ขอคัดลอกข่าว จากหลายแหล่งมาลงครับ
นที่ 29 เม.ย.58 ตูม บึม เปรี้ยง คือเสียงระงม จากความรุนแรง ในอเมริกายามนี้
ใครไปเมืองบัลติมอร์ ที่มีประชากร 6 แสนคน รัฐแมรี่แลนด์ ที่ห่างจากวอชิงตัน เมืองหลวง อเมริกา ไปแค่ราว 64 กม.เท่านั้น อาจคิดว่าตนเอง อยู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ ทั้งเมืองเต็มไปด้วยทหารอาวุธหนักครบมือ ที่ยึดเมืองไปแล้ว
รถฮัมวี่ รถหุ้มเกราะ วิ่งกันขวักไขว่เต็มเมือง และประชาชนก็ไม่สนใจประกาศสภาวะฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านของทางการ ต่างออกมาบนท้องถนน เผาบ้านเผาเมือง อาคารร้านค้า มากกว่าเดิมก่อนประกาศฯ เสียอีก..อ้าว !! ควันโขมงเต็มท้องฟ้าสีดำ ในหลายจุด จนเจ้าที่ดับเพลิงอ่อนล้า
ม็อบออกมาไม่มามือเปล่า มีการใช้ประทัดยักษ์ ประเคนใส่ตำรวจ และทหารไม่ยั้ง และม็อบยังใส่หน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา และป้องกันสเปรย์พริกไทย ของเจ้าหน้าที่อีกต่างหาก..เออ..เอาซิ
เอาไม่อยู่แล้วบัลติมอร์! พัฒนาเป็น "Baltimore Uprising" ลามไปถึงนิวยอร์กและดีซีแล้วกำลังลามไปทั่วสหรัฐฯ
----------------
ยังไงหละนี่? แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและมีการจับกุมประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 235 คน และมีปล่อยตัวออกมาบางส่วนประมาณ 101 คน แต่ในช่วงกลางวันนั้นกลุ่มผู้ประท้วงก็ได้รวมตัวกันใหม่ ไม่ใช่มีแต่คนผิวดำเท่านั้น แต่มีคนผิวขาวเข้าร่วมประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมเป็นจำนวนมากด้วย shut down เมืองบัลติมอร์ไปแล้ว ยิ่งทางรัฐบาลและกองทัพของสหรัฐฯใช้ยาแรงเท่าไร ดูเหมือนว่าผลที่ตามมาจะแรงกว่าเดิมอีกเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวนัก ประชาชนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตำรวจก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Freddie Gray ชายผิวดำอายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกันออกมาเสียที
เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯเล่นใช้อำนาจทางกองทัพกดขี่เสรีภาพและความยุติธรรมของประชาชน ประชาชนก็ผุดไอเดีย "Baltimore Uprising" ขึ้นมาในโลกโซเชียลบ้าง มีการเชิญชวนให้ผู้คนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนในเมืองใหญ่หลายเมืองในสหรัฐอเมริกาเช่นที่นิวยอร์กและวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐฯซะเลย ตำรวจสหรัฐฯก็ยังใช้วิธีเดิมแม้จะอยู่ในนิวยอร์กก็ยังจับกุมประชาชนที่ประท้วงบางคนอีก ที่นิวยอร์กนั้นมีการรวมตัวกันที่ Union Square ในขณะที่ DC เริ่มก่อตัวกันที่ Chinatown ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องบัลติมอร์แต่มันก็เป็นไปแล้ว
สื่อฯหลักของสหรัฐฯอย่าง CNN และของอังกฤษอย่าง BBC พยายามไม่ลงข่าวนี้ในหน้าหลักบนเว็บไซต์อินเตอร์ของตนเอง เหมือนพยายามปิดบังหรืออำพรางเหตุการณ์อย่างนี้ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ให้ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่สื่อฯของรัสเซียเกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม. บอกเล่าเรื่องราวของสหรัฐฯให้โลกได้รับรู้แทน
http://sputniknews.com/us/20150430/1021539252.html
http://rt.com/usa/254333-baltimore-police-protest-video/
http://rt.com/usa/254357-nyc-dc-freddie-gray-rallies/
https://twitter.com/hashtag/BaltimoreUprising?src=hash
เหตุการณ์จราจล เรื่องสีผิว ในอเมริกาเริ่มบานปลาย
นที่ 29 เม.ย.58 ตูม บึม เปรี้ยง คือเสียงระงม จากความรุนแรง ในอเมริกายามนี้
ใครไปเมืองบัลติมอร์ ที่มีประชากร 6 แสนคน รัฐแมรี่แลนด์ ที่ห่างจากวอชิงตัน เมืองหลวง อเมริกา ไปแค่ราว 64 กม.เท่านั้น อาจคิดว่าตนเอง อยู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพราะ ทั้งเมืองเต็มไปด้วยทหารอาวุธหนักครบมือ ที่ยึดเมืองไปแล้ว
รถฮัมวี่ รถหุ้มเกราะ วิ่งกันขวักไขว่เต็มเมือง และประชาชนก็ไม่สนใจประกาศสภาวะฉุกเฉิน เคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านของทางการ ต่างออกมาบนท้องถนน เผาบ้านเผาเมือง อาคารร้านค้า มากกว่าเดิมก่อนประกาศฯ เสียอีก..อ้าว !! ควันโขมงเต็มท้องฟ้าสีดำ ในหลายจุด จนเจ้าที่ดับเพลิงอ่อนล้า
ม็อบออกมาไม่มามือเปล่า มีการใช้ประทัดยักษ์ ประเคนใส่ตำรวจ และทหารไม่ยั้ง และม็อบยังใส่หน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา และป้องกันสเปรย์พริกไทย ของเจ้าหน้าที่อีกต่างหาก..เออ..เอาซิ
เอาไม่อยู่แล้วบัลติมอร์! พัฒนาเป็น "Baltimore Uprising" ลามไปถึงนิวยอร์กและดีซีแล้วกำลังลามไปทั่วสหรัฐฯ
----------------
ยังไงหละนี่? แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาและมีการจับกุมประชาชนไปแล้วไม่ต่ำกว่า 235 คน และมีปล่อยตัวออกมาบางส่วนประมาณ 101 คน แต่ในช่วงกลางวันนั้นกลุ่มผู้ประท้วงก็ได้รวมตัวกันใหม่ ไม่ใช่มีแต่คนผิวดำเท่านั้น แต่มีคนผิวขาวเข้าร่วมประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมเป็นจำนวนมากด้วย shut down เมืองบัลติมอร์ไปแล้ว ยิ่งทางรัฐบาลและกองทัพของสหรัฐฯใช้ยาแรงเท่าไร ดูเหมือนว่าผลที่ตามมาจะแรงกว่าเดิมอีกเท่าตัวหรือหลายเท่าตัวนัก ประชาชนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนเพิ่มมากขึ้น ในขณะที่ตำรวจก็ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเสียชีวิตของ Freddie Gray ชายผิวดำอายุ 25 ปี สัญชาติอเมริกันออกมาเสียที
เมื่อรัฐบาลสหรัฐฯเล่นใช้อำนาจทางกองทัพกดขี่เสรีภาพและความยุติธรรมของประชาชน ประชาชนก็ผุดไอเดีย "Baltimore Uprising" ขึ้นมาในโลกโซเชียลบ้าง มีการเชิญชวนให้ผู้คนออกมาเดินประท้วงตามท้องถนนในเมืองใหญ่หลายเมืองในสหรัฐอเมริกาเช่นที่นิวยอร์กและวอชิงตันดีซี เมืองหลวงของสหรัฐฯซะเลย ตำรวจสหรัฐฯก็ยังใช้วิธีเดิมแม้จะอยู่ในนิวยอร์กก็ยังจับกุมประชาชนที่ประท้วงบางคนอีก ที่นิวยอร์กนั้นมีการรวมตัวกันที่ Union Square ในขณะที่ DC เริ่มก่อตัวกันที่ Chinatown ซึ่งไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องบัลติมอร์แต่มันก็เป็นไปแล้ว
สื่อฯหลักของสหรัฐฯอย่าง CNN และของอังกฤษอย่าง BBC พยายามไม่ลงข่าวนี้ในหน้าหลักบนเว็บไซต์อินเตอร์ของตนเอง เหมือนพยายามปิดบังหรืออำพรางเหตุการณ์อย่างนี้ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ให้ดูเหมือนว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร แต่สื่อฯของรัสเซียเกาะติดสถานการณ์ตลอด 24 ชม. บอกเล่าเรื่องราวของสหรัฐฯให้โลกได้รับรู้แทน
http://sputniknews.com/us/20150430/1021539252.html
http://rt.com/usa/254333-baltimore-police-protest-video/
http://rt.com/usa/254357-nyc-dc-freddie-gray-rallies/
https://twitter.com/hashtag/BaltimoreUprising?src=hash