Pitch Perfect 2 กลับมาอีกครั้ง กับหนังเล็กๆ ที่ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย ด้วยพล็อตที่เรียบง่ายกับการประกวดร้องเพลงในสไตล์เอแคพเพลล่า (a cappella) ที่ดวลกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ผสมผสานไปกับความฮาเกรียนของตัวละครแก๊งส์เบลล่าส์ที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่เข้ากันได้อย่างลงตัว ทำให้หนังมีรสชาติที่หลากหลาย และทำให้ชวนคิดถึงหนังวัยรุ่นสมัยยุค 90 ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยทำกันออกมาแล้ว พอได้ดูเรื่องนี้ก็หวนคิดถึงหนังวัยรุ่นสมัยก่อนไม่ได้ ชีวิตเหมือนขาดรสชาติแบบนี้มานานกับหนังเบาสมองวัยรุ่นเกรียนแบบนี้

กลับมาครั้งนี้ กลุ่มเบลล่าส์สานต่อจากภาคแรก หลังจากชนะแชมป์แข่งประกวดเอแคพเพลล่าระดับมหาลัย ก็ต้องเพิ่มดีกรีประกวดระดับโลกกันเลยทีเดียว ถึงแม้ภาคนี้เนื้อเรื่องจะไม่กระชับหรือกลมกล่อมและเข้มข้นเท่าภาคแรก แต่ยังถือได้ว่าหนังยังทำได้ออกมาฮาและเกรียนในระดับที่ภาคแรกทำเอาไว้ได้ดีมากเหมือนเดิม ซึ่งไม่ต้องไปพูดถึงเนื้อเรื่องที่ก็ต้องตามสูตรของมันอยู่แล้ว อาจไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่เราไม่ต้องไปใส่ใจตรงนั้น เพราะหนังเรื่องนี้ทำออกมาเพื่อความบันเทิงเพียงเท่านั้น และหนังก็ทำได้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจไว้จริงๆ

Pitch Perfect 2 กำกับโดยนักแสดงที่คุณคุ้นเคยกันดี Elizabeth Banks (The Hunger Games) เธอไม่เคยกำกับหนังใหญ่มาก่อน และนี่คือเรื่องแรกของเธอ ซึ่งทำได้ดีทีเดียว และผมคิดว่ามีผลพลอยได้มาจากบทที่ดี และนักแสดงที่เก่งอีกด้วย และแน่นอนผู้กำกับจากภาคแรกก็มานั่งแท่นเป็น Producer เพื่อคุมอารมณ์และโทนของหนังไว้ให้เหมือนเดิม

โดยรวมแล้ว ความสนุกของหนังเรื่องนี้หลักๆ คือมาจากตัวละครที่มีความหลากหลาย ซึ่งถ้าขาดตัวละครเหล่านี้ไปจะขาดรสชาติไปอย่างสิ้นเชิง และมุขเกรียน กัดจิกประเด็นต่างๆ ในหนังถือว่าทำออกมาได้จี๊ดๆ คันๆ แสบสันต์ได้ดีทีเดียว และตัวละครลับที่โผล่ออกมาบอกได้เลยว่าอึ้งกันไปเลยทีเดียว แล้วอย่าลืมดูฉากหลังเครดิตด้วยล่ะ บอกเลย ฉากนี้ ฮากระจาย!!!

ปล. ใครยังไม่เคยดูภาคแรก ไปหามาดูซะล่ะ สนุกระดับเกรด A เลยล่ะครับ

[Grade B+]