จดหมายถึงย่าแย้ม

เรียน ย่าแย้ม ที่เคารพ

      ผมเขียนจดหมายฉบับนี้มาถึงย่าแย้ม เพื่อให้เป็นไปตามความต้องการคุณปู่ ตามที่ท่านได้สั่งไว้ก่อนจะจากไปสวรรคโลก
      ท่านสั่งนักสั่งหนา  ว่าต้องส่งข้อความนี้ให้ถึงย่าแย้มให้ได้  ผมเองก็จนใจ  ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะหาที่ติดต่อไหนก็ไม่ได้
      ผมก็ได้แต่หวังว่า หากพึ่งพาโซเชียลเน็ทเวิร์ก ย่าแย้มอาจจะมีโอกาสได้เห็นบ้าง

      ความในใจที่คุณปู่ฝากไว้ มีดังนี้ครับ

      สมัยก่อนตอนคุณปู่ยังหนุ่ม ทำงานหาเช้ากินค่ำ อาศัยร่างกายตรากตำ แบกข้าวสารขึ้นบ่าเป็นกระสอบๆ วันละหลายร้อยกระสอบ จนร่างกายปวดล้า ได้ค่าแรงไม่กี่สิบบาท
      ของอร่อยไม่เคยลิ้มรส เสื้อผ้าใส่ชุดเดิมจนหมอง รู้ตัวว่าเงินทองมีน้อย จะกินจะใช้ก็คิดแล้วคิดอีก
      แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังมีความสุขได้... และความสุขเพียงหนึ่งเดียว คือ เสียงของย่าแย้ม

      ครั้งแรกที่คุณปู่ได้ยินเสียงย่าแย้มร้องเพลง 'ด้วยรัก อยากฝากไว้  ในหัวใจ ที่หมายมั่น.....'  แว่วมาจากร้านก๋วยเตี๋ยว  เสียงเพราะๆ นั้นฉุดหัวใจที่เหนื่อยล้ากับการทำงานหนักแต่ละวันให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
      คุณปู่ประทับใจมากจนเจียดเงินไปซื้อเทปและมาหัดร้องท่อนแรป 'อยากจะจองตัวเธอ เป็นของชั้นคนเดียว เปล่าเปลี่ยว เปล่าเปลี่ยวมานานเท่าไร..'

      ด้วยกำลังใจที่ได้จากการฟังเพลง ทำให้ทำงานทุกวันขยันขันแข็ง  จนเถ้าแก่ก็มอบหมายให้มาเป็นคนขับรถบรรทุก แล้วคอยดูแลการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้า  จะว่าไปก็เหมือนกับได้รับการเลื่อนขั้น
      วันนั้นคุณปู่ดีใจมาก ถึงกับ เอาเพลง 'เพราะรักคงอยู่' กับ 'เพราะเราเข้าใจ'  มาฟังวนซ้ำไปซ้ำมาทั้งคืน  (เพื่อ?!!)

      ถัดจากนั้นไม่นาน  จนเพลง 'ลมหายใจ' ที่เป็นเสียงของย่าแย้มมาร้องใหม่  คุณปู่ท่านก็ไปฝึกร้องท่อนแรป 'ไม่เข้าใจตัวเอง ว่าทำไม่เป็นยังงี้ ทั้งที่ถามตัวเองอยู่ทุกที ว่าคนนี้นะหรือ ใช่คนนี้แน่หรือ ที่ทำให้เราพร่ำเพ้อถึงเธอขนาดนี้'
      ด้วยบทสวดนี้ที่คุณปู่ท่องทุกเช้าก่อนเริ่มงาน คงจะไปโดนใจลูกสาวเถ้าแก่เจ้าของโรงสีที่บังเอิญมาได้ยินเข้า  ก็ทำเอาชีวิตคุณปู่เจริญขึ้น โดยกลายมาเป็นลูกเขยเถ้าแก่โดยไม่คิดฝันมาก่อน

      เล่ามาถึงจุดนี้ คุณปู่ก็ทำสีหน้าเศร้าหมอง  ว่าท่านเคยทำผิดต่อย่าแย้มหนึ่งอย่าง ที่ท่านไม่เคยบอกใครมาก่อน
      ท่านสารภาพออกมาแบบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่  ว่าครั้งหนึ่งเคยนอกใจเพลงย่าแย้ม  หันไปหัดร้องเพลงแนวกรันจ์ของ อรอรีย์ อยู่หลายเดือน แต่ถึงอย่างนั้น คุณปู่ก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่ร้องท่อนแรปในเพลงของใครนอกจากเพลงที่ย่าแย้มร้อง (เพื่อ?!!)

      ก่อนที่จะยาวไปกว่านี้ ขอตัดจบจดหมายด้วยรูปย่าแย้มหัวเตียงคุณปู่ แขวนผนังไว้เยื้องต่ำกว่ารูปพระเกจิอาจารย์ 5 องค์ที่นับถือ
      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
      [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


       ท่านบอกว่าที่ตระกูลเรามีกินมีใช้ทุกวันนี้  ก็มาจากเสียงเพลงหวานกังวาลใสของย่าแย้ม
       เสียงที่เปรียบเสมือนระฆังชีวิต ให้รู้ว่าจะเดินไปทางไหนดี โดยมีท่อนแรปที่เหมือนกับเดินมั่วๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นการซอยเท้าวิ่งเข้าหาเป้าหมาย

       นอกจากการร้องเพลงแล้ว  ไม่ว่างานอันใดก็ยังให้ดูย่าแย้มเป็นตัวอย่าง  ว่าทำอะไรต้องทำจริง  ทุ่มทั้งจิตวิญญาณ  ชนิดที่คุณปู่บอกว่า  ย่าแย้มน่าจะได้รางวัลออสการ์

       สุดท้ายคุณปู่บอกว่า กลับมาจากสุโขทัยคราวนี้  จะไปดูคอนเสิร์ทบีเดย์  เผื่อจะไปขอลายเซ็นต์ย่าแย้ม  เสียดายแผ่นอัลบั้มที่เก็บสะสมสูญไปกับน้ำท่วมใหญ่ครั้งนั้น  แต่ยังดีที่รูปหัวเตียงแขวนไว้สูง

ด้วยความเคารพอย่างสูงสุด
หลานปู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่