ขึ้นค่าเช่าอย่างไรไม่ให้น่าเกลียดครับ
ที่บ้านให้เช่าอาคารสำหรับร้านอาหารครับ ส่วนใหญ่เป็นแนวร้านอาหาร+เหล้าเบียร์+ดนตรี เป็นร้านคุณภาพกลางๆ ครับ (ตามสภาพแวดล้อม)
ตั้งแต่ทำธุรกิจทางด้านปล่อยเช่านี้มากว่า 10 ปี ก็มีผู้เช่ามาเช่าหลายรายครับ
เช่น
ผู้เช่าบางรายก็กิจการดีลูกค้าเต็มร้านอยู่ได้ยาวๆ แต่สุดท้ายก็มาแป่กตรงหุ้นส่วนทะเลาะกันบ้าง, ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีบ้าง (ช่วงมีชุมนุม), โดนทางราชการสั่งห้ามบ้าง
ผู้เช่าบางรายก็อยู่ได้แบบกระท่อนกระแท่นจนครบสัญญา
ผู้เช่าบางรายก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ไปก่อน เพราะขายไม่ดี
ในระยแรกๆ เจอแต่ผู้เช่าที่กิจการดีครับอยู่ได้ยาวๆ
ช่วงนี้มีแต่คนมาขอเช่า บางรายก็เป็นเจ้าใหม่มาติดต่อและรอเจ้าที่เช่าอยู่หมดสัญญา แล้วเสนอราคาที่ดีกว่า (หน่อยนึง) แต่ทุกครั้งผมก็ให้สิทธิ์ผู้เช่าก่อนครับ (ไม่ได้เห็นแก่ราคาที่ดีกว่าหน่อยนึง)
จนกระทั้ง 2 ปีก่อนหน้านี้ เกือบตลอดทั้งปี เป็นช่วงที่ผม เจอแต่ผู้เช่าที่อยู่ได้ไม่นานก็ไปครับ ในบางเดือนก็ว่างไม่มีคนเช่า (จริงๆ มีมาติดต่อขอเช่าตลอดครับแต่ไม่ได้ตามเงื่อนไขเลยตัดสินใจยอมขาดรายได้ แต่ดีกว่าเจอปัญหา)
ช่วงนี้ผม (ผู้ให้เช่า) รู้สึกเหมือนขาลง (ช่วงนั้นมีชุมนุมด้วย) ก็เลยยอมลดราคาค่าเช่าลงไปประมาณ -25% เลยครับ เพื่อให้ได้ผู้เช่าตามสเป๊คที่ต้องการ
ก็ปรากฎว่ามีติดต่อเข้ามาหลายราย ทางผู้ให้เช่าก็ตัดสินใจเลือกผู้เช่าที่น่าจะดูดีที่สุดครับ ณ ตอนนั้นครับ
เจ้าแรกอยู่ได้เดือนเดียวก็รู้ตัวว่าเจ๊งครับ อยู่ได้เดือนเดียวแล้วก็ไป แล้วก็ทิ้งร่องรอยอารยธรรมไว้ด้วย (เลวมาก)
เจ้าต่อมา เจ้านี้ปรากฎว่าไม่ผิดหวังครับ ผู้เช่ารายนี้กิจการดีมากครับ ตั้งแต่ปล่อยเช่ามาเป็นลูกค้าที่กิจการดีที่สุด (คนเต็มร้านเกือบตลอด)
ตอนนี้จะครบสัญญาแล้วครับ
ก็เลยมาปรึกษาว่า
1. ถ้าจะขึ้นค่าเช่าให้ "เท่าเดิม" (หมายถึงราคาก่อนลด -25%)
ซึ่ง ผู้เช่าเค้าไม่รู้หรอกว่าราคาที่เค้าเช่าในปัจจุบันเนี่ยเป็นราคาที่ลดลง -25%
หรือ
2. ถ้าขึ้นราคาให้ "มากกว่า" ราคาเดิม (หมายถึงมากกว่าราคาก่อนลด -25%) จะน่าเกลียดไหมครับ ถ้าหากไม่น่าเกลียดคิดว่าเพิ่มขึ้นซักกี่ % ดีครับ
รบกวนแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ
ขึ้นค่าเช่าอย่างไรไม่ให้น่าเกลียดครับ
ที่บ้านให้เช่าอาคารสำหรับร้านอาหารครับ ส่วนใหญ่เป็นแนวร้านอาหาร+เหล้าเบียร์+ดนตรี เป็นร้านคุณภาพกลางๆ ครับ (ตามสภาพแวดล้อม)
ตั้งแต่ทำธุรกิจทางด้านปล่อยเช่านี้มากว่า 10 ปี ก็มีผู้เช่ามาเช่าหลายรายครับ
เช่น
ผู้เช่าบางรายก็กิจการดีลูกค้าเต็มร้านอยู่ได้ยาวๆ แต่สุดท้ายก็มาแป่กตรงหุ้นส่วนทะเลาะกันบ้าง, ช่วงเศรษฐกิจไม่ดีบ้าง (ช่วงมีชุมนุม), โดนทางราชการสั่งห้ามบ้าง
ผู้เช่าบางรายก็อยู่ได้แบบกระท่อนกระแท่นจนครบสัญญา
ผู้เช่าบางรายก็อยู่ได้ไม่กี่เดือนก็ไปก่อน เพราะขายไม่ดี
ในระยแรกๆ เจอแต่ผู้เช่าที่กิจการดีครับอยู่ได้ยาวๆ
ช่วงนี้มีแต่คนมาขอเช่า บางรายก็เป็นเจ้าใหม่มาติดต่อและรอเจ้าที่เช่าอยู่หมดสัญญา แล้วเสนอราคาที่ดีกว่า (หน่อยนึง) แต่ทุกครั้งผมก็ให้สิทธิ์ผู้เช่าก่อนครับ (ไม่ได้เห็นแก่ราคาที่ดีกว่าหน่อยนึง)
จนกระทั้ง 2 ปีก่อนหน้านี้ เกือบตลอดทั้งปี เป็นช่วงที่ผม เจอแต่ผู้เช่าที่อยู่ได้ไม่นานก็ไปครับ ในบางเดือนก็ว่างไม่มีคนเช่า (จริงๆ มีมาติดต่อขอเช่าตลอดครับแต่ไม่ได้ตามเงื่อนไขเลยตัดสินใจยอมขาดรายได้ แต่ดีกว่าเจอปัญหา)
ช่วงนี้ผม (ผู้ให้เช่า) รู้สึกเหมือนขาลง (ช่วงนั้นมีชุมนุมด้วย) ก็เลยยอมลดราคาค่าเช่าลงไปประมาณ -25% เลยครับ เพื่อให้ได้ผู้เช่าตามสเป๊คที่ต้องการ
ก็ปรากฎว่ามีติดต่อเข้ามาหลายราย ทางผู้ให้เช่าก็ตัดสินใจเลือกผู้เช่าที่น่าจะดูดีที่สุดครับ ณ ตอนนั้นครับ
เจ้าแรกอยู่ได้เดือนเดียวก็รู้ตัวว่าเจ๊งครับ อยู่ได้เดือนเดียวแล้วก็ไป แล้วก็ทิ้งร่องรอยอารยธรรมไว้ด้วย (เลวมาก)
เจ้าต่อมา เจ้านี้ปรากฎว่าไม่ผิดหวังครับ ผู้เช่ารายนี้กิจการดีมากครับ ตั้งแต่ปล่อยเช่ามาเป็นลูกค้าที่กิจการดีที่สุด (คนเต็มร้านเกือบตลอด)
ตอนนี้จะครบสัญญาแล้วครับ
ก็เลยมาปรึกษาว่า
1. ถ้าจะขึ้นค่าเช่าให้ "เท่าเดิม" (หมายถึงราคาก่อนลด -25%)
ซึ่ง ผู้เช่าเค้าไม่รู้หรอกว่าราคาที่เค้าเช่าในปัจจุบันเนี่ยเป็นราคาที่ลดลง -25%
หรือ
2. ถ้าขึ้นราคาให้ "มากกว่า" ราคาเดิม (หมายถึงมากกว่าราคาก่อนลด -25%) จะน่าเกลียดไหมครับ ถ้าหากไม่น่าเกลียดคิดว่าเพิ่มขึ้นซักกี่ % ดีครับ
รบกวนแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณครับ