ก่อนอื่นขอเล่าฉากของเรื่องนี้ก่อนนะครับ ผมกำลังศึกษาอยู่ที่ประเทศหนึ่งในยุโรป มีครอบครัวอุปถัมภ์ที่นี่
วันนี้ผมก็ไปทำงานตามปกติ แต่ว่าในช่วงเวลาเย็น พี่สาวผมติดภารกิจ ไม่สามารถไปรับลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลแถวที่ทำงานของผมได้ จึงไหว้วานให้ผมช่วยไปรับหลานสาวของผมตอนบ่ายสามครึ่ง และพี่สาวจะเสร็จธุระตอนห้าโมงเย็น ผมจึงต้องขอเจ้านายออกมาก่อนเวลาปกติ
ผมซึ่งไม่มีกุญแจบ้านพี่สาว จึงตั้งใจว่าจะพาหลานไปเล่นที่สนามเด็กเล่นของเทศบาลรอไปพลางๆ เพราะไหนๆ วันนี้ก็อากาศดี ถึงบ่ายสามก็ยังมีแดดออก แล้วหลานก็จะได้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ด้วย
เด็กที่สนามเด็กเล่นค่อนข้างเยอะ บางคนโตกว่าหลานผม (ลืมบอกไป หลานของผมอายุสองขวบครึ่งครับ) บางคนก็เล็กกว่าพ่อแม่ก็จะค่อนข้างดูแลใกล้ชิด บางคนโตหน่อยพ่อแม่ก็จะปล่อยให้เล่นอิสระแล้วก็ดูอยู่ห่างๆ ส่วนหลานสาวผม หวงขนาดนี้ผมดูไม่ให้คลาดสายตาแน่นอน
ด้วยความที่เด็กที่สนามเยอะ ก็ต้องมีการดูเชิง ต่อคิวเล่นเครื่องเล่นกันบ้าง ปรากฎว่าคิวม้าโยกเหมือนเด็กจะเบื่อเร็วกว่าเครื่องเล่นอื่น แป๊บๆ ก็เปลี่ยนคน ผมก็เลยพาหลานไปเดินเล่นต่อคิวม้าโยกไปพลางๆ พอเด็กผู้ชายคนหนึ่งลุกพอดีก็ได้จังหวะผมอุ้มหลานไปนั่ง แน่นอนหลานผมก็นั่งโยกเล่นเองอย่างสบายใจ
ไม่ทันถึงห้านาที ก็มีเด็กผูหญิงคนนึ่งอายุประมาณสามขวบ พูดภาษาฝรั่งเศส (แหม่ ไฮโซนะเมิงง) ผมก็พอฟังรู้เรื่องครับทำนองว่าจะขอเล่นหน่อย ไอ้ภาษาฝรั่งเศสผมก็พูดไม่เป็น เลยตอบไปเป็นภาษาท้องถิ่น และภาษาอังกฤษ บอกว่าให้รอก่อนนะ รอตามคิวตอนนี้หลานฉันกำลังเล่นอยู่ ดูซิเด็กมันจะเข้าใจภาษาอะไรได้บ้าง (กลับมาคิดดูอีกที เด็กสามขวบมันจะเข้าใจได้ไง๊ โง่จริงกรู) เด็กก็ทำหน้างงๆ ใส่ ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แล้วก็ยังจะดื้อขอเล่นต่อไป
ผมก็ยืนยันคำเดิมครับ ให้รอก่อนนะ แล้วก็บอกว่าให้กลับไปหาแม่เธอ ให้หาเครื่องเล่นอื่นให้เล่นไปพลางๆ (พยายามงัดคำฝรั่งเศสที่พอรู้ออกมาให้หมด เอามาต่อๆ กันเผื่อมันจะเข้าใจบ้าง)
ปรากฎว่า Negative ครับ (คิดในใจ เออ ภาษาที่กรูพูดไปมันคงไม่รู้เรื่องสินะ) แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กคนนั้นก็ปรี่เข้ามาตีหลานผมตรงแขนหลายครั้ง ผมช็อคไปแป๊บ แล้วก็เลยรีบกันเด็กผู้หญิงคนนั้นออกไป รีบอุ้มหลานออกมา แล้วก็บอกกับเด็กคนนั้นว่าโอเค ม้าโยกนั่นของเธอ (หอยเอ๊ย อุตส่าห์ต่อตั้งนาน)
หลานผมก็ร้องสิครับ ทำไงได้ สองขวบครึ่งก็ยังพูดไม่ค่อยจะเป็น ได้แต่บอกว่าเจ็บ ผมนี่ใจไปอยู่ตาตุ่มละ หลานโดนรังแกซะขนาดนี้ แต่ก็ทำได้แค่ปลอบหลาน ไม่อยากมีเรื่อง (ในใจโคตรแค้น) ก็เลยพยายามเบี่ยงความสนใจของหลานไปที่เครื่องเล่นอื่น จนไปเจอ บันไดเชือก ก็เลยประคับประคองหลานเล่นไปเรื่อย กะว่าบันไดเชือกนี่มันไม่ต้องผลัดกันเล่น เด็กคนหนึ่งปีน อีกคนก็ปีนข้างๆ ได้ ไม่น่ามีปัญหา
สักพักหนึ่งครับ เด็กผู้หญิงคนเดิมก็มาอีก (ห่านเอ๊ย) คราวนี้ไม่ขอไม่พูดละ มาปีนข้างๆ หลานผมเลย ตอนแรกผมก็จับตาดูไม่กระพริบ ก็ยังไม่มีปัญหา สักพักหลานผมก็ด้วยความที่ยังเด็ก ปีนไปก็มีเซบ้าง ก็เซไปหาเด็กผู้หญิงคนนี้ โดนตัวกันนิดหนึ่ง ปรากฎว่าเด็กคนนี้ก็เอาอีก ตีหลานผมอีกรอบหนึ่ง ผมก็งงไปร้องเสียงหลงไป ตีหลานผมทำไม เด็กก็ตอบมาเป็นภาษาฝรั่งเศสสไตล์เด็กๆ อันนี้ผมฟังไม่รู้เรื่องละ เลยได้แต่หันไปด้านหลังแล้วพูดดังๆ ถามหาว่านี่ลูกใคร ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น มีหลายคนที่ยืนคุยกันหันหน้ามาดูลูกแต่ไม่มีคนไหนตอบรับหรือเดินเข้ามา ผมก็เดาไม่ออกสิครับว่าใครเป็นใคร แล้วตกลงไอ้เด็กเวลคนนี้มันลูกใครกัน ทำไงได้อีก หลานผมก็แหม่นะ ลึกๆ อยากจะให้สู้กลับจริงๆ แต่จะทำไงได้ ก็เลยได้แต่อุ้มหลานไปหาเครื่องเล่นอื่นต่อไป คราวนี้ไปไกลๆ หน่อย (ยิ่งห่างจากไอ้เด็กเวลนี่ได้ยิ่งดี)
เลยไปเล่นชิงช้าครับ กะว่าชิงช้านี่มันแกว่งเร็ว คงไม่มีเด็กคนไหนวิ่งเข้ามาขวางเพราะถ้าชนกันมันคงจะต้องมีใครเจ็บตัว ก็เลยจับหลานนั่งชิงช้าแล้วผมก็ไกวให้ด้านหน้าอย่างช้าๆ เพราะจะได้คุยเล่นกับหลานได้ด้วย แล้วผมก็จับตาเด็กผู้หญิงเวลนั่นอยู่ตลอดเวลา ปรากฎว่าสายตามันจ้องมาที่หลานผมเลยครับ และทันใดนั้นไม่รู้ความคิดผมจะไปสะกดจิตมันหรือไงไม่ทราบ ไอ้เด็กเวลนี่มันก็เหมือนทำท่าจะเดินปรี่เข้ามาหาหลานผมอีก (ลองของซะแล้ว)
เหลืออดละครับผมคราวนี้ ผมเลยหยุดชิงช้า เอามือจับไหล่ของหลานสองข้างแล้วบอกว่า เด็กคนนั้นเค้ากำลังเดินเข้ามาหาเธอ ถ้าเธอยังไม่สู้เค้า ยอมให้เค้าตีอีก คราวนี้ฉันจะไม่ช่วยเธอละนะ พูดจบผมก็หันหน้าดูรอบๆ แล้วทำท่าจะรีบไกวชิงช้าของหลานต่อ เพราะเผื่อว่าชิงช้าไกวอยู่ เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะกล้าเข้าใกล้
ปรากฎว่าไม่ทันครับ เด็กนั่นมาจับโซ่ชิงช้าพอดี แล้วพยายามจะเอามือดันหลานผมให้ลงจากชิงช้า แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
หลานผมโดดลงจากชิงช้า เอามือจิกผมเด็กผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ แล้วเอามืออีกข้างตบหน้าเด็กคนนั้นไม่ยั้ง ผมเองระหว่างที่หลานกำลังตบเด็กเวลนั่น ด้วยความที่กำลังแอบสะใจนิดๆ (ให้มันได้อย่างนั้นสิไอ้หลานรัก) แทนที่จะห้ามหลาน ก็ไม่ครับ ปล่อยไปงั้นแหละ แล้วลุกขึ้นยืนแล้วหันมองรอบๆ ว่าจะมีแม่เด็กคนไหนวิ่งมาดูลูกตัวเองมั้ย เป็นไปดังคาดครับ สองพ่อแม่ยังหนุ่มสาวคู่หนึ่ง (ยืนอยู่แถวๆ นั่นกลุ่มเดียวกับที่ผมพูดถึงตอนต้นเรื่องนั่นแหละ แหม่เมิงง ตอนลูกเมิงงได้เปรียบทำเป็นไม่เข้ามาห้ามนะ) รีบปรี่เข้ามาอุ้มลูกของตัวเอง สบโอกาสผมก็เลยถามไปว่า อ่าว เมื่อกี๊พวกเธอก็เห็นลูกเธอเองตีหลานของฉันนี่ ทำไมมัวแต่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถามเป็นภาษาท้องถิ่นไปเหมือนจะไม่เวิร์ค เลยลองภาษาอังกฤษดู อ่าว ฟังไม่รู้เรื่องอีกแฮะ แล้วดูท่าทางจะด่าผมเป็นภาษาฝรั่งเศสตามหลังด้วย แล้วสามพ่อแม่ลูกก็เดินจากไป
โอ่ โล่ง คราวนี้ผมกับหลานจะได้เล่นกันอย่างสบายใจซะที ผมก็ไม่ได้ชมที่หลานทำอย่างนั้นนะครับ หลานยังเล็ก ก็ได้แต่ปลอบไปว่า เห็นมั้ยถ้าเธอรู้จักป้องกันตัว เธอก็จะปลอดภัยนะ ก็ไม่รู้หลานจะเก็บจำไปในอนาคตหรือป่าวนะครับ
เลยอยากจะถามพ่อแม่คนอื่นว่า ถ้ามีสถานการณ์แบบเดียวกันนี้ จะทำอย่างไรกันบ้างครับ แล้วที่ผมทำนี่ คิดว่าถูกต้องไหม ใครเป็นผู้เชี่ยวชาญในเด็กแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง รบกวนชี้แนะด้วยครับ ขอโทษนะครับยาวนิดนึง ไม่ค่อยเก่งในการเล่าเรื่องราว ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านจนจบครับผม
การกระทำแบบนี้ ถือว่าเป็นการ «รังแกเด็ก» หรือจะเป็นการ «สอนเด็กผิดๆ» ไหมครับ
วันนี้ผมก็ไปทำงานตามปกติ แต่ว่าในช่วงเวลาเย็น พี่สาวผมติดภารกิจ ไม่สามารถไปรับลูกสาวซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนอนุบาลแถวที่ทำงานของผมได้ จึงไหว้วานให้ผมช่วยไปรับหลานสาวของผมตอนบ่ายสามครึ่ง และพี่สาวจะเสร็จธุระตอนห้าโมงเย็น ผมจึงต้องขอเจ้านายออกมาก่อนเวลาปกติ
ผมซึ่งไม่มีกุญแจบ้านพี่สาว จึงตั้งใจว่าจะพาหลานไปเล่นที่สนามเด็กเล่นของเทศบาลรอไปพลางๆ เพราะไหนๆ วันนี้ก็อากาศดี ถึงบ่ายสามก็ยังมีแดดออก แล้วหลานก็จะได้เล่นกับเด็กคนอื่นๆ ด้วย
เด็กที่สนามเด็กเล่นค่อนข้างเยอะ บางคนโตกว่าหลานผม (ลืมบอกไป หลานของผมอายุสองขวบครึ่งครับ) บางคนก็เล็กกว่าพ่อแม่ก็จะค่อนข้างดูแลใกล้ชิด บางคนโตหน่อยพ่อแม่ก็จะปล่อยให้เล่นอิสระแล้วก็ดูอยู่ห่างๆ ส่วนหลานสาวผม หวงขนาดนี้ผมดูไม่ให้คลาดสายตาแน่นอน
ด้วยความที่เด็กที่สนามเยอะ ก็ต้องมีการดูเชิง ต่อคิวเล่นเครื่องเล่นกันบ้าง ปรากฎว่าคิวม้าโยกเหมือนเด็กจะเบื่อเร็วกว่าเครื่องเล่นอื่น แป๊บๆ ก็เปลี่ยนคน ผมก็เลยพาหลานไปเดินเล่นต่อคิวม้าโยกไปพลางๆ พอเด็กผู้ชายคนหนึ่งลุกพอดีก็ได้จังหวะผมอุ้มหลานไปนั่ง แน่นอนหลานผมก็นั่งโยกเล่นเองอย่างสบายใจ
ไม่ทันถึงห้านาที ก็มีเด็กผูหญิงคนนึ่งอายุประมาณสามขวบ พูดภาษาฝรั่งเศส (แหม่ ไฮโซนะเมิงง) ผมก็พอฟังรู้เรื่องครับทำนองว่าจะขอเล่นหน่อย ไอ้ภาษาฝรั่งเศสผมก็พูดไม่เป็น เลยตอบไปเป็นภาษาท้องถิ่น และภาษาอังกฤษ บอกว่าให้รอก่อนนะ รอตามคิวตอนนี้หลานฉันกำลังเล่นอยู่ ดูซิเด็กมันจะเข้าใจภาษาอะไรได้บ้าง (กลับมาคิดดูอีกที เด็กสามขวบมันจะเข้าใจได้ไง๊ โง่จริงกรู) เด็กก็ทำหน้างงๆ ใส่ ทำท่าเหมือนจะร้องไห้ แล้วก็ยังจะดื้อขอเล่นต่อไป
ผมก็ยืนยันคำเดิมครับ ให้รอก่อนนะ แล้วก็บอกว่าให้กลับไปหาแม่เธอ ให้หาเครื่องเล่นอื่นให้เล่นไปพลางๆ (พยายามงัดคำฝรั่งเศสที่พอรู้ออกมาให้หมด เอามาต่อๆ กันเผื่อมันจะเข้าใจบ้าง)
ปรากฎว่า Negative ครับ (คิดในใจ เออ ภาษาที่กรูพูดไปมันคงไม่รู้เรื่องสินะ) แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เด็กคนนั้นก็ปรี่เข้ามาตีหลานผมตรงแขนหลายครั้ง ผมช็อคไปแป๊บ แล้วก็เลยรีบกันเด็กผู้หญิงคนนั้นออกไป รีบอุ้มหลานออกมา แล้วก็บอกกับเด็กคนนั้นว่าโอเค ม้าโยกนั่นของเธอ (หอยเอ๊ย อุตส่าห์ต่อตั้งนาน)
หลานผมก็ร้องสิครับ ทำไงได้ สองขวบครึ่งก็ยังพูดไม่ค่อยจะเป็น ได้แต่บอกว่าเจ็บ ผมนี่ใจไปอยู่ตาตุ่มละ หลานโดนรังแกซะขนาดนี้ แต่ก็ทำได้แค่ปลอบหลาน ไม่อยากมีเรื่อง (ในใจโคตรแค้น) ก็เลยพยายามเบี่ยงความสนใจของหลานไปที่เครื่องเล่นอื่น จนไปเจอ บันไดเชือก ก็เลยประคับประคองหลานเล่นไปเรื่อย กะว่าบันไดเชือกนี่มันไม่ต้องผลัดกันเล่น เด็กคนหนึ่งปีน อีกคนก็ปีนข้างๆ ได้ ไม่น่ามีปัญหา
สักพักหนึ่งครับ เด็กผู้หญิงคนเดิมก็มาอีก (ห่านเอ๊ย) คราวนี้ไม่ขอไม่พูดละ มาปีนข้างๆ หลานผมเลย ตอนแรกผมก็จับตาดูไม่กระพริบ ก็ยังไม่มีปัญหา สักพักหลานผมก็ด้วยความที่ยังเด็ก ปีนไปก็มีเซบ้าง ก็เซไปหาเด็กผู้หญิงคนนี้ โดนตัวกันนิดหนึ่ง ปรากฎว่าเด็กคนนี้ก็เอาอีก ตีหลานผมอีกรอบหนึ่ง ผมก็งงไปร้องเสียงหลงไป ตีหลานผมทำไม เด็กก็ตอบมาเป็นภาษาฝรั่งเศสสไตล์เด็กๆ อันนี้ผมฟังไม่รู้เรื่องละ เลยได้แต่หันไปด้านหลังแล้วพูดดังๆ ถามหาว่านี่ลูกใคร ทั้งภาษาอังกฤษและภาษาท้องถิ่น มีหลายคนที่ยืนคุยกันหันหน้ามาดูลูกแต่ไม่มีคนไหนตอบรับหรือเดินเข้ามา ผมก็เดาไม่ออกสิครับว่าใครเป็นใคร แล้วตกลงไอ้เด็กเวลคนนี้มันลูกใครกัน ทำไงได้อีก หลานผมก็แหม่นะ ลึกๆ อยากจะให้สู้กลับจริงๆ แต่จะทำไงได้ ก็เลยได้แต่อุ้มหลานไปหาเครื่องเล่นอื่นต่อไป คราวนี้ไปไกลๆ หน่อย (ยิ่งห่างจากไอ้เด็กเวลนี่ได้ยิ่งดี)
เลยไปเล่นชิงช้าครับ กะว่าชิงช้านี่มันแกว่งเร็ว คงไม่มีเด็กคนไหนวิ่งเข้ามาขวางเพราะถ้าชนกันมันคงจะต้องมีใครเจ็บตัว ก็เลยจับหลานนั่งชิงช้าแล้วผมก็ไกวให้ด้านหน้าอย่างช้าๆ เพราะจะได้คุยเล่นกับหลานได้ด้วย แล้วผมก็จับตาเด็กผู้หญิงเวลนั่นอยู่ตลอดเวลา ปรากฎว่าสายตามันจ้องมาที่หลานผมเลยครับ และทันใดนั้นไม่รู้ความคิดผมจะไปสะกดจิตมันหรือไงไม่ทราบ ไอ้เด็กเวลนี่มันก็เหมือนทำท่าจะเดินปรี่เข้ามาหาหลานผมอีก (ลองของซะแล้ว)
เหลืออดละครับผมคราวนี้ ผมเลยหยุดชิงช้า เอามือจับไหล่ของหลานสองข้างแล้วบอกว่า เด็กคนนั้นเค้ากำลังเดินเข้ามาหาเธอ ถ้าเธอยังไม่สู้เค้า ยอมให้เค้าตีอีก คราวนี้ฉันจะไม่ช่วยเธอละนะ พูดจบผมก็หันหน้าดูรอบๆ แล้วทำท่าจะรีบไกวชิงช้าของหลานต่อ เพราะเผื่อว่าชิงช้าไกวอยู่ เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่น่าจะกล้าเข้าใกล้
ปรากฎว่าไม่ทันครับ เด็กนั่นมาจับโซ่ชิงช้าพอดี แล้วพยายามจะเอามือดันหลานผมให้ลงจากชิงช้า แล้วสิ่งที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
หลานผมโดดลงจากชิงช้า เอามือจิกผมเด็กผู้หญิงคนนั้นเอาไว้ แล้วเอามืออีกข้างตบหน้าเด็กคนนั้นไม่ยั้ง ผมเองระหว่างที่หลานกำลังตบเด็กเวลนั่น ด้วยความที่กำลังแอบสะใจนิดๆ (ให้มันได้อย่างนั้นสิไอ้หลานรัก) แทนที่จะห้ามหลาน ก็ไม่ครับ ปล่อยไปงั้นแหละ แล้วลุกขึ้นยืนแล้วหันมองรอบๆ ว่าจะมีแม่เด็กคนไหนวิ่งมาดูลูกตัวเองมั้ย เป็นไปดังคาดครับ สองพ่อแม่ยังหนุ่มสาวคู่หนึ่ง (ยืนอยู่แถวๆ นั่นกลุ่มเดียวกับที่ผมพูดถึงตอนต้นเรื่องนั่นแหละ แหม่เมิงง ตอนลูกเมิงงได้เปรียบทำเป็นไม่เข้ามาห้ามนะ) รีบปรี่เข้ามาอุ้มลูกของตัวเอง สบโอกาสผมก็เลยถามไปว่า อ่าว เมื่อกี๊พวกเธอก็เห็นลูกเธอเองตีหลานของฉันนี่ ทำไมมัวแต่ยืนดูอยู่ห่างๆ ถามเป็นภาษาท้องถิ่นไปเหมือนจะไม่เวิร์ค เลยลองภาษาอังกฤษดู อ่าว ฟังไม่รู้เรื่องอีกแฮะ แล้วดูท่าทางจะด่าผมเป็นภาษาฝรั่งเศสตามหลังด้วย แล้วสามพ่อแม่ลูกก็เดินจากไป
โอ่ โล่ง คราวนี้ผมกับหลานจะได้เล่นกันอย่างสบายใจซะที ผมก็ไม่ได้ชมที่หลานทำอย่างนั้นนะครับ หลานยังเล็ก ก็ได้แต่ปลอบไปว่า เห็นมั้ยถ้าเธอรู้จักป้องกันตัว เธอก็จะปลอดภัยนะ ก็ไม่รู้หลานจะเก็บจำไปในอนาคตหรือป่าวนะครับ
เลยอยากจะถามพ่อแม่คนอื่นว่า ถ้ามีสถานการณ์แบบเดียวกันนี้ จะทำอย่างไรกันบ้างครับ แล้วที่ผมทำนี่ คิดว่าถูกต้องไหม ใครเป็นผู้เชี่ยวชาญในเด็กแล้วเห็นว่าไม่ถูกต้อง รบกวนชี้แนะด้วยครับ ขอโทษนะครับยาวนิดนึง ไม่ค่อยเก่งในการเล่าเรื่องราว ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านจนจบครับผม