สวัสดีค่ะ เราพึ่งสมัครสมาชิกมาค่ะ พึ่งเคยตั้งเป็นครั้งแรก ถ้าผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยนะคะ
เริ่มเลยนะคะ...เราก็ไม่มั่นใจนะคะว่าเรามีความฝันเหมือนกับคนอื่นๆ จริงๆรึเปล่า หรือแค่อยากจะทำตามกระแสนิยม
พอมีใครถามว่าอยากเข้าคณะอะไร เราก็ตอบว่าแพทย์มั้งคะ แต่จริงๆแล้วเรากลัวเลือดมากๆเลยนะคะ แล้วเวลาเห็นคนป่วยก็รู้สึกใจหวิวๆอยู่เหมือนกัน ชอบดูหนังแนวหมอ นิติเวช แต่พอเจอของจริงรับไม่ไหวค่ะ เรารู้สึกว่าพอมีใครมาถาม เราก็ตอบแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่เคยเอากลับมานั่งคิด นอนคิดก็ยังหาคำตอบไม่ได้ (สรุปง่ายๆก็คือ ไม่มีแรงดึงดูด ไม่มีแรงบันดาลใจ) แล้วเราก็ไปสอบแพทย์นะคะแต่ไม่ติด(ตอนไปสอบอ่านไปแค่วิชาละสองบท สมควรที่จะสอบไม่ติดจริงๆค่ะ555) เราก็เสียดายนะคะ(ไม่เสียใจเพราะยังไม่ได้พยายามให้ถึงที่สุด) จนมาถึงสนามรับตรง(สนามนี้ไม่มีคณะแพทย์นะคะ) ซึ่งมันก็เป็นสนามที่สอบปลายปี ประกาศผลช่วงต้นปี สนามนี้เราก็ตั้งใจอ่านหนังสือค่ะ เพื่อจะได้ไม่พลาดจนต้องตัดสินใจไปแอดมิดชั่นอีก พอประกาศผลเราก็ติดแล้วค่ะ....ติดคณะเภสัช(โครงการปกตินะคะไม่ใช่สมทบหรือพิเศษ) ทุกคนในบ้านก็ดีใจกับเราค่ะ(พ่อแม่เราปล่อยอิสระค่ะอยากเรียนอะไรก็เรียน อาจมีไซโคจากเพื่อนของพ่อแม่นิดหน่อย แต่ท่านก็เฉยๆค่ะ) ถามว่าเราดีใจมั้ยเราก็ดีใจอยู่ค่ะ (รู้สึกโล่งใจมั้งคะที่ไม่ต้องแอดมิดชั่น) มีเพื่อนห้องเดียวกันติดมาด้วยอีก 2 คนค่ะ.....ทั้งหมดนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องค่ะ
พอที่โรงเรียนเปิดเทอมเราก็ไปเยี่ยมคุณครูแล้วก็รุ่นน้อง แล้วเราก็เจอครูคนนึงค่ะ(เราเดินมากับเพื่อน อีก 2 คนค่ะ)ครูก็เริ่มถามเลยค่ะ
ครู:ได้อะไร
เรา :เภสัช (ครูทำหน้าพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ว่าอยู่อีสาน)
เพื่อนคนที่ 2 :หมอ(เพื่อนได้หมอที่ไม่ได้อยู่ในอีสานค่ะ)
เพื่อนคนที่ 3 :เภสัช
พอสิ้นสุดการตอบคำถาม ครูก็หันไปบอกเพื่อนหมอคนเดียวว่า "ไอ้หมอน่ะ..อย่าลืมครูนะ" ส่วนเราและเพื่อนเภสัชอีกคนเป็นตัวอะไรไม่รู้ค่ะ
นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่เราเจอหรอกนะคะ เราเจอแบบนี้มาตั้งแต่ยังไม่จบม.6 ครู ร้อยละ 70 จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ส่วนอีก ร้อยละ30 ครูเค้ายินดีกับทุกๆคนเท่ากันหมด
ขนาดเราเรียนสายวิทย์นะคะยังโดนขนาดนี้ พวกสายศิลป์นี่ครูบางคนแทบไม่เหลียวมอง พอมีพี่สายศิลป์คนนึงที่จบไปแล้วสอบได้ทำงานกระทรวงต่างประเทศ(อนาคตท่านทูต) ถึงเอามายกย่อง
ตอนนี้เราแทบไม่อยากกลับไปเหยียบโรงเรียนอีก เรารู้สึกว่าคนที่จะก้าวเข้าไปโรงเรียนอย่างมีความสุขคงจะมีแค่คนที่ติดหมอเท่านั้น
ขอบคุณที่รับฟังเรานะคะ ^^ เราไม่รู้จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง เครียดมากเลยค่ะ
เมื่อโรงเรียน...กลายเป็นที่ที่ฉันไม่อยากกลับไป
เริ่มเลยนะคะ...เราก็ไม่มั่นใจนะคะว่าเรามีความฝันเหมือนกับคนอื่นๆ จริงๆรึเปล่า หรือแค่อยากจะทำตามกระแสนิยม
พอมีใครถามว่าอยากเข้าคณะอะไร เราก็ตอบว่าแพทย์มั้งคะ แต่จริงๆแล้วเรากลัวเลือดมากๆเลยนะคะ แล้วเวลาเห็นคนป่วยก็รู้สึกใจหวิวๆอยู่เหมือนกัน ชอบดูหนังแนวหมอ นิติเวช แต่พอเจอของจริงรับไม่ไหวค่ะ เรารู้สึกว่าพอมีใครมาถาม เราก็ตอบแบบนี้ไปเรื่อยๆ แต่เคยเอากลับมานั่งคิด นอนคิดก็ยังหาคำตอบไม่ได้ (สรุปง่ายๆก็คือ ไม่มีแรงดึงดูด ไม่มีแรงบันดาลใจ) แล้วเราก็ไปสอบแพทย์นะคะแต่ไม่ติด(ตอนไปสอบอ่านไปแค่วิชาละสองบท สมควรที่จะสอบไม่ติดจริงๆค่ะ555) เราก็เสียดายนะคะ(ไม่เสียใจเพราะยังไม่ได้พยายามให้ถึงที่สุด) จนมาถึงสนามรับตรง(สนามนี้ไม่มีคณะแพทย์นะคะ) ซึ่งมันก็เป็นสนามที่สอบปลายปี ประกาศผลช่วงต้นปี สนามนี้เราก็ตั้งใจอ่านหนังสือค่ะ เพื่อจะได้ไม่พลาดจนต้องตัดสินใจไปแอดมิดชั่นอีก พอประกาศผลเราก็ติดแล้วค่ะ....ติดคณะเภสัช(โครงการปกตินะคะไม่ใช่สมทบหรือพิเศษ) ทุกคนในบ้านก็ดีใจกับเราค่ะ(พ่อแม่เราปล่อยอิสระค่ะอยากเรียนอะไรก็เรียน อาจมีไซโคจากเพื่อนของพ่อแม่นิดหน่อย แต่ท่านก็เฉยๆค่ะ) ถามว่าเราดีใจมั้ยเราก็ดีใจอยู่ค่ะ (รู้สึกโล่งใจมั้งคะที่ไม่ต้องแอดมิดชั่น) มีเพื่อนห้องเดียวกันติดมาด้วยอีก 2 คนค่ะ.....ทั้งหมดนี้มันเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องค่ะ
พอที่โรงเรียนเปิดเทอมเราก็ไปเยี่ยมคุณครูแล้วก็รุ่นน้อง แล้วเราก็เจอครูคนนึงค่ะ(เราเดินมากับเพื่อน อีก 2 คนค่ะ)ครูก็เริ่มถามเลยค่ะ
ครู:ได้อะไร
เรา :เภสัช (ครูทำหน้าพร้อมกับวิพากษ์วิจารณ์ว่าอยู่อีสาน)
เพื่อนคนที่ 2 :หมอ(เพื่อนได้หมอที่ไม่ได้อยู่ในอีสานค่ะ)
เพื่อนคนที่ 3 :เภสัช
พอสิ้นสุดการตอบคำถาม ครูก็หันไปบอกเพื่อนหมอคนเดียวว่า "ไอ้หมอน่ะ..อย่าลืมครูนะ" ส่วนเราและเพื่อนเภสัชอีกคนเป็นตัวอะไรไม่รู้ค่ะ
นี่ไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งแรกที่เราเจอหรอกนะคะ เราเจอแบบนี้มาตั้งแต่ยังไม่จบม.6 ครู ร้อยละ 70 จะเป็นแบบนี้ค่ะ
ส่วนอีก ร้อยละ30 ครูเค้ายินดีกับทุกๆคนเท่ากันหมด
ขนาดเราเรียนสายวิทย์นะคะยังโดนขนาดนี้ พวกสายศิลป์นี่ครูบางคนแทบไม่เหลียวมอง พอมีพี่สายศิลป์คนนึงที่จบไปแล้วสอบได้ทำงานกระทรวงต่างประเทศ(อนาคตท่านทูต) ถึงเอามายกย่อง
ตอนนี้เราแทบไม่อยากกลับไปเหยียบโรงเรียนอีก เรารู้สึกว่าคนที่จะก้าวเข้าไปโรงเรียนอย่างมีความสุขคงจะมีแค่คนที่ติดหมอเท่านั้น
ขอบคุณที่รับฟังเรานะคะ ^^ เราไม่รู้จะจัดการความรู้สึกนี้ยังไง เครียดมากเลยค่ะ