รำลึกเนปาล ... ก่อนกาลพิบัติภัย
ก่อนจะเขียนเรื่องราวต่อไปนี้ ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และชาวเนปาลทุกๆคน ได้โปรดรู้ไว้ว่า ผู้คนทั่วโลกเศร้าใจกับเหตุการณ์ และห่วงใยพวกคุณทุกคน
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเนปาลในวันที่ 15 เมษายน และเดินทางกลับในวันที่ 24 เมษายน ก่อนเหตุพิบัติภัย 1 วัน ในคราวแรกที่ได้ยินข่าวแผ่นดินไหวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ความรู้สึกแรกคือ เราช่างโชคดีเสียจริง ถ้าอยู่ต่ออีกวันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ถึงรอดชีวิต ไม่บาดเจ็บ ก็คงจะอยู่อย่างยากลำบากเป็นแน่
แต่เมื่อได้ติดตามข่าว เห็นภาพความความเสียหายหนักขึ้นเรื่อยๆ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็นหลักพัน ความรู้สึกนั้นเปลี่ยนเป็นสงสาร และหดหู่ เพราะเท่าที่เพิ่งสัมผัสชีวิตผู้คนในเนปาลมา ในภาวะปกติ ก็ไม่ได้อยู่กันสะดวกสบายอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้คนในเมืองที่อยู่อาศัยกันอย่างแออัด บ้านเรือนก็คับแคบและทรุดโทรม ถนนหนทางนั้นยิ่งสาหัส วิ่งกันไร้ระเบียบ ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายทั่วเมือง ฝนตกแต่ละทีถนนหนทางก็จะเต็มไปด้วยโคลน
ผู้คนในชนบท และบนเขา ยังดูจะมีชีวิตที่น่าสุขสบายกว่า แม้สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่มากมายเหมือนในเมือง แต่การอยู่อย่างง่ายๆ ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ กลับดูจะเหมาะกับภูมิประเทศของเนปาลที่เป็นเทือกเขาสูง แลดูชาวบ้านในชนบท จะมีภูมิต้านทานต่อภัยธรรมชาติมากกว่าคนเมืองหลายเท่า
เนปาลเป็นประเทศที่ไม่มีเขตแดนติดทะเล ภูมิประเทศก็เต็มไปด้วยภูเขาสูง ยากแก่การทำการเกษตร เราจึงเห็นการเกษตรแบบไร่นาขั้นบันไดได้ทั่วไป เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ชาวเนปาลมีธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมโบราณ เป็นสมบัติชาติ ชาวเนปาลเป็นผู้พิทักษ์ขุนเขา ในขณะที่ขุนเขา ก็มอบรางวัลให้ชาวเนปาลเช่นกัน
เดิมทีเดียวผมตั้งใจจะนำเรื่องการเดินทางที่เนปาลมาเขียนในชื่อเรื่อง " เดียวดาย ... ในเนปาล " ด้วยเพราะคราวนี้เดินทางคนเดียว และบางเวลาที่เดินคนเดียว นอนคนเดียวบนเขา แล้วมันช่างเหงาจับใจ แต่เมื่อเกิดเหตุพิบัติภัยขึ้นเช่นนี้ ผมขอเปลี่ยนเป็นการรำลึก ถึงเรื่องราวดีๆ ในเนปาล ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม และโบราณสถานที่ล้ำค่า ที่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลับมาบูรณะซ่อมแซมได้เหมือนเดิม และขอเชิญเพื่อนๆ ที่มีภาพ หรือเรื่องราวความประทับใจในเนปาล ช่วยกันเสริมเรื่องราวกันในกระทู้นี้กันนะครับ
สิ่งก่อสร้างพังทลายไป ยังสร้างขึ้นใหม่ได้
หากผู้คนยังมีลมหายใจ และยืนหยัดสู้ต่อ
ขอให้ทุกคนที่ผมพบเจอ และแม้ไม่ได้พบเจอในเนปาล จงปลอดภัย และกลับมาเข้มแข็งในเร็ววัน
ติดตามเรื่องราวกันนะครับ
( ติดตามเรื่องราวการเดินทางที่อื่นๆได้ที่
http://www.facebook.com/lotslikelovediary )
รำลึกเนปาล ... ก่อนกาลพิบัติภัย
ก่อนจะเขียนเรื่องราวต่อไปนี้ ผมขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และชาวเนปาลทุกๆคน ได้โปรดรู้ไว้ว่า ผู้คนทั่วโลกเศร้าใจกับเหตุการณ์ และห่วงใยพวกคุณทุกคน
ผมมีโอกาสได้เดินทางไปเนปาลในวันที่ 15 เมษายน และเดินทางกลับในวันที่ 24 เมษายน ก่อนเหตุพิบัติภัย 1 วัน ในคราวแรกที่ได้ยินข่าวแผ่นดินไหวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 25 ความรู้สึกแรกคือ เราช่างโชคดีเสียจริง ถ้าอยู่ต่ออีกวันก็ไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร ถึงรอดชีวิต ไม่บาดเจ็บ ก็คงจะอยู่อย่างยากลำบากเป็นแน่
แต่เมื่อได้ติดตามข่าว เห็นภาพความความเสียหายหนักขึ้นเรื่อยๆ ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็นหลักพัน ความรู้สึกนั้นเปลี่ยนเป็นสงสาร และหดหู่ เพราะเท่าที่เพิ่งสัมผัสชีวิตผู้คนในเนปาลมา ในภาวะปกติ ก็ไม่ได้อยู่กันสะดวกสบายอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้คนในเมืองที่อยู่อาศัยกันอย่างแออัด บ้านเรือนก็คับแคบและทรุดโทรม ถนนหนทางนั้นยิ่งสาหัส วิ่งกันไร้ระเบียบ ฝุ่นละอองฟุ้งกระจายทั่วเมือง ฝนตกแต่ละทีถนนหนทางก็จะเต็มไปด้วยโคลน
ผู้คนในชนบท และบนเขา ยังดูจะมีชีวิตที่น่าสุขสบายกว่า แม้สิ่งอำนวยความสะดวกจะไม่มากมายเหมือนในเมือง แต่การอยู่อย่างง่ายๆ ปรับตัวให้เข้ากับธรรมชาติ กลับดูจะเหมาะกับภูมิประเทศของเนปาลที่เป็นเทือกเขาสูง แลดูชาวบ้านในชนบท จะมีภูมิต้านทานต่อภัยธรรมชาติมากกว่าคนเมืองหลายเท่า
เนปาลเป็นประเทศที่ไม่มีเขตแดนติดทะเล ภูมิประเทศก็เต็มไปด้วยภูเขาสูง ยากแก่การทำการเกษตร เราจึงเห็นการเกษตรแบบไร่นาขั้นบันไดได้ทั่วไป เศรษฐกิจพึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นหลัก ชาวเนปาลมีธรรมชาติที่สวยงาม และวัฒนธรรมโบราณ เป็นสมบัติชาติ ชาวเนปาลเป็นผู้พิทักษ์ขุนเขา ในขณะที่ขุนเขา ก็มอบรางวัลให้ชาวเนปาลเช่นกัน
เดิมทีเดียวผมตั้งใจจะนำเรื่องการเดินทางที่เนปาลมาเขียนในชื่อเรื่อง " เดียวดาย ... ในเนปาล " ด้วยเพราะคราวนี้เดินทางคนเดียว และบางเวลาที่เดินคนเดียว นอนคนเดียวบนเขา แล้วมันช่างเหงาจับใจ แต่เมื่อเกิดเหตุพิบัติภัยขึ้นเช่นนี้ ผมขอเปลี่ยนเป็นการรำลึก ถึงเรื่องราวดีๆ ในเนปาล ทั้งธรรมชาติที่สวยงาม และโบราณสถานที่ล้ำค่า ที่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไรจะกลับมาบูรณะซ่อมแซมได้เหมือนเดิม และขอเชิญเพื่อนๆ ที่มีภาพ หรือเรื่องราวความประทับใจในเนปาล ช่วยกันเสริมเรื่องราวกันในกระทู้นี้กันนะครับ
สิ่งก่อสร้างพังทลายไป ยังสร้างขึ้นใหม่ได้
หากผู้คนยังมีลมหายใจ และยืนหยัดสู้ต่อ
ขอให้ทุกคนที่ผมพบเจอ และแม้ไม่ได้พบเจอในเนปาล จงปลอดภัย และกลับมาเข้มแข็งในเร็ววัน
ติดตามเรื่องราวกันนะครับ
( ติดตามเรื่องราวการเดินทางที่อื่นๆได้ที่ http://www.facebook.com/lotslikelovediary )