สวัสดีครับ ผมเรียนรู้การทำรถมาสักพักนึง เเต่ก็อยากจะรู้ว่า
-รถมีอัตราทดขั้นต้น เฟืองขับที่ได้จากการหมุนข้อเหวี่ยงโดยตรง ไป หมุนชุดคลัทซ์
ซึ่งตรงนี้ของผมได้ค่า 3.2 กว่าๆ //ตีกลมๆให้ 3 นะครับ//
-จากนั้นชุดคลัทซ์ คือราวเกียร์นำ ไปปั่นเกียร์ตาม ยกตัวอย่างผมให้เกียร์ 1 รถผมมีอัตราทดราวๆ 3 กว่าๆ //ตีกลมๆ 3 เช่นกัน//
เท่ากับว่า เฟืองขับหมุน 3 เกียร์นำถึงจะหมุน 1
จากนั้นราวเกียร์ตาม คือเกียร์ 1 อัตราทด 3 กว่า เฟืองนำต้องหมุนให้ได้ 3 เฟืองตามจึงจะหมุน 1
เท่ากับว่าจะให้เฟืองนำหมุน 3 เฟืองขับตัวแรกต้องหมุนถึง 9 รอบ
-จากนั้นราวเกียร์ตามก็คือ โซ่สเตอร์หน้า ไปปั่น โซ่สเตอร์หลังอีกครั้ง โดยล้อหมุน 1 รอบ เท่ากับสเตอร์หมุน 1 รอบพอดีเช่นกัน
โดยโซ่ สเตอร์คือ 15/46
เท่ากับ 3.06 ตีเป็น 3
เท่ากับว่าเฟืองตัวแรกหมุนถึง 27 + - รอบ ล้อหลังถึงจะหมุนรอบเดียว
คำถามคือเราได้ประโยชน์อะไรจากการทดมากมายขนาดนี้ เเละ ทำไมถึงไม่ทำระบบอัตราทดขั้นสุดท้ายเป็น 1/1 ไปเลย เช่น โซ่ สเตอร์ ใส่เป็น 15/15 แบบนี้ คำถามคืแอ ทดที่เกียร์มาเเล้วทำไมต้องทดล้อหลังอีก
เเล้วเวลาสร้างรถมา เขาคิดเกียร์ก่อนเเล้วไล่สเตอร์ที่หลังไหมครับ พวกวิศวกร คิดอย่างไร
ทำไมต้องมีอัตราทดขั้นสุดท้าย
-รถมีอัตราทดขั้นต้น เฟืองขับที่ได้จากการหมุนข้อเหวี่ยงโดยตรง ไป หมุนชุดคลัทซ์
ซึ่งตรงนี้ของผมได้ค่า 3.2 กว่าๆ //ตีกลมๆให้ 3 นะครับ//
-จากนั้นชุดคลัทซ์ คือราวเกียร์นำ ไปปั่นเกียร์ตาม ยกตัวอย่างผมให้เกียร์ 1 รถผมมีอัตราทดราวๆ 3 กว่าๆ //ตีกลมๆ 3 เช่นกัน//
เท่ากับว่า เฟืองขับหมุน 3 เกียร์นำถึงจะหมุน 1
จากนั้นราวเกียร์ตาม คือเกียร์ 1 อัตราทด 3 กว่า เฟืองนำต้องหมุนให้ได้ 3 เฟืองตามจึงจะหมุน 1
เท่ากับว่าจะให้เฟืองนำหมุน 3 เฟืองขับตัวแรกต้องหมุนถึง 9 รอบ
-จากนั้นราวเกียร์ตามก็คือ โซ่สเตอร์หน้า ไปปั่น โซ่สเตอร์หลังอีกครั้ง โดยล้อหมุน 1 รอบ เท่ากับสเตอร์หมุน 1 รอบพอดีเช่นกัน
โดยโซ่ สเตอร์คือ 15/46
เท่ากับ 3.06 ตีเป็น 3
เท่ากับว่าเฟืองตัวแรกหมุนถึง 27 + - รอบ ล้อหลังถึงจะหมุนรอบเดียว
คำถามคือเราได้ประโยชน์อะไรจากการทดมากมายขนาดนี้ เเละ ทำไมถึงไม่ทำระบบอัตราทดขั้นสุดท้ายเป็น 1/1 ไปเลย เช่น โซ่ สเตอร์ ใส่เป็น 15/15 แบบนี้ คำถามคืแอ ทดที่เกียร์มาเเล้วทำไมต้องทดล้อหลังอีก
เเล้วเวลาสร้างรถมา เขาคิดเกียร์ก่อนเเล้วไล่สเตอร์ที่หลังไหมครับ พวกวิศวกร คิดอย่างไร