือเรารู้จักเค้าจากการเข้าไปคอมเมนท์รูปภาพเค้ารูปนึง  แล้วก็เลยมีโอกาสแชทกัน  เค้ามีแพลนที่จะมาเมืองไทยสิ้นปีนี้  ตลอดเวลาสองปีกว่าที่เราคบกัน  เราคุยกันผ่านสไกป์  ครอบครัวเค้า เพื่อนๆ เค้ารู้จักเราทุกคน  แฟนเราเป็นคนคุยสนุก เป็นเพื่อนที่น่ารัก รับฟังและเป็นเพื่อนที่ปรึกษาเวลาที่เรามีปัญหา  แต่มีเรื่องๆ นึงที่เราไม่ชอบเอาซะเลย  คือเรื่องมุขตลกของเค้า  มุขตลกของเค้าน่าจะจัดอยู่ในพวก Racist joke คือบางทีเค้าไปเจอ meme ตลกๆ เกี่ยวกับพวกคนผิวดำ ตลกเกี่ยวกับมุสลิม พระเยซู ฯลฯ เค้าจะเอามาแชร์ให้เราดู  แล้วหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง  บางมุขเราก็เก็ท บางมุขก็ไม่เก็ท  ถึงบางมุขเราจะเก็ทแต่เราก็ไม่เห็นว่ามันจะตลกตรงไหน  กับการที่เอาเรื่องสีผิว ชนชาติ ศาสนา อะไรมาล้อเล่น  และที่โดนกับตัวเองก็คือการโดนเค้าล้อเรื่องคนไทยชอบกินหมา  เราเกลียดที่สุด  เราบอกว่าคนไทยไม่ได้กินหมา  แต่เป็นคนชาติอื่นที่เข้ามาอาศัยในประเทศไทย บางจังหวัดเท่านั้น  ถึงเราจะอธิบาย หรือบอกเค้าว่าเราเกลียดมุขตลกนี้มากแค่ไหน  เค้าก็ชอบเอามาล้อเล่น  อย่างบางทีเราเล่าให้เค้าฟังว่าลูกสาวเอาหมาเพื่อนบ้านมาเล่น เราเลยจับอาบน้ำให้ซะเลย  เค้าหัวเราะแล้วบอกทำความสะอาดหมาก่อนปรุงเป็นอาหารเย็นเหรอ  แล้วเค้าก็หัวเราะเหมือนกับว่ามันตลกมากมาย เค้าขำแต่เราโกรธ เราเคยทะเลาะกันแรงๆ สองสามครั้งเรื่องมุขตลกอีเดียทๆ ของเค้าประเภทนี้ แล้วเราบอกเลยว่าเราไม่ชอบเราเกลียด   เค้าเลิกเล่นมุขกินหมานี่ไปพักใหญ่  เพราะเห็นว่าเราโมโหจริงๆ จังๆ  
เรื่องล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อน  คือหลานชายเค้าอายุ 12 ปี  เดินเข้ามาในห้องเค้า แล้วเห็นว่าเค้ากำลังคุยสไกป์กับเรา  เด็กเปรตนั่นพอเห็นเราในกล้องเวปแคม ทำท่าเหมือนสตั้นท์ไปสามวินาที แล้วก็หัวเราะพรืดออกมา ก่อนที่จะเดินออกจากห้องไปซักพัก  แล้วกลับเข้ามาใหม่ จ้องมองเราแล้วทำท่าเหมือนพยายามกลั้นหัวเราะ  เราคิดว่ามันเป็นการเสียมารยาทมากที่เค้าทำแบบนั้น  (เพือนเค้าบางคนเวลาเห็นเราก็จะมีทีท่าแปลกๆ เหมือนกับว่าผู้หญิงเอเซียนี่เป็นสัตว์เลี้ยงหายากอะไรซักอย่าง)  เราเก็บความรู้สึกไม่ได้ต่อว่าอะไรหลานเค้าที่ทำกริยาอย่างนั้นใส่เรา  แต่เราก็แอบจิกกัดว่า "หลานเธอเมากัญชารึไง"   เรื่องผ่านไปจนวันรุ่งขึ้น เค้าส่งแมสเสจมาหาเราทาง Whatsapp เปิดประโยคด้วยคำว่า "LOL" คือหัวเราะนำมาก่อนเลย  แล้วบอกว่า หลานเค้าถามเค้าว่าเราเคยกินหมารึป่าว  โอ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยย เท่านั้นแหละอิชั้นของขึ้นเลย  ก็เลยย้อนไปแรงๆ ว่า "เออ ชั้นก็รู้นะว่าพวกคนอังกฤษนี้การศึกษาต่ำเกี่ยวกับเรื่องของคนเอเซีย หรือคนในโลกที่สาม  ยังไงก็บอกหลานเธอให้หาความรู้เอาในกูเกิ้ลบ้างนะ  ถ้าครูที่โรงเรียนไม่มีปัญญาจะสอน" (คือเค้าไม่ค่อยมีความรู้ที่ถูกต้องเรื่องคนเอเซียซักเท่าไหร่เลย เค้าเคยบอกว่าคนอังกฤษบางคนสงสัยด้วยว่าเมืองไทย บ้านเรามีไฟฟ้าเข้าถึงทุกบ้านรึยัง)  พอเราว่าเค้าไปแรงๆ  เค้าก็แบบช็อคเลย  เราก็พูดต่อว่าเราไม่พอใจหลานเค้าตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ที่พอเห็นเราแล้วก็ทำเป็นหัวเราะ  เพราะฉะนั้นอย่ามาเล่าอะไรที่จะทำให้ไม่ชอบขี้หน้าไปมากกว่านี้เลย  เค้าก็แบบว่า เฮ้ย อะไร ทำไมยูต้องไปเอาเรื่องเอาราวกับเด็กอายุแค่ 12   สำหรับเราอายุเท่านี้คือไม่เด็กแล้วนะคะ แล้วถ้าคุณไม่สอนลูกสอนหลานวันนี้  คุณจะไปสอนเมื่อไหร่ล่ะ  ลูกหลานคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน   เราก็บอกเค้าว่าก็สอนหลานซะตั้งแต่วันนี้สิ โตมามันจะได้ไม่นิสัยเสีย
คือเราโมโหไง  เด็กมันเป็นเด็ก มันอาจพูดอะไรไม่คิด  ถามอะไรไม่คิด  แต่แฟนเราเอง  กลับหัวเราะ กลับเห็นเป็นเรื่องตลกที่เอามาเล่าต่อให้เราฟัง  ทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าเราเกลียดมาก  ทำไมเค้าไม่บอกหลานเค้าเฮ้ย พูดแบบนี้ไม่ได้นะ  สอนหลานสิว่ามันเป็นการเสียมารยาท แล้วร้ายกาจมากที่จะพูดถึงแฟนลุงตัวเองแบบนี้  คือทำไมเค้าไม่ปกป้องเรา  กลับเห็นเป็นเรื่องตลกแล้วหัวเราะไปด้วยกัน  คือถึงคนไทยจะกินหมาจริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาถาม  หรือเอามาล้อเล่น  มารยาท  ความเคารพนับถือกันไม่มีเลยเหรอ  นี่ชั้นเป็นแฟนยูนะ ทำไมไม่สอนหลานให้นับถือชั้นบ้าง
นี่แฟนเราเค้าก็ไม่พูดกับเรามาสองวันแล้ว  เราคิดว่าเราก็จะไม่พูดกับเค้าจนกว่าเราจะได้คำขอโทษจากเค้า จากหลานเค้า  หรือถ้าเค้าเห็นว่ามันเป็นเรื่องบ้าบอ ที่เราเอาเรื่องเอาราวกับเรื่องแค่นี้  ก็แล้วแต่เค้า  แต่เราบอกเลย ครั้งนี้เราสามารถเลิกกับเค้าได้เพราะเรื่องแค่นี้   เราคิดว่าเราเป็นแฟนเค้า  เราต้องได้ความนับถือในฐานะแฟน  คุณล้อเล่นกับชั้นได้เพราะคุณคิดว่าคุณเป็นแฟนชั้น หยอกเย้ากันได้  แต่นี่คุณปล่อยให้ครอบครัวคุณเห็นการดูถูกชั้นเป็นเรื่องตลก  ชั้นไม่ตลกด้วย
เราอยากถามเพื่อนๆ ชาวพันทิพว่ามีความเห็นกับเรื่องนี้ยังไง  แล้วเราควรจะบอกแฟนเราว่ายังไง  เค้าถึงจะเข้าใจว่าทำไมเราถึงเกลียด ไม่ขอบให้เค้าล้อเราเรื่องแบบนี้  หรือเพื่อนบางคนคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ  แล้วเราซีเรียสมากเกินไป

ปล. ขออนุญาตใช้พื้นที่ด้านล่าง ปล. นี้ตอบรวมๆ ของทุกความเห็นนะคะ  
ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกคอมเมนต์ และคำแนะนำดีๆ  เท่าที่อ่านดูส่วนใหญ่จะมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการคบหากันแบบออนไลน์  ส่วนใหญ่จะออกความเห็นคล้ายๆ กันว่าการคบกันแบบนี้ไม่น่าจะเรียกว่าแฟน หรือตั้งคำถามกับเราว่ามโนไปเองรึป่าว  ซึ่งความคิดของแต่ละคนจะได้มาจากประสบการณ์รอบๆ ตัวในชีวิตของตัวเอง  บางเรื่องก็อาจจะเป็นเรื่องเข้าใจยาก  หรือบางเรื่องเราเข้าใจแต่เราก็อาจจะไม่เห็นด้วย ตรงนี้ขอเคารพทุกความเห็นนะคะ  เรากับแฟน (เรียกว่าแฟนอีกแล้ว ทำไมถึงเรียกว่าแฟน) คบกันมานานถึงสองปี  เราเรียนรู้นิสัยดีๆ และแย่ๆ กันมานาน  เค้าเป็นคนดีคนนึง  ส่วนดีมีเยอะแยะ มากกว่าส่วนแย่ๆ เรียกว่าประมาณ 95% ดี 5% แย่  แต่ไอ้ 5% แย่นี้ดันเป็นส่วนที่เราเกลียดทนไม่ได้จึงได้เกิดเป็นกระทู้สนทนานี้ขึ้นมา
ถามว่าทำไมถึงเรียกคนที่คบหาออนไลน์ไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ว่าแฟน  เราสองคนคบกันแบบครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายรับรู้  เพื่อนรับรู้ เจ้านายเค้ารับรู้  เค้ากำลังทำเรื่องขอวันหยุดที่จะมาเมืองไทยปลายปีนี้  ตั๋วเครื่องบินจองไว้แล้ว หัวหน้างานเค้าเตรียมอนุมัติวันหยุดให้แล้ว  กับคำถามว่าทำไมคบกันสองปีกว่าเค้าไม่มาเจอตัวเราตั้งนานแล้ว  ก็ด้วยความพร้อมของปัจจจัย  การเงิน การงาน  ปีแรกที่รู้จักกัน เค้าขอลางานหยุดยาวไว้สำหรับคริสมาสต์กับครอบครัว (ขอไว้ก่อนที่จะรู้จักเรา) เพราะฉะนั้นปีแรกเงินพร้อม แต่วันหยุดไม่มี  พอเข้าปีที่สองก็เป็นช่วงที่เค้าเก็บเงิน และเตรียมวันหยุดยาวสำหรับมาเมืองไทยปลายปีนี้   ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกค่ะว่ามันจะออกมาเป็นแบบไหน  เราเองมีความหวังในตัวเค้าไม่เต็มร้อย  เพราะเราไม่รู้ว่าโชคชะตามันจะเล่นมุขไหนกับเรา  บางทีเจอกันแล้วเราอาจไม่รู้สึกใช่ หรืออะไรก็เกิดขึ้นได้  แต่เราไม่อยากให้ใช้คำว่า "มโนไปเอง"  เพราะการที่ครอบครัวเราทั้งสองฝ่ายรับรู้การมีตัวตนของอีกฝ่ายนึง และการที่เราใช้เวลาอยู่กับเค้ามาสองปีเต็มๆ  มันค่อนข้างจะมากกว่าคำว่า "มโน" นิดนึงค่ะ  ยังไงก็เคารพทุกความเห็นนะคะ คิดว่าเป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของคนในโลกออนไลน์กับคนในชีวิตจริงนะคะ  อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใครจากตัวหนังสือเพียงหน้าเดียวเลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่