สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
สรุป ดังนี้นะครับ
อายุ 40ปี
รายได้ 25000บาทต่อเดือน
โบนัสปีละ ประมาณ 1เดือน
ให้ที่บ้าน กับใช้จ่าย รวม 12000บาท
เงินออม รวม 13000บาท
เงินออมแยกเป็น ซื้อกองทุน SET50 หรือหุ้น เดือนละ 5000บาท
เงินออมที่ยังไม่ได้วางแผนทำอะไร เดือนละ 8000บาท
ถ้าตามสัดส่วนนี้ คุณออมเงินประมาณ 50% ของรายได้ต่อเดือนเลยนะครับ เยี่ยมยอด
ตอบคำถามนะครับ
ข้อ 1. คุณลงทุน หุ้นเอง หรือใครแนะนำครับ และลงกองทุน SET50 เดือนละเท่าไร
ถ้าไม่คิดมาก ลดความเสี่ยง ให้ ลงทุน SET50 เดือนละ 5000บาท ไปเรื่อย
ทุกเดือน ไปจนเกษียณ ประมาณ 20ปี (เกษียณ อายุ 60)
น่าจะได้เงินตอนเกษียณ จากกองทุน SET50 ประมาณ 5ล้านบาท
ส่วนเงินลงทุนหุ้น อาจเอาเงินโบนัสมาซื้อหุ้นรายตัวค่อยๆสะสมก็ได้ครับ
ส่วนกองทุนทองคำ ทำใจขายขาดทุนได้เหรอครับ
ถ้าทำใจไม่ได้และไม่ได้รีบร้อน ก็ปล่อยไว้ก่อน
หมายเหตุ การลงทุนใน SET50 ถ้าเป็นกอง RMF ด้วยสามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้ด้วย
และเป็นการลงทุนยาว เพื่อการเกษียณโดยแท้จริง
ข้อ 2. เงินสดในบัญชีที่มีไม่ถึงแสน
เงินส่วนนี้ให้ทำเป็นบัญชีเงินฉุกเฉิน
ควรมีเงินสดประมาณ 6เท่า ของเงินเดือน
คือ 25000 x 6 = 150000 บาท
เพื่อความปลอดภัย เผื่อฉุกเฉิน
ถ้าไม่คิดไรมากเรื่องกองทุนทอง
สามารถขาย
และนำเงิน หกหมื่นมาเข้าบัญชีฉุกเฉิน
อาจจะพอดี แสนห้าหรือน้อยกว่าไม่เป็นไรครับ
ถ้าไม่ครบแสนห้า ให้นำเงินออมที่เหลือ
เดือนละ แปดพันค่อยๆ ออมรายเดือน
ในบัญชีฉุกเฉินจนครบ แสนห้า
เท่านี้ก็มีเงินเตรียมฉุกเฉิน เรียบร้อย
ในข้อนี้ ยังไม่อยากให้รีบร้อนลงทุนทั้งหมด
แต่อยากให้เตรียมเงินฉุกเฉินไว้ก่อน
แล้วค่อยลงทุนเพิ่มนะครับ
ข้อ 3. เรื่องลงทุน ในบ้าน คอนโด หรือที่ดิน
น่าจะตึงมือเกินไปไหมครับ
ประเด็นตอนนี้คุณไม่มีหนี้ คนอายุ 40 ไม่มีหนี้ หายากมากครับ
ไม่ต้องกังวลเรื่องบ้าน ที่อยู่กับพ่อแม่
บ้านหลังนั้น คุณคิดว่าพ่อแม่จะยกให้คุณไหม ในอนาคตเป็นของคุณหรือเปล่า
และบ้านหลังนั้นสามารถอยู่อาศัยได้ อีก 40-50ปีไหมครับ
ถ้าคิดว่าบ้านยังไงก็ต้องเป็นของคุณ และยังใช้อาศัยได้อีกหลายสิบปี
แนะนำว่าอยู่หลังนั้นไปก่อน อย่าพึ่งซื้อบ้านครับ
เพราะคิดง่ายๆ ตอนนี้ผ่อนบ้าน 20ปี บ้านล้านนึงผ่อนประมาณ 8-9000บาท มันจะหนักไปสำหรับคุณ
ข้อ 4 . เงินปันผลจากหุ้นทุกปี ให้เอาออกมาลงทุนครับ
อาจเอามาทะยอยลงทุน DCA ในกองทุน RMF LTF ก็ได้ครับ
เพราะได้ปันผลทุกปี ถ้าได้ปีละ หมื่นสอง
ก็ไปทำ DCA เดือนละพัน ไปเรื่อยๆเลยครับ
ข้อ 5. คุณควรทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เพื่อช่วยเรื่องเวลาเจ็บป่วย
โดยประกันชีวิตให้ทำแบบชั่วระยะเวลา เบี้ยถูก จ่ายทิ้ง
ล้านละ ประมาณ เจ็ดพัน และทำประกันสุขภาพเสริม
แบบเหมาจ่าย ทุนห้าแสน น่าจะจ่ายเบี้ยประมาณ หมื่นกว่าบาท
ซึ้งประกันทั้งปี น่าจะประมาณ สองหมื่นบาท
คุณก็นำเงินออมที่เหลือ เดือนละ แปดพัน มาหักทำประกันเดือนละ สองพันบาท
เพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยง เวลาป่วยไม่สบาย
xxxxx แล้วเงินที่เหลือเดือนละ 6000บาทจะเอาไปทำอะไร xxxxx
ปัจจุบัน % การจัดการเงินของคุณ
1. ออมเกษียณ เดือนละ 5000บาท คิดเป็น 20% ของเงินเดือน ถ้าเป็นไปได้แนะนำ RMFSET50 เพื่อลดหย่อนภาษี
เงินเกษียณอีกก้อน มาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่บริษัทคุณ
และเงินบำนาญจาก ประกันสังคม คุณเกษียณ ได้เดือนละ ประมาณ 6000-7000บาท
2. ค่าใช้จ่ายรายเดือน 12000บาท คิดเป็น 48% ของเงินเดือน
3. ค่าประกันชีวิตรายเดือน 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน ควรที่จำจะทำนะครับ
4. เหลือเงินออมรายเดือน 6000บาท คิดเป็น 24% ของเงินเดือน โดยแยกดังนี้
4.1 ออมเงินรายเดือนเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน
4.2 ออมเงินรายเดือนเพื่อเก็บเงินสดในบัญชีฉุกเฉิน 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน
4.3 ออมเงินรายเดือนในกองทุนหุ้นปันผล 1000บาท คิดเป็น 4% ของเงินเดือน
เพื่อเงินปันผลตอนเกษียณ
4.4 ออมเงินรายเดือนในกองทุนต่างประเทศHealthcare 1000บาท คิดเป็น 4% ของเงินเดือน
เพื่อตามกระแสเมกาเทรนในระยะยาว และกระจายความเสี่ยงกองทุนหุ้น
ลองอ่านดูนะครับ อาจจะได้ไอเดียในการบริหารจัดการเงินของคุณ
ไม่ได้ให้ทำตามนะครับ เป็นเพียงทางเลือก
ในส่วนของบ้าน ที่ดิน คิดให้ดีก่อนซื้อนะครับ
รถถ้ายังไม่จำเป็น ก็แนะนำอย่าพึ่งครับ
อายุ 40ปี ไม่ได้ถือว่าช้าไปนะครับ
แต่แผนเกษียณถือว่าสำคัญมาก
อย่าลืมหาความรู้เรื่องการวางแผนการเงินการลงทุนนะครับ
โชคดีครับ
อายุ 40ปี
รายได้ 25000บาทต่อเดือน
โบนัสปีละ ประมาณ 1เดือน
ให้ที่บ้าน กับใช้จ่าย รวม 12000บาท
เงินออม รวม 13000บาท
เงินออมแยกเป็น ซื้อกองทุน SET50 หรือหุ้น เดือนละ 5000บาท
เงินออมที่ยังไม่ได้วางแผนทำอะไร เดือนละ 8000บาท
ถ้าตามสัดส่วนนี้ คุณออมเงินประมาณ 50% ของรายได้ต่อเดือนเลยนะครับ เยี่ยมยอด
ตอบคำถามนะครับ
ข้อ 1. คุณลงทุน หุ้นเอง หรือใครแนะนำครับ และลงกองทุน SET50 เดือนละเท่าไร
ถ้าไม่คิดมาก ลดความเสี่ยง ให้ ลงทุน SET50 เดือนละ 5000บาท ไปเรื่อย
ทุกเดือน ไปจนเกษียณ ประมาณ 20ปี (เกษียณ อายุ 60)
น่าจะได้เงินตอนเกษียณ จากกองทุน SET50 ประมาณ 5ล้านบาท
ส่วนเงินลงทุนหุ้น อาจเอาเงินโบนัสมาซื้อหุ้นรายตัวค่อยๆสะสมก็ได้ครับ
ส่วนกองทุนทองคำ ทำใจขายขาดทุนได้เหรอครับ
ถ้าทำใจไม่ได้และไม่ได้รีบร้อน ก็ปล่อยไว้ก่อน
หมายเหตุ การลงทุนใน SET50 ถ้าเป็นกอง RMF ด้วยสามารถเอามาลดหย่อนภาษีได้ด้วย
และเป็นการลงทุนยาว เพื่อการเกษียณโดยแท้จริง
ข้อ 2. เงินสดในบัญชีที่มีไม่ถึงแสน
เงินส่วนนี้ให้ทำเป็นบัญชีเงินฉุกเฉิน
ควรมีเงินสดประมาณ 6เท่า ของเงินเดือน
คือ 25000 x 6 = 150000 บาท
เพื่อความปลอดภัย เผื่อฉุกเฉิน
ถ้าไม่คิดไรมากเรื่องกองทุนทอง
สามารถขาย
และนำเงิน หกหมื่นมาเข้าบัญชีฉุกเฉิน
อาจจะพอดี แสนห้าหรือน้อยกว่าไม่เป็นไรครับ
ถ้าไม่ครบแสนห้า ให้นำเงินออมที่เหลือ
เดือนละ แปดพันค่อยๆ ออมรายเดือน
ในบัญชีฉุกเฉินจนครบ แสนห้า
เท่านี้ก็มีเงินเตรียมฉุกเฉิน เรียบร้อย
ในข้อนี้ ยังไม่อยากให้รีบร้อนลงทุนทั้งหมด
แต่อยากให้เตรียมเงินฉุกเฉินไว้ก่อน
แล้วค่อยลงทุนเพิ่มนะครับ
ข้อ 3. เรื่องลงทุน ในบ้าน คอนโด หรือที่ดิน
น่าจะตึงมือเกินไปไหมครับ
ประเด็นตอนนี้คุณไม่มีหนี้ คนอายุ 40 ไม่มีหนี้ หายากมากครับ
ไม่ต้องกังวลเรื่องบ้าน ที่อยู่กับพ่อแม่
บ้านหลังนั้น คุณคิดว่าพ่อแม่จะยกให้คุณไหม ในอนาคตเป็นของคุณหรือเปล่า
และบ้านหลังนั้นสามารถอยู่อาศัยได้ อีก 40-50ปีไหมครับ
ถ้าคิดว่าบ้านยังไงก็ต้องเป็นของคุณ และยังใช้อาศัยได้อีกหลายสิบปี
แนะนำว่าอยู่หลังนั้นไปก่อน อย่าพึ่งซื้อบ้านครับ
เพราะคิดง่ายๆ ตอนนี้ผ่อนบ้าน 20ปี บ้านล้านนึงผ่อนประมาณ 8-9000บาท มันจะหนักไปสำหรับคุณ
ข้อ 4 . เงินปันผลจากหุ้นทุกปี ให้เอาออกมาลงทุนครับ
อาจเอามาทะยอยลงทุน DCA ในกองทุน RMF LTF ก็ได้ครับ
เพราะได้ปันผลทุกปี ถ้าได้ปีละ หมื่นสอง
ก็ไปทำ DCA เดือนละพัน ไปเรื่อยๆเลยครับ
ข้อ 5. คุณควรทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพ เพื่อช่วยเรื่องเวลาเจ็บป่วย
โดยประกันชีวิตให้ทำแบบชั่วระยะเวลา เบี้ยถูก จ่ายทิ้ง
ล้านละ ประมาณ เจ็ดพัน และทำประกันสุขภาพเสริม
แบบเหมาจ่าย ทุนห้าแสน น่าจะจ่ายเบี้ยประมาณ หมื่นกว่าบาท
ซึ้งประกันทั้งปี น่าจะประมาณ สองหมื่นบาท
คุณก็นำเงินออมที่เหลือ เดือนละ แปดพัน มาหักทำประกันเดือนละ สองพันบาท
เพื่อเป็นการจำกัดความเสี่ยง เวลาป่วยไม่สบาย
xxxxx แล้วเงินที่เหลือเดือนละ 6000บาทจะเอาไปทำอะไร xxxxx
ปัจจุบัน % การจัดการเงินของคุณ
1. ออมเกษียณ เดือนละ 5000บาท คิดเป็น 20% ของเงินเดือน ถ้าเป็นไปได้แนะนำ RMFSET50 เพื่อลดหย่อนภาษี
เงินเกษียณอีกก้อน มาจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่บริษัทคุณ
และเงินบำนาญจาก ประกันสังคม คุณเกษียณ ได้เดือนละ ประมาณ 6000-7000บาท
2. ค่าใช้จ่ายรายเดือน 12000บาท คิดเป็น 48% ของเงินเดือน
3. ค่าประกันชีวิตรายเดือน 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน ควรที่จำจะทำนะครับ
4. เหลือเงินออมรายเดือน 6000บาท คิดเป็น 24% ของเงินเดือน โดยแยกดังนี้
4.1 ออมเงินรายเดือนเพื่อพักผ่อนท่องเที่ยว 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน
4.2 ออมเงินรายเดือนเพื่อเก็บเงินสดในบัญชีฉุกเฉิน 2000บาท คิดเป็น 8% ของเงินเดือน
4.3 ออมเงินรายเดือนในกองทุนหุ้นปันผล 1000บาท คิดเป็น 4% ของเงินเดือน
เพื่อเงินปันผลตอนเกษียณ
4.4 ออมเงินรายเดือนในกองทุนต่างประเทศHealthcare 1000บาท คิดเป็น 4% ของเงินเดือน
เพื่อตามกระแสเมกาเทรนในระยะยาว และกระจายความเสี่ยงกองทุนหุ้น
ลองอ่านดูนะครับ อาจจะได้ไอเดียในการบริหารจัดการเงินของคุณ
ไม่ได้ให้ทำตามนะครับ เป็นเพียงทางเลือก
ในส่วนของบ้าน ที่ดิน คิดให้ดีก่อนซื้อนะครับ
รถถ้ายังไม่จำเป็น ก็แนะนำอย่าพึ่งครับ
อายุ 40ปี ไม่ได้ถือว่าช้าไปนะครับ
แต่แผนเกษียณถือว่าสำคัญมาก
อย่าลืมหาความรู้เรื่องการวางแผนการเงินการลงทุนนะครับ
โชคดีครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอคำแนะนำในการออมเงินหน่อยค่ะ มีใครที่อายุจะ 40 แล้วแต่เงินเดือนยังอยู่ที่ 30,000 บ้างมั้ยคะ
ตอนนี้ถ้าเงินเดือนโดนหักภาษี และกองทุนสำรอง ก็จะเหลือ ประมาณ 25, 000 บาท ต่อเดือน โสดค่ะ ไม่มีภาระ แต่ยังต้องให้เงินพ่อแม่ แต่ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีที่ดินของตัวเอง ตอนนี้อยู่บ้านเก่าของพ่อแม่ค่ะ เพราะคิดว่าจะส่งผ่อนไม่ไหวเลยยังไม่ซื้อบ้านหรือรถ
เราหาหนังสือการออมเงินมาอ่าน แต่ละเล่มส่วนใหญ่จะบอกให้ออมแต่อายุยังน้อย แล้วเก็บเพิ่มตามอายุ และเงินที่เพิ่มขึ้น เรามามองว่าแล้วถ้าเกิดเราอายุ ขนาดนี้แล้ว เงินเดือนยังแค่นี้ จะเก็บอย่างไร ให้เพิ่มไปมากกว่าที่เค้าบอกได้คะ เพราะตามหนังสือเค้าคงประเมินว่า อายุงานเพิ่ม เงินเดือนน่าจะเพิ่ม เท่าที่อ่านอายุขนาดเราควรจะมีเงินเดือนที่ 4 หมื่นอัพ และควรมีเงินออมแต่ละเดือนได้อย่างต่ำก็ต้องหมื่นกว่าบาทต่อเดือนเพื่อจะพอสำหรับตอนเกษียณ แต่สำหรับกรณีแบบเราคือ อายุงานเพิ่ม แต่เงินเดือนไม่ได้เพิ่มเยอะขึ้นเลย แล้วยังมีค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนอีก ตอนนี้อยากมีทรัพย์สินที่เพิ่มมูลค่าได้บ้างค่ะ อยากซื้อ คอนโด หรือที่ดินเพื่อลงทุน ก็ยังคิดหนัก เพราะมีข้อจำกัดของเงิน อยากให้ผู้รู้ ช่วยแนะนำแนวทางให้กับคนที่มีรายได้น้อย แต่อายุขนาดนี้แล้วทีค่ะ ว่าพอมีวิธีใดที่จะสามารถสร้างความมั่นคงให้ตัวเองได้บ้างมั้ยคะ ถ้าไม่เหมาะที่จะซื้อคอนโด ที่ดิน ควรซื้ออะไรดีค่ะ
ขณะนี้รายรับ ต่อเดือนอยู่ที่ 25,000 หลังจากหักภาษีและกองทุนสำรองเลี้ยงชีพแล้ว ให้ทางบ้านอีก 5,000 ซื้อกองทุน เดือนละ 5,000 ส่วนค่าใช้จ่าย ค่ากิน ค่าโทรศัพท์ จะประมาณ 7,000 ต่อเดือน
เหลืออีก 7,000-8,000 บาทต่อเดือน อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้นิดหน่อย แล้วแต่เดือนว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรเพิ่มหรือไม่
เนื่องจากประเด็นคืออยากมีเงินใช้สำหรับตอนเกษียณแบบไม่ลำบาก แต่ ณ ตอนนี้ ก็ยังอยากมีเงินสดไว้ใช้ยามฉุกเฉินและสำหรับไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง แต่ด้วยเงินเดือนน้อยอย่างที่บอกอะค่ะ เลยไม่รู้จะเริ่มอะไรอย่างไรดี ถ้าจะเก็บเยอะไว้เพื่อยามเกษียณ เราก็คิดว่าอาจจะไม่พอเก็บไว้ใช้ตอนนี้ หรือถ้ามีไว้ใช้ตอนนี้ก็เกรงว่าจะเก็บเงินไม่ทันพอใช้ตอนเกษียณ เพราะอายุที่เพิ่มขึ้น สิ่งที่อยากขอคำแนะนำและสงสัยคือตามนี้เลยค่ะ
1 เงินออมตอนนี้เอาไปซื้อกองทุน กับหุ้นค่ะ เงินที่อยู่ในกองทุนเซท 50 และหุ้นที่ซื้อรายตัวที่สะสมมา 4 – 5 ปี ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 5 แสนบบาทไม่เคยถอน ส่วนกองทุนทองคำที่ซื้อไว้เหลือ 6 หมื่นกว่าบาท ตอนนี้ขาดทุนอยู่หมื่นกว่าเกือบสองหมื่นบาท ควรตัดใจยอมขายทิ้งดีมั้ยคะ
2 เนื่องจากเงินสดจะไม่ค่อยมีเยอะในบัญชี มีไม่ถึงแสนค่ะ แต่อยู่ในหุ้น กองทุน ทองคำ โดยแต่ละเดือนจะหักไปซื้อกองทุนหุ้น เดือนละ 5000 บาท อยากถามว่า ควรจะซื้ออะไรเพิ่มที่นอกจากหุ้น หรือกองทุน ด้วยเงินที่เหลือแต่ละเดือน 7-8 พันบาท ควรซื้อคอนโด ที่ดิน เป็นของตัวเองเพื่อการลงทุนมั้ยคะ เพราะอายุขนาดนี้แล้ว แต่เงินเดือนยังแค่นี้ จะกู้ จะติดอะไรมั้ย เนื่องจากเงินสดในบัญชีไม่ได้มีเยอะ หรือคิดว่าลงทุนกับการซื้อกองทุน อื่นเพิ่มดีกว่า ส่วนประกันชีวิต ไม่ชอบการเก็บระยะยาวแบบสิบปีค่ะ เลยไม่ซื้อ
3 .กรณีที่หากต้องการซื้อคอนโด หรือที่ดิน แต่เนื่องจากออมแต่ในกองทุนกับหุ้นมาตลอดไม่เคยขาย ถ้าเราต้องการเงินจำนวนหนึ่งไปซื้อคอนโด หรือที่ดิน เราควรขายกองทุนที่เก็บมาออกมาซื้อมั้ยคะ หรือควรเก็บต่อไปในกองทุนทบต้นไปเรื่อยๆ ดีกว่า เพราะไม่แน่ใจว่าอายุขนาดนี้กับเงินเดือนแค่นี้ ถ้าซื้อคอนโดจะผ่อนต่อได้หมดก่อนเกษียณ หรือไม่
4. ด้วยหุ้นบางตัวที่ซื้อมาจะมีปันผลแต่ละปี แต่จะไม่เคยถอนออกมาใช้เลย เพราะคิดว่าจะลงหุ้นไปก่อน แบบนี้ดีหรือไม่คะ หรือว่าควรเอาเงินปันผลที่ได้มาแยกอีกบัญชี เพื่อออมไว้เป็นเงินสดใช้จ่ายยามฉุกเฉิน
5. สุดท้ายค่ะ อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีค่ะ ว่าควรจัดสรรการออมใหม่อย่างไรดี ด้วยเงินเดือนที่เหลือ 7-8 พันต่อเดือน เพื่อให้เงินเพิ่มขึ้นกว่านี้ได้เยอะก่อนจะเกษียณ และสามารถมีเงินสดไว้ สำหรับ ไปพักผ่อน หรือเป็นค่าหมอ หรือยามฉุกเฉินได้ เพราะรู้สึกว่า ตัวเองไปลงกับกองทุนและหุ้นหมด เงินสดเลยไม่ค่อยมี หรือพอมีใครที่ตอนนี้มีวิธีเก็บเงินอย่างไร แบ่งส่วนอย่างไร ช่วยแนะนำให้ทีนะคะ เช่น แบ่งออมกี่เปอเซนต์ แบ่งใช้กี่เปอเซนต์ แบ่งไว้ไปเที่ยวพักผ่อน แบ่งสำหรับค่าหมอค่ายา กรณีฉุกเฉิน แบ่งใช้ยามเกษียณกี่เปอเซนต์ คือเนื่องจากมานั่งคิดๆ เงินเดือนเราจำกัดอยู่แค่นี้ จะให้แบ่งแต่ละส่วนมันก็รู้สึกว่ากะจิ๊ดริ๊ดมากเลยค่ะ เลยแบ่งไม่ถูกอ่ะค่ะ
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำของทุกท่านล่วงหน้านะคะ