แฟนกับโดยสถานะคือเราเตรียมงานแต่งแบบไม่ใหญ่โต ไว้สิ้นปีนี้
เธอเป็นผู้หญิงที่สวยมาก ทั้งหน้าตา และรูปร่าง
และเป็นเคยเป็นนางแบบมาก่อน
ปัจจุบันทำงานเป็นหุ้นส่วนร้านสปาครับ มีรายได้เดือนละ ประมาณ 50,000 บาท
ส่วนผมทำงานมีรายได้ประมาณ ครั้งละ 3 เดือนรวมประมาณ 4 แสนบาท ไม่รวมงานรับจ็อบ บริษัท พิเศษ ที่ปีหนึ่งจะมีงานรายได้
กำไรที่สูงๆประมาณ 1-2 ครั้ง
(ผมทำธุรกิจการเกษตร และบริษัท ซอฟแวร์โทรศัพท์เคลื่อนที่ครับ)
หนึ่งส่วนผมให้ครอบครัวพ่อแม่น้องชาย
หนึ่งส่วนเก็บไว้กินอยู่ใช้จ่าย
หนึ่งส่วนรันงาน
หนึ่งส่วนให้แฟนผม

ไม่ได้ให้ทุกเดือนนะครับ แต่โดยรวมก็ แบบนี้ประมาณนี้ต่อเนื่องเพื่อให้เป็นเงินเก็บในครอบครัวไปด้วย
แม้ว่าเธอจะมีค่าเสริมสวยกินอยู่ที่แพงมาก แต่เธอก็เก็บเงินอยู่ครับ

และค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของเธอผมอาสาเป็นคนรับผิดชอบให้ทุกๆอย่างท้งหมดเท่าที่จะทำได้

เธอเป็นผู้หญิงที่ดีมาก
มีคนมาจีบเยอะมากและตลอดเวลาและมีเพื่อนผู้ชายตลอด
จนกระทั้งมีช่วงสองเดือนที่ผ่านมา เธอมีปัญหาศัลยกรรมจมูกเป็นกรณีแก้ไข
และใช้เงินประมาณ แสนกว่าบาทรวมพักฟื้นด้วย


และบวกกับเธอมีบ้านที่ต่างจังหวัด มีแผนต้องการซ่อมแซม
ซึ่งก็เหมือนเดิม เธอไม่ได้ขอสักบาทไม่ได้ขอร้องแต่ผมคิดว่าในฐานะสามีของเธอในอนาคตและคนจะเป็นคู่รักกัน
มีแผนว่าจะไปซ่อมบ้านในวันที่ 25 พ.ค.
น่าจะหมดงบราวๆ 200,000 บาท
และเธอบอกว่าเธออยากมีรายได้ของตัวเอง ที่มากและเร็วพอจะแก้ปัญหาได้
เธอได้รับการเสนอจากเพื่อนเธอบอกว่าไปทำงานที่สิงคโปรค์เป็นงานเอนเทอร์เทน ลูกค้า
โดยปกติผมและเธอพูดคุยกันทุกเรื่อง

เธอบอกว่า งานก็ส่วนงาน ไม่ต้องคิดมาก
เสร็จแล้วก็เลิก

โดยเธอบอกว่าผมรายได้ช่วงนี้ไม่ได้เข้าเป้า และเห็นว่าผมทำงานหนักมาก
หนึ่งปีที่รักและใช้เวลาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมาแม้จะไม่ตลอดเวลาแต่กว่า 70%
เธอเห็นรายละเอียดชีวิตผมและผมก็เห็นรายละเอียดชีวิตเธอ


เธอไม่ใช่คนเจ้าชู้แน่นอน
และผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า ความรักเราแข็งแรง

แต่เธอมีเพื่อนผู้ชายเยอะมาก
และมีคนมาให้ช็อคโกแล็ตมาให้ดอกไม้
มาเสนอนาฬิกา กระเป๋า แบรนด์เนมแพงๆให้ตลอดเวลา
คือมีมาเสนอทุกอาทิตย์ แต่เธอก็ตอบรับบ้าง หากเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมานาน
และบอกว่าผมไม่ควรหึงหวง
ให้ผมเข้าใจและไม่อยากให้เกิดปัญหาอะไร

ผมไม่แน่ใจว่าการไปทำงานอย่างนี้มันสุ่มเสี่ยงแค่ไหนต่อการที่ความรักจะแปรผันและทำให้ครอบครัวที่อยากสร้างกันมาจบลงหรือไม่
หรือว่าผมกำลังจะคิดมากไปเอง

ผมไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เธอไป
แต่เธอบอกว่าไม่ควรคิดมากจริงๆ

เมื่อคืนคุยกันค่อนข้างเครียดพอควร
เป็นหัวข้อ pillar talk ที่หนักมาก

คิดว่าการซื้อทองให้บาทหนึ่งก่อนจะเป็นการทุเลาอาการเรื่องนี้ลงได้ ผลลัพธ์ยังเหมือนเดิม
เพราะว่า ผมคำนวณให้เธอดูแล้วว่า ทองที่ซื้อให้ตั้งแต่ต้นปีรวมประมาณเกือบ 14 บาท
สามารถขายหรือใช้จ่ายเวลาลำบากได้ ไม่ต้องไปทำงานที่มีปัญหาจะสุ่มเสี่ยงกับความรักหรือทำให้เราเลิกกันได้

เธอบอกว่า แค่งาน ไปทำสั้นๆแค่สามสี่เดือน
ส่วนผมคิดว่า มันจะมีปัญหาหากมีคนเสนอทางเลือกที่ดีให้กว่าผมมากๆ และทำอะไรก็มีแต่เอาอกเอาใจตลอดเวลา เพราะว่า เงินพร้อม
ชีวิตพร้อม มันก็ไม่เครียด มันมีโอกาสที่จะจบครอบครัวที่กำลังจะสร้างต่อไปได้สูง แล้วผมก็คิดว่า มันไม่ควร

คำถามคือ
1. งานต้อนรับลูกค้างานเอนเทอร์เทน ที่รายได้สูงเขาบอกว่าการันตีรายได้ประมาณ 100,000 บาทต่อเดือน มันต้องประมาณไหนครับ
2. ตอนนี้เรามีเพดานกันคือ เส้นตาย25 พ.ค. 2558 หากผมทำการเงินตัวเองให้ปกติได้ และไม่เครียดในการทำงานมาก
เธอบอกว่าเดือนนี้จะไม่ตอบรับและไม่คิดทางเลือกนี้  ซึ่งค่อนข้างหนักกับตัวเลขที่เราคุยกันมา
50 50 ผมจะทำได้
ถ้าผมทำไม่ได้ผมควรทำใจใช่ไหมครับ
หรือว่า จริงๆแล้ว หากผมไม่ทำตัวให้เป็นปัญหา และให้เธอได้ทำอะไรในสิ่งที่เธอรักชอบมันจะดีกว่า
อันนี้คือกรณีที่ผมทำไม่ได้นะครับ แต่อย่างไรผมจะพยายามสุดทางเพราะว่าผมรักเธอและผมไม่อยากให้มีปัญหากับครอบครัวที่จะสร้างในอนาคต


ใครเป็นผู้รู้หรือมีประสบการณ์อย่างไรแนะนำด้วยนะครับ
เขียนผิดพลาดประการใดหรือข้อมูลไม่ครบในการแนะนำอย่างไรบอกด้วยนะครับ
น้อมรับคำชี้แนะเสมอครับ


แท็ก ห้องเครื่องแป้ง เพราะว่า อยากทราบมุมมองผู้หญิงสวยที่ศัลยกรรมหัวจรดเท้าเหมือนแฟนผมว่าผมคิดมากไปเองหรือไม่เปล่าครับ
แท็ก บางรัก เพราะว่าเป็นเรื่องความรักครับ
แท็ก ไกลบ้านเพราะว่าเป็นเรื่องการทำงานต่างประเทศ