ปี 2518 สงครามอินโดจีนสิ้นสุดลง อเมริกาพ่ายแพ้ยับเยิน ซมซานกลับบ้าน
ลาวแตก ไซ่ง่อนแตก เรฟูจีลงเรือหนีตายเข้าไทยหลายแสนคน
ศูนย์อพยพเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ปี 2518 เขมรแดงครองเขมร ชาวเขมรหนีตายเข้าไทยนับแสน ๆ คน
ปี 2522 เวียดนามบุกเขมร ปราบเขมรแดงราบคาบ คนเขมรบางส่วนก็หนีตายเข้าไทยอีกหลายหมื่นคน
ช่วงหลังปี 2530 ชนกลุ่มน้อยในพม่า หรือแม้แต่คนพม่าเอง ก็หนีเข้าไทยหลายแสน จนถึงวันนี้คงมีนับล้านคน
ประสบการณ์เรื่องคนหนีเข้าเมือง ผู้ลี้ภัย มีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ด้านบวก คือทำให้เรารู้วิธีบริหารจัดการ หาทางออก หาทางแก้ไขได้
ด้านลบ คือสร้างความหวาดหวั่น เพราะต้องเผชิญกับปัญหานานับประการ
วันนี้ มีกรณีชาวโรฮิงยา
จะจัดการอย่างไร หาทางออกอย่างไร แก้ไขอย่างไร มีหลายหนทางที่จะบริหารจัดการได้
แต่ไม่ใช่การไล่ไปตายไหนก็ไปแน่ ๆ
อย่างที่ท่านพระไพศาล ท่านโปรดสัตว์ไว้ว่า
การปล่อยให้เพื่อนมนุษย์ตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีทางที่ควรทำ ขณะเดียวกันการแบกรับภาระทั้งหมด
ก็เป็นไปได้ยาก สิ่งที่เราน่าจะช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นก็คือ การร่วมกันแบ่งเบาภาระในระหว่างประเทศ
พื่อนบ้าน โดยมีทุนสนับสนุนจากนานาชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศต้นทาง
เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลในระยะยาว ทางออกที่เป็นไปได้นั้นมีหลายทาง แต่สิ่งสำคัญก่อนอื่นใด คือ
ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์ และด้วยสำนึกของความเป็นมนุษย์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432010590
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปอลิง. ได้ยินนายกรณ์ ขุนคลังใหญ่ พูดทางรายการอะไรไม่รู้ทางบลูตะกายเมื่อกี้
เรื่องงบประมาณของกระทรวงศึกษาธิการที่ได้งบประมาณมากที่สุด
ทำนองว่า เงินเยอะแต่ใช้ไม่เป็น และจะมีคำแนะนำ (โอ่)
ผมได้ยินแล้วสะดุ้ง
เฮ้ย นี่อดีต รมว.คลังนี่หว่า ไหงพูดเห่ย ๆ ยังงี้ได้
เพราะงบของกระทรวงศึกษาธิการนั้น ได้เป็นอันดับหนึ่งทุกปีงบประมาณนั่นแหละ
และไม่ใช่กระทรวงเขาเอาไปใช้ไม่เป็น ไม่ใช่ใช้สุรุ่ยสุร่าย ไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป
เพราะ 80 % ของงบนั้น หมดไปแล้วกับค่าใช้จ่ายประจำ พวกเงินเดือน ค่าจ้าง ค่าสาธารณูปโภค ฯลฯ
เหลือเป็นงบพัฒนาแค่หนึ่งในห้า
ข้าราชการประเทศไทย ราว ๆ สองล้านกว่าคน
เป็นของกระทรวงศึกษาธิการมากที่สุด
ไม่รู้ว่าเป็น รมว.คลังมาได้ไง หรือเพราะดีเอ็นเอของพรรค ปชป. ต้องแบบนี้
คือถูกผิดไม่สน ความจริงไม่มี พูดเอาดีใส่ตัวยัดชั่วคนอื่นไว้ก่อน
อดีตรับใช้ปัจจุบัน ปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดีกว่า
ลาวแตก ไซ่ง่อนแตก เรฟูจีลงเรือหนีตายเข้าไทยหลายแสนคน
ศูนย์อพยพเกิดขึ้นเป็นดอกเห็ด
ปี 2518 เขมรแดงครองเขมร ชาวเขมรหนีตายเข้าไทยนับแสน ๆ คน
ปี 2522 เวียดนามบุกเขมร ปราบเขมรแดงราบคาบ คนเขมรบางส่วนก็หนีตายเข้าไทยอีกหลายหมื่นคน
ช่วงหลังปี 2530 ชนกลุ่มน้อยในพม่า หรือแม้แต่คนพม่าเอง ก็หนีเข้าไทยหลายแสน จนถึงวันนี้คงมีนับล้านคน
ประสบการณ์เรื่องคนหนีเข้าเมือง ผู้ลี้ภัย มีทั้งด้านบวกและด้านลบ
ด้านบวก คือทำให้เรารู้วิธีบริหารจัดการ หาทางออก หาทางแก้ไขได้
ด้านลบ คือสร้างความหวาดหวั่น เพราะต้องเผชิญกับปัญหานานับประการ
วันนี้ มีกรณีชาวโรฮิงยา
จะจัดการอย่างไร หาทางออกอย่างไร แก้ไขอย่างไร มีหลายหนทางที่จะบริหารจัดการได้
แต่ไม่ใช่การไล่ไปตายไหนก็ไปแน่ ๆ
อย่างที่ท่านพระไพศาล ท่านโปรดสัตว์ไว้ว่า
การปล่อยให้เพื่อนมนุษย์ตายกลางทะเล ไม่ใช่วิถีทางที่ควรทำ ขณะเดียวกันการแบกรับภาระทั้งหมด
ก็เป็นไปได้ยาก สิ่งที่เราน่าจะช่วยกันผลักดันให้เกิดขึ้นก็คือ การร่วมกันแบ่งเบาภาระในระหว่างประเทศ
พื่อนบ้าน โดยมีทุนสนับสนุนจากนานาชาติ ขณะเดียวกันก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประเทศต้นทาง
เพื่อสกัดกั้นการหลั่งไหลในระยะยาว ทางออกที่เป็นไปได้นั้นมีหลายทาง แต่สิ่งสำคัญก่อนอื่นใด คือ
ความตั้งใจที่จะช่วยเหลือเขาในฐานะเพื่อนมนุษย์ และด้วยสำนึกของความเป็นมนุษย์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1432010590
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้