ยิ่งไกลยิ่งใกล้

"คุณไม่มีทางรู้หรอกครับว่าหน้าตาตัวเองเป็นอย่างไร จนกว่าคุณจะส่องกระจกเพื่อมองย้อนดูตัวเอง"
และ "คุณอาจไม่มีทางรู้ว่าตัวเองเป็นอย่างไร ถ้าคุณไม่ออกห่างจากจุดที่คุณยืนอยู่ "



- เมื่อก่อนถ้ามีคนถามผมว่า คุณชอบอะไร? หรือ โตขึ้นอยากทำอาชีพอะไร?
ผมตอบไม่ได้และคิดไม่ออกจริงๆครับ

- แต่ถ้าถามว่า ผมไม่ชอบอะไร?
ผมตอบได้เป็นฉากๆ เลย แถมบ่นถึงสิ่งที่ไม่ชอบได้เป็นชั่วโมง 555

+ผมไม่รู้ว่าตัวเองชอบอาชีพอะไร รู้เพียงว่าไม่ชอบ "อาชีพครู" เพราะเห็นคุณแม่และญาติๆเป็นครูมาก่อน
+ผมไม่รู้ว่าตัวเองชอบเมืองไหน รู้เพียงว่าไม่ชอบ “จังวัดหนองคาย” ที่ตัวเองเกิดเพราะดูชายแดนๆไม่เจริญ
+ผมไม่รู้หรอกว่าความรักในครอบครัวเป็นยังไง รู้เพียงว่า “อึดอัด” ที่อยู่ในสายตาและความดูแลของคุณพ่อคุณแม่อยู่ตลอด



หลังจากเรียนจบ ม.3 ที่จังหวัดหนองคาย ผมก็กระยิ้มกระสนตัวเองจนได้ออกห่างจากบ้านมาเรียนที่กรุงเทพ
พอเริ่มอยู่ห่างจากครอบครัวนานๆ ผมถึงได้รู้ว่า "ความรักของครอบครัวมันยิ่งใหญ่และสำคัญแค่ไหน" ทำให้ทุกวันนี้ถึงแม้เราจะอยู่คนละจังหวัดแต่ผมโทรคุยกับคุณพ่อคุณแม่ทุกวัน  ผมพึ่งเห็น "คุณค่าและความยิ่งใหญ่ในความรักของคุณพ่อคุณแม่ในวันที่ผมจากมา"



พอเรียนจบได้ลองทำงานให้กับบริษัท 3 แห่ง รวมถึงมีโอกาสสร้างบริษัทของตัวเองถึง 8 ปีถึงได้รู้ตัวว่าจริงๆแล้ว "อาชีพที่ตัวเองชอบมากที่สุดคือ Trainer, ที่ปรึกษา ซึ่งก็คืออาชีพครูนั่นเอง" ผมพึ่งได้รู้ตัวเองว่าชอบรู้จักเพื่อนใหม่ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ แลกเปลี่ยนและแบ่งบันประสบการณ์กับผู้อื่น



พอมีเงินเก็บก็ได้เริ่มมีโอกาสเดินทางไปยังที่ต่างๆ ทั้งเอเชีย อเมริกา และยุโรป ผมกลับพบว่าหนึ่งในเมืองที่ผมชอบมากที่สุดคือ “หนองคาย” ซึ่งไม่แปลกใจเลยที่นิตยสารของอเมริกาได้รับผลโหวตว่า “หนองคายเป็นเมืองน่าอยู่อันดับ 7 ของโลก” เป็นจังหวัดเล็กๆตามแนวยาวของแม่น้ำโขง อาหารอร่อยราคาไม่แพง ผู้คนที่นี่ยังคงยิ้มแย้มแจ่มใสและเป็นมิตร ไม่แพ้เมืองไหนในโลกจริงๆครับ (อยากให้เพื่อนๆลองไปเที่ยวหนองคายดูครับ) เยี่ยม

ผมเลยมองย้อนชีวิตตัวเองเป็นเหมือนเรื่องตลก ที่มาพบตัวเองภายหลังว่า
หลายสิ่งหลายอย่างที่ตัวเองคิดว่าไม่ชอบ กลับกลายเป็นเรื่องที่ตัวเองชอบ ซ๊ะงั้น 555

---------------------------------------------------------------------------
ถ้าวันนี้คุณยังมองไม่เห็นของคุณค่าทุกวันของชีวิต แล้วคุณอยากตามหาตัวเองให้เจอโดยเร็ว
ผมอยากให้คุณรีบรวบรวมความกล้าในการก้าวออกจากจุดที่คุณยืนอยู่ (comfort zone) เช่น
---------------------------------------------------------------------------

+ ลองเดินทางไปยังที่ที่ไม่เคยไป แล้วคุณอาจพบว่าที่ที่คุณอยู่นั้นมีค่ามากแค่ไหน
+ ลองอยู่ห่างจากคนที่คุณรัก แล้วคุณอาจพบว่าความรักของคุณและพวกเขานั้นยิ่งใหญ่เพียงใด
+ ลองทำเรื่องที่คุณไม่เคยทำมาก่อน แล้วคุณอาจจะพบอาชีพที่คุณตกหลุมรักจนอยากทำมันทุกวันจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต

>>> คนส่วนใหญ่ที่ไม่มีความสุขและไม่สามารถมีชีวิตที่ตัวเองต้องการได้เพราะเขาโฟกัสกับเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบ เช่น เศรษฐกิจแย่จัง การเมืองก็แย่ ธุรกิจนั้นก็แย่ เพื่อนร่วมงานคนนั้นก็แย่ แถมจำได้แต่เรื่องแย่ๆในชีวิต แต่ก็ยังยอมทนใช้ชีวิตแบบเดิมๆ

<<< คนส่วนน้อยเท่านั้นที่มีความสุขและมีชีวิตที่ตัวเองต้องการเพราะพวกเขาโฟกัสแต่เรื่องดีๆที่ตัวเองชอบครับ โดยทุ่มเทความพยายามลองผิดลองถูกอย่างเต็มที่ กล้าลองอะไรใหม่ๆ กล้าก้าวข้ามไปยังพื้นที่ที่ตัวเองไม่คุ้นเคย จนเจอเรื่องดีๆและสิ่งที่ตัวเองชอบ

---------------------------------------------------------------------------
ไม่มีใครรู้ครับว่าเราจะยังมีวันพรุ่งนี้อยู่หรือไม่
อย่ามัวแต่เสียเวลาปล่อยชีวิตล่องลอยไปวันๆอย่างไร้จุดหมายอยู่เลยครับ
ชีวิตของคุณเป็นสิ่งล้ำค่า ที่คุณอาจแค่ยังมองไม่เห็น
แต่ถ้าคุณกล้าก้าวข้ามจากสิ่งที่คุณเป็น แล้วคุณจะได้พบเห็นสิ่งที่คุณไม่เคยเจอ
---------------------------------------------------------------------------

ขอให้คุณค้นพบตัวเอง รักในสิ่งที่ทำและได้ทำในสิ่งที่รักครับ ยิ้ม
เจษ - เจษฎา เจือจันทึก
=====================================
เพจ ==> https://www.facebook.com/SucceedLifestyle
blog ==> www.SucceedLifestyle.com

(ขอบคุณภาพจาก idreamculture.com)
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่