มีเพื่อนร่วมทีมท่านนึงถามคำถามนี้ซึ่งดีมากๆ
(ไม่ใช่การเสียดสีนะครับ ผมคิดว่ามันดีและจำเป็นจริงๆ)
บางท่านอาจคิดไปว่า
เถียงไปก็จะถูกหัวหน้าเกลียดเปล่าๆ
(มีคนบอกผมว่าขงจื้อสอนไว้แบบนั้น
ผมไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า ผมแทบจะไม่เข้าใจขงจื้อเลย)
ส่วนตัวคิดว่าคนที่เถียงเพื่อเรียนรู้จะได้ 2 อย่าง
ที่มีค่ามากๆ คือ
1.ได้ร่วมพัฒนาไอเดียใหม่ๆ
2.ได้เรียนรู้วิธีคิดที่แตกต่าง
มันทำให้ผมได้รับถ่ายทอดประสบการณ์
จากผู้ใหญ่ที่เคยเจอปัญหาเดียวกันมาก่อน
ความโชคดีของผมคือ 10 ปีที่ผ่านมา
ผมรู้สึกว่าผู้ใหญ่ทุกท่านที่ทำงานด้วย
ไม่มีใครมองว่าความคิดที่แตกต่างเป็นเรื่องไม่ดีจริงๆ
(สัดส่วนของเหตุผลและอารมณ์
ขึ้นอยู่กับลีลาของแต่ละท่าน)
ผมรู้สึกว่าการเหมารวมว่าผู้ใหญ่ไม่ชอบให้เถียง
เป็นความสูญเสียร้ายแรง
ทั้งเสียไฟในการทำงาน
และเสียโอกาสในการพัฒนาความคิด
เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะไม่มีใครรู้วิธีแก้ทุกปัญหา
และไม่ใช่ที่ทุกคนที่อยากหาคนที่คิดเหมือนกัน
มาร่วมแก้ปัญหาที่ตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ
มีคนมากมายที่เข้าใจว่า
เราไม่จำเป็นต้องหาฮีโร่คนเก่งที่มีความคิดดีๆ
ความคิดดีๆคือผลสุกงอมที่หาได้ง่ายจากการถกเถียง
ของกลุ่มคนธรรมดาที่มีเจตนาดีในการพูดและฟัง
มันเป็นความสูญเสียที่เจ็บปวดเสมอ
เมื่อเราเลิกล้มที่จะหันหน้าเข้าหากัน
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนจะคิดต่างกัน
แต่มันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เราไม่สามารถพัฒนาความคิดดีๆ
ด้วยความคิดที่แตกต่าง บนเจตนาที่ดีของทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณเพื่อนร่วมงานท่านนั้น
ที่ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน
และทำให้ผมได้มีโอกาสสรุปบทเรียนนี้
ให้กับทุกทีมที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานด้วย
และหากข้อความนี้พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
"มันก็ไม่ได้เกิดจากความคิดของผมคนเดียว"
เป็นเป็นสิ่งที่ถูกบันทึกจากการถกเถียง
ด้วยเจตนาในการพูดและฟังเพื่อแก้ปัญหา
ร่วมกับหลายๆทีมที่ผมได้ร่วมงานด้วย
"เถียงหัวหน้าไปแล้วได้อะไร?"
(ไม่ใช่การเสียดสีนะครับ ผมคิดว่ามันดีและจำเป็นจริงๆ)
บางท่านอาจคิดไปว่า
เถียงไปก็จะถูกหัวหน้าเกลียดเปล่าๆ
(มีคนบอกผมว่าขงจื้อสอนไว้แบบนั้น
ผมไม่รู้ว่าจริงรึเปล่า ผมแทบจะไม่เข้าใจขงจื้อเลย)
ส่วนตัวคิดว่าคนที่เถียงเพื่อเรียนรู้จะได้ 2 อย่าง
ที่มีค่ามากๆ คือ
1.ได้ร่วมพัฒนาไอเดียใหม่ๆ
2.ได้เรียนรู้วิธีคิดที่แตกต่าง
มันทำให้ผมได้รับถ่ายทอดประสบการณ์
จากผู้ใหญ่ที่เคยเจอปัญหาเดียวกันมาก่อน
ความโชคดีของผมคือ 10 ปีที่ผ่านมา
ผมรู้สึกว่าผู้ใหญ่ทุกท่านที่ทำงานด้วย
ไม่มีใครมองว่าความคิดที่แตกต่างเป็นเรื่องไม่ดีจริงๆ
(สัดส่วนของเหตุผลและอารมณ์
ขึ้นอยู่กับลีลาของแต่ละท่าน)
ผมรู้สึกว่าการเหมารวมว่าผู้ใหญ่ไม่ชอบให้เถียง
เป็นความสูญเสียร้ายแรง
ทั้งเสียไฟในการทำงาน
และเสียโอกาสในการพัฒนาความคิด
เหตุผลส่วนหนึ่งเพราะไม่มีใครรู้วิธีแก้ทุกปัญหา
และไม่ใช่ที่ทุกคนที่อยากหาคนที่คิดเหมือนกัน
มาร่วมแก้ปัญหาที่ตัวเองก็ไม่รู้คำตอบ
มีคนมากมายที่เข้าใจว่า
เราไม่จำเป็นต้องหาฮีโร่คนเก่งที่มีความคิดดีๆ
ความคิดดีๆคือผลสุกงอมที่หาได้ง่ายจากการถกเถียง
ของกลุ่มคนธรรมดาที่มีเจตนาดีในการพูดและฟัง
มันเป็นความสูญเสียที่เจ็บปวดเสมอ
เมื่อเราเลิกล้มที่จะหันหน้าเข้าหากัน
ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติที่คนจะคิดต่างกัน
แต่มันเป็นเรื่องน่าเสียดาย ที่เราไม่สามารถพัฒนาความคิดดีๆ
ด้วยความคิดที่แตกต่าง บนเจตนาที่ดีของทั้งสองฝ่าย
ขอบคุณเพื่อนร่วมงานท่านนั้น
ที่ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดกัน
และทำให้ผมได้มีโอกาสสรุปบทเรียนนี้
ให้กับทุกทีมที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานด้วย
และหากข้อความนี้พอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง
"มันก็ไม่ได้เกิดจากความคิดของผมคนเดียว"
เป็นเป็นสิ่งที่ถูกบันทึกจากการถกเถียง
ด้วยเจตนาในการพูดและฟังเพื่อแก้ปัญหา
ร่วมกับหลายๆทีมที่ผมได้ร่วมงานด้วย