สวัสดีครับ ผม mr.ทุเรียน (ขอเรียกชื่อตัวเองแบบนี้ เพราะตั้งใจกับอาชีพนี้อย่างเต็มที่) ตอนนี้ ผมเริ่มต้นอาชีพปอกทุเรียน มา 12 วันแล้ว ได้เรียนรู้ว่า อาชีพปอกทุเรียนนั้น ไม่ง่ายและไม่อยากจนเกินไป แต่ก็มองเห็นโอกาศเงินล้านต่ออาชีพนี้ เดิมที ผมก็เป็นลูกชาวสวนอยู่แล้ว เกิดที่ จันทบุรี ตระกูลผมแทบทั้งหมด ทำสวนผมไม้ แต่ผมเบื่อชีวิตชาวสวน เลยออกมาทำธุรกิจส่วนตัว ทำอยู่หลายปี จนถึงปี 57-58 ธุรกิจร้านไม่ค่อยดี ปิดไปหลายสาขา ผมก็พยายามมองหาอาชีพเสริมหลายอย่าง จนสุดท้ายสรุปได้ว่า จะปอกทุเรียนขาย ถ้าถามว่า ทำไมผมถึงจะมาทำอาชีพนี้ ก็คงเพราะว่า
ผมไม่ต้อง เผชิญความเสี่ยงมากครับ เพราะ ผลไม้จะเอาไปขาย ก็ไปเอาสวนญาติพี่น้องตัวเอง และแหล่งความรู้ประสบการณ์ก็สามารถหาได้ง่ายๆ จากญาติพี่น้องเราเอง ดีกว่า เราเริ่มสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ยิ่งเรามีเงินทุนน้อย ความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้น เลยขอ อาชีพที่ดูเสี่ยงน้อยที่สุดล่ะกัน
ทำไมต้อง อาชีพปอกทุเรียน ????
คุณสังเกตไหม ถ้าหน้าทุเรียนเมื่อไหร่ จะมีคนมากมายยืนต่อแถวซื้อ จะว่าไป ทุเรียน เป็น ผลไม้ที่ ถ้าไม่รักก็เกลียดเลย แต่สำหรับคนที่รักทุเรียน ไม่ว่ายังไง ถ้าได้เห็นหรือนึกอยากกินทุเรียน เขาพร้อมจ่ายเงินได้ไม่อั้น ขอเพียงกินทุเรียนที่ถุกใจ
สมัยก่อน คนโบราณเล่าว่า ทุเรียน เป็นของหากินยากและแพงมาก ถึงขนาดคนอยากกิน ต้องยอมเอาลูกเมียไปแลกทุเรียนกิน
สำหรับ ผู้คิดจะประกอบอาชีพทุเรียนนั้น เรียกว่า ต้นทุนหลักๆ มีไม่กี่อย่าง ผมจะลำดับต่อไปนี้
1.รถยนต์ เป็นอุปกรณ์ทำกินที่สำคัญที่สุด ในการปอกอาชีพทุเรียน เพราะหน้าที่หลักๆของคุณ คือไปขนทุเรียนไปขาย ถ้า
คุณไม่มีรถยนต์ คุณก็จะลำบากเรื่องการขนย้ายทุเรียน ซึ่งถ้าคุณจ้างคนขน ต้นทุนคุณก็จะเพิ่ม ฉะนั้น เป็นไปได้ คุณยอมลงทุน
ตรงนี้ดีกว่า เพื่อคุณจะต่อยอดอาชีพคุณไปได้อีก
2.มีดปอกทุเรียน สำคัญมากเหมือนกัน ถ้าคุณใช้มีดผิดประเภท คุณก็จะปอกทุเรียนยากขึ้น ใช้แรงมากขึ้น สุดท้าย ใช้เวลา
ปอกทุเรียนนานเกินไปและเสี่ยงบาดเจ็บตามข้อมือ ซึ่งไม่คุ้มเอาเลย มีดปอกทุเรียนไม่จำเป็นต้องแพง อันไม่เกิน 100 บ. ก็
ใช้ได้ เพียงแต่คุณต้องหมั่นลับมีดให้คมอยู่เสมอ
3.โต๊ะหั่นทุเรียน เอาขนาดพอประมาณ ที่มีพื้นที่ในการปอกทุเรียน ไม่เล็กแคบเกินไป ไม่งั้นทุเรียนอาจกลิ้งตกใส่ขาคุณหรือลูกค้าได้
4.กระดาษไข สำหรับห่อทุเรียนที่แกะแล้ว เพื่อไม่ให้เปื้อนถุงหิ้ว หรือ ไว้ให้ลูกค้าจับกินทุเรียนโดยไม่เปื้อนมือ
5.เข่งใหญ่เปล่า สำหรับใส่เปลือกทุเรียน ที่แกะแล้ว
สำหรับทำเลขาย สำหรับคนที่มีรถยนต์ ถือว่า ตัดต้นทุนเช่าพื้นที่ได้ครับ เพราะคุณสามารถจอดขายตรงใหนก็ได้
( ขอไม่เป็นพื้นที่ เขาห้ามจอด ) ทำเลแนะนำ คือ ริมถนน แถว 7/11 หรือ ตลาดสด โอกาศขายจะทำยอดได้สูง
อีกทั้ง เราไม่ต้องมีโต๊ะก็ได้ ใช้รถกระบะเราเปิดท้ายและหั่นตรงนั้นได้เลย
แหล่งหาทุเรียนไปขาย มี 3 ที่หลักๆ
1.ตลาดไท หรือ ตลาดสี่มุมเมือง เป็นแหล่งรวมขายส่งผลไม้นาๆ ชนิด รวมถึงทุเรียนด้วย เหมาะสำหรับคนมีความรู้น้อย
ทุนน้อย และไม่อยากไปไกล (ราคาขายส่งประมาณ 65-80 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
-ไม่ต้องเดินทางไปไกล ไปเอาผลไม้ข้ามถึงต่างจังหวัด
-สามารถขนมาขายทีละน้อยได้ เพื่อลองตลาด และไม่เหนื่อยเกินไป
-สามารถวิ่งเข้าออกไปซื้อได้ทั้งวัน
ข้อเสีย
-ราคาส่ง ค่อนข้างสูง เพราะรับซื้อต่อกันมาเป็นทอดๆ
-เสี่ยงตาดีได้ ตาร้ายเสีย ส่วนใหญ่ ตลาดพวกนี้ เป็นพ่อค้าอีกที ถ้าเจอแผงที่ซื่อสัตย์ก็จะคัดทุเรียนดีๆ ให้ แต่ถ้าเจอแผงแย่ๆ
คุณก็จะเจอทุเรียนอ่อน ซึ่งคุณก็จะแกะขายไม่ได้เลย ผมรู้แต่ว่า ทุเรียนดีๆ นั้น มักจะขายออกนอกประเทศ หรือไม่ขายในไทย
เฉพาะกลุ่มที่ให้ราคาแพง ส่วนทุเรียนที่เห็นตามตลาดใหญ่ๆ นั้น โอกาศเจอทุเรียนอ่อนสูงมาก เพราะ ทุเรียนแก่ๆ ดีๆ นั้น ถูกคัดไป ตั้งแต่ แผงที่รับซื้อจากชาวสวนโดยตรง ตลาดที่ผมแนะนำ คือ ตลาดสี่มุมเมือง เพราะ เห็นว่า ชาวสวนเอามาเทขายที่ตลาดนี้มีเยอะ ต้องลองไปคุยดู อาจมีโอกาศเจอทุเรียนมีคุณภาพได้
ข้อแนะนำ....
เหมาะสำหรับ คนเพิ่งจะเริ่มต้นอาชีพปอกทุเรียน ไม่มีความรู้ และ ทุนไม่มากนัก สามารถซื้อมาลองตลาดได้ทีละน้อย เวลาคุณไปซื้อ ควรเอามาอย่างพอเหมาะสำหรับขายหมดภายใน 1 วัน ทุเรียนเป็นอะไรเก็บไว้นานไม่ได้ครับ ยิ่งเราเก็บนาน เสี่ยง
เราเจ็บตัวครับ เพราะผลไม้เน่าเสียได้ ถ้าขายหมดคุณก็ไปเอาต่อได้ สำหรับวิธีไปซื้อนั้น คุณควรเลือกทุเรียนพร้อมจะขายได้เลยควรเลือกลูกทุเรียน ไม่ดิบเกินไปและไม่แก่เกินไป เพราะ ถ้าเอาดิบเกินไป ก็ใช้เวลาถึง 2-3 วัน กว่าเราจะขายได้ หรือ สุกเกินไป เสี่ยงคนไม่กินและจะเน่าเละได้ ทางที่ดี มีความรู้เรื่อง เคาะทุเรียนไว้บ้าง แต่ถ้าไม่ค่อยมั่นใจ เราใช้วิธีให้ทางร้านเลือกให้เราก็ได้ เพราะ แผงพวกนี้ ก็ต้องเป็นอยู่แล้ว ส่วนเรื่องทุเรียนอ่อนหรือแก่ อันนี้ ก็แล้วแต่ดวงล่ะกัน ถ้าเราดูเป็นก็รอดตัวไปแต่ถ้าไม่เป็น ก็ขอร้องให้ทางร้านรับประกันล่ะกัน เลือกให้เราดีๆ หน่อย
2.แผงรับซื้อผลไม้ เป็น พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดแผงรับซื้อผลไม้โดยตรงจากสวน ซึ่งเขาจะคัดส่งไปแหล่งตลาดต่างๆ และสามารถแบ่งขายให้กับเราได้ (ราคาขายส่งประมาณ 45-64 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
1.ได้ราคาส่งถูกกว่า ตลาดไทหรือตลาดสี่มุมเมือง
2.โอกาศเจอทุเรียนคุณภาพดีๆ มีสูง เพราะ ของจะเริ่มคัดจากจุดนี้ ถ้าเราเจอแผงดีๆ ก็จะดีมาก
ข้อเสีย
1.เดินทางไกลข้างจังหวัด
2.ต้องขนทีละเยอะๆ ถึงจะคุ้ม
3.ต้องขายปลีกและส่งไปด้วย ไม่งั้น เสี่ยงสต็อกเน่าเสีย
ข้อแนะนำ......
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ขายแบบปลีก จนมาถึงขายส่งในตัว ถ้าคุณมีรถกระบะ คุณรับออเดอร์ทุเรียนขายส่ง คุณขับมาเอาเอง
ก็จะคุ้ม นอกจากคุณจะซื้อทุเรียนขายปลีกถูกลง เพราะคุณมีออเดอร์สั่งมาก แถม คุณยังสามารถมีคนช่วยกระจายสินค้าได้
การจะซื้อทุเรียนจากแผงนั้น คุณต้องถามว่า รับประกันเรื่องทุเรียนอ่อนได้ไหม เพราะบางแผงเขาจะรับประกันให้ ถ้าเกิด
มีทุเรียนอ่อน เขาจะรับผิดชอบบางส่วนให้
3.สวนผลไม้จากชาวสวน เรียกว่า บุกถึงโรงงานโดยตรงเลย คุณสามารถเลือกได้เลยว่า จะเอาทุเรียนแบบใหน มันมีครบเลย
ถ้าคุณดูทุเรียนเป็นและคัดทุเรียนเป็นจะดีมากๆ (ราคาขายส่งประมาณ 25-44 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
1.ได้ราคาต้นทุนถูกที่สุดกว่า ข้อ 1-2 เพียงคุณตกลงกับชาวสวนในราคายุติธรรมกับ 2 ฝ่าย
2.คุณสามารถคัดแยกของดีของรองได้ เพื่อ คุณจะอัพราคาสำหรับทุเรียนคุณภาพดี เพื่อตลาดบน คุณก็จะได้กำไรที่สูงขึ้น
ส่วนที่เหลือของรองๆ คุณก็คัดไปขายเองหรือตลาดส่งทั่วไปได้
3.ถ้าคุณขี้เกียจขนไปขายไกลๆ คุณก็ไปขายที่แผงรับซื้อทุเรียนก็ได้ บวกกำไร ก.ก. ละ 2-3 บ. วันหนึง คุณขนได้วันละ 2 เที่ยว
( 1 เที่ยว อัดทุเรียนได้ 4 ตัน สำหรับรถกระบะติดคอกและเสริมเพลารถแบบ 6 ล้อ ) ขายแค่นี้คุณก็คุ้มแล้ว
ข้อเสีย
1.คุณต้องมีความรอบรู้ทุเรียนอย่างมากๆ โดยเฉพาะ เรื่องทุเรียนอ่อน และการคัดแยกเกรดทุเรียน ซึ่งมีหลายแบบ ไม่อย่างนั้น
คุณก็จะขาดทุนและเสี่ยงติดคุก เพราะการรับทุเรียนอ่อนไปขาย ถือว่า ผิดกฏหมายติดคุกได้เลย
2.คุณต้องมีทีมตัดทุเรียนมือฉมัง ไม่อย่างนั้น คุณจะเจอทุเรียนอ่อน ซึ่งก็หาคนตัดทุเรียนเก่งๆ ยากด้วย
3.เสียเวลาในการรวบรวมและคัดแยกทุเรียน ไม่เหมือนซื้อตามแผง ที่พวกเขาเตรียมจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณมีหน้าที่แค่ขนอย่างเดียว ไม่เหมือนซื้อที่สวน คุณต้องจัดการเองทั้งหมด ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ชาวสวนต้องรับผิดชอบ
4.คุณต้องเรียงทุเรียนขึ้นกระบะเป็น ไม่อย่างนั้น คุณไม่สามารถขนทุเรียนได้เต็มคันรถได้
5.เจอขู่แข่งชิงตัดหน้าทุเรียนเรา ตอนนี้มี พ่อค้าซื้อทุเรียนที่สวน มีหลายคนเข้ามาตัด ซึ่งชาวสวนก็ไม่รอใคร ใครมาก่อนก็ตัดไปก่อน จะไม่รอนัดกันเป็น อาทิตย์ มาตัดเลย ชั่งเลย ชาวสวนชอบ
คำแนะนำ.....
การไปซื้อทุเรียนถึงสวนนั้น ถึงแม้ต้นทุนจะถูกกว่า แต่เราต้องมีประสบการณ์เรื่องทุเรียนสูงมากและมีแหล่งกระจายสินค้าเรา แถมทั้งต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวสวน โอกาสจะประสบความสำเร็จจะมีสูง
เอาละสำหรับ ตอนนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ ล่ะครับ ตอนหน้าผมจะเริ่มเข้าสู่ ประสบการณ์การขายปลีก ว่า ผมเจออะไรบ้าง เรียกว่าไม่หมูอย่างที่คิด เพราะคนไทยกินทุเรียนนั้น ตั้งเงื่อนไข ที่โหดเหลือเกิน สำหรับคนที่มีอาชีพปอกทุเรียนขาย
สำหรับผู้ใดสนใจอาชีพค้าขายทุเรียน เข้ามาปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่
www.facebook.com/mr.durians
ยินดีให้คำแนะนำครับ
ภารกิจปอกทุเรียนให้ได้เงินล้าน EP1.เริ่มต้นสู่อาชีพปอกทุเรียน
ผมไม่ต้อง เผชิญความเสี่ยงมากครับ เพราะ ผลไม้จะเอาไปขาย ก็ไปเอาสวนญาติพี่น้องตัวเอง และแหล่งความรู้ประสบการณ์ก็สามารถหาได้ง่ายๆ จากญาติพี่น้องเราเอง ดีกว่า เราเริ่มสิ่งที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย ยิ่งเรามีเงินทุนน้อย ความเสี่ยงก็ยิ่งมากขึ้น เลยขอ อาชีพที่ดูเสี่ยงน้อยที่สุดล่ะกัน
ทำไมต้อง อาชีพปอกทุเรียน ????
คุณสังเกตไหม ถ้าหน้าทุเรียนเมื่อไหร่ จะมีคนมากมายยืนต่อแถวซื้อ จะว่าไป ทุเรียน เป็น ผลไม้ที่ ถ้าไม่รักก็เกลียดเลย แต่สำหรับคนที่รักทุเรียน ไม่ว่ายังไง ถ้าได้เห็นหรือนึกอยากกินทุเรียน เขาพร้อมจ่ายเงินได้ไม่อั้น ขอเพียงกินทุเรียนที่ถุกใจ
สมัยก่อน คนโบราณเล่าว่า ทุเรียน เป็นของหากินยากและแพงมาก ถึงขนาดคนอยากกิน ต้องยอมเอาลูกเมียไปแลกทุเรียนกิน
สำหรับ ผู้คิดจะประกอบอาชีพทุเรียนนั้น เรียกว่า ต้นทุนหลักๆ มีไม่กี่อย่าง ผมจะลำดับต่อไปนี้
1.รถยนต์ เป็นอุปกรณ์ทำกินที่สำคัญที่สุด ในการปอกอาชีพทุเรียน เพราะหน้าที่หลักๆของคุณ คือไปขนทุเรียนไปขาย ถ้า
คุณไม่มีรถยนต์ คุณก็จะลำบากเรื่องการขนย้ายทุเรียน ซึ่งถ้าคุณจ้างคนขน ต้นทุนคุณก็จะเพิ่ม ฉะนั้น เป็นไปได้ คุณยอมลงทุน
ตรงนี้ดีกว่า เพื่อคุณจะต่อยอดอาชีพคุณไปได้อีก
2.มีดปอกทุเรียน สำคัญมากเหมือนกัน ถ้าคุณใช้มีดผิดประเภท คุณก็จะปอกทุเรียนยากขึ้น ใช้แรงมากขึ้น สุดท้าย ใช้เวลา
ปอกทุเรียนนานเกินไปและเสี่ยงบาดเจ็บตามข้อมือ ซึ่งไม่คุ้มเอาเลย มีดปอกทุเรียนไม่จำเป็นต้องแพง อันไม่เกิน 100 บ. ก็
ใช้ได้ เพียงแต่คุณต้องหมั่นลับมีดให้คมอยู่เสมอ
3.โต๊ะหั่นทุเรียน เอาขนาดพอประมาณ ที่มีพื้นที่ในการปอกทุเรียน ไม่เล็กแคบเกินไป ไม่งั้นทุเรียนอาจกลิ้งตกใส่ขาคุณหรือลูกค้าได้
4.กระดาษไข สำหรับห่อทุเรียนที่แกะแล้ว เพื่อไม่ให้เปื้อนถุงหิ้ว หรือ ไว้ให้ลูกค้าจับกินทุเรียนโดยไม่เปื้อนมือ
5.เข่งใหญ่เปล่า สำหรับใส่เปลือกทุเรียน ที่แกะแล้ว
สำหรับทำเลขาย สำหรับคนที่มีรถยนต์ ถือว่า ตัดต้นทุนเช่าพื้นที่ได้ครับ เพราะคุณสามารถจอดขายตรงใหนก็ได้
( ขอไม่เป็นพื้นที่ เขาห้ามจอด ) ทำเลแนะนำ คือ ริมถนน แถว 7/11 หรือ ตลาดสด โอกาศขายจะทำยอดได้สูง
อีกทั้ง เราไม่ต้องมีโต๊ะก็ได้ ใช้รถกระบะเราเปิดท้ายและหั่นตรงนั้นได้เลย
แหล่งหาทุเรียนไปขาย มี 3 ที่หลักๆ
1.ตลาดไท หรือ ตลาดสี่มุมเมือง เป็นแหล่งรวมขายส่งผลไม้นาๆ ชนิด รวมถึงทุเรียนด้วย เหมาะสำหรับคนมีความรู้น้อย
ทุนน้อย และไม่อยากไปไกล (ราคาขายส่งประมาณ 65-80 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
-ไม่ต้องเดินทางไปไกล ไปเอาผลไม้ข้ามถึงต่างจังหวัด
-สามารถขนมาขายทีละน้อยได้ เพื่อลองตลาด และไม่เหนื่อยเกินไป
-สามารถวิ่งเข้าออกไปซื้อได้ทั้งวัน
ข้อเสีย
-ราคาส่ง ค่อนข้างสูง เพราะรับซื้อต่อกันมาเป็นทอดๆ
-เสี่ยงตาดีได้ ตาร้ายเสีย ส่วนใหญ่ ตลาดพวกนี้ เป็นพ่อค้าอีกที ถ้าเจอแผงที่ซื่อสัตย์ก็จะคัดทุเรียนดีๆ ให้ แต่ถ้าเจอแผงแย่ๆ
คุณก็จะเจอทุเรียนอ่อน ซึ่งคุณก็จะแกะขายไม่ได้เลย ผมรู้แต่ว่า ทุเรียนดีๆ นั้น มักจะขายออกนอกประเทศ หรือไม่ขายในไทย
เฉพาะกลุ่มที่ให้ราคาแพง ส่วนทุเรียนที่เห็นตามตลาดใหญ่ๆ นั้น โอกาศเจอทุเรียนอ่อนสูงมาก เพราะ ทุเรียนแก่ๆ ดีๆ นั้น ถูกคัดไป ตั้งแต่ แผงที่รับซื้อจากชาวสวนโดยตรง ตลาดที่ผมแนะนำ คือ ตลาดสี่มุมเมือง เพราะ เห็นว่า ชาวสวนเอามาเทขายที่ตลาดนี้มีเยอะ ต้องลองไปคุยดู อาจมีโอกาศเจอทุเรียนมีคุณภาพได้
ข้อแนะนำ....
เหมาะสำหรับ คนเพิ่งจะเริ่มต้นอาชีพปอกทุเรียน ไม่มีความรู้ และ ทุนไม่มากนัก สามารถซื้อมาลองตลาดได้ทีละน้อย เวลาคุณไปซื้อ ควรเอามาอย่างพอเหมาะสำหรับขายหมดภายใน 1 วัน ทุเรียนเป็นอะไรเก็บไว้นานไม่ได้ครับ ยิ่งเราเก็บนาน เสี่ยง
เราเจ็บตัวครับ เพราะผลไม้เน่าเสียได้ ถ้าขายหมดคุณก็ไปเอาต่อได้ สำหรับวิธีไปซื้อนั้น คุณควรเลือกทุเรียนพร้อมจะขายได้เลยควรเลือกลูกทุเรียน ไม่ดิบเกินไปและไม่แก่เกินไป เพราะ ถ้าเอาดิบเกินไป ก็ใช้เวลาถึง 2-3 วัน กว่าเราจะขายได้ หรือ สุกเกินไป เสี่ยงคนไม่กินและจะเน่าเละได้ ทางที่ดี มีความรู้เรื่อง เคาะทุเรียนไว้บ้าง แต่ถ้าไม่ค่อยมั่นใจ เราใช้วิธีให้ทางร้านเลือกให้เราก็ได้ เพราะ แผงพวกนี้ ก็ต้องเป็นอยู่แล้ว ส่วนเรื่องทุเรียนอ่อนหรือแก่ อันนี้ ก็แล้วแต่ดวงล่ะกัน ถ้าเราดูเป็นก็รอดตัวไปแต่ถ้าไม่เป็น ก็ขอร้องให้ทางร้านรับประกันล่ะกัน เลือกให้เราดีๆ หน่อย
2.แผงรับซื้อผลไม้ เป็น พ่อค้าแม่ค้าที่เปิดแผงรับซื้อผลไม้โดยตรงจากสวน ซึ่งเขาจะคัดส่งไปแหล่งตลาดต่างๆ และสามารถแบ่งขายให้กับเราได้ (ราคาขายส่งประมาณ 45-64 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
1.ได้ราคาส่งถูกกว่า ตลาดไทหรือตลาดสี่มุมเมือง
2.โอกาศเจอทุเรียนคุณภาพดีๆ มีสูง เพราะ ของจะเริ่มคัดจากจุดนี้ ถ้าเราเจอแผงดีๆ ก็จะดีมาก
ข้อเสีย
1.เดินทางไกลข้างจังหวัด
2.ต้องขนทีละเยอะๆ ถึงจะคุ้ม
3.ต้องขายปลีกและส่งไปด้วย ไม่งั้น เสี่ยงสต็อกเน่าเสีย
ข้อแนะนำ......
เหมาะสำหรับ ผู้ที่ขายแบบปลีก จนมาถึงขายส่งในตัว ถ้าคุณมีรถกระบะ คุณรับออเดอร์ทุเรียนขายส่ง คุณขับมาเอาเอง
ก็จะคุ้ม นอกจากคุณจะซื้อทุเรียนขายปลีกถูกลง เพราะคุณมีออเดอร์สั่งมาก แถม คุณยังสามารถมีคนช่วยกระจายสินค้าได้
การจะซื้อทุเรียนจากแผงนั้น คุณต้องถามว่า รับประกันเรื่องทุเรียนอ่อนได้ไหม เพราะบางแผงเขาจะรับประกันให้ ถ้าเกิด
มีทุเรียนอ่อน เขาจะรับผิดชอบบางส่วนให้
3.สวนผลไม้จากชาวสวน เรียกว่า บุกถึงโรงงานโดยตรงเลย คุณสามารถเลือกได้เลยว่า จะเอาทุเรียนแบบใหน มันมีครบเลย
ถ้าคุณดูทุเรียนเป็นและคัดทุเรียนเป็นจะดีมากๆ (ราคาขายส่งประมาณ 25-44 บ. ตามไซด์ขนาดและคุณภาพ)
ข้อดี
1.ได้ราคาต้นทุนถูกที่สุดกว่า ข้อ 1-2 เพียงคุณตกลงกับชาวสวนในราคายุติธรรมกับ 2 ฝ่าย
2.คุณสามารถคัดแยกของดีของรองได้ เพื่อ คุณจะอัพราคาสำหรับทุเรียนคุณภาพดี เพื่อตลาดบน คุณก็จะได้กำไรที่สูงขึ้น
ส่วนที่เหลือของรองๆ คุณก็คัดไปขายเองหรือตลาดส่งทั่วไปได้
3.ถ้าคุณขี้เกียจขนไปขายไกลๆ คุณก็ไปขายที่แผงรับซื้อทุเรียนก็ได้ บวกกำไร ก.ก. ละ 2-3 บ. วันหนึง คุณขนได้วันละ 2 เที่ยว
( 1 เที่ยว อัดทุเรียนได้ 4 ตัน สำหรับรถกระบะติดคอกและเสริมเพลารถแบบ 6 ล้อ ) ขายแค่นี้คุณก็คุ้มแล้ว
ข้อเสีย
1.คุณต้องมีความรอบรู้ทุเรียนอย่างมากๆ โดยเฉพาะ เรื่องทุเรียนอ่อน และการคัดแยกเกรดทุเรียน ซึ่งมีหลายแบบ ไม่อย่างนั้น
คุณก็จะขาดทุนและเสี่ยงติดคุก เพราะการรับทุเรียนอ่อนไปขาย ถือว่า ผิดกฏหมายติดคุกได้เลย
2.คุณต้องมีทีมตัดทุเรียนมือฉมัง ไม่อย่างนั้น คุณจะเจอทุเรียนอ่อน ซึ่งก็หาคนตัดทุเรียนเก่งๆ ยากด้วย
3.เสียเวลาในการรวบรวมและคัดแยกทุเรียน ไม่เหมือนซื้อตามแผง ที่พวกเขาเตรียมจัดการเรียบร้อยแล้ว คุณมีหน้าที่แค่ขนอย่างเดียว ไม่เหมือนซื้อที่สวน คุณต้องจัดการเองทั้งหมด ตรงนี้ไม่ใช่หน้าที่ชาวสวนต้องรับผิดชอบ
4.คุณต้องเรียงทุเรียนขึ้นกระบะเป็น ไม่อย่างนั้น คุณไม่สามารถขนทุเรียนได้เต็มคันรถได้
5.เจอขู่แข่งชิงตัดหน้าทุเรียนเรา ตอนนี้มี พ่อค้าซื้อทุเรียนที่สวน มีหลายคนเข้ามาตัด ซึ่งชาวสวนก็ไม่รอใคร ใครมาก่อนก็ตัดไปก่อน จะไม่รอนัดกันเป็น อาทิตย์ มาตัดเลย ชั่งเลย ชาวสวนชอบ
คำแนะนำ.....
การไปซื้อทุเรียนถึงสวนนั้น ถึงแม้ต้นทุนจะถูกกว่า แต่เราต้องมีประสบการณ์เรื่องทุเรียนสูงมากและมีแหล่งกระจายสินค้าเรา แถมทั้งต้องมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวสวน โอกาสจะประสบความสำเร็จจะมีสูง
เอาละสำหรับ ตอนนี้ ขอจบเพียงเท่านี้ ล่ะครับ ตอนหน้าผมจะเริ่มเข้าสู่ ประสบการณ์การขายปลีก ว่า ผมเจออะไรบ้าง เรียกว่าไม่หมูอย่างที่คิด เพราะคนไทยกินทุเรียนนั้น ตั้งเงื่อนไข ที่โหดเหลือเกิน สำหรับคนที่มีอาชีพปอกทุเรียนขาย
สำหรับผู้ใดสนใจอาชีพค้าขายทุเรียน เข้ามาปรึกษาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ที่
www.facebook.com/mr.durians
ยินดีให้คำแนะนำครับ