http://www.thairath.co.th/content/499485
ประเทศไทยวันนี้ต้องรับปัญหา การค้ามนุษย์ กลุ่มชาติพันธุ์ โรฮีนจา ไปเต็มๆ ทั้งที่ พม่า และ บังกลาเทศ เป็นต้นตอใหญ่ แต่ สหรัฐฯ และ สหประชาชาติ กลับไม่ไปกดดันพม่าและบังกลาเทศ ดันทะลึ่งมากดดันประเทศไทยที่เป็นแค่ทางผ่าน เพราะชาวโรฮีนจาต้องการอพยพไปอยู่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมด้วยกัน ไม่ใช่ ประเทศพุทธ อย่าง ไทย ที่ ชาวโรฮีนจา ต้องอพยพหนีมาจาก รัฐยะไข่ ของพม่า
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดให้มีการประชุมว่าด้วย การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย วันที่ 29 พฤษภาคมนี้ เพื่อโยนเรื่องกลับไปให้องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล องค์การสหประชาชาติ และ ประเทศที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นนโยบายเชิงรุกที่ถูกต้องแล้ว เรื่องอะไรต้องไปรับภาระฝ่ายเดียวทั้งที่ไม่ได้ร่วมก่อสักนิด
แต่การแก้ปัญหานี้ก็ไม่ง่าย ยังไม่ทันไร ทำเนียบประธานาธิบดีพม่า ก็ออกมาประกาศล่วงหน้าว่า ถ้าหนังสือเชิญประชุม มีการระบุว่าจะหารือเรื่อง “โรฮีนจา” พม่าก็จะไม่เข้าร่วมประชุมด้วย แล้วก็โยนความผิดมาที่ไทยอย่างไร้เหตุผลว่า การป้องกันการค้ามนุษย์ที่ล้มเหลว เพราะการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เข้มงวดขึ้นของไทย เป็นเหตุผลที่ไร้เหตุผลสิ้นดี
รัฐบาลไทยที่ผ่านมา มีการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย เรื่อง โรฮีนจา ก็เช่นเดียวกัน มีการทุจริต ขายบัตรประชาชน ให้ ชาวโรฮีนจาอพยพ เป็นจำนวนมาก กลายเป็นคนไทย รับสิทธิทุกอย่างเหมือนคนไทย ตัวเลขว่ากันว่าหลายหมื่นคน แต่ไม่มีใครยืนยัน เพราะไม่มีใครรู้ขายบัตรประชาชนไปเท่าไร
ชาวโรฮีนจา ที่กลายเป็น คนไทย เพราะ ซื้อบัตรประชาชนจากข้าราชการขายชาติ ก็ไม่ใช่คนดีที่น่าเลี้ยงไว้ สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจปราบยาเสพติดภาค 8 ก็เพิ่งจับตัว ชาวโรฮีนจารับจ้างขายยาเสพติด วิ่งรอกรับจ้างขนยาบ้าในพื้นที่ อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี สารภาพว่าอยู่เมืองไทยมา 7-8 ปีแล้ว เข้าออกไทยหลายครั้ง สมัยก่อนมาทางเรือจ่ายเงินค่าเข้าไทย 5,000-8,000 บาท ถ้าต่อไปมาเลเซียต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท
วันวาน นายวัน จูไนดี จาฟาร์ รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย ก็ออกแถลงการณ์ประกาศชัดเจนว่า ประเทศของเราไม่ต้อนรับผู้อพยพ ถ้าหากเราเปิดรับผู้อพยพกลุ่มนี้ (กลุ่มที่กำลังลอยเรืออยู่ในทะเล 300 กว่าคน รอขึ้นฝั่งมาเลเซียที่เป็นเป้าหมาย แต่ถูกทางการมาเลเซียผลักดันออกไปสู่ทะเลอีก จึงมุ่งหน้าไปอินโดนีเซียต่อ) ก็จะมีผู้อพยพกลุ่มอื่น ทั้งจากโรฮีนจาและบังกลาเทศ เดินทางเข้ามาในประเทศเราเพิ่มขึ้น ไม่เห็น สหรัฐฯ ยูเอ็น ว่าอะไร
ทำไม ชาวโรฮีนจา จึงเป็น ชาติพันธุ์มนุษย์ที่ประเทศอื่นไม่ต้องการ เป็นคำถามที่น่าสนใจยิ่ง ชาวโรฮีนจาเป็นคนแบบไหน ผมเองก็ไม่รู้จัก นอกจากเห็นจากข่าว
แต่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่เป็น ชาวมุสลิมด้วยกัน ก็ไม่มีชาติไหนยอมรับ ยิ่ง พม่า ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ รัฐบาลนายพลเนวิน เมื่อปี 2525 ถึงกับ ออกกฎหมายห้ามรับชาวโรฮีนจาเป็นพลเมืองพม่าเพียงชาติพันธุ์เดียว ทั้งที่พม่าเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยชนกลุ่มน้อย แต่พม่าไม่ยอมรับโรฮีนจาเพียงกลุ่มเดียว แม้ใน รัฐยะไข่ ที่เป็นถิ่นฐานเดิมของชาวโรฮีนจาก็ถูกขับไล่ เคยปะทะกันรุนแรงถึงขั้นก่อสงครามศาสนา
หากย้อนดู ภูมิหลังชาวโรฮีนจา ก็เป็นชาติพันธุ์มุสลิมที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ในพม่า พูดภาษาโรฮีนจา แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าอพยพมาจากบังกลาเทศ สมัยปากีสถานแยกประเทศ ชาวโรฮีนจาเคยคิดจะแบ่งแยกดินแดนพม่าไปรวมกับปากีสถานตะวันออกหรือบังกลาเทศ แต่ไม่สำเร็จ ชาวโรฮีนจาอีกส่วนหนึ่ง อังกฤษนำเข้ามาจากบังกลาเทศสมัยยึดครองพม่า เพื่อใช้เป็นแรงงานในไร่นา
ตัวเลขล่าสุดของ วิกิพีเดีย ระบุว่า วันนี้มีชาวโรฮีนจาอยู่ในประเทศไทยถึง 100,000 คนแล้ว น่าตกใจไม่น้อย ยังไม่นับที่ลักลอบเข้ามาซื้อบัตรประชาชนอีกไม่รู้กี่หมื่นคน ถ้า สหรัฐฯ และ ยูเอ็น จะ บังคับให้ไทยรับชาวโรฮีนจาเข้ามาอีก ผมคิดว่า สหรัฐฯ และ ยูเอ็น กำลัง ไม่แฟร์ต่อประเทศไทย ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
โรฮีนจา : ชาติพันธุ์ที่ไม่มีใครต้องการ
ประเทศไทยวันนี้ต้องรับปัญหา การค้ามนุษย์ กลุ่มชาติพันธุ์ โรฮีนจา ไปเต็มๆ ทั้งที่ พม่า และ บังกลาเทศ เป็นต้นตอใหญ่ แต่ สหรัฐฯ และ สหประชาชาติ กลับไม่ไปกดดันพม่าและบังกลาเทศ ดันทะลึ่งมากดดันประเทศไทยที่เป็นแค่ทางผ่าน เพราะชาวโรฮีนจาต้องการอพยพไปอยู่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นประเทศมุสลิมด้วยกัน ไม่ใช่ ประเทศพุทธ อย่าง ไทย ที่ ชาวโรฮีนจา ต้องอพยพหนีมาจาก รัฐยะไข่ ของพม่า
การที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จัดให้มีการประชุมว่าด้วย การโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติในมหาสมุทรอินเดีย วันที่ 29 พฤษภาคมนี้ เพื่อโยนเรื่องกลับไปให้องค์กรสิทธิมนุษยชนสากล องค์การสหประชาชาติ และ ประเทศที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นนโยบายเชิงรุกที่ถูกต้องแล้ว เรื่องอะไรต้องไปรับภาระฝ่ายเดียวทั้งที่ไม่ได้ร่วมก่อสักนิด
แต่การแก้ปัญหานี้ก็ไม่ง่าย ยังไม่ทันไร ทำเนียบประธานาธิบดีพม่า ก็ออกมาประกาศล่วงหน้าว่า ถ้าหนังสือเชิญประชุม มีการระบุว่าจะหารือเรื่อง “โรฮีนจา” พม่าก็จะไม่เข้าร่วมประชุมด้วย แล้วก็โยนความผิดมาที่ไทยอย่างไร้เหตุผลว่า การป้องกันการค้ามนุษย์ที่ล้มเหลว เพราะการปราบปรามการค้ามนุษย์ที่เข้มงวดขึ้นของไทย เป็นเหตุผลที่ไร้เหตุผลสิ้นดี
รัฐบาลไทยที่ผ่านมา มีการทุจริตคอร์รัปชันมากมาย เรื่อง โรฮีนจา ก็เช่นเดียวกัน มีการทุจริต ขายบัตรประชาชน ให้ ชาวโรฮีนจาอพยพ เป็นจำนวนมาก กลายเป็นคนไทย รับสิทธิทุกอย่างเหมือนคนไทย ตัวเลขว่ากันว่าหลายหมื่นคน แต่ไม่มีใครยืนยัน เพราะไม่มีใครรู้ขายบัตรประชาชนไปเท่าไร
ชาวโรฮีนจา ที่กลายเป็น คนไทย เพราะ ซื้อบัตรประชาชนจากข้าราชการขายชาติ ก็ไม่ใช่คนดีที่น่าเลี้ยงไว้ สัปดาห์ที่แล้ว ตำรวจปราบยาเสพติดภาค 8 ก็เพิ่งจับตัว ชาวโรฮีนจารับจ้างขายยาเสพติด วิ่งรอกรับจ้างขนยาบ้าในพื้นที่ อ.ชัยบุรี จ.สุราษฎร์ธานี สารภาพว่าอยู่เมืองไทยมา 7-8 ปีแล้ว เข้าออกไทยหลายครั้ง สมัยก่อนมาทางเรือจ่ายเงินค่าเข้าไทย 5,000-8,000 บาท ถ้าต่อไปมาเลเซียต้องจ่ายเพิ่มอีก 10,000 บาท
วันวาน นายวัน จูไนดี จาฟาร์ รัฐมนตรีมหาดไทยมาเลเซีย ก็ออกแถลงการณ์ประกาศชัดเจนว่า ประเทศของเราไม่ต้อนรับผู้อพยพ ถ้าหากเราเปิดรับผู้อพยพกลุ่มนี้ (กลุ่มที่กำลังลอยเรืออยู่ในทะเล 300 กว่าคน รอขึ้นฝั่งมาเลเซียที่เป็นเป้าหมาย แต่ถูกทางการมาเลเซียผลักดันออกไปสู่ทะเลอีก จึงมุ่งหน้าไปอินโดนีเซียต่อ) ก็จะมีผู้อพยพกลุ่มอื่น ทั้งจากโรฮีนจาและบังกลาเทศ เดินทางเข้ามาในประเทศเราเพิ่มขึ้น ไม่เห็น สหรัฐฯ ยูเอ็น ว่าอะไร
ทำไม ชาวโรฮีนจา จึงเป็น ชาติพันธุ์มนุษย์ที่ประเทศอื่นไม่ต้องการ เป็นคำถามที่น่าสนใจยิ่ง ชาวโรฮีนจาเป็นคนแบบไหน ผมเองก็ไม่รู้จัก นอกจากเห็นจากข่าว
แต่ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ที่เป็น ชาวมุสลิมด้วยกัน ก็ไม่มีชาติไหนยอมรับ ยิ่ง พม่า ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ รัฐบาลนายพลเนวิน เมื่อปี 2525 ถึงกับ ออกกฎหมายห้ามรับชาวโรฮีนจาเป็นพลเมืองพม่าเพียงชาติพันธุ์เดียว ทั้งที่พม่าเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยชนกลุ่มน้อย แต่พม่าไม่ยอมรับโรฮีนจาเพียงกลุ่มเดียว แม้ใน รัฐยะไข่ ที่เป็นถิ่นฐานเดิมของชาวโรฮีนจาก็ถูกขับไล่ เคยปะทะกันรุนแรงถึงขั้นก่อสงครามศาสนา
หากย้อนดู ภูมิหลังชาวโรฮีนจา ก็เป็นชาติพันธุ์มุสลิมที่อยู่ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ในพม่า พูดภาษาโรฮีนจา แต่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าอพยพมาจากบังกลาเทศ สมัยปากีสถานแยกประเทศ ชาวโรฮีนจาเคยคิดจะแบ่งแยกดินแดนพม่าไปรวมกับปากีสถานตะวันออกหรือบังกลาเทศ แต่ไม่สำเร็จ ชาวโรฮีนจาอีกส่วนหนึ่ง อังกฤษนำเข้ามาจากบังกลาเทศสมัยยึดครองพม่า เพื่อใช้เป็นแรงงานในไร่นา
ตัวเลขล่าสุดของ วิกิพีเดีย ระบุว่า วันนี้มีชาวโรฮีนจาอยู่ในประเทศไทยถึง 100,000 คนแล้ว น่าตกใจไม่น้อย ยังไม่นับที่ลักลอบเข้ามาซื้อบัตรประชาชนอีกไม่รู้กี่หมื่นคน ถ้า สหรัฐฯ และ ยูเอ็น จะ บังคับให้ไทยรับชาวโรฮีนจาเข้ามาอีก ผมคิดว่า สหรัฐฯ และ ยูเอ็น กำลัง ไม่แฟร์ต่อประเทศไทย ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลอะไรก็ตาม.
“ลม เปลี่ยนทิศ”