แก้ไข
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เข้ามาเขียน ปกติก็เป็นผู้อ่านทั่วๆไป
เรื่องนั้นมีอยู่ว่าได้เข้าใช้บริการแอดมิดที่รพ. เอกชนแห่งหนึ่งตรงบีทีเอสสะพานควาย
เนื่องจากตอนแรกคือมีอาการปวดท้องบีบๆบริเวณใต้ซี่โครงด้านซ้าย ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ปวดจนต้องนั่งงอตัวเลยทีเดียว จึงได้ไปหาหมอที่รพ. แห่งนี้
หลังจากพบหมอ หมอก็ตรวจอาการปกติ แล้วก้อแจ้งว่าน่าจะเป็นโรคกระเพาะ แต่จะให้ยาไปทานก่อนแล้วนัดมาดูอาการกับหมอประจำที่เคยหาอีกที ว่าต้องมีการส่องกล้องกระเพาะอาหารอีกครั้งรึป่าว (ปกติหาหมอที่รพ.นี้เป็นประจำอยู่แล้วเนื่องจากเป็นคนค่อนข้างที่จะป่วยบ่อย และเป็นโรคกระเพาะแต่เดิม) แต่เนื่องจากเราเองเห็นว่าครั้งนี้เราเองก็ปวดเยอะ แล้ววันที่หมอนัดก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะว่างรึป่าว เลยถามหมอว่าถ้าเป็นแอดมิดเลยได้มั้ย แล้วพรุ่งนี้ก็ให้ส่งเคสต่อกับหมออีกท่านได้เลย หมอก็เห็นสมควรตามที่เราขอ ก็ส่งแอดมิด เรารอเอกสารทำเรื่องประกันอยู่นานมากประมาน1ชม. ได้ คงเป็นเพราะเราเองมีประกันหลายตัวทั้งประกันชีวิต ประกันกลุ่ม และประกันสังคม ก็ใช้สิทธิ์รวมๆไป หลังจากทำเอกสารประกันก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งในส่วนจองค่าห้องว่าเราต้องการห้องแบบไหน ถ้าห้องคู่ก็ถูกหน่อย ห้องเดี่ยวก้อแพงขึ้นมา เราก็เลือกห้องเดี่ยวเพราะสะดวกกว่า ก้อมีห้อง4800อยู่ตึกเก่า กับ5400 อยู่ตึกใหม่ เราเลยเลือก5400 เพราะครั้งก่อนเคยแอดมิดที่นี่แล้วประทับใจ เลยเลือกวอร์ทเดิม เพราะหวังที่จะได้การบริการที่ดีเหมือนเดิม หลังจากทำเรื่องเสร็จก็มีเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปที่ห้อง แล้วก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเตรียมชุดคนไข้ไว้ให้ เราจึงขออาบน้ำก่อนที่จะเจาะเลือด วันแรกก็ผ่านไปได้พอโอเค พบแต่พยาบาล ไม่ได้พบหมออีกคงเพราะหมออกเวรไปแล้ว ดึกๆก็มีพยาบาลมาแจ้งให้งดน้ำงดอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเพราะอาจต้องส่องกล้อง
เช้าวันรุ่งขึ้น พยาบาลก้อมาวัดความดัน วัดไข้ปกติ เอายามาให้ทาน แล้วคุณหมอที่เคยตรวจประจำก็ขึ้นมาประมาน9โมงเช้าก็สอบถามอาการเบื้อต้น ตรวจๆคลำๆ กดท้องว่าตรงไหนเจ็บบ้าง แล้วหมอก็แจ้งว่าเดี๋ยวส่งไปอัลตร้าซาวน์ก่อน ถ้าไม่พบอะไรก็ค่อยส่องกล้อง และหมอก็ลงไป หลังจากนั้นก็รอถึงประมานเที่ยงเศษๆมีพยาบาลและบุรุษพยาบาลมาพาไปอัลตร้าซาวน์ พอจะถึงที่หน้าลิฟท์ พยาบาลก็บอกให้รอแปปนึงเดี๋ยวไปถอดหมวกออกก่อน ก็รอไม่นานพยาบาลก็มา ลงมาถึงตึกอัลตร้าซาวน์ พยาบาลคนเดิมก็บอกกับพี่บุรุษพยาบาลว่สเดี๋ยวไปซื้อข้าวแปปนึงนะ เราก็ไม่คิดอะไรเพราะคงพักเที่ยง ก็พาเรามาทิ้งไว้ที่แผนกอัลตร้าซาวน์ หลังจากเสร็จก็รอสีกพักมีพี่พยาบาลคนใหม่ คนนี้เป็นคนท้องมารับกลับบุรุษพยาบาลคนใหม่ พี่พยาบาลคนนี้น่ารักมาก บริการมาก มาส่งขึ้นเตียงเสร็จ ก็พาไปเข้าห้องน้ำเสร็จสับถึงได้ออกไป (ก่อนอัลตร้าซาวน์เค้าให้อั้นปัสสาวะ) เราก็นั่งรอผลรอถึงประมานบ่ายสองนิดๆ เลยให้แฟนไปถามพยาบาลข้างหน้าว่าผลมารึยังต้องไปส่องกล้องรึป่าว ถึงได้ทราบว่าผลมานานแล้วแค่คุณหมอยังไม่ว่าง ให้รอก่อน คืออารมณ์ตอนนั้นเริ่มหงุดหวิด หิวข้าวมาก และไม่เข้าใจ ทำมัยพยาบาลไม่มาแจ้งเราสักนิด หลังจากที่ไปตามผล ประมาน15นาทีก็มีบุรุษพยาบาลพาไปห้องส่องกล้อง คิดในใจว่าถ้าไม่ตามจะไม่มางั้นหรอ พอหลังจากส่องกล้องเสร็จก็สลบเพราะฤทธ์ยานอนหลับไปอีกแปปนึงก็ตื่น ก้อนอนรอหมอที่ห้องเดิมประมานครึ่งชม. คุณหมอก็มาแจ้งผลว่าเป็นกระเพาะอักเสบแต่หนักขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว และมีแผลที่หลอดอาหาร หมอก็แจ้งว่าคืนนี้รอดูอาการอีกคืนน่าจะกลับได้พรุ่งนี้ล่ะ แล้วให้รูปถ่ายที่ส้องกล้อง แล้วก็กลับขึ้นมาที่ห้อง ตอนนั้นประมาน4โมงได้ และแล้วก้อได้กินข้าวเสียที หิวมาก จากนั้นก้อมีพยาบาลคอยเข้าเอายามาให้ วัดความดันปกติ จนประมาน6โมงพยาบาลคนที่เคยพาเราไปอัลตร้าซาวน์ก็เข้ามาแบบไม่พูดอะไร ไม่ทักทาย แล้วก้อมาหยิบแก้วน้ำแก้วยาออกไป แฟนเราก็พูดว่าพยาบาลที่นี่นี่ไม่โอเคนะ เข้ามาไม่พูดไม่จา เราก็เรยบอกเค้าคงแค่เข้ามาหยิบของ คือไม่อยากคิดอะไรมากเดี๋ยวก็ได้ออกแล้ว หลังจากนั้นประมานตี1เสียงเตือนน้ำเกลือหมดก็ดังขึ้น ปกติเราคิดว่าเครื่องเตือนนี้มันมีสัญญานเตือนออกไปที่เค้าเตอร์พยาบาลด้วย หรือพยาบาลคงมีตารางเวลาของตัวเองเลยยังไม่กดออดเรียก จนแปปนึงไม่มีพยาบาลเข้ามาเราเรยกดแจ้งว่าน้ำเกลือหมดแล้ว หลังจากกดก็รอสักพักพยาบาลก็เข้ามาดูที่ขวดน้ำเกลือแล้วก็ออกไป เข้ามาใหม่พร้อมอุปกรณ์ถอดสายน้ำเกลือ เราก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยก็มองเฉยๆเพราะง่วงมาก เช้ามาก็มีพยาบาลมาเช็ดตัว วัดความดัน ให้ยากินข้าวปกติ ไม่มีแจ้งอะรัยเพิ่มเติม เราก็กินและก็นอนรอหมอเข้ามาสรุปเคส เพราะที่เคยเข้ารพ. มาวันสุดท้ายจะต้องหมอเข้ามาสรุปเคสก่อนออกจากรพ. ทุกครั้ง ก็รอจนได้รับข้อความจากบริษัทประกันว่าเคลมเรื่องเรียบร้อย เราก็งง ทำมัยไม่มีหมอหรือพยาบาลเข้ามาแจ้งอะไรเลย ก้อรอไปอีกสักพักจน11โมง เลยให้แฟนออกไปถามข้างหน้าว่าตกลงยังไง พยาบาลก็แจ้งว่าวันนี้หมอไม่เข้า ให้ออกได้เลย รอการเงินเอาเอกสารมาให้เซ็นแล้วรับยาก็กลับได้ เราก็ยิ่งงงไปใหญ่คือตกลงถ้าไม่ถามนี่จะไม่รุเรื่องอะไรเลยงั้นหรอ จริงอยู่ที่พอรู้คร่าวๆแล้วว่าเป็นอะไร แล้วจะได้ออกเมื่อรัย แต่จะไม่มีใครคิดจะเข้ามาแจ้งคนไข้หน่อยหรอว่าวันนี้หมอไม่เข้า หมอแจ้งอะไรไว้บ้างแล้วไม่มีหมอคนอื่นแจ้งเคสต่อให้หน่อยหรอ แล้วอีกอย่างเมื่อวานผลอัลตร้าซาวน์เป็นไงก็ไม่มีใครรู้ แค่ไปตรวจให้เสียเงินเฉยๆหรืออะไร จากที่รับรู้ว่าหมอไม่เข้าเราก็จัดการเกบของเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยรอการเงิน ไม่นานการเงินก็มา ให้เซนเอกสารโดยแม็กปิดเอกสารเหลือแค่ช่องเซนชื่อแค่นั้น เราก็เซ็นด้วยความโมโหและสะเพร่าของตัวเองก็ไม่ได้ดูเอกสารไดๆ พอพยาบาลเอายามาให้ก้อบอกว่ายานี้เปนยาอะไร ทานยังไง อ่านหน่าซองให้ฟัง ถูกบ้าง ผิดบ้าง เราก็ไม่ได้สนใจอารมนั่นคืออยากออกมากแล้ว รู้สึกแย่กับที่นี่ พอเกบของเสร็จก็เดินไปปั๊มบัตรจอด พยาบาลก็แจ้งใหมาตามนัดหมอ หมอจะได้แจ้งอีกที แบบแล้วเลือกอะไรได้มากกว่านี่ได้ด้วยหรอ พอปั๊มเสร็จก็เดินออกทันที พอมาถึงหน้าลิฟพยาบาลคนนึงก็วิ่งมาถามว่าเอารถขนของมั้ยแฟนเราก็ไม่เอาแล้ส เพราะหงุดหงิดไปแล้วพยาบาลก็กดลิฟให้เป็นการจบการหาหมอที่นี่อย่างเสียความรู้สึกมากๆ
คือเสียเงินเข้าโรงพยาบาลเอกชน ก็อยากได้แค่การบริการที่ประทับใจแค่นั้น ไม่จำเป็นต้องดุจเจ้าหญิงหรืออะไร แค่ใส่ใจคนไข้ก็พอ นี่แค่ที่ตวงปัสสาวะ พนงเข้ามาทำความสะอาดทุกวันยังไม่เทออกยันวันสุดท้าย พยาบาลก็มาดูก็ไม่ถ่ายออกไม่เข้าใจ จนเราไม่ตวงต่อ ที่ใส่กระดาษชำระหมด ก็เอามาวางไว้อ่างล้างหน้าให้ใส่เอง นี่คือแบบไม่ได้เสียเงินแค่พันสองพัน ค่าห้องก้อหลายพัน ค่าบริการก็แพง ถึงแม้จะใช้ประกัน แต่ประกันก็ไม่ได้จ่ายถูกๆ
มิหนำซ้ำกลับมาบ้าน มาเปิดดูบิล บิลของโรงพยาบาลไม่มี มีแต่บิลของประกัน ค่ารักษาทั่วไป27,737 ค่าห้องต่างหาก ค่าผ่าตัดต่างหาก แต่ เจอค่าแพทย์เข้าเยี่ยม 3,000 บาท รับไม่ได้จริงๆ หมอมาหา1ครั้ง 1ครั้งเท่านั้นแล้วเจออีกทีคือหลังส่องกล้อง แค่นั้น 3000 อึ้งไปสักพัก รวมค่าใช้จ่ายสองวันที่4หมื่นกว่า ถือว่าไม่น้อยเลย ทำไมถึงให้บริการที่ดีไม่ได้ ทั้งๆที่ครั้งแรก ถูกกว่านี้ อาจเพราะไม่มีผ่าตัด แค่ในเมื่อค่าผ่าตัดก็คิดแยก ทำไมถึงบริการที่ดีได้ เสียความรู้สึกกับที่นี่จริงๆ จบเคสนี้คงพอจริงๆ เข้าใจว่าแค่เราไม่ไปใช้บริการคนเดียวไม่สะเทือนเค้าหรอก แต่แค่อยากระบายเพราะเสียความรู้สึกจริงๆ หรือเพราะคาดหวังไว้เยอะไม่รู้
ที่เล่าๆมาไม่ได้หวังอะไรแค่อยากทราบว่าโรงพยาบาลเอกชนถ้าเราใช้สิทธิ์ประกันกับการจ่ายเงินสดจะให้บริการต่ากันมั้ย และแค่อยากเตือนเพื่อนๆว่าก่อนออกจากรพ.เชคในใบบิลให้ดีจะได้รู้ว่าเราเสียค่าอะไรไปบ้าง อย่าสะเพร่าแบบเรา เพราะมารู้ที่หลังเสียความรู้สึกแล้วโมโหยิ่งกว่า หรืออาจมีเราแค่คนเดียวที่โง่เง่าแบบนี้ อาจไม่รู้ระบบบริการรพ.ที่ดี ถ้าใครรู้ก็ช่วยชี้แนะเราหน่อย เผื่อเราจะโมโหและโวยวายจนลืมคิด
ปล. ยินดีน้อมรับทุกความเห็น แล้วก็กระทู่อาจยืดยาวไปนิด
โรงพยาบาลชื่อดังย่านสะพานควาย บริการแย่แบบนี้ตลอดหรือไม่
กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เข้ามาเขียน ปกติก็เป็นผู้อ่านทั่วๆไป
เรื่องนั้นมีอยู่ว่าได้เข้าใช้บริการแอดมิดที่รพ. เอกชนแห่งหนึ่งตรงบีทีเอสสะพานควาย
เนื่องจากตอนแรกคือมีอาการปวดท้องบีบๆบริเวณใต้ซี่โครงด้านซ้าย ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน ปวดจนต้องนั่งงอตัวเลยทีเดียว จึงได้ไปหาหมอที่รพ. แห่งนี้
หลังจากพบหมอ หมอก็ตรวจอาการปกติ แล้วก้อแจ้งว่าน่าจะเป็นโรคกระเพาะ แต่จะให้ยาไปทานก่อนแล้วนัดมาดูอาการกับหมอประจำที่เคยหาอีกที ว่าต้องมีการส่องกล้องกระเพาะอาหารอีกครั้งรึป่าว (ปกติหาหมอที่รพ.นี้เป็นประจำอยู่แล้วเนื่องจากเป็นคนค่อนข้างที่จะป่วยบ่อย และเป็นโรคกระเพาะแต่เดิม) แต่เนื่องจากเราเองเห็นว่าครั้งนี้เราเองก็ปวดเยอะ แล้ววันที่หมอนัดก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองจะว่างรึป่าว เลยถามหมอว่าถ้าเป็นแอดมิดเลยได้มั้ย แล้วพรุ่งนี้ก็ให้ส่งเคสต่อกับหมออีกท่านได้เลย หมอก็เห็นสมควรตามที่เราขอ ก็ส่งแอดมิด เรารอเอกสารทำเรื่องประกันอยู่นานมากประมาน1ชม. ได้ คงเป็นเพราะเราเองมีประกันหลายตัวทั้งประกันชีวิต ประกันกลุ่ม และประกันสังคม ก็ใช้สิทธิ์รวมๆไป หลังจากทำเอกสารประกันก็มีเจ้าหน้าที่มาแจ้งในส่วนจองค่าห้องว่าเราต้องการห้องแบบไหน ถ้าห้องคู่ก็ถูกหน่อย ห้องเดี่ยวก้อแพงขึ้นมา เราก็เลือกห้องเดี่ยวเพราะสะดวกกว่า ก้อมีห้อง4800อยู่ตึกเก่า กับ5400 อยู่ตึกใหม่ เราเลยเลือก5400 เพราะครั้งก่อนเคยแอดมิดที่นี่แล้วประทับใจ เลยเลือกวอร์ทเดิม เพราะหวังที่จะได้การบริการที่ดีเหมือนเดิม หลังจากทำเรื่องเสร็จก็มีเจ้าหน้าที่พาขึ้นไปที่ห้อง แล้วก็มีเจ้าหน้าที่พยาบาลเตรียมชุดคนไข้ไว้ให้ เราจึงขออาบน้ำก่อนที่จะเจาะเลือด วันแรกก็ผ่านไปได้พอโอเค พบแต่พยาบาล ไม่ได้พบหมออีกคงเพราะหมออกเวรไปแล้ว ดึกๆก็มีพยาบาลมาแจ้งให้งดน้ำงดอาหารตั้งแต่หลังเที่ยงคืนเพราะอาจต้องส่องกล้อง
เช้าวันรุ่งขึ้น พยาบาลก้อมาวัดความดัน วัดไข้ปกติ เอายามาให้ทาน แล้วคุณหมอที่เคยตรวจประจำก็ขึ้นมาประมาน9โมงเช้าก็สอบถามอาการเบื้อต้น ตรวจๆคลำๆ กดท้องว่าตรงไหนเจ็บบ้าง แล้วหมอก็แจ้งว่าเดี๋ยวส่งไปอัลตร้าซาวน์ก่อน ถ้าไม่พบอะไรก็ค่อยส่องกล้อง และหมอก็ลงไป หลังจากนั้นก็รอถึงประมานเที่ยงเศษๆมีพยาบาลและบุรุษพยาบาลมาพาไปอัลตร้าซาวน์ พอจะถึงที่หน้าลิฟท์ พยาบาลก็บอกให้รอแปปนึงเดี๋ยวไปถอดหมวกออกก่อน ก็รอไม่นานพยาบาลก็มา ลงมาถึงตึกอัลตร้าซาวน์ พยาบาลคนเดิมก็บอกกับพี่บุรุษพยาบาลว่สเดี๋ยวไปซื้อข้าวแปปนึงนะ เราก็ไม่คิดอะไรเพราะคงพักเที่ยง ก็พาเรามาทิ้งไว้ที่แผนกอัลตร้าซาวน์ หลังจากเสร็จก็รอสีกพักมีพี่พยาบาลคนใหม่ คนนี้เป็นคนท้องมารับกลับบุรุษพยาบาลคนใหม่ พี่พยาบาลคนนี้น่ารักมาก บริการมาก มาส่งขึ้นเตียงเสร็จ ก็พาไปเข้าห้องน้ำเสร็จสับถึงได้ออกไป (ก่อนอัลตร้าซาวน์เค้าให้อั้นปัสสาวะ) เราก็นั่งรอผลรอถึงประมานบ่ายสองนิดๆ เลยให้แฟนไปถามพยาบาลข้างหน้าว่าผลมารึยังต้องไปส่องกล้องรึป่าว ถึงได้ทราบว่าผลมานานแล้วแค่คุณหมอยังไม่ว่าง ให้รอก่อน คืออารมณ์ตอนนั้นเริ่มหงุดหวิด หิวข้าวมาก และไม่เข้าใจ ทำมัยพยาบาลไม่มาแจ้งเราสักนิด หลังจากที่ไปตามผล ประมาน15นาทีก็มีบุรุษพยาบาลพาไปห้องส่องกล้อง คิดในใจว่าถ้าไม่ตามจะไม่มางั้นหรอ พอหลังจากส่องกล้องเสร็จก็สลบเพราะฤทธ์ยานอนหลับไปอีกแปปนึงก็ตื่น ก้อนอนรอหมอที่ห้องเดิมประมานครึ่งชม. คุณหมอก็มาแจ้งผลว่าเป็นกระเพาะอักเสบแต่หนักขึ้นกว่าครั้งที่แล้ว และมีแผลที่หลอดอาหาร หมอก็แจ้งว่าคืนนี้รอดูอาการอีกคืนน่าจะกลับได้พรุ่งนี้ล่ะ แล้วให้รูปถ่ายที่ส้องกล้อง แล้วก็กลับขึ้นมาที่ห้อง ตอนนั้นประมาน4โมงได้ และแล้วก้อได้กินข้าวเสียที หิวมาก จากนั้นก้อมีพยาบาลคอยเข้าเอายามาให้ วัดความดันปกติ จนประมาน6โมงพยาบาลคนที่เคยพาเราไปอัลตร้าซาวน์ก็เข้ามาแบบไม่พูดอะไร ไม่ทักทาย แล้วก้อมาหยิบแก้วน้ำแก้วยาออกไป แฟนเราก็พูดว่าพยาบาลที่นี่นี่ไม่โอเคนะ เข้ามาไม่พูดไม่จา เราก็เรยบอกเค้าคงแค่เข้ามาหยิบของ คือไม่อยากคิดอะไรมากเดี๋ยวก็ได้ออกแล้ว หลังจากนั้นประมานตี1เสียงเตือนน้ำเกลือหมดก็ดังขึ้น ปกติเราคิดว่าเครื่องเตือนนี้มันมีสัญญานเตือนออกไปที่เค้าเตอร์พยาบาลด้วย หรือพยาบาลคงมีตารางเวลาของตัวเองเลยยังไม่กดออดเรียก จนแปปนึงไม่มีพยาบาลเข้ามาเราเรยกดแจ้งว่าน้ำเกลือหมดแล้ว หลังจากกดก็รอสักพักพยาบาลก็เข้ามาดูที่ขวดน้ำเกลือแล้วก็ออกไป เข้ามาใหม่พร้อมอุปกรณ์ถอดสายน้ำเกลือ เราก็ไม่ได้พูดอะไรด้วยก็มองเฉยๆเพราะง่วงมาก เช้ามาก็มีพยาบาลมาเช็ดตัว วัดความดัน ให้ยากินข้าวปกติ ไม่มีแจ้งอะรัยเพิ่มเติม เราก็กินและก็นอนรอหมอเข้ามาสรุปเคส เพราะที่เคยเข้ารพ. มาวันสุดท้ายจะต้องหมอเข้ามาสรุปเคสก่อนออกจากรพ. ทุกครั้ง ก็รอจนได้รับข้อความจากบริษัทประกันว่าเคลมเรื่องเรียบร้อย เราก็งง ทำมัยไม่มีหมอหรือพยาบาลเข้ามาแจ้งอะไรเลย ก้อรอไปอีกสักพักจน11โมง เลยให้แฟนออกไปถามข้างหน้าว่าตกลงยังไง พยาบาลก็แจ้งว่าวันนี้หมอไม่เข้า ให้ออกได้เลย รอการเงินเอาเอกสารมาให้เซ็นแล้วรับยาก็กลับได้ เราก็ยิ่งงงไปใหญ่คือตกลงถ้าไม่ถามนี่จะไม่รุเรื่องอะไรเลยงั้นหรอ จริงอยู่ที่พอรู้คร่าวๆแล้วว่าเป็นอะไร แล้วจะได้ออกเมื่อรัย แต่จะไม่มีใครคิดจะเข้ามาแจ้งคนไข้หน่อยหรอว่าวันนี้หมอไม่เข้า หมอแจ้งอะไรไว้บ้างแล้วไม่มีหมอคนอื่นแจ้งเคสต่อให้หน่อยหรอ แล้วอีกอย่างเมื่อวานผลอัลตร้าซาวน์เป็นไงก็ไม่มีใครรู้ แค่ไปตรวจให้เสียเงินเฉยๆหรืออะไร จากที่รับรู้ว่าหมอไม่เข้าเราก็จัดการเกบของเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยรอการเงิน ไม่นานการเงินก็มา ให้เซนเอกสารโดยแม็กปิดเอกสารเหลือแค่ช่องเซนชื่อแค่นั้น เราก็เซ็นด้วยความโมโหและสะเพร่าของตัวเองก็ไม่ได้ดูเอกสารไดๆ พอพยาบาลเอายามาให้ก้อบอกว่ายานี้เปนยาอะไร ทานยังไง อ่านหน่าซองให้ฟัง ถูกบ้าง ผิดบ้าง เราก็ไม่ได้สนใจอารมนั่นคืออยากออกมากแล้ว รู้สึกแย่กับที่นี่ พอเกบของเสร็จก็เดินไปปั๊มบัตรจอด พยาบาลก็แจ้งใหมาตามนัดหมอ หมอจะได้แจ้งอีกที แบบแล้วเลือกอะไรได้มากกว่านี่ได้ด้วยหรอ พอปั๊มเสร็จก็เดินออกทันที พอมาถึงหน้าลิฟพยาบาลคนนึงก็วิ่งมาถามว่าเอารถขนของมั้ยแฟนเราก็ไม่เอาแล้ส เพราะหงุดหงิดไปแล้วพยาบาลก็กดลิฟให้เป็นการจบการหาหมอที่นี่อย่างเสียความรู้สึกมากๆ
คือเสียเงินเข้าโรงพยาบาลเอกชน ก็อยากได้แค่การบริการที่ประทับใจแค่นั้น ไม่จำเป็นต้องดุจเจ้าหญิงหรืออะไร แค่ใส่ใจคนไข้ก็พอ นี่แค่ที่ตวงปัสสาวะ พนงเข้ามาทำความสะอาดทุกวันยังไม่เทออกยันวันสุดท้าย พยาบาลก็มาดูก็ไม่ถ่ายออกไม่เข้าใจ จนเราไม่ตวงต่อ ที่ใส่กระดาษชำระหมด ก็เอามาวางไว้อ่างล้างหน้าให้ใส่เอง นี่คือแบบไม่ได้เสียเงินแค่พันสองพัน ค่าห้องก้อหลายพัน ค่าบริการก็แพง ถึงแม้จะใช้ประกัน แต่ประกันก็ไม่ได้จ่ายถูกๆ
มิหนำซ้ำกลับมาบ้าน มาเปิดดูบิล บิลของโรงพยาบาลไม่มี มีแต่บิลของประกัน ค่ารักษาทั่วไป27,737 ค่าห้องต่างหาก ค่าผ่าตัดต่างหาก แต่ เจอค่าแพทย์เข้าเยี่ยม 3,000 บาท รับไม่ได้จริงๆ หมอมาหา1ครั้ง 1ครั้งเท่านั้นแล้วเจออีกทีคือหลังส่องกล้อง แค่นั้น 3000 อึ้งไปสักพัก รวมค่าใช้จ่ายสองวันที่4หมื่นกว่า ถือว่าไม่น้อยเลย ทำไมถึงให้บริการที่ดีไม่ได้ ทั้งๆที่ครั้งแรก ถูกกว่านี้ อาจเพราะไม่มีผ่าตัด แค่ในเมื่อค่าผ่าตัดก็คิดแยก ทำไมถึงบริการที่ดีได้ เสียความรู้สึกกับที่นี่จริงๆ จบเคสนี้คงพอจริงๆ เข้าใจว่าแค่เราไม่ไปใช้บริการคนเดียวไม่สะเทือนเค้าหรอก แต่แค่อยากระบายเพราะเสียความรู้สึกจริงๆ หรือเพราะคาดหวังไว้เยอะไม่รู้
ที่เล่าๆมาไม่ได้หวังอะไรแค่อยากทราบว่าโรงพยาบาลเอกชนถ้าเราใช้สิทธิ์ประกันกับการจ่ายเงินสดจะให้บริการต่ากันมั้ย และแค่อยากเตือนเพื่อนๆว่าก่อนออกจากรพ.เชคในใบบิลให้ดีจะได้รู้ว่าเราเสียค่าอะไรไปบ้าง อย่าสะเพร่าแบบเรา เพราะมารู้ที่หลังเสียความรู้สึกแล้วโมโหยิ่งกว่า หรืออาจมีเราแค่คนเดียวที่โง่เง่าแบบนี้ อาจไม่รู้ระบบบริการรพ.ที่ดี ถ้าใครรู้ก็ช่วยชี้แนะเราหน่อย เผื่อเราจะโมโหและโวยวายจนลืมคิด
ปล. ยินดีน้อมรับทุกความเห็น แล้วก็กระทู่อาจยืดยาวไปนิด