[CR] ลัดฟ้า เที่ยวพม่า เมียนมาร์มนต์เสน่ห์ดินแดนเจดีย์ 30-2 พฤษภาคม 2558 (ต่อ วันที่ 2 ของการเดินทาง)

วันแรกกับกระทู้นี้  http://ppantip.com/topic/33609044
วันที่ 2 ตะลุย อาณาจักร บะโก(พะโค) เขตพระราชวังเก่า ยุคบุเรงนองเรืองอำนาจ
คนไทยรู้จัก บะโก กันในนาม "หงสาวดี" (Bago Regional Government)
หากใครเป็นแฟนพันธ์แท้สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก็จะทราบดีว่า
เรากำลังพูดถึงหัวเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกับอโยธยา
บะโก นั้นเป็นเขตพระราชฐาน มีพระราชวังกัมโพชธานี (Kambawzathadi Palace) และเจดีย์รายล้อม
ว่ากันว่าภายในบริเวณบะโคนี้ มีพระตำหนักที่ประทับของพระพี่นางสุพรรณกัลยาอยู่ด้วยน้ะ
Good Morning ทู๊กคน ตื่นเช้า อาบน้ำ แต่งตัว แล้วมาทานอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมกัน

อาหารเช้าข้าวผัดแบบจีน ที่พม่าไม่ทานอาหารรสจัด โดยรวมแล้วก็จะเป็นอาหารจีนซะเป็นส่วนใหญ่
ใครที่ไม่ชอบอาหารรสจืดและเลี่ยนแนะนำให้เอามาม่าติดไปค่ะ ^^

9:00 น. ล้อลาก เอ้ยล้อหมุนออกจากที่พัก มุ่งหน้าย้อนกลับเดินทางเข้าสู่หงสาวดี
ระหว่างทางเราก็ถามโน่นถามนี่บอว์จิ้ไปเรื่อย ได้ความมาอย่างหนึ่งว่า รถที่พม่า มีป้าย 3 แบบด้วยกัน
-ป้ายสีฟ้า รถนักท่องเที่ยว, รถรัฐบาล, รถ Agency
-ป้ายสีแดง รถสาธารณะ
-ป้ายสีดำ รถยนต์ส่วนบุคคล

เค้าว่าเรานักท่องเที่ยวจะปลอดภัยได้รับการดูแลอย่างดี ถ้าขึ้นรถป้ายสีฟ้านี้
ถึงบางอ้อ ว่าแล้วเชียวเราจอดที่ไหน ทำไมเราลงจากรถแล้วชาวพม่าเค้ามองตามตลอดๆ
แหมๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นนางฟ้าเลยอ่ะตัวเอง 5555
ระหว่างทางเราผ่านคลองอะไรซักอย่าง บอว์จิ้เล่าให้ฟังว่าคลองนี้ปลาเยอะมากๆ
พร้อมกับจอดรถให้เราดู ลานปลาตากแห้ง คือมันเยอะจริงๆ มีร้านขายเป็นของฝากด้วย

แล้วรถก็วิ่งข้ามแม่สะโตงอีกครั้งหนึ่ง แม่น้ำนี้กว้างกว่าเจ้าพระยาบ้านเราซะอีก อุดมสมบูรณ์

ก่อนเข้าบะโก บอว์จิ้พาเราไปที่แหล่งซื้อขายไม้ทานาคา นี่แหละของฝากชั้นเลิศ


เราได้ทานาคาเป็นท่อนๆ กันแล้ว เดินทางต่ออีกนิดก็เข้าสู้ บะโก แล้ว ตื่นเต้นน่ะซิ๊
จอดรถที่ด้านหน้า Shwemawdaw Pagoda ถ่ายรูปมาให้ดูกัน ตอนนี้มีร้านค้า รถ บังหน้าเจดีย์ไปหมด --"


เดินตรงเข้าไป ชาวพม่าจะมาขายดอกไม้เยอะมาก เค้ารู้ว่าเราเป็นนักท่องเที่ยวจะตื้อๆ เราหน่อย
ถ้าเราไม่ซื้อก็ปฏิเสธอย่างนุ่มนวลไปว่า No no no no no no นี่หล่ะค่า


++เราต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเข้าชมสถานที่ค่ะ 10,000 จัตต่อคน

++ยังเข้าไม่ได้ค่ะ ต้องฝากรองเท้า คนละ 200 จัต ใครไม่ฝากก็ถือไปด้วยโลด

++ยังๆๆๆ สำหรับผู้ถือกล้องค่ะ ค่ากล้องถ่ายรูปต่อ 1 ตัว ราคา 300 จัต

เตือน !!! ตรงนี้แหละค่ะใครมีกล้องหลายกล้องให้ใช้แค่ตัวเดียวในการถ่ายภาพนะคะ
เพราะจะมีเจ้าหน้าที่แทรกตัวตามจุดต่างๆ คอยดูเราอยู่
ถ้าเจอเอากล้องตัวอื่นมาถ่ายจะโดนเรียกเก็บเงินเพิ่มทันทีค่ะ
ถ้าไม่มีเงินจัต 300 จัต อาจเสียเงินไทยถึง 20 บาท
ได้เวลาขึ้นไปกราบนมัสการกันแล้ว (ร้อนมาก แต่เค้าบอกห้ามบ่น ปาดเหงื่อกันเลย)
ภาพบรรยากาศ บริเวณรอบๆ Shwemawdaw Pagoda ค่ะ





ภาพนี้คือแม่ชีค่ะ มีของบนหัว เดินตัวตรง เราชอบมาก บุคลิกดี๊ ดี ^^

ส่วนนี่คือยอด Shwemawdaw Pagoda เดิมค่ะ เพื่อนบอกว่าล่วงลงมาแล้วเค้าจึงบูรณะอย่างที่เราเห็นกันนี่แหละ

เดินรอบเจดีแล้ว ขณะนั้นเป็นเวลา 12:39 น. เวลาที่พม่าช้ากว่าบ้านเรา 30 นาที

ถึงเวลาไปกินๆๆๆๆๆ เรากลับไปร้านเดิมที่เราทานมื้อเที่ยวเมื่อวาน ของเค้าดีจริงๆ
วันนี้ทานอาหารจานเดียว รอนานนิดนึงเพราะมีทัวร์ลง

13:30 น. ไม่รอช้า ลุยต่อ เพราะชีวิตคือการเดินทาง ลัล ลา ลัล ล๊า
สถานที่ที่รอคอยมาถึงแล้ว บอว์จี้พาเรามาที่เขตพระราชวังค่ะ
เรามาหยุดกันที่ "พระราชวังผึ้ง (Bee Throne Hall)" ว่ากันว่าพระเจ้าบุเรงนองโปรดปรานผึ้งเป็นที่สุด ยุทธวิธีการรบก็มาจากผึ้งนี่แหละค่ะ

นี่คือพระที่นั่งของ จะเด็ด (พระเจ้าบุเรงนอง) เราไม่อยากลดสีรูปเลยอ่ะเศร้า ขออภัยนะมันใส่ได้แค่ 700KBง่ะ ของจริงทองอร่ามมากๆ

ส่วนที่นี่เค้าว่าเป็นที่ที่มีการขุดพบวัตถุโบราณเป็นจำนวนมากค่ะ

ส่วนใหญ่วัสดุหลักที่ใช้สร้างและประดับพระราชวังอ่ะคะ จะเป็นไม้ มีความปราณีตสวยงามมากๆ


ไปต่อกันที่"พระราชวังกัมโพชธานี (Kambawzathadi Palace)" ของพระเจ้าบุเรงนอง (Bayinnaung)
ขอบอกว่าอลังการมากๆ ค่ะ ที่เห็นนี่เค้ากำลังบูรณะนะคะ


ด้านในประกอบไปด้วยเสาที่พระเจ้าบุเรงนองทำศึกแล้วชนะมาก็จะเอามาตั้งเป็นเสาของพระราชวัง
สังเกตุข้างๆ จะเห็นเสาของจริงเป็นไม้ทั้งหมดตั้งไว้ด้วยค่ะ

เดินเข้ามาข้างในอีกนิด จะต้องตะลึงกับบัลลังก์อลังการมากๆ จขกท.เสียใจที่รูปต้นฉบับงามมากแต่ต้องบีบไฟล์ไม่โกรธกันน้ะ



ข้าวของเครื่องใช้ของพระเจ้าบุเรงนอง

ตามด้วยราชรถ สีทองอร่ามเรือง

เดินกันจนรอบแล้วเราจะออกจากเขตพระราชวังไปกันต่อที่ Snake Pagoda
ที่ซึ่งมีงูตัวใหญ่ จขกท.ไม่แน่ใจว่างูเหลือมหรืองูหลามนะคะ รู้แต่ตัวใหญ่สุดๆ แถมคนที่นี่บอกว่าเป็นงูเทพเจ้า
เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่งูเทพเจ้าได้ยินเสียงสวดมนต์จะตื่นและชูหัวขึ้นดังกับตื่นเพื่อรับบุญแสงบุญนั้น
บอกตรงๆ จขกท.กลัวโดนหม่ำ ถ่ายรูปมาได้แค่นี้ แฮ่ๆ


เดินทางต่อค่ะ บอว์จี้พาเราไปอีกวัดแล้วค่ะ จขกท.ไม่ได้ถามว่าวัดอะไร วันนี้ไหว้พระถึง 9 วัดแน่ๆ 55


ระหว่างเดินออกจากพระธาตุมีของที่ระลึกขาย


ลูกชิ้นก็มีเหมือนบ้านเรา ซักไม้มั้ยคร้า ^^

ลูกตาลสดๆ ปลอกและแกะเปลือกกันตรงนั้นจากแม่ค้า

อากาศค่อนข้างร้อน เราเข้ามานั่งพักในร้านเพลิงหมาแหงน มีผลิตภัณฑ์บ้านเราขายด้วย

ปลายทางถัดไป พระธาตุไจปุ่น (พระสี่หน้า) กันก่อน ชาวพม่าไหว้พระกับใบไม้ชนิดนี้ค่ะ น่าจะเป็นไม้มงคลนะ

พระธาตุไจปุ่น พระสี่หน้า (พระสี่ทิศ)



ตะลอนกันต่อไป บอว์จี้พาเราไปที่ "พระมหาเจดีย์"
ชาวพม่าเรียกกันชื่อนี้ Shwe-tha-lyaung  บอว์จี้บอกว่า มีอายุเก่าแก่มากๆ ต้องมาสักการะ
ก่อนเข้าไป ถ้าจะถ่ายรูปมีค่าธรรมเนียม 300 จัตนะคะ
มีค่าธูป เทียนไหว้พระ จขกท.ลืมอ่ะว่ากี่จัต แต่จำได้ว่าไม่แพง







พระมหาเจดีย์นี้จะมีทางสำหรับเดินวนของผู้หญิงชั้นล่างสุด และก็จะมีบันไดให้ผู้ชายขึ้นไปบนยอดเจดีย์ค่ะ
ไม่ได้ถ่ายป้ายเตือนมาเลยว่าห้ามผู้หญิงขึ้นไปยอดเจดีย์นะคะ




สำหรับวันนี้ ทั้งหมดที่ "บะโค (Bago)" ทริปของเราลุล่วงไปด้วยดีค่ะ ร้อนแต่สนุก ได้ใจทีเดียว
เราไปเดินทางเข้ายันกอนกัน โดยได้รับการแนะนำโรงแรมเพื่อเข้าพัก จากบอว์จิ้
ชื่อ "Agga Youth Hotel" ใกล้ China Town ชเวดากอง ห้างสรรพสินค้า คืนนี้ท่องราตรีกันต่อ


จะรีวิวเดินเที่ยวยันกอนกับกระทู้ปิดทริป "เที่ยว ยันกอน วันสุดท้ายของการเดินทาง" และจะมีสรุปค่าเสียหายท้ายกระทู้จ้า
**ขออภัยที่ลงข้อมูลช้านะคะ จขกท.ไม่สบาย เพิ่งหายป่วย**
ชื่อสินค้า:   พม่า Kyaiktiyo,Bago,Yangon (Myanmar)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่