เห็นทู้ข้างล่างเรื่องรถแพงมองดูถูดรถถูก พอดีไปอ่านเจอบทความในหน้าเฟชหน้านึงมา เลยนึกว่าจะปั่นจักรยานนี่มันต้องคิดมากขนาดนั้นเลยรึ
10 ลุคดูโปร
วันนี้เป็นบทความเบาๆกัน้าง พักเรื่องเทคนิค สาระความร็มาดูเรื่องท่าทีและการวางตัวของนักปั่นอย่างไรไม่ให้ดูแล้วเป็น "มือใหม่"
นักปั่นหลายๆท่านปั่นมาก็แล้วหลายเดือน บางท่านปั่นมาเป็นปีแต่ยังไม่ดูท่าทีเป็นโปรกับเค้าได้เสียที ลองมาดูนะครับว่า อะไรกันที่เป็นตัวบ่งบอกว่าท่านยังไม่มี"ราศี"สลัดคราบมือใหม่ออกไป
1.เหน็บแว่นกันแดดที่คอเสื้อ
แว่นกันแดดจัดเป็นของคู่กับนักปั่น และเวลาที่นักปั่นไม่ใส่แว่นกันแดดเพื่อเข้าร่ม ไม่ว่าจะจุดพักหรือซื้อของ หรือยืนรวมตัวกันใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ นักปั่นมือใหม่จะนิยมเอาแว่นออกมาเกี่ยวไว้ที่คอเสื้อด้านหน้า หรือยัดใส่กระเป๋าหลัง ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่โปรเอาเสียเลย ลองถอดแว่นออกจากหน้าแล้วเปลี่ยนไปเสียบเอาไว้กับหมวกกันน็อค ใส่ขาแว่นเข้าไปในรอองหมวก หามุมเหมาะๆพลิกคว่ำ หงาย มันต้องมีสักมุมที่เสียบได้แน่นอน
2.ท่าเดินจูงจักรยานแบบมือใหม่
ท่าจูงจักรยานที่มีราศีโปรมากที่สุดคือการจับจักรยานเอาไว้ข้างตัวด้วยมือเดียว เอามือจับที่เบาะที่นั่งและดันไปพร้อมๆกับเดินไปด้านหน้า ควบคุมให้รถวิ่งตรงหรือเลี้ยวด้วยมือข้างเดียวเท่านั้น มันดูแล้วแสดงว่ารถท่านมีคอที่แน่น นิ่ง และรู้จักสมดุลย์ของรถดีกว่าการเดินจูงจักรยานด้วยสองมือประคองแฮนด์เอาไว้ มาก
3.จอดรถจักรยานพิงหรือตั้งกับข้างทาง
จักรยานดีๆของพวกเราไม่มีขาตั้ง และเทคนิคการจอดจักรยานให้โปรก็ดูแล้วแบ่งแยกมือใหม่ได้ไม่ยาก มือใหม่มักจะจอดรถพิงกับเสา กำแพง ผนัง ต้นไม้โดยเอาตัวเฟรมิเอาไว้ แต่นักปั่นมีประสพการณ์จะพิงโดยที่จุดสัมผัสมีเพียงแฮนด์และเบาะเทา่นั้นเพื่อไม่ให้รถเป็นรอย หรือการจอดรถโดยที่ใช้บันไดรถนั่นแหละเป็นขาตั้งกับขอบฟุตบาทก็เป็นการจอดรถที่มือใหม่หลายๆคนทำไม่เป็น
4.ท่าขี่จักรยานแบบมือใหม่หัดปั่น
มือใหม่หัดปั่นจะมีท่าขี่จักรยานเฉพาะตัว เบาะจะเตี้ยวกว่าปกติเพราะกลัวว่าขาจะแตะไม่ถึงพื้น เข่าจะแบะออกด้านนอก ทำให้ขาดูอ้า แขนจองไหล่รับน้ำหนัก ชะโงกหัวตั้งตรงมองทางด้านหน้า ผิดกับนักปั่นที่โปรแล้วจะเก็บเข่าเข้าด้านใน งอศอก เก็บไหล่และก้มหัวลงเล็กน้อยเพราะลดพื้นที่ประทะลมให้ไ้มากที่สุด
5.เมื่อปั่นทางไกล มือใหม่จะ..อด...ทน...
นักปั่นมือใหม่จะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นมือใหม่เมื่อปั่นระยะทางไกลๆ เช่นระยะ 70-100 กม. อาจไปตลอดเส้นทางด้วยน้ำดื่มเพียงขวดเดียว ไม่เติม ไม่มีอาหาร ไม่มีเกลือแร่ติดตัว อาศัยความมุ่งมั่นและอดทนเข้าเ)็นอาวุธหลัก ในขณะที่นักปั่นมีประสพการณ์จะเตรียมพร้อมทั้งอาหารและน้ำดื่มครบครันเต็มไปหมด หรือถ้าจะโปรกว่านั้นก็จะมาพร้อมเป็นทีมงานมีรถตามคอยเซอร์วิสให้ เพราะอาหาร และน้ำที่พร้อมหมายถึงศัพยภาพของการปั่นที่ยอดเยี่ยม
6.หมวกกันน็ฮคก็บอกความเป็นมือใหม่ได้นะ
ลองสังเกตุตัวเองดูนะครับว่าเวลาใส่หมวกกันน็อคแล้วหมวกเชิด แหงน เปิดหน้าผากโล่งๆ หรือหมวกอยู่เหนือแนวคิ้วพอดี รัดสายกระชับแต่ไม่ตึง หมวกแน่นด้วยตัวปรับความติงพอดี มือใหม่ส่วนมากจะปรับความตึงของสายรัดคาง แต่ลืมปรับมุมองศาของหมวก เมื่อรัดทุกอย่างเข้าที่หมวกจะเชิด เต่อ เปิดหน้าผากโชว์โหงวเฮ้งเด่นมาแต่ไกล
7.หนูใส่ กกน. มานะจ๊ะวันนี้
ถึงแม้จะไม่สามารถเปิดดูได้ แต่นักปั่นมือใหม่เกือบจะร้อยทั้งร้อย ไม่กล้าใส่กางเกงปั่นจักรยาน และเชื่อว่าต้องใส่กางเกงชั้นใน ทว่าความเป็นจริงกางเกงจักรยานถูกออกแบบมาให้ใส่โดยไม่ต้องมีชั้นในเพื่อให้เป้าที่ออกแบบมารองรับสรีระส่วนเร้นลับรองรับกระชับและระบายเหงื่อได้ดี รวมถึงอันตรายจากตะเข็บและขอบกางเกงชั้นในสามารถบาด ครูด ขาหนีบจนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายมากๆอีกด้วย
8.โซ่เยิ้มและรอยดำบนน่องด้านขวา
นักปั่นมือใหม่จะเชื่อว่าโซ่ที่หยอดน้ำมันจนเยิ้ม ดำ จะลื่นและดูแลรักษาได้ดี และบ่อยครั้งที่น่องด้านขวาจะมีรอยโซ่ของตนเองติดอยู่เวลาที่ยืนคร่อมบนจักรยานแล้วขาด้านขวาไปโดนโซ่ โซ่จักรนยานที่ดีคือโซ่ที่ยหอดน้ำมัน รอจนน้ำมันเข้าไปโชลมข้อต่อโซ่แล้วเช็ดออก เมื่อใช้ไปได้สักพักก็ล้างและใส่ใหม่ ดังนั้นโซ่ที่แห้ง ใส ยิ่งสะท้อนเงาวับเหมือนใหม่กลับยิ่งบ่งบอกว่าคนๆนั้นดูแลรถได้ดีเยี่ยม
9.ชุดปั่นทีมโปรเต็มยศ หัวจรดเท้า
ยิ่งถ้ารถและชุดปั่นใหม่เอี่ยม ปีล่าสุด เข้าคู่กัน ยิ่งบ่งบอกว่านักปั่นคนนั้นน่าจะมีอายุการปั่นไม่นานเกิน 1 ปี ลองสังเกตุดีๆมือเก่าๆมักจะใส่ชุดปั่นทีมเก่าๆ ชุดปั่นและรถไม่เข้าคู่กัน เนื่องจากเปลี่ยนรถ และชุดมาแล้วหลายต่อหลายชุด ทีมจักรยานเองก็มีเวียนว่ายตายเกิดอยู่เสมอ ใครใส่เสื้อปั่นจักรยานทีมไม่คุ้นอย่าง MAPEI, ONCE เดินมาใกล้ๆ ราศีจะบ่งบอกได้เลยว่านี่เป็นนักปั่นยุคเก๋าแน่นอน มือใหม่หลีกเลี่ยงชุดทีมดังปีล่าสุดครบตั้งแต่หัวจรดเท้า กับรถคู่ใจสีทีมได้เลย หันไปมองหาเสื้อเก่ามือสองมาใส่ แล้วจะดูเก๋าขึ้นทันที
10.จักรยานเหมือนเป็นโซฟานั่งเล่น
นักปั่นเก๋าระดับประสพการณ์นานปีจะทำทุกอย่างบนจักรยานได้โดยไม่ดูเก้ๆกังๆ ทั้งดื่มน้ำ หยิบของในกระเป๋าหลัง รูดซิปเสื้อ คว้าเอาเสื้อมาใส่ เปลี่ยนถุงมือ ล้างหน้า กินอาหาร แม้แต่ขี่จักรยานไปเอื้อมมือลงไปปรับสายเกียร์ไปด้วยก็ยังทำได้ ในขณะที่มือใหม่ๆจะเก้ๆกังๆ และส่ายไปมาเสมอแม้แต่แค่หยิบขวดน้ำดื่ม ดังนั้นอันดับแรก ลองขี่และทำตัวให้นิ่ง ชิล และราศีมือใหม่จะหายไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าสามารถคุมรถได้ดั่งใจ หยิบของจากหลังได้ แกะขนมกินโดยที่รถไม่ส่ายไปมา คนรอบข้างจะรับรู้ได้ทันทีว่าคุณไม่ใช่มือใหม่
....ลองสำรวจตัวเองดูนะครับว่าตอนนี้ยังเหลือคราบมือใหม่อยู่อีกกี่ข้อ และทำอย่างไรจะสลัดคราบมือใหม่ให้หายไป อาจจะดูแล้วตลกขบขันไปบ้าง แต่สำหรับนักปั่นมือเก่าๆหลายๆคน ใช้ข้อสังเกตุเหล่นี้ในการระบุตัวมือใหม่ที่ดูแล้วอาจก่อนให้เกิดอันตรายในการปั่นกลุ่มและเอาตัวเองออกห่าง เพราะมือใหม่ๆที่กำลังพยายามจะแรงคือปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง
ปั่นจักรยานี่มันต้องคิดมากขนาดนี้เลยหรือครับเนี่ย
10 ลุคดูโปร
วันนี้เป็นบทความเบาๆกัน้าง พักเรื่องเทคนิค สาระความร็มาดูเรื่องท่าทีและการวางตัวของนักปั่นอย่างไรไม่ให้ดูแล้วเป็น "มือใหม่"
นักปั่นหลายๆท่านปั่นมาก็แล้วหลายเดือน บางท่านปั่นมาเป็นปีแต่ยังไม่ดูท่าทีเป็นโปรกับเค้าได้เสียที ลองมาดูนะครับว่า อะไรกันที่เป็นตัวบ่งบอกว่าท่านยังไม่มี"ราศี"สลัดคราบมือใหม่ออกไป
1.เหน็บแว่นกันแดดที่คอเสื้อ
แว่นกันแดดจัดเป็นของคู่กับนักปั่น และเวลาที่นักปั่นไม่ใส่แว่นกันแดดเพื่อเข้าร่ม ไม่ว่าจะจุดพักหรือซื้อของ หรือยืนรวมตัวกันใต้ร่มไม้ขนาดใหญ่ นักปั่นมือใหม่จะนิยมเอาแว่นออกมาเกี่ยวไว้ที่คอเสื้อด้านหน้า หรือยัดใส่กระเป๋าหลัง ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่โปรเอาเสียเลย ลองถอดแว่นออกจากหน้าแล้วเปลี่ยนไปเสียบเอาไว้กับหมวกกันน็อค ใส่ขาแว่นเข้าไปในรอองหมวก หามุมเหมาะๆพลิกคว่ำ หงาย มันต้องมีสักมุมที่เสียบได้แน่นอน
2.ท่าเดินจูงจักรยานแบบมือใหม่
ท่าจูงจักรยานที่มีราศีโปรมากที่สุดคือการจับจักรยานเอาไว้ข้างตัวด้วยมือเดียว เอามือจับที่เบาะที่นั่งและดันไปพร้อมๆกับเดินไปด้านหน้า ควบคุมให้รถวิ่งตรงหรือเลี้ยวด้วยมือข้างเดียวเท่านั้น มันดูแล้วแสดงว่ารถท่านมีคอที่แน่น นิ่ง และรู้จักสมดุลย์ของรถดีกว่าการเดินจูงจักรยานด้วยสองมือประคองแฮนด์เอาไว้ มาก
3.จอดรถจักรยานพิงหรือตั้งกับข้างทาง
จักรยานดีๆของพวกเราไม่มีขาตั้ง และเทคนิคการจอดจักรยานให้โปรก็ดูแล้วแบ่งแยกมือใหม่ได้ไม่ยาก มือใหม่มักจะจอดรถพิงกับเสา กำแพง ผนัง ต้นไม้โดยเอาตัวเฟรมิเอาไว้ แต่นักปั่นมีประสพการณ์จะพิงโดยที่จุดสัมผัสมีเพียงแฮนด์และเบาะเทา่นั้นเพื่อไม่ให้รถเป็นรอย หรือการจอดรถโดยที่ใช้บันไดรถนั่นแหละเป็นขาตั้งกับขอบฟุตบาทก็เป็นการจอดรถที่มือใหม่หลายๆคนทำไม่เป็น
4.ท่าขี่จักรยานแบบมือใหม่หัดปั่น
มือใหม่หัดปั่นจะมีท่าขี่จักรยานเฉพาะตัว เบาะจะเตี้ยวกว่าปกติเพราะกลัวว่าขาจะแตะไม่ถึงพื้น เข่าจะแบะออกด้านนอก ทำให้ขาดูอ้า แขนจองไหล่รับน้ำหนัก ชะโงกหัวตั้งตรงมองทางด้านหน้า ผิดกับนักปั่นที่โปรแล้วจะเก็บเข่าเข้าด้านใน งอศอก เก็บไหล่และก้มหัวลงเล็กน้อยเพราะลดพื้นที่ประทะลมให้ไ้มากที่สุด
5.เมื่อปั่นทางไกล มือใหม่จะ..อด...ทน...
นักปั่นมือใหม่จะแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเป็นมือใหม่เมื่อปั่นระยะทางไกลๆ เช่นระยะ 70-100 กม. อาจไปตลอดเส้นทางด้วยน้ำดื่มเพียงขวดเดียว ไม่เติม ไม่มีอาหาร ไม่มีเกลือแร่ติดตัว อาศัยความมุ่งมั่นและอดทนเข้าเ)็นอาวุธหลัก ในขณะที่นักปั่นมีประสพการณ์จะเตรียมพร้อมทั้งอาหารและน้ำดื่มครบครันเต็มไปหมด หรือถ้าจะโปรกว่านั้นก็จะมาพร้อมเป็นทีมงานมีรถตามคอยเซอร์วิสให้ เพราะอาหาร และน้ำที่พร้อมหมายถึงศัพยภาพของการปั่นที่ยอดเยี่ยม
6.หมวกกันน็ฮคก็บอกความเป็นมือใหม่ได้นะ
ลองสังเกตุตัวเองดูนะครับว่าเวลาใส่หมวกกันน็อคแล้วหมวกเชิด แหงน เปิดหน้าผากโล่งๆ หรือหมวกอยู่เหนือแนวคิ้วพอดี รัดสายกระชับแต่ไม่ตึง หมวกแน่นด้วยตัวปรับความติงพอดี มือใหม่ส่วนมากจะปรับความตึงของสายรัดคาง แต่ลืมปรับมุมองศาของหมวก เมื่อรัดทุกอย่างเข้าที่หมวกจะเชิด เต่อ เปิดหน้าผากโชว์โหงวเฮ้งเด่นมาแต่ไกล
7.หนูใส่ กกน. มานะจ๊ะวันนี้
ถึงแม้จะไม่สามารถเปิดดูได้ แต่นักปั่นมือใหม่เกือบจะร้อยทั้งร้อย ไม่กล้าใส่กางเกงปั่นจักรยาน และเชื่อว่าต้องใส่กางเกงชั้นใน ทว่าความเป็นจริงกางเกงจักรยานถูกออกแบบมาให้ใส่โดยไม่ต้องมีชั้นในเพื่อให้เป้าที่ออกแบบมารองรับสรีระส่วนเร้นลับรองรับกระชับและระบายเหงื่อได้ดี รวมถึงอันตรายจากตะเข็บและขอบกางเกงชั้นในสามารถบาด ครูด ขาหนีบจนเกิดอาการบาดเจ็บได้ง่ายมากๆอีกด้วย
8.โซ่เยิ้มและรอยดำบนน่องด้านขวา
นักปั่นมือใหม่จะเชื่อว่าโซ่ที่หยอดน้ำมันจนเยิ้ม ดำ จะลื่นและดูแลรักษาได้ดี และบ่อยครั้งที่น่องด้านขวาจะมีรอยโซ่ของตนเองติดอยู่เวลาที่ยืนคร่อมบนจักรยานแล้วขาด้านขวาไปโดนโซ่ โซ่จักรนยานที่ดีคือโซ่ที่ยหอดน้ำมัน รอจนน้ำมันเข้าไปโชลมข้อต่อโซ่แล้วเช็ดออก เมื่อใช้ไปได้สักพักก็ล้างและใส่ใหม่ ดังนั้นโซ่ที่แห้ง ใส ยิ่งสะท้อนเงาวับเหมือนใหม่กลับยิ่งบ่งบอกว่าคนๆนั้นดูแลรถได้ดีเยี่ยม
9.ชุดปั่นทีมโปรเต็มยศ หัวจรดเท้า
ยิ่งถ้ารถและชุดปั่นใหม่เอี่ยม ปีล่าสุด เข้าคู่กัน ยิ่งบ่งบอกว่านักปั่นคนนั้นน่าจะมีอายุการปั่นไม่นานเกิน 1 ปี ลองสังเกตุดีๆมือเก่าๆมักจะใส่ชุดปั่นทีมเก่าๆ ชุดปั่นและรถไม่เข้าคู่กัน เนื่องจากเปลี่ยนรถ และชุดมาแล้วหลายต่อหลายชุด ทีมจักรยานเองก็มีเวียนว่ายตายเกิดอยู่เสมอ ใครใส่เสื้อปั่นจักรยานทีมไม่คุ้นอย่าง MAPEI, ONCE เดินมาใกล้ๆ ราศีจะบ่งบอกได้เลยว่านี่เป็นนักปั่นยุคเก๋าแน่นอน มือใหม่หลีกเลี่ยงชุดทีมดังปีล่าสุดครบตั้งแต่หัวจรดเท้า กับรถคู่ใจสีทีมได้เลย หันไปมองหาเสื้อเก่ามือสองมาใส่ แล้วจะดูเก๋าขึ้นทันที
10.จักรยานเหมือนเป็นโซฟานั่งเล่น
นักปั่นเก๋าระดับประสพการณ์นานปีจะทำทุกอย่างบนจักรยานได้โดยไม่ดูเก้ๆกังๆ ทั้งดื่มน้ำ หยิบของในกระเป๋าหลัง รูดซิปเสื้อ คว้าเอาเสื้อมาใส่ เปลี่ยนถุงมือ ล้างหน้า กินอาหาร แม้แต่ขี่จักรยานไปเอื้อมมือลงไปปรับสายเกียร์ไปด้วยก็ยังทำได้ ในขณะที่มือใหม่ๆจะเก้ๆกังๆ และส่ายไปมาเสมอแม้แต่แค่หยิบขวดน้ำดื่ม ดังนั้นอันดับแรก ลองขี่และทำตัวให้นิ่ง ชิล และราศีมือใหม่จะหายไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งถ้าสามารถคุมรถได้ดั่งใจ หยิบของจากหลังได้ แกะขนมกินโดยที่รถไม่ส่ายไปมา คนรอบข้างจะรับรู้ได้ทันทีว่าคุณไม่ใช่มือใหม่
....ลองสำรวจตัวเองดูนะครับว่าตอนนี้ยังเหลือคราบมือใหม่อยู่อีกกี่ข้อ และทำอย่างไรจะสลัดคราบมือใหม่ให้หายไป อาจจะดูแล้วตลกขบขันไปบ้าง แต่สำหรับนักปั่นมือเก่าๆหลายๆคน ใช้ข้อสังเกตุเหล่นี้ในการระบุตัวมือใหม่ที่ดูแล้วอาจก่อนให้เกิดอันตรายในการปั่นกลุ่มและเอาตัวเองออกห่าง เพราะมือใหม่ๆที่กำลังพยายามจะแรงคือปัจจัยเสี่ยงสำคัญของการเกิดอุบัติเหตุนั่นเอง