ผมนับถือศาสนาคริสต์

ในวัยเด็กสมัยประถม ป.1 – ป.6 ผมเรียนในรร.คริสต์ รร.อยู่ภายในวัดคริสต์ กิจวัตรประจำวันทุกวัน ตอนเช้าบ่ายและเย็นต้องสวดมนต์ของคริสต์ เรียนเกี่ยวกับคำสอนศาสนาคริสต์  ไม่เคยได้เรียนเกี่ยวกับศาสนาพุทธเลย รู้แต่ว่าคนไทยส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ  ในช่วง 6 ปีที่เรียนระดับประถม ตอนนั้นผมมีความเชื่อในศาสนาคริสต์ไปแล้ว

ตอนขึ้น ม.1 ผมย้ายเรียนที่ รร.รัฐบาลแห่งหนึ่ง ตอนม.1 มีวิชาที่มีชื่อว่าวิชาพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นวิชาบังคับ นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้เรียนเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ผมรู้จักศีล5 ท่องนะโมได้ครั้งแรกตอนอยู่ม.1 ตอนนั้นผมมีความสับสนอยู่ในหัวเป็นอย่างมากเรื่องภาษาบาลี ในข้อสอบที่ให้ผมท่องและเขียนศีล5 เป็นภาษาบาลีพร้อมกับความหมาย  ผมและเพื่อนคนอื่นๆที่ไม่ได้นับถือพุทธ เคยนั่งพูดคุยกันว่า ทำไมหลักสูตรต้องบังคับให้เราเรียนหลักสูตรต่างศาสนาที่เราไม่ได้นับถือ ต้องท่องจำเกี่ยวกับศาสนาพุทธ เช่น วันสำคัญต่างตรงกับขึ้นอะไร แรมอะไร มีพระสงฆ์กี่รูป เกิดอะไรบ้าง มีเหตุการณ์สำคัญเกิดอะไรขึ้นบ้าง อริยสัจ4 คืออะไร ฯลฯ

ผมเคยถามเพื่อนหลายคนและคนรอบข้างหลายคนว่า ท่องบทสวดนะโมได้มั้ย? ร้อยทั้งร้อยตอบมาว่าได้ ถามต่อไปว่าบทสวดนะโมแปลว่าอะไร? ปรากฏไม่มีใครสักคนตอบความหมายได้เลย  สุดท้ายผมมารู้ความหมายของบทสวดนะโมจากกูเกิล

เมื่ออายุครบ 15 ปี ถึงคราวที่ผมได้ทำบัตรประชาชน เจ้าหน้าที่ถามผมว่านับถือศาสนาอะไรเพื่อพิมพ์ไว้ที่หน้าบัตร ผมตอบทันทีเลยครับว่าศาสนาคริสต์

ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ผมเจอเหตุการณ์ต่างๆมากมาย อยากจะบอกคนที่นับถือต่างศาสนาจากผมว่า

- ผมบอกไปว่าผมนับถือคริสต์ หลายคนไม่เชื่อว่าผมไม่ได้นับถือคริสต์ จนผมต้องควักบัตรประชาชนให้ดูหน้าบัตรที่พิมพ์ระบุศาสนาไว้  ที่ผ่านมาผมควักบัตรให้คนดูเชื่อเพราะขี้เกียจเถียงไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องไม่เชื่อกันนะ เชื่อกันบ้างเถอะครับ

- เลิกเอาชื่อศาสนามาล้อซะทีเถอะ เช่น นับถือคริสต์หรอ? น่าจะเป็น คิดมาก! นะ

- เลิกคะยั้นคะยอเอาซองใส่เงินของศาสนาคุณมาบังคับให้ผมใส่เหอะ ถ้าผมอยากใส่ให้ศาสนาคุณผมก็จะรับ แต่ถ้าผมไม่รับก็แสดงว่าไม่อยากใส่ อย่าคะยั้นคะยอเลย

- สถานที่บางที่ในกิจกรรมบางอย่าง บังคับให้ผมนั่งขัดสมาดทำสมาธิ สูดลมหายใจเข้า ท่อง... ปล่อยลมหายใจออก ท่อง..... >> น่าจะถามกันก่อน ไม่ใช่ให้ทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมนี้กันหมด

ที่เขียนไม่ได้มีเจตนาลบหลู่หรือให้เกิดความรู้สึกในทางลบใดๆทั้งสิ้น (แต่ถ้าเกิดผมก็ขอโทษล่วงหน้า) นี่คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในชีวิตของผม

ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่