[CR] รีวิว "ครั้งหนึ่งเคยไปเยือน เมืองหงสาวดี" @Bago,Myanmar

จุดเริ่มต้นของการเดินทางไปเยือน เมืองหงสาวดีครั้งนี้ ทราบมากันแล้วว่า ในตำนานที่เรามักเห็นในภาพยนตร์ และ พงสาวดาร ในการทำศึกระหว่างไทยกับพม่า มักคุ้นชื่อเมืองนี้เป็นอย่างดี และ ประกอบกับตรงกับวันหยุดที่ทำงานพอดีเลยตัดสินใจไป (โดยสิ่งที่ทำให้อยากไปจริงๆแล้ว  ผมอยากไปถ่ายรูปเก็บความทรงจำนที่ต่างๆที่เคยไป และรับรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็นมา รวมถึงเห็นหน้าผู้คนที่เราผ่านพบเจอ ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นและน่าค้นหามาก) llเงินในพม่า 1บาท เท่ากับ 38จ๊าดll

สถานที่ที่ผมไป มีอยู่แค่ 5ที่ด้วยกัน (เพราะฝนตกตลอดการเดินทางเลยทีเดียว) คือ

1.)พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ (Shwemawdaw Paya)
ตลอดการเดินทาง2ชั่วโมงครึ่ง ก่อนจะถึงพะโค หรือ เมืองหงสาวดีในอดีต แดดออกตลอดเส้นทาง พอเข้าใกล้เข้า จ.พะโคก็เริ่มเห็นเมฆหนามา แล้วจู่ๆฝนก็ตกหนักมาก คิดในใจคงไม่ได้เก็บภาพเมืองหงสาวดีแน่ๆ มาเสียเที่ยวแน่เลยเรา
...เลยเข้าไปกราบพระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ เป็นที่แรก และถือว่าไปหลบฝนด้วย...พอไปถึงเจอผู้คนพม่าเข้ามากราบไหว้กันตลอดแม้ว่าฝนจะตกก็ตาม...กฎของการเข้าวัดที่พม่าทุกที่จำเป็นต้องถอดรองเท้าและเดินเท้าเปล่าขึ้นและห้ามใส่ถุงเท้า พอมาถึงก็ซื้อตั๋วเข้าชมประมาณ 8,000 จ๊าด เข้าเที่ยวในวัดต่างๆในพะโคได้ทุกวัดตลอดวัน พอเข้ามาถึงลานที่จะขึ้นเจดีย์ฝนก็ไม่หยุดตก เลยตั้งอธิฐานในใจว่าหากว่ามีบุญวาสนาจริงก็ขอให้ได้มาเก็บภาพไปฝากคนทางบ้านได้ดูได้เห็นสักครา พอเดินบันไดขึ้นไปถึงตัวเจดีย์ซึ่งมีลักษณะคล้ายเจดีย์เจดีย์ชเวดากองในย่างกุ้งเลย แต่ยอดเจดีย์จะสูงกว่านิดนึง พอถึงปุ๊บฝนเริ่มตกซาๆและเริ่มหยุดตกแล้วเด็ดก็เริ่มออกเห็นตัวเจดีย์สีทองอย่างชัดเจน (รู้สึกปลื้มปิติมากตอนนั้น) พอกราบไหว้สักการะเสร็จก็เดินดูรอบๆเจดีย์ให้ทั่วและเห็นภาพที่สวยงามของเจดีย์และผู้คนที่มีจิตศัทธรามากราบไหว้กันเยอะมากทั้งคนพม่าและทัวร์คนไทยในวัดต่างๆของพม่าจะมีพระพุทธรูปที่สง่างามมากมายแตกต่างกันไปและจุดเด่นของวัดๆนี้คือยอดเจดีย์ที่ตั้งอยู่ในอิฐซึ่งปัจจุบันได้บูรณะและทาสีใหม่แล้ว แต่ก็ยังสวยและเด่นเสมอ
ระหว่างเดินรอบเจดีย์ก็เจอแม่ชีน้อยของพม่าด้วย *** (พระมหาธาตุเจดีย์ชเวมอดอ เป็น1ใน5 เจดีย์ที่โด่งดังของชาวมอญและพม่า ที่ในชีวิตสักครั้งต้องมากราบให้ได้)
จากนั้นพอได้ถ่ายรูปสมใจแล้วก็เิดินทางไปที่ต่อไป แต่พอออกมาจากเจดีย์ได้สักสามนาที ฝนเจ้ากรรมก็ตกอีกแล้วรอบนี้ตกหนักกว่าเดิมอีกเลยแวะเข้าห้างใน จ.พะโคเพื่อทานข้าวเที่ยง โดยอาหารที่เลือกทาน คือ (เจโอ) คล้ายๆก๋วยเตี๋ยวบ้านเราแต่อัดแน่นไปด้วยเครื่องในหมูกินกับน้ำจิ้มสีแดงๆ ไม่มีพริก น้ำตาล น้ำปลาปรุงเลย แต่กินไปก็อร่อยดีนะแต่ชามละประมาณ 3,800 จ๊าด
พอกินเสร็จก็จะเดินทางไปต่อ แต่ฝนก็ยังตกหนักไม่มีทีท่าจะหยุดตก คิดในใจแล้วว่าวันนี้คงได้มาถ่ายรูปที่เดียวจริงๆ ไม่ได้ถ่ายไม่เป็นไรขอให้ได้เห็นก็พอเลยไปซื้อเสื้อกันฝนเพื่อลุยไปยังถานที่ ที่2ต่อไป....

2.)พระราชวัง พระเจ้าบุเรงนอง (Kan Baw Za Thadi Palace)
ใช้เวลาเดินทางมาประมาณ20นาทีก็มาถึงฝนก็ยังตกเหมือนเดิมแต่รอบนี้ใส่เสื้อกันฝนลุยฝนเพื่อเดินชมที่ต่างๆแต่ก็ยังพกกล้องไปด้วยเผื่อฝนจะเป็นใจอีกสักครั้ง เดินรอบพระราชวังซึ่งมีอยู่หลายจุด พอถึงจุดแรกก็ลงไปดูแต่ไม่ค่อยมีอะไรเลย มืดอีกต่างหาก เห็นแต่หนุ่มสาวพม่าเข้ามาหลบฝนกันและนั่งกอดกันเป็นคู่ๆ (เฮ้ยนี่ขนาดในสถานที่ท่องเที่ยวนะ)
และเดินออกมาจากจุดนั้น ก็มาเจอภาพเสาเข็มเสาไม้เก่าที่เคยเอาไว้ทำพระราชวัง ซึ่งเขาเก็บไว้เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ดู (ดูมีมนต์ขลังมาก) จากนั้นเดินทางไปดูพระราชวังพระเจ้าบุเรงนอง ที่เขาบูรณะใหม่ แต่เขาบอกว่าอันเก่าสวยกว่าเพราะเป็นทองทั้งหมดแต่ตอนนี้คงเหลือน้อยแล้ว สักพักฝนเป็นใจให้อีกครั้งเริ่มตกซาๆที่พอจะถ่ายรูปได้ (ดีใจมาก) ระยะทางเดินไปราชวังต่างๆกว้างมาก ใช้รถหรือจักรยานน่าจะไปถึงไวกว่าเดิน พอมาถึงก็เห็นพระราชวังสีทองเด่นสง่าเลย และฝนก็หยุดตกเลย (ได้ถ่ายรูปแล้ว)   พอเดินเข้าไปก็เห็นห้องโถงและประวัติขิองพระเจ้าบุเรงนองและผู้ก่อตั้งพม่าในยุคก่อนๆที่สำคัญ

พอเดินรอบๆเสร็จ ลงมาก็เห็นป้อมปืนใหญ่ สวยดี
พอเสร็จก็ขึ้นรถไปที่ต่อไปต่อ คิดในใจฝนคงไม่ตกแล้วละมั้ง เพราะฟ้าเริ่มเปิดแล้ว และมาถึงสถานที่ ที่3 ต่อไป...

3.)วัดพระนอนเส่งตาเหลียว (Sein Thar-lyaung Pagoda)
เป็นพระนอนที่ใหญ่และสวยงามๆคล้ายๆพระนอนในย่างกุ้งเช่นกัน
พอเข้าไปก็ต้องถอดรองเท้าอีกรอบ แล้วเข้าไปกราบไหว้ เพราะเป็นพระประจำวันเกิดของผมด้วย พระนอนมีใบหน้ายิ้มแย้มและปากสีชมพู
และด้านในวัดก็มีสินค้าขายมากมาย

มีทั้งทับทิม หยก พระพุทธรูป และผ้าซิ่นมากมาย
จากนั้นเดินวนรอบไปทั้งข้างหลังพระนอนก็เห็นชาวต่างชาติมาถ่ายรูปเช่นกัน
พอเสร็จก็เดินออกมาขึ้นรถ เห็นข้างนอกขายขนมและอาหารมากมาย เลยแวะซื้ม ข้าวต้มมัด เขาว่าเป็นอาหารหวาน ประจำชาติของพม่า ชิมแล้วก็อร่อยดี แต่เขาใช้กล้วยเชื่อมเป็นไส้เลยหวานเลี่ยนๆไปหน่อย
และไปต่อสถานที่ ที่4 ต่อไป.. แต่ออกมาฝนก็ตกอีกแล้ว เซงเลย

4.)Mahazedi Pagoda (วัดมหาเจดีย์)
พระเจดีย์น้อยร้อมลอบพระเจดีย์ใหญ่เยอะมาก สวยด้วย แต่พอมาถึงตามเคย ฝนยอมหยุดตกให้แต่ฟ้ายังร้องและมีลมตลอดเวลา น่ากลัวเหมือนกันตอนจะถ่ายรูป แต่ยังไงก็ต้องเก็บภาพให้ได้ และเข้าไปกราบเทพประจำวันเกิด
และที่นี่ยังมีวิหาร ที่สร้างจากศิลาแลงเก่าๆอยู่ด้วยสวยงามมาก
และเขาว่าสถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่พระเจ้าบุเรงนอง จะมาขออธิฐานให้ชนะศึกก่อนทำศึกทุกครั้งในที่แห่งนี้

เดินไปรอบเห็นน้องๆพม่าได้นำผลตาลจากต้นลงมากินกัน
ก่อนจะกลับเห็นดอกไม้สวยดีเลยแวะถ่ายสักรูป
ประกอบกับฝนก็เริ่มทนไม่ไหว ตกลงมาอย่างหนัก จึงต้องรีบขึ้นรถและเดินทางไปอีกที่ทันที และเป็นที่สุดท้ายของวัน เพราะใกล้จะค่ำแล้ว

5.)kyaik pun (วัดพระธาตุไจ่ปุ๊น)
และก็มาถึงที่สุดท้ายฝนก็ยังตกซาๆอยู่แต่ก็เปียกอยู่ดี จุดเด่นของวัดนี้จะมีพระพุทธรูปหันพระพักตร์ออก4ด้าน มีลักษณะต่างกัน และมีจุกสักการะ4ด้านเช่นกัน
จุดทางเข้าของวัดนี้
สักพักฝนก็หยุดตกและได้ถ่ายรูปก่อนกลับสมใจ (วันนี้จากหมดหวังกลับกลายได้เก็บภาพทุกที่ๆไปทั้งที่ฝนตกตลอดตอนเดินทาง ช่างโชคดีจริงๆ)

วันที่เริ่มเดินทางวันที่ 04/06/2017 ใช้เวลา1วันในการเดินทาง ไป-กลับ (ย่างกุ้ง - พะโค)
ออกเดินทางตั้งแต่ 09.30 am - 07.00 pm

...หากมีข้อผิดพลาดอันไหน หรือเนื้อหาและรูปไม่ค่อยสวย หรือเยอะไป ก็ขออภัยด้วยนะครับ นี่เป็นกระทู้รีวิว ครั้งแรกเลย หากมีใครชอบก็ขอบใจไว้ล่วงหน้า หรือมีคนชอบเยอะจะได้มารีวิว ที่ต่างในพม่าและที่อื่นที่ผมได้เดินทางไปมาอีกครั้งหน้านะครับผม...BYE BYE (มิงกะลาบา คำยา)  เสนอคำติชมได้เลยนะครับ ยินดีรับฟังและแก้ไข
ชื่อสินค้า:   เมืองหงสาวดี/พะโค/บะโก ( Bago)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่