วิชา  มหาคุณ  เอ๊ย
เรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทางการเมือง ระหว่างปี 2548-2553
ที่อนุกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ครม.ยิ่งลักษณ์ 34 คน
ด้วยเหตุผล(ข้ออ้าง) ว่าไม่มีกฎหมายรองรับนั้น

ผมบอกได้เลยว่า   สรุปชี้มูลแบบไร้เหตุผล และหน้าด้านสุด ๆ
เป็นการจงใจหาเรื่องหาคดีใส่เขา  เพื่อเป้าหมายทางการเมืองเท่านั้นเอง

แบบนี้   ผมว่า ป.ป.ช. น่าจะโดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบซะเองมากกว่าครับ
แต่เพราะหน้ามึนอ้างได้ว่า  ทำงานตามหน้าที่   เป็นการไต่สวนแล้วชี้มูลเท่านั้น
ไม่ใช่การพิพากษา  จะถูกจะผิดไปว่ากันที่ศาล   ทำให้ ป.ป.ช. ลอยนวลไปทุกที

ประเด็นคือ   เมื่อมีกฎหมายรองรับ  มีอำนาจตามหน้าที่    แต่ ป.ป.ช. กลับเห็นว่าไม่มีกฎหมายรองรับ  ชี้มูลเอาผิด
แบบนี้หากบอกว่าไม่ได้จงใจเจตนาหาเรื่องเอาผิด  
ก็แปลว่า ป.ป.ช. ทำงานไร้ประสิทธิภาพครับ    ควรลาออกแสดงความรับผิดชอบ   อย่าอยู่ให้เปลืองภาษีประชาชน



เรื่องเงินเยียวยานี่    เกิดเหุตก็เพราะนายสาธิต  ปิตุเดชะ  ส.ส. ปชป.
ได้ทำเรื่องร้องต่อ ป.ป.ช. ว่า  ครม.ยิ่งลักษณ์จ่ายเงินเยียวยามิชอบ  เป็นการออกกฎเกณฑ์ขึ้นใหม่
ไม่มีกฎหมาย ระเบียบรองรับ  เป็นการจ่ายเงินเพื่อประโยชน์พวกพ้องเป็นหลัก

ป.ป.ช. ก็รับเรื่อง  ไต่สวน  แล้วสรุปว่าผิด  ด้วยเหตุผล ไม่มีกฎหมายรองรับ




การจ่ายเงินเยียวยานั้น  ไม่ใช่ ครม.ยิ่งลักษณ์ทำครั้งแรกครับ  รัฐบาลก่อน ๆ ก็เคยทำมาแล้ว
แต่จำนวนเงินไม่มากเท่าที่ ครม.ยิ่งลักษณ์

ทำให้มองว่าเป็นการสร้างหลักเกณฑ์ขึ้นใหม่ (เคยจ่ายหลักแสน  แต่ ครม.ยิ่งลักษณ์ปรับหลักเกณฑ์เป็น 7.5 ล้าน)




ก็มาดูกันครับ  ว่าไม่มีข้อกฎหมายรองรับอย่างที่ ป.ป.ช. อ้างหรือไม่

เรื่องนี้  ครม.ยิ่งลักษณ์มีมติ 3 ครั้งครับ  คือ

10 ม.ค. 55    6 มี.ค. 55  และ  3 ธ.ค. 56 (สองครั้งแรก ครอบคลุมปี 48-53    ส่วนครั้งหลักสุดให้ครอบคลุม กปปส. พ.ย.-ธ.ค. 56 ด้วย)




จำกันได้นะครับ  ว่า  กปปส. ทำหนังสือถึงรัฐบาลประยุทธ  เรียกร้องขอเงินเยียวยาเหมือนที่ ครม.ยิ่งลักษณ์เคยทำ
เพราะที่ผ่านมา  มติ ครม.ยิ่งลักษณ์  ครอบคลุมถึงแค่ ธ.ค. 56  ยังไม่ทั่วถึง
กปปส. จึงเรียกร้องให้ครอบคลุมถึงปี 57 ด้วย

ครม.ประยุทธ  จึงมีมติเห็นชอบเมื่อ  16 ก.ย. 57  และทำหนังสือปรึกษาหารือกับกฤษฎีกาว่าทำได้หรือไม่ ประการใด

คณะกรรมการกฤษฎีกาให้ความเห็นว่า   เรื่องนี้มีกฎหมายรองรับ  คือ

"การชดเชยเยียวยาตัวเงินตามหลักมนุษยธรรมให้แก่บุคคลทุกฝ่ายที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมือง 2556-2557 เป็นกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องรีบดำเนินการตามนโยบายและหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีที่ต้องส่งเสริมความสามัคคีและความสมานฉันท์ของประชาชนในชาติและจำเป็นต้องใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

จึงเป็นเรื่องในทางนโยบายที่อยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ หากการใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวเป็นการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือเยียวยาปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นการทั่วไปโดยเสมอภาคและเป็นธรรม โดยมิได้มุ่งหมายที่จะให้ประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งเป็นการเฉพาะ

ทั้งนี้ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2502 ระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.2548 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 16 ก.ย. 2557 ที่กำหนดแนวทางปฏิบัติกรณีการขออนุมัติใช้เงินงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น

สำหรับแนวทางการดำเนินการชดเชยเยียวยาตัวเงินตามหลักมนุษยธรรมให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในช่วงปี 2556-2557 จะดำเนินการจ่ายในอัตรา หลักเกณฑ์ และวิธีการอย่างไรนั้น เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีจะพิจารณากำหนดได้ตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงความเป็นธรรมตลอดจนความพร้อมด้านงบประมาณของรัฐ"



เทียบกับ ครม.ยิ่งลักษณ์  ที่ รธน.50  มาตรา 171  บัญญัติไว้ว่า
"พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งและรัฐมนตรีอื่น อีกไม่เกินสามสิบห้าคนประกอบเป็นคณะรัฐมนตรี
มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดินตามหลักความรับผิดชอบร่วมกัน"

ฉะนั้น  การปรับหลักเกณฑ์การจ่าย  การใช้อำนาจตามหน้าที่การบริหารราชการแผ่นดิน  อนุมัติงบกลางจ่ายเงินเยียวยา
จึงเป็นการกระทำแบบเดียวกันกับที่กฤษฎีกาแนะนำ ครม.ประยุทธ ว่าทำได้ และมีกฎหมายรองรับ




ชัดนะครับ  ว่าเป็นการจ่ายที่มีกฎหมายรองรับ  มีอำนาจหน้าที่ที่สามารถกระทำได้ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
ไม่ได้เป็นการจ่ายเพื่อคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง  หรือเพื่อผลประโยชน์ของพวกพ้อง

(รัฐบาลยิ่งลักษณ์ไม่ได้จ่ายเงินโดยไม่ผ่านงบประมาณอย่างที่ ป.ป.ช. ว่านะครับ
เพราะรัฐบาลยิ่งลักษณ์จ่ายจากงบประมาณที่เรียกว่า งบกลาง

"งบกลาง" เป็นรายจ่ายที่ตั้งสำรองไว้เพื่อประโยชน์ในการบริหารราชการแผ่นดินของคณะรัฐมนตรี
ที่จะสามารถจัดสรรงบดังกล่าวไปใช้จ่ายเพื่อประโยชน์สาธารณะตามนโยบายของรัฐบาล
รวมถึงการแก้ไขปัญหาหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ของประเทศในกรณีจำเป็นหรือกรณีฉุกเฉิน )


และ ครม.ยิ่งลักษณ์  ไม้ได้คิดเองเออเอง แต่ทำตามที่หน่วยงานปรองดอง (คอป.) แนะนำ
เพียงแต่ปรับวิธีการและหลักเกณฑ์  ซึ่งเป็นเรื่องที่ ครม.สามารถกระทำได้ตามที่เห็นเหมาะสม



อ่านรายละเอียดตรงนี้  จากสำนักข่าวอิสรา   จะได้ข้อมูลและความชัดเจนแจ่มแจ๋วเลยครับ
http://www.isranews.org/isranews-scoop/item/37460-kpps_888.html




มันแปลกนะครับ   ที่ กปปส. เรียกร้องให้ ครม.ประยุทธจ่ายเยียวยาเหมือน ครม.ยิ่งลักษณ์ทำ (ก็ ปชป. นั่นแหละร้องว่าจ่ายผิดกฎหมาย)
กฤษฎีกา  บอกว่าทำได้  เป็นอำนาจของ ครม. และมีกฎหมายรองรับ  เป็นอำนาจหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ

แปลว่า  หาก ครม.ประยุทธจะจ่ายให้ กปปส. ตำรวจ ทหาร หรือบุคคลที่ได้รับผลกระทบอื่น  รายละ 10 ล้านก็ทำได้ ไม่ผิด
(หรือจ่ายน้อยกว่า ครม.ยิ่งลักษณ์  ก็ไม่ผิด)

แต่สำหรับ ครม.ยิ่งลักษณ์  ที่อนุมัติไปแล้ว  จ่ายไปแล้ว  
ป.ป.ช. กลับเห็นว่า ผิด ไม่มีกฎหมายรองรับ



หากวันนี้  ครม.ประยุทธจ่าย  แล้วมีคนไปร้อง   จะผิดเหมือน ครม.ยิ่งลักษณ์ไหม  ???

น่าคิดนะครับ




ผมจึงเห็นว่า   ป.ป.ช.
มันเอาอีกแล้ว