ทำไมมีแต่คนแย่งกันลงทุน NMG ทำไมไม่มีคนแย่งกันลงทุน POLAR
ทั้งๆที่ POLAR ก็ถือหุ้น NMG 7% กว่า ซึ่งถ้าลงทุนกับ POLAR ก็เท่ากับได้ลงทุนกับ NMG ด้วย
นอกจากนี้ราคาปัจจุบันปิดที่ 0.39 ก็เป็นราคาที่ต่ำกว่าหุ้นเพิ่มทุนที่ 0.45 ถึง 6 สตางค์
และราคา 0.39 ก็เป็นราคาที่ผู้ถือหุ้นทุกคนขาดทุน แม้แต่เจ้ามือก็ขาดทุนด้วย ยกเว้นแต่คนที่ซื้อ 0.39 เมื่อวันศุกร์
POLAR เพิ่งเพิ่มทุน PP และ RO ได้เงินสดรวมกันมากกว่า 3,000 ล้านบาท มีหุ้นทั้งหมด 7,689 ล้านหุ้น
เมื่อเอาเงินสด 3,000 ล้านบาท หารด้วย 7,689 ล้านหุ้น ก็จะได้เงินสดหุ้นละ 0.39 พอดี ซึ่งยังไม่รวมทรัพย์สินและที่ดินอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ก็กลับมามีกำไรเป็นปีแรก ดังนั้นราคา 0.39 จึงเป็นราคาที่ถูกมากๆ จนยากที่จะหาได้ในขณะนี้
นอกจากนี้เงินสด 3,000 ล้านบาทยังสามารถนำไปลงทุนธุรกิจอะไรก็ได้ทันที ที่เห็นว่าสามารถสร้างผลกำไรได้ยั่งยืนและรวดเร็ว
คือ ไม่จำเป็นจะต้องนำเงินไปลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเห็นว่าอยากเปลี่ยนไปลงทุนธุรกิจอื่นๆที่มีอนาคตหรือให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งสามารถทำได้ทันที เพราะมีเงินสดถึง 3,000 ล้านบาท
แต่ตอนนี้ราคากลับไหลลงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมาก ซึ่งสวนทางกับผลประกอบการที่กลับมามีกำไร และมีเงินสดมากกว่า 3,000 ล้าน
ผมเสียดายที่ผมไม่มีเงิน 1,000 ล้าน เพราะถ้าผมมีเงินพันล้าน ผมจะซื้อหุ้นได้ประมาณ 2,500 ล้านหุ้น ซึ่งจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที
ผมจึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมไม่มีคนแย่งกันมาลงทุนกับ POLAR บ้างครับ .. สงสัยคงจะมีแต่ผมคนเดียวที่เห็นคุณค่าของ POLAR
ทำไมมีแต่คนแย่งกันลงทุน NMG ทำไมไม่มีคนแย่งกันลงทุน POLAR
ทั้งๆที่ POLAR ก็ถือหุ้น NMG 7% กว่า ซึ่งถ้าลงทุนกับ POLAR ก็เท่ากับได้ลงทุนกับ NMG ด้วย
นอกจากนี้ราคาปัจจุบันปิดที่ 0.39 ก็เป็นราคาที่ต่ำกว่าหุ้นเพิ่มทุนที่ 0.45 ถึง 6 สตางค์
และราคา 0.39 ก็เป็นราคาที่ผู้ถือหุ้นทุกคนขาดทุน แม้แต่เจ้ามือก็ขาดทุนด้วย ยกเว้นแต่คนที่ซื้อ 0.39 เมื่อวันศุกร์
POLAR เพิ่งเพิ่มทุน PP และ RO ได้เงินสดรวมกันมากกว่า 3,000 ล้านบาท มีหุ้นทั้งหมด 7,689 ล้านหุ้น
เมื่อเอาเงินสด 3,000 ล้านบาท หารด้วย 7,689 ล้านหุ้น ก็จะได้เงินสดหุ้นละ 0.39 พอดี ซึ่งยังไม่รวมทรัพย์สินและที่ดินอื่นๆอีกมากมาย
นอกจากนี้ผลประกอบการในปีที่ผ่านมา ก็กลับมามีกำไรเป็นปีแรก ดังนั้นราคา 0.39 จึงเป็นราคาที่ถูกมากๆ จนยากที่จะหาได้ในขณะนี้
นอกจากนี้เงินสด 3,000 ล้านบาทยังสามารถนำไปลงทุนธุรกิจอะไรก็ได้ทันที ที่เห็นว่าสามารถสร้างผลกำไรได้ยั่งยืนและรวดเร็ว
คือ ไม่จำเป็นจะต้องนำเงินไปลงทุนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ถ้าเห็นว่าอยากเปลี่ยนไปลงทุนธุรกิจอื่นๆที่มีอนาคตหรือให้ผลตอบแทนมากกว่า ซึ่งสามารถทำได้ทันที เพราะมีเงินสดถึง 3,000 ล้านบาท
แต่ตอนนี้ราคากลับไหลลงต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างมาก ซึ่งสวนทางกับผลประกอบการที่กลับมามีกำไร และมีเงินสดมากกว่า 3,000 ล้าน
ผมเสียดายที่ผมไม่มีเงิน 1,000 ล้าน เพราะถ้าผมมีเงินพันล้าน ผมจะซื้อหุ้นได้ประมาณ 2,500 ล้านหุ้น ซึ่งจะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ทันที
ผมจึงเกิดความสงสัยว่า ทำไมไม่มีคนแย่งกันมาลงทุนกับ POLAR บ้างครับ .. สงสัยคงจะมีแต่ผมคนเดียวที่เห็นคุณค่าของ POLAR