ต้องยอมรับว่ากระแสการนำเสนอที่มาใน
รูปแบบของStory Telling กำลังเป็นที่นิยม อย่างที่ได้เห็นกันก็คือ เวที TED Talk ซึ่งเป็นการนำเสนอที่สะกดคนฟังให้สนใจ คล้อยตามและติดตามในสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลัง เล่าเรื่อง:
Story Telling Presentation
TED ขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยการวางตำแหน่งตัวเองเป็นองค์กรที่เป็นกลางและไม่แสวงหากำไร มีจุดเริ่มต้นจากงานสัมมนาเน้นการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี(T) เอนเทอร์เทนเมนต์(E) และการออกแบบ(D) จึงเป็นที่มาของคำว่า TED: Technology, Entertainment และ Design เป็นการนำเสนอที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นรูปแบบของเวทีทอล์คที่มีวัตถุประสงค์ในการ นำเสนอ เพื่อสร้างเวทีสำหรับเผยแพร่แนวคิดที่มีพลัง จากเหล่านักพูดหรือนักนำเสนอ จากหลากหลายวิชาชีพ โดยมีเวลาพูดไม่เกิน 18 นาที ส่วน ผู้ที่จะขึ้นพูดนั้นมาจากการคัดเลือกของกรรมการและทีมงานของ TED สำหรับหัวข้อในการพูดบนเวที TED ปัจจุบันนั้นขยายออกไปสู่ประเด็นอื่นๆ เกือบจะทุกหัวข้อตั้งแต่ประเด็นวิทยาศาสตร์, ธุรกิจ ไปจนถึง ประเด็นใหญ่ๆ ในโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะสามหัวข้อ คือ เทคโนโลยี เอนเทอร์เทนเมนต์ และการออกแบบ ข้างต้นอีกต่อไป
ลองจินตนาการว่า ถ้าเราจะประยุกต์
การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Story Telling เช่นนี้มาใช้ในทางธุรกิจ ถ้าเป็นนักขายก็จะทำให้ลูกค้าหรือคู่ค้าของเรามีความสนใจ ติดตามเรื่องราวที่เรากำลังนำเสนอ ถ้าเป็นพนักงาน มีการนำเสนอเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้บริหารรู้สึกสนใจ ใครที่ทำธุรกิจขอให้เข้าใจว่า ถ้าคุณไม่สามารถที่จะอธิบายหรือทำให้เรื่องราวของคุณเป็นที่น่าสนใจ สินค้าของคุณก็จะไม่อยู่ในความคิดของลูกค้า การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง จะช่วยกระตุ้นสมองของผู้ฟังได้ตื่นตัว อยากรู้และติดตามในสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลังจะสื่อสารออกไป การทำงานของสมองนั้น แบ่งเป็น สองข้าง ซึ่งข้างซ้ายนั้นจะควบคุมการวิเคราะห์ ความเป็นเหตุเป็นผล และซีกขวานั้น จะควบคุมความคิดเชิงศิลป หรือ เป็นเรื่องของอารมณ์ เทคนิคการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง จะต้องนำวิธีการกระตุ้นการทำงานของ สมองทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นสมองด้านซ้ายด้วยความน่าสนใจของการเล่าเรื่อง ทำให้ผู้ฟังอยากรู้ ตื่นเต้น สนใจ และติดตามด้วยความมีเหตุผลของเรื่องที่นำเสนอนั้น คือการกระตุ้นที่สมองด้านขวา
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีหลักในการเล่าเรื่องที่ดี น่าติดตาม จะทำให้คนฟังหรือลูกค้าของคุณสนใจและอยากรู้เพิ่มเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่องนั้น อาจมาในหลากหลายรูปแบบเช่น การสร้างแบรนด์ ที่ทำให้น่าติดตาม คนอยากรู้ สุดท้ายคือสนับสนุนสินค้านั้น ๆ นักขาย มีการเล่าเรื่องของสินค้าที่ตนเองจำหน่าย ทำให้ผู้ซื้อเห็นภาพในแง่มุมต่าง ๆ ของสินค้า เป็นที่น่าสนใจ ผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อเช่นกัน การนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบ การเล่าเรื่อง ในการนำเสนอผลงาน จะทำให้ผู้บริหารได้รับรู้และสนใจเรื่องราวที่ทีมงานขึ้นมานำเสนอ ด้วยวิธีเช่นนี้ เป็นการเปลี่ยนความรู้สึกของผู้ฟัง ให้อยากฟัง เปลี่ยนความอยากฟังมาเป็นลูกค้า เปลี่ยน ลูกค้ามาเป็นรายได้ให้กับองค์กร เช่น เคยถามหรือไม่ว่า ทำไมคนถึงอยากใช้สินค้า แบรนด์เนม แน่นอนที่สุดหลายคนอาจจะบอกว่า เพราะความมีชื่อเสียงของแบรนนั้น ๆ ทำให้อยากใช้ ถึงจะมีราคาที่แพง แต่ถ้าลองสอบถามเจ้าของสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะสินค้าแต่ละตัวจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป มีความเป็นมา จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะมาศึกษาถึงเทคนิคการนำเสนอด้วยวิธีการเล่าเรื่องหรือ Storytelling Presentation เปลี่ยนความน่าสนใจการฟังเรื่องที่เล่า ที่ใช้ใน
การนำเสนอให้มาเป็นรายได้หรือความภักดีจากลูกค้า..
ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย
การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Story Telling
ต้องยอมรับว่ากระแสการนำเสนอที่มาในรูปแบบของStory Telling กำลังเป็นที่นิยม อย่างที่ได้เห็นกันก็คือ เวที TED Talk ซึ่งเป็นการนำเสนอที่สะกดคนฟังให้สนใจ คล้อยตามและติดตามในสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลัง เล่าเรื่อง: Story Telling Presentation
TED ขึ้นเป็นครั้งแรก ด้วยการวางตำแหน่งตัวเองเป็นองค์กรที่เป็นกลางและไม่แสวงหากำไร มีจุดเริ่มต้นจากงานสัมมนาเน้นการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องเทคโนโลยี(T) เอนเทอร์เทนเมนต์(E) และการออกแบบ(D) จึงเป็นที่มาของคำว่า TED: Technology, Entertainment และ Design เป็นการนำเสนอที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จึงมีการจัดงานมาอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นรูปแบบของเวทีทอล์คที่มีวัตถุประสงค์ในการ นำเสนอ เพื่อสร้างเวทีสำหรับเผยแพร่แนวคิดที่มีพลัง จากเหล่านักพูดหรือนักนำเสนอ จากหลากหลายวิชาชีพ โดยมีเวลาพูดไม่เกิน 18 นาที ส่วน ผู้ที่จะขึ้นพูดนั้นมาจากการคัดเลือกของกรรมการและทีมงานของ TED สำหรับหัวข้อในการพูดบนเวที TED ปัจจุบันนั้นขยายออกไปสู่ประเด็นอื่นๆ เกือบจะทุกหัวข้อตั้งแต่ประเด็นวิทยาศาสตร์, ธุรกิจ ไปจนถึง ประเด็นใหญ่ๆ ในโลก ไม่ได้จำกัดเฉพาะสามหัวข้อ คือ เทคโนโลยี เอนเทอร์เทนเมนต์ และการออกแบบ ข้างต้นอีกต่อไป
ลองจินตนาการว่า ถ้าเราจะประยุกต์การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง Story Telling เช่นนี้มาใช้ในทางธุรกิจ ถ้าเป็นนักขายก็จะทำให้ลูกค้าหรือคู่ค้าของเรามีความสนใจ ติดตามเรื่องราวที่เรากำลังนำเสนอ ถ้าเป็นพนักงาน มีการนำเสนอเช่นนี้ ก็จะทำให้ผู้บริหารรู้สึกสนใจ ใครที่ทำธุรกิจขอให้เข้าใจว่า ถ้าคุณไม่สามารถที่จะอธิบายหรือทำให้เรื่องราวของคุณเป็นที่น่าสนใจ สินค้าของคุณก็จะไม่อยู่ในความคิดของลูกค้า การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง จะช่วยกระตุ้นสมองของผู้ฟังได้ตื่นตัว อยากรู้และติดตามในสิ่งที่ผู้นำเสนอกำลังจะสื่อสารออกไป การทำงานของสมองนั้น แบ่งเป็น สองข้าง ซึ่งข้างซ้ายนั้นจะควบคุมการวิเคราะห์ ความเป็นเหตุเป็นผล และซีกขวานั้น จะควบคุมความคิดเชิงศิลป หรือ เป็นเรื่องของอารมณ์ เทคนิคการนำเสนอด้วยการเล่าเรื่อง จะต้องนำวิธีการกระตุ้นการทำงานของ สมองทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน โดยเริ่มต้นจากการกระตุ้นสมองด้านซ้ายด้วยความน่าสนใจของการเล่าเรื่อง ทำให้ผู้ฟังอยากรู้ ตื่นเต้น สนใจ และติดตามด้วยความมีเหตุผลของเรื่องที่นำเสนอนั้น คือการกระตุ้นที่สมองด้านขวา
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณมีหลักในการเล่าเรื่องที่ดี น่าติดตาม จะทำให้คนฟังหรือลูกค้าของคุณสนใจและอยากรู้เพิ่มเกี่ยวกับเรื่องนั้น ๆ การนำเสนอด้วยการเล่าเรื่องนั้น อาจมาในหลากหลายรูปแบบเช่น การสร้างแบรนด์ ที่ทำให้น่าติดตาม คนอยากรู้ สุดท้ายคือสนับสนุนสินค้านั้น ๆ นักขาย มีการเล่าเรื่องของสินค้าที่ตนเองจำหน่าย ทำให้ผู้ซื้อเห็นภาพในแง่มุมต่าง ๆ ของสินค้า เป็นที่น่าสนใจ ผู้ซื้อจะตัดสินใจซื้อเช่นกัน การนำเสนอเรื่องราวในรูปแบบ การเล่าเรื่อง ในการนำเสนอผลงาน จะทำให้ผู้บริหารได้รับรู้และสนใจเรื่องราวที่ทีมงานขึ้นมานำเสนอ ด้วยวิธีเช่นนี้ เป็นการเปลี่ยนความรู้สึกของผู้ฟัง ให้อยากฟัง เปลี่ยนความอยากฟังมาเป็นลูกค้า เปลี่ยน ลูกค้ามาเป็นรายได้ให้กับองค์กร เช่น เคยถามหรือไม่ว่า ทำไมคนถึงอยากใช้สินค้า แบรนด์เนม แน่นอนที่สุดหลายคนอาจจะบอกว่า เพราะความมีชื่อเสียงของแบรนนั้น ๆ ทำให้อยากใช้ ถึงจะมีราคาที่แพง แต่ถ้าลองสอบถามเจ้าของสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เพราะสินค้าแต่ละตัวจะมีเรื่องราวที่แตกต่างกันออกไป มีความเป็นมา จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่จะมาศึกษาถึงเทคนิคการนำเสนอด้วยวิธีการเล่าเรื่องหรือ Storytelling Presentation เปลี่ยนความน่าสนใจการฟังเรื่องที่เล่า ที่ใช้ใน การนำเสนอให้มาเป็นรายได้หรือความภักดีจากลูกค้า..
ดร.สุรชัย โฆษิตบวรชัย