‘เพลิงดาว’ ดราม่าไทยตีแผ่ไส้ในคนบันเทิง

ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้นและเชือดเฉือน ทำให้ ‘เพลิงดาว’ กลายเป็นละครแถวหน้าของช่องดิจิตอลน้องใหม่ ‘PPTV’ จากบทประพันธ์ของ ‘เฉกชนม์’ ที่ได้รังสรรค์ตีแผ่วงการมายา โดยออกอากาศทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 21.30-23.00 น. เดินหน้าชนทัพใหญ่อย่าง ‘สุดแค้นแสนรัก’ ทางช่อง 3 ซึ่งกำลังได้รับความนิยมอย่างสูงสุดในขณะนี้ แม้ไม่สูสี แต่ก็ไม่ขี้เหร่นัก

เมื่อพูดถึง ‘วงการมายา’ ในความคิดของคนรุ่นเก่า มักมีมุมมองในแง่ลบ ด้วยเห็นว่าเป็นอาชีพเต้นกินรำกิน ไม่มีศักดิ์ศรี ไร้คุณค่า ต่างจากการรับราชการ ซึ่งถูกยกย่องให้เป็นเจ้าชีวิต แต่เมื่อบริบททางสังคมเปลี่ยนแปลงไป ‘วงการมายา’ กลายเป็นความหอมหวลของคนรุ่นใหม่ เพื่อหวังครอบครองความโด่งดังให้ได้มาในชื่อเสียง เกียรติยศ และเงินทอง

ยุคสมัยที่เปลี่ยนไปนี้ ทำให้ปัจจุบันมีสถาบันฝึกสอนการแสดง สำหรับปลุกปั้นคนประดับวงการมายามากมาย กลายเป็นธุรกิจบันเทิงแขนงหนึ่งที่เติบโตอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมดาวไปสู่ฝั่งฝัน ทว่า กว่าจะก้าวไปสู่จุดสูงสุดอีกฝั่งหนึ่งนั้น ย่อมพบเจอกับอุปสรรคนานัปการ บางคนถูกหลอกให้เสียตัว บางคนไร้ระเบียบวินัย จนถูกสั่งพักงาน ล้วนปรากฏเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง

‘สะอาด เปี่ยมพงศ์สานต์’ ศิลปินแห่งชาติ ปี 2557 สาขาศิลปะการแสดง บอกว่า วงการมายาเดี๋ยวนี้แตกต่างจากสมัยก่อนที่มักเป็นการสืบทอด ฝากฝังกันมาลักษณะเครือญาติ แต่ปัจจุบันมีสถาบันฝึกอบรมก่อนเข้าวงการ ทำให้คนที่เข้ามามีความสามารถง่ายต่อการเป็นนักแสดงหรือเจ้าของธุรกิจบันเทิงที่ดี เพราะมีพื้นฐานดี

ยกเว้นเพียงว่า คนนั้นจะไม่สนใจจริง ๆ เท่านั้น เพราะหากสนใจจริง เพียงแค่มองคนรุ่นเก่าดำเนินชีวิตมาอย่างไร ถ้าคนเราใฝ่ดีย่อมรู้ว่า สิ่งใดมีคุณค่ากับการดำเนินชีวิตของตัวเอง

เห็นท่าจะจริงดังคำกล่าว เพราะคำสอนของศิลปินแห่งชาติผู้นี้ได้แฝงกระจายอยู่ในบทโทรทัศน์ของ ‘เพลิงดาว’ ถ่ายทอดผ่านคำพูดตัวละคร ‘อุ้ยอ้าย’ รับบทโดย (ม้า) อรนภา กฤษฎี ผู้จัดการส่วนตัวของ ‘มณฑิกา’ รับบทโดย (แตงโม) ภัทริดา พัชรวีระพงษ์ และ ‘อารยา’ รับบทโดย มาริสา แอนนิต้า นอกจากนี้ยังมี ‘รดา’ รับบทโดยซอนยา คูลลิ่ง และ ‘วุฒิชัย’ รับบทโดย ธนา เอี่ยมนิยม ร่วมด้วยนักแสดงอีกคับคั่ง

ต้องยอมรับว่า นอกจากโปรดักชั่นที่ดีระดับหนึ่งแล้ว จุดเด่นสำคัญของละครเรื่องนี้ คือ แง่คิดคำสอน ที่แฝงอยู่ในคำพูดตัวละครอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้น ไม่รู้สึกถูกยัดเยียดจนต้องอาเจียนออกมา เหมือน ‘บางระจัน’ ที่พยายามใส่คำพูด ‘รักชาติ’ เข้าไปมากเกินพอดี จนแอบคิดว่า คนไทยไร้ความคิดที่จะวิเคราะห์และตีความขนาดนั้นเชียวหรือ

โดยแต่ละประโยคล้วนสอนทักษะการใช้ชีวิตและสัจธรรมในวงการมายา ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก ทุกอย่างขึ้นอยู่กับความพอใจ นี่แหละวงการนี้ ช่างคมคาย นุ่มลึก กินใจ ตอบโจทย์คำว่า ‘มายา’ ได้อย่างไม่รู้สึกสงสัย

ทุกคนอยู่ร่วมกันได้ด้วยผลประโยชน์ แม้จะเกลียด โกรธ หรือดูหมิ่นกันเพียงใด หากต่างคนต่างมีผลประโยชน์ต่อกัน ‘รอยยิ้ม’ ก็ดูเหมือนจะเป็นการสร้างมิตรภาพที่ดีได้ในเวลางาน เเละสัญลักษณ์ ‘หน้ากาก’ จึงนำมาซึ่งความจอมปลอม

ละครเรื่องนี้มิได้ตีแผ่ไส้ในเฉพาะเหล่าดารานักแสดงเท่านั้น แต่ยังมีนักเขียนบทโทรทัศน์ ผู้กำกับการแสดง ผู้จัดละคร เจ้าของบริษัท หรือแม้กระทั่งผู้จัดการดารา ซึ่งนำเสนอ 2 มุม ทั้งแง่ดีและร้าย ตอบโจทย์ความเป็นมนุษย์คนหนึ่ง มิได้เอนเอียงไปทางใดมากเกินไป จนรับชมแล้วรู้สึกเอือมระอา ยิ่งได้ฝีมือการแสดงของคนระดับตัวพ่อตัวแม่ของวงการแต่ละสาขา แม้จะถูกดูแคลนเป็นดาราเกรดบี ตกชั้นจากช่องสีดั้งเดิม แต่การันตีได้ในความมัน สะใจ ไฉไล แจ่มจันทร์ กันทีเดียว

มีติบ้างก็เรื่อง ‘คำไม่สุภาพ’ ในบางฉากบางตอน รู้สึกรุนแรงมากเกินไป จนกังวลว่า เด็กกำลังนั่งรับชมอยู่จะเอาเป็นเยี่ยงอย่างได้ ทั้งนี้ จะว่าไปแล้วคำพูดที่ไม่สุภาพเหล่านั้นก็คือความจริงที่ปรากฏอยู่ในวงการมายา เพียงแต่อาจจะไม่ฉาวโฉ่ให้เห็นกัน เพราะภาพลักษณ์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับพื้นที่แห่งนี้

กระนั้น ‘เพลิงดาว’ ถือเป็นละครที่ตีแผ่วงการมายาได้สนุกเรื่องหนึ่ง แม้เค้าโครงเรื่องจะคล้ายคลึงกับหลายเรื่องที่ผ่านมาก็ตาม ทว่า เมื่อตั้งใจดูก็สามารถช่วยชี้นำทางและนำไปปรับใช้ในชีวิตได้ เพราะ ‘มายา’ มิได้จำกัดเฉพาะวงการบันเทิง แต่แฝงตัวอยู่ในทุกวงการอาชีพ

ที่มา : http://www.isranews.org/isranews-article/item/38168-star.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่