[CR] ผมรู้แค่ว่าผมจะไป...แต่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน...Review 3วัน 2คืน @เกาะพยาม จ.ระนอง



“หากคุณเป็นคนหนึ่ง...ที่รักความเงียบสงบ...เกาะนี้อาจจะเป็นเกาะในฝันของคุณ”

ปล. เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมนะครับ ติชมได้นะครับ...ผมชอบ (โดยเฉพาะส่วนของรูปภาพ)

    ทริปนี้เป็นหนึ่งในทริปยาว10วันของผม เนื่องจากเป็นช่วงปิดเทอมพอดี และสามารถหาเงินใช้ได้เอง จึงหาเรื่องเที่ยวยาวๆกันซักหน่อย แต่เป็นทริปที่ไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้าเลย ออกเดินทาง ค่ำไหนนอนนั่น  คิดหาที่เที่ยวกันวันต่อวัน เกาะพยามก็เช่นกัน เพิ่งจะคิดกันตอนที่นอนอยู่หัวหิน ^^

การเดินทางไปเกาะ
    ผมขับรถมาจากกทม. โดยใช้ถนนเพชรเกษมระหว่างทางจากกทม.-หัวหินไม่เท่าไหร่ครับ ขับสบายๆไปเรื่อยๆ แวะนอนที่หัวหิน 1 คืน และออกเดินทางต่อมาที่ระนอง แต่พอช่วงที่ออกจากหัวหินเท่านั้นแหละ หลุม! หลุมเต็มไปหมด(เป็นเพราะมีรถพ่วงวิ่งประจำ) ทำความเร็วไม่ค่อยได้เท่าไหร่ จนมาถึงแยกชุมพร เลี้ยวขวาไประนองปุ๊บ โอ้ว แม่เจ้า โค้งสิครับ โค้งแรกยังไม่ทันเสร็จ โค้งอีกแล้ว 55+ แต่แน่นอนว่าต้องถูกใจคนที่ชอบขับรถขึ้นเขาแน่นอน ผมนี่แหละคนหนึ่ง แต่ที่เล่านี้แค่อยากจะบอกว่า “ขับรถระวังๆกันหน่อยนะครับ”  
พอเข้าตัวเมืองระนอง มองหา “ท่าเรือเทศบาลตำบลปากน้ำ” เลยครับ ที่นั่นแหละที่เราจะไปขึ้นเรือกัน เนื่องจากกว่าจะมาถึงก็เวลาเย็นมากแล้ว ผมจึงหาที่พักใกล้ๆท่าเรือ ราคา 450 บาทต่อคืน เป็นห้องแอร์ครับ ห้องค่อนข้างเก่า ไม่ค่อยสะอาด แต่พอนอนได้  หลังจากเข้าที่พัก ผมก็เดินสำรวจบริเวณโดยรอบท่าเรือ บริเวณนั้นจะมีร้านขายตั๋วเรือข้ามไปเกาะและรับฝากรถมากมาย ราคาตามป้ายเท่ากันทุกร้าน ชอบร้านไหนก็เดินเข้าไปเลยครับ แล้วค่อยต่อรองอีกที
ผมเดินสำรวจผ่านไปก่อน ยังไม่ได้เลือกร้านไหน ฮ่าๆ ขอไปหาอะไรกินก่อนครับ แถวท่าเรือไม่ค่อยมีร้านอาหาร อาจเป็นเพราะผมไม่ได้เข้าไปในตัวเมืองและบริเวณตลาด ผมเห็นร้านเดียวคือร้านบะหมี่ก็เลยฝากท้องเลยครับ รสชาติใช้ได้ หลังจากทานบะหมี่เสร็จก็ถึงเวลาหาตั๋วเรือแล้วครับ ซึ่งผมเลือกร้าน”ลุงเงาะ” เพราะเดินผ่านไปแล้วเป็นร้านเดียวที่ยังเปิดอยู่
    สำหรับเรือจะมี 2 ประเภท คือ speed boat และ เรือธรรมดา ราคาจะอยู่ 350 บาท และ 200 บาท ตามลำดับ แน่นอนครับ จังหวะนั้นเงินกำลังจะหมดแล้ว (หมดแบบหมดจริงๆนะ เหลือแค่พอไปเกาะได้...แต่กลับไม่ได้55+) จึงเลือกเรือธรรมดา ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง แต่ลุงเชียร์ให้นั่ง speed boat เลย ใช้เวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น...ผมไม่ไหวละฮะ ลุง กินแกลบแล้วตอนนี้ 55 แต่ลุงก็ใจดี ลดให้ไปกลับ 600 บาท แลกกับเวลาอันมีค่าก็ถือว่าคุ้มนะ ผมจึงไปกดเงินเฮือกสุดท้ายมา และขนมาม่าไปเต็มพิกัด เพื่อประทังชีวิต3วัน2คืนบนเกาะ พร้อมกันนั้นลุงยังให้เช่าจักรยานยนต์(ขอใช้ตัวย่อเป็น MC นะครับ) แบบเกียร์ธรรมดา 150 บาท/วัน เกียวร์ออโต้ 200 บาท/วัน ผมเลือกเกียร์ธรรมดาครับ ซึ่งลุงก็ให้ราคาถูกกว่าไปเช่าบนเกาะ 50 บาท และก็ลดค่าฝากรถ จากวันละ 100 บาท เหลือ 50 บาท โอ้ว ทำไมลุงถึงได้ใจดีขนาดนี้ ลดกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์กันเลยทีเดียว (แต่มีปัญหานิดๆนะครับ เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังตอนท้ายละกันครับ)
    ในตอนเช้าก่อนขึ้นเรือ (ผมจองไว้ 09.00น.) 08.45น. มีเบอร์ที่ผมไม่รู้จักโทรเข้ามา...คุณลุงโทรมาปลุกครับ!! ลุงกลัวไปขึ้นเรือไม่ทัน โอ้ววว ขอบคุณมากเลยครับ บริการดีจริงๆ ผมออกจากที่พัก เอารถไปจอดที่ร้านของลุง จากนั้นลุงจะขนของและเราด้วย MC พ่วง ไปส่งที่ท่าเรือ หลังจากนั้นผมก็ขึ้นเรือมาถึงเกาะพยามครับใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที




การเดินทางบนเกาะ
    เนื่องจากผมเช่ารถไว้ตั้งแต่บนฝั่งแล้ว มาถึงเกาะผมก็ไปรับรถได้ทันทีเลย เป็นรถเก่านิดนึง (Honda wave/dream) แถมน้ำมันจึ๋งนึง ให้เราไปเต็มเพิ่มเอง  (จึ๋ง เท่ากับ น้อยมากๆ แบบตกขีดแดงอ่ะครับ) ที่เกาะน้ำมันขายขวดกลมละ 50 บาทครับ  ถนนหนทางบนเกาะเป็นทางคอนกรีตเกือบทัง้หมดครับ มีบางเส้นทางที่เป็นลูกรัง ต้องใช้ฝีมือกันหน่อย ระยะทางไปแต่ละหาดก็ไม่ไกลมาก รถไม่เยอะ ผู้คนไม่พลุกพล่าน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ชาวเกาะก็อัธยาศัยดี ช่วงที่ผมไปยังมีบางเส้นทางที่กำลังก่อสร้างอยู่ แต่ก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคกับการเดินทางครับ (เพราะผมกระยิ้มกระสนมาขนาดนี้แล้ว อะไรจะเป็นอุปสรรคได้อีกหละครับ) อีกอย่างนะครับ ในช่วงเวลากลางคืนของที่นี่ยังไม่มีไฟริมทาง ระมัดระวังเรื่องการขับขี่กันด้วย ก่อนเลือกMC เช็คดูไฟหน้าว่าใช้งานได้รึเปล่าด้วยนะครับ

ที่พัก
     ผมจองที่พักผ่าน Agoda ไว้ก่อนแล้วตั้งแต่อยู่หัวหิน ผมพักที่PP land beach eco resort 800 บาทต่อคืน  ขี่MC ตามทางหลักมาเรื่อย เจอโรงเรียนแล้วเลี้ยวขวา ตรงอีกนิดก็ถึงทางเข้าครับ เลี้ยวซ้ายเข้าไป ทางเข้าที่พักยังเป็นลูกรังอยู่ แต่ก็ไม่ได้หนักหนาสาหัสมาก (แต่กว่าผมจะหาทางเข้าเจอก็ขับวนไปวนมาหลายรอบเลยครับ ฮ่าๆๆ)
ข้อดีของที่รีสอร์ทแห่งนี้ คือ มีหาดส่วนตัวครับ เชดด.. นี่มันสวรรค์ชัดๆ (พอดีช่วงที่ไปเป็นวันธรรมดาด้วย สงบสมใจอยาก) นอกจากนี้ยังมี สระว่ายน้ำ, fitness center และ wifi ไว้ให้บริการสำหรับลูกค้าด้วยครับ อุปกรณ์ยังใหม่และใช้ได้ทุกอย่างครับ แต่ wifi จะใช้ได้เฉพาะบริเวณ lobby

อาหารรสชาติดีเลยทีเดียวครับ โดยรวมเป็นรีสอร์ทที่ดีคุ้มเกินราคา ใครที่อยากไปพักผ่อนแบบยาวๆนี่ ผมว่าที่นี่โอเคมากๆเลยแหละครับ






จะเรียกว่าเป็นสัตว์ประจำทริปนี้ก็ได้นะครับ ปู!!! ปูเต็มหาด เดินๆอยู่พอหันหลังควับ ปูทั้งหลายก็พรึบ!!ลงรู ผมเลยลองนั่งนิ่งๆถือ70-300รอมันออกมา รอเกือบครึ่งชั่วโมงปูก็เริ่มออกมาหน้ารู และก็นั่งมองหน้ากับบรรดาปูทั้งหลายอีกครึ่งชั่วโมง เพราะแค่กระดิกนิ้วนิดเดียว...โน้นนน!!!!...ปูวิ่งหนีอย่างไว...บางตัวนี่ขึ้นจากรูมาต่อหน้าเลยแต่ก็ได้แค่มอง...ไม่กล้าขยับ เป็นอะไรที่ฟินนะครับ ทำให้ผมนึกถึงเรื่องSecret Life of Walter Mitty จังหวะที่ Sean ไปรอถ่าย snow leopard. ..ฟิน!!!







กลับมาห้อง มีเพื่อนใหม่มากระดิกหางรอ พอเดินเข้ามาใกล้นี่นอนรอให้เกาพุงเลย...เกาไปเกามา...Haa...เอาขาก่ายผมเลยครับ...สนิทสนมราวกับรู้จักกับมาเป็นสิบๆปี




รอบๆที่พักก็มีต้นกาหยูเต็มไปหมดเลยครับ



บรรยากาศบริเวณชายหาดช่วงเช้าครับ เป็นฝั่งตะวันออกพอดี แหกขี้ตาตื่นขึ้นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่04.30




ที่เห็นขะหยุกขะหยุยอยู่ชายหาดเยอะแยะไปหมด นั่นคือรังปูนะครับ^_^












วันที่ 1
อ่าวใหญ่



    หลังจากที่เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย นั่งพักซักครู่ กินมาม่าเพิ่มพลังกันซักหน่อย ก็ออกเดินทางกันเลยครับ อ่าวใหญ่เป็นที่แรกที่ผมไปครับ ผมไปช่วงเกือบเที่ยงพอดี ประทับใจกับความร้อนของแดดมาก แผดเผากันสุดๆ สิ่งแรกที่สะดุดตามากของที่นี่คือ ชายหาดที่กว้างสุดลูกหูลูกตา แถมสีของทรายที่นี่ยังเป็นสีเทาซะด้วย ผมว่ามันสวยมากเลยหละ






เดินไปไม่กี่ก้าว...เอ๊ะ! มีก้อนทรายเล็กๆวางเรียงรายกันเป็นกระจุกตามแนวชายหาด พอเพ่งมองดูดีๆเท่านั้นแหละ ก็พบ “ปู” ตัวเล็ก ตอนนั้นถามกูเกิ้ลเลยได้ใจความว่าเป็น “ปูทหาร” ใครไม่รู้คงคิดว่าเป็นปูลม...ผมก็คนนึงแหละครับ มีความแตกต่างกันทางกายภาพหลายอย่างครับ และอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ ปูลมจะไม่ปั้นก้อนทรายแบบนี้ครับ







ปูทหารเป็นสัตว์ชิคๆ...




เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนระอุเกินไป ไม่ไหวละครับ ภาษาแถวบ้านเรียกว่า”เยาแดด”ครับ จึงตัดสินใจไปนั่งพักกันที่ร้านกาแฟ  Coffee & Resort แต่ก่อนจะออกมาก็เล็งไว้แล้วครับ “จะต้องกลับมาถ่ายพระอาทิตย์ตกให้ได้” ขอเอารูปช่วงเย็นมาลงเลยละกันนะครับ เดี๋ยวกลับไปกลับมาแต่ละอ่าว เดี๋ยวจะงงกันเปล่าๆ

แหม่ เหมือนเข้ามาอยู่อีกโลกนึงอ่ะครับ เป็นร้านกาแฟใต้ต้นไม้ใหญ่ ร่มรื่นมากครับ รสชาติของกาแฟ ผมบอกเลยว่าอร่อยครับ เข้ม หวานมันกำลังดี



ที่แห่งนี้ เป็นสถานที่โรแมนติกดีนะครับ มีใครซักคนนั่งกินอาหารอร่อยๆ จิบเครื่องดื่มเย็นๆที่ริมชาย รอดูพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ว้าววว ^^





ตัวอักษรเกินแล้วครับ 55+ เดี๋ยวผมมาต่อละกันนะครับ
ผมรวมอัลบั้มไว้ในเฟสบุคของผมนะครับ
https://www.facebook.com/noom.medicamentum/media_set?set=a.889990441044787.1073741871.100001015186623&type=1
ชื่อสินค้า:   เกาะพยาม จ.ระนอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่