จุดมุ่งหมาย
๑) เพื่อสะท้อนให้สังคมรับทราบว่ามีการอบรมผู้ช่วยเภสัช ในประเทศไทยมานานแล้ว
๒) เป็นการอบรมโดยผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ( ผู้สอน/ผู้บรรยาย/ให้ความรู้ โดยเก็บค่าเรียนที่สูงพอสมควร )
๓) เจ้าของกระทู้ไม่อย่าให้ บุคคลดังกล่าวหลงเชื่อ และเสียทรัพย์สิน ในการอบรมผู้ช่วยเภสัช ที่มีเกลื่อนใน อินเตอร์เน็ต
กลุ่มเป้าหมาย
๑) ผู้จบ มัธยศึกษาปีที่ ๖
๒) อ่าน ออกเขียนได้ ภาษาอังกฤษได้ ก็สามารถอบรม
๓) ประชาชนทั่วๆไปที่สนใจจะเปิดร้านยา
ผลกระทบที่ เจ้าของกระทู้ สื่อออกมาอย่างคร่าว ๆ
ผลเสียของการอบรมผู้ช่วยเภสัช(ที่ไม่ใช่เภสัชมาอบรมนั้น) คร่าวๆ
๑) ส่งเสริมให้บุคคลอื่นมีความรู้เรื่องยา แบบผิวเผิน หรือ เข้าใจเรื่องยาแบบผิดๆ
๒) ผู้บริโภคได้รับอันตราย จากการจ่ายยาของบุคคลเหล่านี้ ไม่ว่า ขนาดยา จ่ายยาซ้ำซ้อน จ่ายยาไม่ตรงโรค ยาตีกัน การเก็บรักษายา การให้ข้อมูลยาแก่ผู้บริโภคนั้นอาจไม่ถูกต้อง เพราะขาด จรรยาบรรณ และองค์ความรู้เรื่องยา
๓) เสื่อมเสียเกียติและศักดิ์เสียของวิชาชีพเภสัชกรรม
๔) เปิดช่องให้บุคคลเหล่านี้กระทำความผิด โดยไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
๕ ปัญหายาชุด ร้านชำ ปัญหายาสเตียรอยด์เพิ่มมากขึ้นอีก เพราะ คนเหล่านี้จะไร้จรรยาบรรณ มุ่งแต่กำไร โดยไม่คำนึงถึงผลดีและผลเสียของ การจ่ายยาให้ผู้บริโภคกิน
๖) ส่งเสริมให้โรคประจำตัวของคนกินเป็นมากขึ้น เพราะคนเหล่านี้จะขาดทักษะการซักประวัติที่ถูกต้อง
๗) ผู้บริโภค อาจหลงเชื่อว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ซึ่งไม่ใช่ และเป็นการประกอบวิชาชีพที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลเสียต่อวิชาชีพเภสัชกรรม อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การใช้ยาในทางที่ผิด ใช้ยาไม่ตรงกับโรคที่ผู้บริโภคเป็น
๘) ขาดองค์ความรู้ในการเก็บรักษายา และ การส่งมอบยานั้น ก็กระทำไม่ได้ ยกเว้น ผู้ประกอบโรคศิลปะวิชาชีพเภสัชกรรมเท่านั้น
๙) ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องมาช่วยหรือผู้บริโภคที่ได้รับอันตราย เช่น แพ้ยาขั้นรุนแรง เสียชีวิต เป็นการทำลายผู้บริโภคทางตรง และทางอ้อม ไม่ต่างอะไรกับเภสัชกรแขวนป้ายใบประกอบโรคศิลปะวิชาชีพเภสัชกรรม
๑๐) ) สนุบสนุน คนเหล่านั้น ให้เข้ามา ซึ่งไม่มี องค์ความรู้เรื่องยา การเตรียมยา การเก็บยา การรักษาโรค และ ขาดศีลธรรม จรรยาบรรณ และ ผิดหลัก ร่าง พระราชบัญญัติ ยา แก้ไข และ ผิด พระราชบัญญัติ วิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดย การที่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม นั้น กอบโกยผลประโยชน์ โดยใช้ วิชาชีพของตนเอง มาสนับสนุนให้เกิด หรือ ผลิตคนเหล่านี้ ออกสู่สังคม เป็นจำนวนมาก
๑๑) หน่วยงาน อย สสจ และ สภาเภสัชกรรม ควรกระทำ หรือ ปราบปราม การผลิตคนเหล่านี้ ให้หมดไป
๑๒) ส่งเสริมให้มีตำรับลับ ซึ่ง ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ และ ร่าง พระราชบัญญัติยา กำหนด มิให้มีการใช้ตำรับลับอย่างเด็ดขาด
หมายเหตุ
๑) การจะเปิดอบรมนั้นจะต้องได้รับการรับรองจาก สภาเภสัชกรรม เท่านั้น
-สมาคมเภสัชชุมชนแห่งประเทศไทย
-ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ (สำนักงานคณะกรรมการ อาหาร และ ยา)
-ชุมรมร้านยาแห่งประเทศไทย
-สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล
อ้างอิงจาก รวมกฎหมายสภาเภสัชกรรม พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗ และข้อบังคับสภาเภสัชกรรม ประกาศ และ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
พี่ ๆ ใน Pantip มีความคิดเห็นอย่างไรกับ เรื่องอบรมผู้ช่วยเภสัช โดยผู้ประกอบโรคศิลปะวิชาชีพเภสัชกรรม( เภสัช สอนเอง)
๑) เพื่อสะท้อนให้สังคมรับทราบว่ามีการอบรมผู้ช่วยเภสัช ในประเทศไทยมานานแล้ว
๒) เป็นการอบรมโดยผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ( ผู้สอน/ผู้บรรยาย/ให้ความรู้ โดยเก็บค่าเรียนที่สูงพอสมควร )
๓) เจ้าของกระทู้ไม่อย่าให้ บุคคลดังกล่าวหลงเชื่อ และเสียทรัพย์สิน ในการอบรมผู้ช่วยเภสัช ที่มีเกลื่อนใน อินเตอร์เน็ต
กลุ่มเป้าหมาย
๑) ผู้จบ มัธยศึกษาปีที่ ๖
๒) อ่าน ออกเขียนได้ ภาษาอังกฤษได้ ก็สามารถอบรม
๓) ประชาชนทั่วๆไปที่สนใจจะเปิดร้านยา
ผลกระทบที่ เจ้าของกระทู้ สื่อออกมาอย่างคร่าว ๆ
ผลเสียของการอบรมผู้ช่วยเภสัช(ที่ไม่ใช่เภสัชมาอบรมนั้น) คร่าวๆ
๑) ส่งเสริมให้บุคคลอื่นมีความรู้เรื่องยา แบบผิวเผิน หรือ เข้าใจเรื่องยาแบบผิดๆ
๒) ผู้บริโภคได้รับอันตราย จากการจ่ายยาของบุคคลเหล่านี้ ไม่ว่า ขนาดยา จ่ายยาซ้ำซ้อน จ่ายยาไม่ตรงโรค ยาตีกัน การเก็บรักษายา การให้ข้อมูลยาแก่ผู้บริโภคนั้นอาจไม่ถูกต้อง เพราะขาด จรรยาบรรณ และองค์ความรู้เรื่องยา
๓) เสื่อมเสียเกียติและศักดิ์เสียของวิชาชีพเภสัชกรรม
๔) เปิดช่องให้บุคคลเหล่านี้กระทำความผิด โดยไม่มีหน่วยงานไหนออกมารับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว
๕ ปัญหายาชุด ร้านชำ ปัญหายาสเตียรอยด์เพิ่มมากขึ้นอีก เพราะ คนเหล่านี้จะไร้จรรยาบรรณ มุ่งแต่กำไร โดยไม่คำนึงถึงผลดีและผลเสียของ การจ่ายยาให้ผู้บริโภคกิน
๖) ส่งเสริมให้โรคประจำตัวของคนกินเป็นมากขึ้น เพราะคนเหล่านี้จะขาดทักษะการซักประวัติที่ถูกต้อง
๗) ผู้บริโภค อาจหลงเชื่อว่าเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม ซึ่งไม่ใช่ และเป็นการประกอบวิชาชีพที่ไม่ถูกต้อง ส่งผลเสียต่อวิชาชีพเภสัชกรรม อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การใช้ยาในทางที่ผิด ใช้ยาไม่ตรงกับโรคที่ผู้บริโภคเป็น
๘) ขาดองค์ความรู้ในการเก็บรักษายา และ การส่งมอบยานั้น ก็กระทำไม่ได้ ยกเว้น ผู้ประกอบโรคศิลปะวิชาชีพเภสัชกรรมเท่านั้น
๙) ทำให้ประเทศชาติต้องสูญเงินจำนวนมหาศาลที่ต้องมาช่วยหรือผู้บริโภคที่ได้รับอันตราย เช่น แพ้ยาขั้นรุนแรง เสียชีวิต เป็นการทำลายผู้บริโภคทางตรง และทางอ้อม ไม่ต่างอะไรกับเภสัชกรแขวนป้ายใบประกอบโรคศิลปะวิชาชีพเภสัชกรรม
๑๐) ) สนุบสนุน คนเหล่านั้น ให้เข้ามา ซึ่งไม่มี องค์ความรู้เรื่องยา การเตรียมยา การเก็บยา การรักษาโรค และ ขาดศีลธรรม จรรยาบรรณ และ ผิดหลัก ร่าง พระราชบัญญัติ ยา แก้ไข และ ผิด พระราชบัญญัติ วิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๕๘ โดย การที่ผู้ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรม นั้น กอบโกยผลประโยชน์ โดยใช้ วิชาชีพของตนเอง มาสนับสนุนให้เกิด หรือ ผลิตคนเหล่านี้ ออกสู่สังคม เป็นจำนวนมาก
๑๑) หน่วยงาน อย สสจ และ สภาเภสัชกรรม ควรกระทำ หรือ ปราบปราม การผลิตคนเหล่านี้ ให้หมดไป
๑๒) ส่งเสริมให้มีตำรับลับ ซึ่ง ตามพระราชบัญญัติวิชาชีพ และ ร่าง พระราชบัญญัติยา กำหนด มิให้มีการใช้ตำรับลับอย่างเด็ดขาด
หมายเหตุ
๑) การจะเปิดอบรมนั้นจะต้องได้รับการรับรองจาก สภาเภสัชกรรม เท่านั้น
-สมาคมเภสัชชุมชนแห่งประเทศไทย
-ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางเภสัชศาสตร์ (สำนักงานคณะกรรมการ อาหาร และ ยา)
-ชุมรมร้านยาแห่งประเทศไทย
-สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล
อ้างอิงจาก รวมกฎหมายสภาเภสัชกรรม พระราชบัญญัติวิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. ๒๕๓๗ และข้อบังคับสภาเภสัชกรรม ประกาศ และ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง