สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยตั้งแต่สมัครสมาชิกในเวปพันทิป เลยมีภาพของกิจกรรมดีๆ มาแบ่งปันกันชมครับ
สาเหตุของภาพเซ็ตนี้คือ ผมต้องเดินทางไปงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเพื่อน ที่จังหวัดสระบุรี และต้องทำการเดินทางจากจังหวัดชลบุรี
(เพราะทำงานอยู่ที่นี่) จึงคิดไว้ในใจว่า ระหว่างเดินทางต้องหากิจกรรมบางอย่างทำ
สิ่งที่แว้ปเข้ามาให้หัวคือ ไหนๆ ก็เดินทางผ่านจังหวัดอยุธยา อ่างทองแล้ว ก็ไหว้พระและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ๙ แห่งซะเลย ถือว่าได้ทำบุญและได้ถ่ายภาพไปในตัวด้วยครับ เพราะเก็บกล้องซะนาน ไม่ค่อยได้ออกถ่ายรูปเลย
ว่าแล้วก็เก็บสัมภาระขึ้นรถ และไม่ลืมที่จะคว้าเจ้า Nikon ตัวเก่งติดไปด้วยครับ อิอิอิ ออกเดินทางจากชลบุรีเวลา 03.30 น. ครับ (ดึกจุง) เพราะผมกะจะไปถึงให้ทันตอนแสงอาทิตย์เช้ากำลังสวยครับ
ออกเดินทางโดยเส้นทางมอเตอร์เวย์ แล้วลงทางด่วนเข้าสู่ถนนสายเอเชีย จนเดินทางมาถึงจุดหมายแรกในเวลา 06.10 น. สถานที่คือ เจดีย์ใหญ่ที่ทุ่งภูเขาทองครับ โดยความตั้งใจคือ รอแสงพระอาทิตย์ช่วงเช้าสาดเข้ามาบริเวณหน้าเจดีย์ ซึ่งภาพน่าจะออกมาดูดีทีเดียว แต่ว่า..........................
พี่ที่เขามาออกกำลังกายอยู่ที่นั่น บอกว่าทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น มันตรงข้ามกับทิศที่ผมต้องการถ่าย T_T
ดังนั้นผมจึงย้ายทิศใหม่ โดยมาถ่ายจากด้านหลังขององค์พระเจดีย์แทน แต่ปรากฎว่า เจ้าหมาแถวนั้นก็ไม่ให้ความร่วมมือ ดุกันซะเหลือเกิน จึงต้องถ่ายจากบนรถครับ ได้มาหนึ่งภาพ
ถ่ายด้วย nikon D5100 +lens 10–24mm ถ่ายที่ระยะ 14mm f11 สปีด 1/50 iso 200 ครับ แต่งสีใน LR นิดหน่อย
มีมุมเดียวครับ อย่างที่บอก เจ้าหมาไม่ให้ความร่วมมือ 555+
เจดีย์ภูเขาทองนี้ ตามประวัติจากวิกิพีเดียร์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อปี พ.ศ. 1930 และเมื่อปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนอง แห่งเมืองหงสาวดี ได้ยกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่แบบมอญขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์ที่วัดนี้ เจดีย์ที่สร้างนี้เรียกว่า ภูเขาทอง และวัดที่อยู่ต้ดกับเจดีย์นี้ก็เรียก ว่า วัดภูเขาทอง
เมื่อถ่ายจนพอใจแล้ว ก็ออกเดินทางสู่สถานที่ต่อไป คือวัดใหญ่ชัยมงคล โดยไปถึงหน้าลานจอดรถประมาณเจ็ดโมงเช้าครับ กำลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาชมในวัด (มาเช้ากันจังนะครับ) และเมื่อจอดรถแล้วก็ไม่รีรอ เดินเข้าเก็บภาพทันทีครับ
ถ่ายพระเจดีย์ใหญ่ เอกลักษณ์ประจำวัดซะหน่อยครับ ดูยิ่งใหญ่ดีจริงๆ ถ่ายมาหลักๆ อยู่สองมุมครับ
จากนั้น ก็เดินขึ้นไปบนเจดีย์ เพื่อเก็บภาพจากบริเวณมุมสูง ก็ได้มาอยู่สองสามรูปครับ
จากนั้นก็เดินลงจากเจดีย์ มาถ่ายที่พระพุทธรูปด้านล่าง ๑ ใบ
และใบสุดท้ายที่วัดใหญ่นี้ ก็ถ่ายตรงพระพุทธไสยาสน์ครับ
วัดใหญ่ชัยมงคล ตามข้อมูลจากวิกิพีเดียร์ มีประวัติดังนี้ครับ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1900 เป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงได้ชื่อว่า วัดเจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว
สันนิษฐานว่าเป็นที่กระทำการเสี่ยงเทียน ในคราวก่อนที่พระเฑียรราชาจะทรงปราบดาภิเษก ยึดอำนาจจากขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์
ในรัชกาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่พำนักของ สมเด็จพระวันรัตน์ ผู้เป็นพระเถระที่สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ความเคารพ ในคราวที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะพระมหาอุปราชของหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระพิโรธต่อบรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามทัพไม่ทัน ทรงดำริจะลงพระราชอาญาประหารชีวิต แต่สมเด็จพระวันรัตน์ได้ทูลขอพระราชทานชีวิตของแม่ทัพนายกองเหล่านั้นไว้ โดยยกเอาพุทธประวัติตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องผจญมารอยู่โดยลำพัง เปรียบเสมือนกับสมเด็จพระนเรศวรที่ต้องทรงกระทำยุทธหัตถีโดยลำพัง และได้ทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นแทนการประหารชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นด้วยและทรงให้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้น ชื่อว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล" ประมาณ พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้ (พระวันรัตน์ ก็มหาเถรคันฉ่องนั่นเอง อิอิอิ)
ไหว้สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ๙ แห่ง (อยุธยา-อ่างทอง)
สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผมเลยตั้งแต่สมัครสมาชิกในเวปพันทิป เลยมีภาพของกิจกรรมดีๆ มาแบ่งปันกันชมครับ
สาเหตุของภาพเซ็ตนี้คือ ผมต้องเดินทางไปงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสของเพื่อน ที่จังหวัดสระบุรี และต้องทำการเดินทางจากจังหวัดชลบุรี
(เพราะทำงานอยู่ที่นี่) จึงคิดไว้ในใจว่า ระหว่างเดินทางต้องหากิจกรรมบางอย่างทำ
สิ่งที่แว้ปเข้ามาให้หัวคือ ไหนๆ ก็เดินทางผ่านจังหวัดอยุธยา อ่างทองแล้ว ก็ไหว้พระและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ๙ แห่งซะเลย ถือว่าได้ทำบุญและได้ถ่ายภาพไปในตัวด้วยครับ เพราะเก็บกล้องซะนาน ไม่ค่อยได้ออกถ่ายรูปเลย
ว่าแล้วก็เก็บสัมภาระขึ้นรถ และไม่ลืมที่จะคว้าเจ้า Nikon ตัวเก่งติดไปด้วยครับ อิอิอิ ออกเดินทางจากชลบุรีเวลา 03.30 น. ครับ (ดึกจุง) เพราะผมกะจะไปถึงให้ทันตอนแสงอาทิตย์เช้ากำลังสวยครับ
ออกเดินทางโดยเส้นทางมอเตอร์เวย์ แล้วลงทางด่วนเข้าสู่ถนนสายเอเชีย จนเดินทางมาถึงจุดหมายแรกในเวลา 06.10 น. สถานที่คือ เจดีย์ใหญ่ที่ทุ่งภูเขาทองครับ โดยความตั้งใจคือ รอแสงพระอาทิตย์ช่วงเช้าสาดเข้ามาบริเวณหน้าเจดีย์ ซึ่งภาพน่าจะออกมาดูดีทีเดียว แต่ว่า..........................
พี่ที่เขามาออกกำลังกายอยู่ที่นั่น บอกว่าทิศที่ดวงอาทิตย์ขึ้น มันตรงข้ามกับทิศที่ผมต้องการถ่าย T_T
ดังนั้นผมจึงย้ายทิศใหม่ โดยมาถ่ายจากด้านหลังขององค์พระเจดีย์แทน แต่ปรากฎว่า เจ้าหมาแถวนั้นก็ไม่ให้ความร่วมมือ ดุกันซะเหลือเกิน จึงต้องถ่ายจากบนรถครับ ได้มาหนึ่งภาพ
ถ่ายด้วย nikon D5100 +lens 10–24mm ถ่ายที่ระยะ 14mm f11 สปีด 1/50 iso 200 ครับ แต่งสีใน LR นิดหน่อย
มีมุมเดียวครับ อย่างที่บอก เจ้าหมาไม่ให้ความร่วมมือ 555+
เจดีย์ภูเขาทองนี้ ตามประวัติจากวิกิพีเดียร์ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระราเมศวร เมื่อปี พ.ศ. 1930 และเมื่อปี พ.ศ. 2112 พระเจ้าบุเรงนอง แห่งเมืองหงสาวดี ได้ยกทัพเข้ามาตีกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ จึงได้สร้างพระเจดีย์ใหญ่แบบมอญขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์ที่วัดนี้ เจดีย์ที่สร้างนี้เรียกว่า ภูเขาทอง และวัดที่อยู่ต้ดกับเจดีย์นี้ก็เรียก ว่า วัดภูเขาทอง
เมื่อถ่ายจนพอใจแล้ว ก็ออกเดินทางสู่สถานที่ต่อไป คือวัดใหญ่ชัยมงคล โดยไปถึงหน้าลานจอดรถประมาณเจ็ดโมงเช้าครับ กำลังเริ่มมีนักท่องเที่ยวเดินเข้ามาชมในวัด (มาเช้ากันจังนะครับ) และเมื่อจอดรถแล้วก็ไม่รีรอ เดินเข้าเก็บภาพทันทีครับ
ถ่ายพระเจดีย์ใหญ่ เอกลักษณ์ประจำวัดซะหน่อยครับ ดูยิ่งใหญ่ดีจริงๆ ถ่ายมาหลักๆ อยู่สองมุมครับ
จากนั้น ก็เดินขึ้นไปบนเจดีย์ เพื่อเก็บภาพจากบริเวณมุมสูง ก็ได้มาอยู่สองสามรูปครับ
จากนั้นก็เดินลงจากเจดีย์ มาถ่ายที่พระพุทธรูปด้านล่าง ๑ ใบ
และใบสุดท้ายที่วัดใหญ่นี้ ก็ถ่ายตรงพระพุทธไสยาสน์ครับ
วัดใหญ่ชัยมงคล ตามข้อมูลจากวิกิพีเดียร์ มีประวัติดังนี้ครับ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1900 เป็นที่พำนักของพระภิกษุคณะป่าแก้ว ซึ่งมี สมเด็จพระวันรัตน์เป็นประธานสงฆ์ จึงได้ชื่อว่า วัดเจ้าพระยาไทยคณะป่าแก้ว
สันนิษฐานว่าเป็นที่กระทำการเสี่ยงเทียน ในคราวก่อนที่พระเฑียรราชาจะทรงปราบดาภิเษก ยึดอำนาจจากขุนวรวงศาธิราชและท้าวศรีสุดาจันทร์
ในรัชกาลของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นที่พำนักของ สมเด็จพระวันรัตน์ ผู้เป็นพระเถระที่สมเด็จพระนเรศวรทรงให้ความเคารพ ในคราวที่ทรงกระทำยุทธหัตถี ชนะพระมหาอุปราชของหงสาวดี สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงพระพิโรธต่อบรรดาแม่ทัพนายกองที่ตามทัพไม่ทัน ทรงดำริจะลงพระราชอาญาประหารชีวิต แต่สมเด็จพระวันรัตน์ได้ทูลขอพระราชทานชีวิตของแม่ทัพนายกองเหล่านั้นไว้ โดยยกเอาพุทธประวัติตอนที่เจ้าชายสิทธัตถะบำเพ็ญเพียรอยู่ใต้ต้นโพธิ์ ก่อนที่จะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ต้องผจญมารอยู่โดยลำพัง เปรียบเสมือนกับสมเด็จพระนเรศวรที่ต้องทรงกระทำยุทธหัตถีโดยลำพัง และได้ทูลแนะนำให้ทรงสร้างเจดีย์ใหญ่ขึ้นแทนการประหารชีวิต สมเด็จพระนเรศวรทรงเห็นด้วยและทรงให้สร้างพระเจดีย์ใหญ่ขึ้น ชื่อว่า "พระเจดีย์ชัยมงคล" ประมาณ พ.ศ. 2135 มีความสูง 1 เส้น 1 วา เป็นเจดีย์ ที่สูงที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามาจนทุกวันนี้ (พระวันรัตน์ ก็มหาเถรคันฉ่องนั่นเอง อิอิอิ)