ค่ะ เมื่อหมดความอดทน กระทู้แรกจึงบังเกิด จากที่ตามอ่านของชาวบ้านมานานนนน แสน นานน
...ขอเกริ่นๆ (อย่าเพิ่งปิดนะคะ) แฟนเพิ่งเคยจะได้ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ บัตรทองเป็นครั้งแรก เนื่องจากพบก้อนเนื้อติดกับซี่โครงบริเวณปอดด้านขวา มีอาการเจ็บเวลาหายใจ ต้องใช้ค่าตรวจรักษาสูงลิบลิ่ว จึงได้มาใช้สิทธินี้อย่างจริงจัง เข้าสู่วงจรความวุ่นวายในการทำเรื่อง ขั้นตอนต่างๆ อันนี้เราเข้าใจได้ว่าขั้นตอนเค้าเป็นยังไง พอเริ่มทำเรื่อง เหตุมันก็เกิดค่ะ... ขอเล่าเป็น "ฉากๆ" ไปนะคะ
คลินิคครั้งที่ 1
ครั้งแรกคือเราไปคลินิคที่สิทธิเราอยู่ค่ะ เพื่อรอพบหมอ ให้วินิจฉัยต่อไปว่าควรส่งตัวเข้า รพ.(ที่คลินิคจะทำเรื่องส่งตัวไปหากไม่สามารถรักษาที่คลินิคได้) รึไม่ ยื่นสิทธิ ตรวจสอบเสร็จก็นั่งรอค่ะ คนค่อนข้างเยอะ เป็นธรรมดา พอถึงคิว (ขออนุญาติแทนชื่อแทนเจ้าหน้าที่คลินิค) นายเอ(หรือเป็นนางมิทราบเพศที่แน่ชัด) ก็เรียกชื่อแล้วบอกว่า ให้ไปที่สถาบันมะเร็งหรือทรวงอกก็ได้ ไปออกค่าตรวจเองให้หมอวินิจฉัยมาให้แน่ชัดว่าเป็นอะไร.. ก่อนหน้านี้ได้ไปรพ.อื่นมาแล้วนะคะเพราะเจ็บหน้าอกฉุกเฉิน ได้ทำการเอ็กซเรย์ทรวงอก แล้วพบก้อนเนื้อ มีตำแหน่งก้อนเนื้อแน่ชัด มีซีดีบันทึกภาพเอ็กซเรย์มา มีใบสรุปผลการตรวจของหมอมา พร้อมวาดรูปตำแหน่งก้อนเนื้อ แค่ยังไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไร .. นายเอก็ย้ำค่ะให้ไปตรวจเองแล้วเอาใบสรุปมาว่าเป็นก้อนอะไร โดยที่วันนั้นไม่ได้เข้าไปพบหมอ เราก็ไปค่ะ สถาบันมะเร็งเลย
สถาบันมะเร็ง ครั้งที่ 1 ไปพบหมอที่คลินิคปอดค่ะ พอเข้าไปคุยกับหมอ เราก็บอกไปว่าทางคลินิคยังไม่มีใบส่งตัว ครั้งนี้ให้เรามาตรวจเอง ป้าพยาบาล หมอตกใจค่ะ บอกว่าค่าใช้จ่ายมันสูงมากเลยนะ ตั้งแต่เอ็กซเรย์ ตรวจเลือดสารพัดรายการ เจาะเอาเนื้อเยื่อ เจาะเลือด ค่ายา ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ป้าพยาบาลบอกว่าเราสามารถขอสิทธิมาได้เลย โดยคุณหมอก็ใจดี เขียนใบสรุปตรวจ ขั้นตอนการส่งตัว วาดภาพประกอบอย่างบรรจง รวมทั้งจดเบอร์ป้าพยาบาลให้ติดต่อกลับหากเค้าไม่ทำใบส่งตัวให้อีก (เขียนละเอียดมากจนเหมือนประชดคลินิค) ป้านางบอกว่า ถ้าเค้าไม่ยอมออกใบให้อีกเราสามารถแจ้งความได้ เราก็ไปอีกค่ะ
คลินิคครั้งที่ 2
เอาใบจากหมอสถาบันมะเร็งไปให้ค่ะ นายก. ก็บอกว่าใช่ใบแบบนี้แหละที่ต้องการ (ทั้งๆที่เอกสารที่เรายื่นก่อนหน้านี้ มีรูปประกอบ มีซีดีเอ็กซเรย์ มีใบตรวจจากหมอเหมือนกันทุกประการแค่มาจากคนละโรงพยาบาล) ก็เขียนๆๆ ใบส่งตัวให้ไปทาง รพ.ย่านปากเกร็ด ก่อน
รพ.ย่านปากเกร็ด ครั้งที่ 1
ก็นำสิทธิใบส่งตัวไปยื่นตามปกติ รวมทั้งเอกสารการตรวจทุกอย่าง วันนั้นก็โดนเจาะเลือด 1 หลอดแล้วกลับบ้าน นัดมาใหม่สัปดาห์ถัดไป เราก็ต้องกลับไปทำใบส่งที่คลินิคเพื่อนำไปรพ.ครั้งต่อไป
รพ.ย่านปากเกร็ด ครั้งที่ 2
วันนี้เข้าไปทำ CT Scan รวมค่าใช้จ่ายออกมาเก้าพันกว่าบาท แต่เราใช้สิทธิไม่เสียสักบาท (ตอนแรกนายก.จะให้ไปตรวจเอง = = นี่แค่ขั้นตอนแรกๆนะ) ก็รับใบเอกสารที่ต้องแฟกซ์ไปให้รพ.วันถัดไป เพื่อให้รพ.ส่งตัวไปสถาบันมะเร็ง เราก็ดำเนินการตามขั้นตอนไป พร้อมกลับไปที่คลินิครักใบส่งตัวเตรียมไปสถาบันมะเร็ง
ขอข้ามๆ บางตอนไปบ้างนะคะ บางครั้งไปรพ. แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ไปรับใบนัด แล้วก็วิ่งไปรับใบส่งตัวแบบนี้ทุกครั้ง ครั้งต่อไปคุณหมอนัดมาตรวจจากภาพ CT Scan พร้อมนัดตรวจเลือดครั้งต่อไป มาถึงวันตรวจเลือด เจาะเลือดไปหกหลอดค่ะ ข้างละสาม แล้วก็กลับไปขอใบส่งตัวนัดเจาะเซลล์เนื้อเยื่อตรงก้อนเนื้อ มาถึงวันเจาะ ก็ตามปกติค่ะ เจาะเสร็จ หมอออกใบนัดฟังผลตรวจ ป้าพยาบาลออกมาย้ำว่าต้องขอใบส่งตัวนะ เพราะถ้าไม่เป็นมะเร็ง ก็ต้องมียากินต่อเนื่องหกเดือน ยังไงก็ต้องรับยาเยอะ ต้องเอาใบมา ก็ไปค่ะ ไปคลินิค นายก.ดูใบนัดบอกว่าแค่นัดฟังผลไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เราก็ย้ำไปตามคุณป้าพยาบาลบอกว่าต้องมีรับยาด้วยค่ะถ้าไม่ใช่มะเร็ง ถ้าใช่ก็ต้องรักษากันไป นายก.บอกว่าถ้ารับยาให้เอาใบสั่งยามาที่นี่ ถ้าต้องรักษาก็ค่อยมาเอาใบ เราก็โอเคค่ะ
ถึงวันไปฟังผล บอกป้าพยาบาลค่ะไม่มีใบส่งตัวค่ะ เค้าบอกแค่ฟังผลเลยไม่ออกให้ แต่หนูบอกไปแล้วว่ามียาเค้าบอกให้เอาใบสั่งยาไป คุณป้าแกกุมขมับ ทำไมทำงานกันอย่างนี้เนี้ย อีกแล้วเหรอ (เคยมีปัญหาตั้งแต่ไม่ออกใบส่งตัวให้ตอนไปหาครั้งแรก ทั้งๆที่ควรให้พบหมอที่คลินิคแล้วส่งตัวไปรพ.เราก็ไม่ต้องไปถึงสถาบันมะเร็งในตอนแรก ทำให้เราต้องวิ่งหลายรอบ ครั้งแรกที่สถาบันมะเร็งคุณหมอไม่คิดเงินด้วยค่ะ ใจดีมาก) คุณป้าแกจำคนไข้ได้หมดค่ะ ใจดี ห่วงสิทธิของคนไข้มาก แกจะพยายามบอกคนไข้ในการใช้สิทธิเสมอว่าเราไม่จำเป็นต้องเสียนะ ทำยังไงๆบ้าง (แต่ งง ว่าทำไมคลินิคที่ควรจะทำสิทธิให้คนไข้กลับไม่ใส่ใจเลย) แกก็เข้าไปบอกหมอค่ะสักพักก็เข้าห้องฟังผลตรวจ ออกใบสั่งยาให้ (ไม่ใช่มะเร็ง) พยาบาลก็ยื่นเอกสารที่ต้องนำไปยื่นที่คลินิค
ค่ะ กลับมาคลินิคอีก รอพบหมอ ยื่นใบสั่งยาเรียบร้อย หมอที่คลินิคออกยาให้ไม่ได้ค่ะ บอกว่าเราไม่มีเอกสารสรุปการตรวจจากสถาบันมะเร็งเหมือนทุกครั้ง (จะมีได้ไงก็นายก.ไม่ออกให้ไม่เขียนให้) แฟนเราก็บอกค่ะว่า นายก.บอกว่าให้เอาแค่ใบสั่งยามารับยาที่นี่ หมอบอกไม่ได้นะ ต้องเอามาด้วย (แทรกนะคะ** มีหนนึงช่วงที่ต้องมาเอาใบส่งตัวก่อนไปเจาะเนื้อเยื่อ นายก.บอกให้เราไปรพ.ย่านปากเกร็ดอีกรอบ แล้วกลับมาคลินิค แล้วค่อยไปสถาบันมะเร็ง คุณหมอที่คลินิคเดินมาเห็นพอดี นางหยิบปากกาขีดทิ้งทั้งที่นายก. ยังจับปากกาเขียนคามืออยู่เลยค่ะ นางขีดทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วบอกว่า จะส่งไปหลายที่ทำไม ก็ส่งไปสถาบันมะเร็งเลยทีเดียว ไม่ต้องเขียนแบบนี้ เข้าใจมั้ย นายก.ก็หน้าบูดค่ะ เหมือนจะหยิบลิควิดมาลบ แต่ก็ตัดสินใจหยิบใบใหม่มาเขียน) แฟนเดือดมากค่ะ นายก.นี่คือทำงานสะเพร่า ทำเหมือนรู้ แต่จริงๆมั่วมากค่ะ เคยเห็นคนอื่นมาโวยวายเหมือนกันแรกๆ เราก็สงสาร คงเจอเยอะ ตอนนี้คิดว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ เราก็โทหาป้าพยาบาลเลยค่ะ นางเดือดมากก โทเข้าไปคลินิคเอง ทางคลินิคทำไงรู้มั้ยคะ คนที่รับสายบอกว่าเราก็จ่ายยาไปให้แล้วนี่ค่ะ!!! วางสายใส่ป้าพยาบาล ที่ให้มาอ่ะ วิตามินบี 2 ค่ะ จากรายการหลัก 5 ตัวยา คือใจคอจะให้แค่วิตามิน แล้วยาที่เหลือ??? หมอให้เร่งกินวันนี้ด้วย ป้าพยาบาลโทกลับหาเราแกเดือดมากค่ะ โมโหจนบอกว่าป้าไม่รู้จะช่วยยังไงดีแล้ว เดี๋ยวแฟกซ์เอกสารไปให้คลินิคแล้วกัน เราก็วิ่งไปคลินิคอีกค่ะ เห็นนายก. นั่งเขียนยุกยิกๆ เราก็เข้าไปบอกมารับเอกสารที่พยาบาลแฟกซ์มาให้ทำเรื่องค่ะ ฮีตอบมาว่า "รู้แล้วค่ะ กำลังเขียนอยู่" เราก็นั่งรอ "รับใบส่งตัว" เราก็เดินไปหยิบซองพร้อมเอ่ยขอบคุณค่ะ อย่างสุภาพ ฮีสวน "ไม่ต้องมาขอบคุณชั้น ไปขอบคุณนางพยาบาลที่โทมาดีกว่า!!!!" เราก็ไม่สนใจ ทั้งๆที่ในใจโมโหมากกกกกก ...นั่งรถไปสถาบันมะเร็งอีกรอบในวันเดียวกันเพื่อรับยา เจอหน้าป้าพยาบาล นางโมโหค่ะ โมโหทางคลินิคมาก แต่ก็ช่วยเหลือเราอย่างดีมาตลอด
เท่าที่ดู เค้าไม่รู้ขั้นตอนโดยละเอียด หรือขี้เกียจมากก็ไม่ทราบค่ะ เราต้องรักษาอีกยาวนาน ต่ำๆก็ครึ่งปี เจอคนทำเรื่องแบบนี้ เราสงสารแฟนค่ะไม่สบายต้องวิ่งไปๆ มาๆ ระหว่างแถวม.ธุรกิจฯ-พญาไท ไม่ได้ร้องขอบริการที่ประทับใจ แต่ต้องการให้มีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ต้องทำยังไงถึงจะแก้ไขเรื่องนี้ได้คะ มันเหลือเกินจริงๆ นายก. ตัดสินการทำเรื่องเองโดยไม่ปรึกษาคุณหมอหรือใคร ซึ่งการตัดสินใจนั้นผิดหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ไม่ฟังคำพูดใคร ไม่ฟังเหตุผลใดๆ แถมบอกขั้นตอนคนไข้แบบผิดๆ วุ่นวายมาก หมั่นไส้ รึขี้เกียจ รึอะไรไม่อยากให้คนแบบนี้อยู่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเราจริงๆ เราพอจะฟ้องหรือร้องเรียนทางใดได้บ้างมั้ยคะ
เราพูดตามที่โดนกับตัวเองมาจริงๆ แล้ววันนี้ก็เหลืออดมากแล้ว โดนพูดจาไม่ดีใส่ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนผิด ที่พิมมาอาจจะสับสนตรงไหนขออภัยนะคะ แต่เรารู้สึกแย่จริงๆ กับการที่เห็นแฟนต้องรักษาขนาดนี้ อายุก็ยังน้อย(22) สภาพจิตใจก็แย่มากแล้วค่ะ มาเจอการกระทำแบบนี้อีก บรรยายเป็นคำพูดทั้งหมดไม่ได้จริงๆ
ไม่มีเจตนาทำลายชื่อเสียงคลินิคนะคะ แต่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นๆ หลายๆคน ที่ไปคลินิคนั้นซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า เราไม่ใช่คนเดียวที่เจอ ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แค่ทำเรื่องก็เหนื่อยพอแล้ว ขอคำแนะนำจากผู้รู้แล้วก็ผู้ที่ได้อ่านหน่อยนะคะ ถ้าใครเคยเจอหรือคิดว่าเป็นคลินิคเดียวกันก็มาคุยกันได้ค่ะ แชร์ๆ กัน เราว่าเรื่องนี้สำคัญนะ เจอคนที่ไร้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพแบบนี้ แถมไม่มีจรรยาบรรณ คนไข้คนป่วยคนเจ็บก็แย่สิแบบนี้
ปล.คลินิคเวชกรรม คา**รา**คลินิค หลังม.ธุรกิจฯ
ติดต่อหลังไมค์ได้ค่ะ
Line: ornnalint
หรือฝากข้อความผ่านทางนี้ก็ได้นะคะ เราจะมาอัพเดตเรื่อยๆ
ถ้าผิดกฎ เสี่ยงกระทู้โดนหิ้วตรงไหนท้วงติงได้นะคะ
ผิด หรือสับสนวกวนยังไง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ทำกันแบบนี้หรอ...ณ คลินิคเวชกรรมแห่งหนึ่ง
...ขอเกริ่นๆ (อย่าเพิ่งปิดนะคะ) แฟนเพิ่งเคยจะได้ใช้สิทธิ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือ บัตรทองเป็นครั้งแรก เนื่องจากพบก้อนเนื้อติดกับซี่โครงบริเวณปอดด้านขวา มีอาการเจ็บเวลาหายใจ ต้องใช้ค่าตรวจรักษาสูงลิบลิ่ว จึงได้มาใช้สิทธินี้อย่างจริงจัง เข้าสู่วงจรความวุ่นวายในการทำเรื่อง ขั้นตอนต่างๆ อันนี้เราเข้าใจได้ว่าขั้นตอนเค้าเป็นยังไง พอเริ่มทำเรื่อง เหตุมันก็เกิดค่ะ... ขอเล่าเป็น "ฉากๆ" ไปนะคะ
คลินิคครั้งที่ 1
ครั้งแรกคือเราไปคลินิคที่สิทธิเราอยู่ค่ะ เพื่อรอพบหมอ ให้วินิจฉัยต่อไปว่าควรส่งตัวเข้า รพ.(ที่คลินิคจะทำเรื่องส่งตัวไปหากไม่สามารถรักษาที่คลินิคได้) รึไม่ ยื่นสิทธิ ตรวจสอบเสร็จก็นั่งรอค่ะ คนค่อนข้างเยอะ เป็นธรรมดา พอถึงคิว (ขออนุญาติแทนชื่อแทนเจ้าหน้าที่คลินิค) นายเอ(หรือเป็นนางมิทราบเพศที่แน่ชัด) ก็เรียกชื่อแล้วบอกว่า ให้ไปที่สถาบันมะเร็งหรือทรวงอกก็ได้ ไปออกค่าตรวจเองให้หมอวินิจฉัยมาให้แน่ชัดว่าเป็นอะไร.. ก่อนหน้านี้ได้ไปรพ.อื่นมาแล้วนะคะเพราะเจ็บหน้าอกฉุกเฉิน ได้ทำการเอ็กซเรย์ทรวงอก แล้วพบก้อนเนื้อ มีตำแหน่งก้อนเนื้อแน่ชัด มีซีดีบันทึกภาพเอ็กซเรย์มา มีใบสรุปผลการตรวจของหมอมา พร้อมวาดรูปตำแหน่งก้อนเนื้อ แค่ยังไม่รู้ว่าเป็นก้อนอะไร .. นายเอก็ย้ำค่ะให้ไปตรวจเองแล้วเอาใบสรุปมาว่าเป็นก้อนอะไร โดยที่วันนั้นไม่ได้เข้าไปพบหมอ เราก็ไปค่ะ สถาบันมะเร็งเลย
สถาบันมะเร็ง ครั้งที่ 1 ไปพบหมอที่คลินิคปอดค่ะ พอเข้าไปคุยกับหมอ เราก็บอกไปว่าทางคลินิคยังไม่มีใบส่งตัว ครั้งนี้ให้เรามาตรวจเอง ป้าพยาบาล หมอตกใจค่ะ บอกว่าค่าใช้จ่ายมันสูงมากเลยนะ ตั้งแต่เอ็กซเรย์ ตรวจเลือดสารพัดรายการ เจาะเอาเนื้อเยื่อ เจาะเลือด ค่ายา ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ป้าพยาบาลบอกว่าเราสามารถขอสิทธิมาได้เลย โดยคุณหมอก็ใจดี เขียนใบสรุปตรวจ ขั้นตอนการส่งตัว วาดภาพประกอบอย่างบรรจง รวมทั้งจดเบอร์ป้าพยาบาลให้ติดต่อกลับหากเค้าไม่ทำใบส่งตัวให้อีก (เขียนละเอียดมากจนเหมือนประชดคลินิค) ป้านางบอกว่า ถ้าเค้าไม่ยอมออกใบให้อีกเราสามารถแจ้งความได้ เราก็ไปอีกค่ะ
คลินิคครั้งที่ 2
เอาใบจากหมอสถาบันมะเร็งไปให้ค่ะ นายก. ก็บอกว่าใช่ใบแบบนี้แหละที่ต้องการ (ทั้งๆที่เอกสารที่เรายื่นก่อนหน้านี้ มีรูปประกอบ มีซีดีเอ็กซเรย์ มีใบตรวจจากหมอเหมือนกันทุกประการแค่มาจากคนละโรงพยาบาล) ก็เขียนๆๆ ใบส่งตัวให้ไปทาง รพ.ย่านปากเกร็ด ก่อน
รพ.ย่านปากเกร็ด ครั้งที่ 1
ก็นำสิทธิใบส่งตัวไปยื่นตามปกติ รวมทั้งเอกสารการตรวจทุกอย่าง วันนั้นก็โดนเจาะเลือด 1 หลอดแล้วกลับบ้าน นัดมาใหม่สัปดาห์ถัดไป เราก็ต้องกลับไปทำใบส่งที่คลินิคเพื่อนำไปรพ.ครั้งต่อไป
รพ.ย่านปากเกร็ด ครั้งที่ 2
วันนี้เข้าไปทำ CT Scan รวมค่าใช้จ่ายออกมาเก้าพันกว่าบาท แต่เราใช้สิทธิไม่เสียสักบาท (ตอนแรกนายก.จะให้ไปตรวจเอง = = นี่แค่ขั้นตอนแรกๆนะ) ก็รับใบเอกสารที่ต้องแฟกซ์ไปให้รพ.วันถัดไป เพื่อให้รพ.ส่งตัวไปสถาบันมะเร็ง เราก็ดำเนินการตามขั้นตอนไป พร้อมกลับไปที่คลินิครักใบส่งตัวเตรียมไปสถาบันมะเร็ง
ขอข้ามๆ บางตอนไปบ้างนะคะ บางครั้งไปรพ. แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร ไปรับใบนัด แล้วก็วิ่งไปรับใบส่งตัวแบบนี้ทุกครั้ง ครั้งต่อไปคุณหมอนัดมาตรวจจากภาพ CT Scan พร้อมนัดตรวจเลือดครั้งต่อไป มาถึงวันตรวจเลือด เจาะเลือดไปหกหลอดค่ะ ข้างละสาม แล้วก็กลับไปขอใบส่งตัวนัดเจาะเซลล์เนื้อเยื่อตรงก้อนเนื้อ มาถึงวันเจาะ ก็ตามปกติค่ะ เจาะเสร็จ หมอออกใบนัดฟังผลตรวจ ป้าพยาบาลออกมาย้ำว่าต้องขอใบส่งตัวนะ เพราะถ้าไม่เป็นมะเร็ง ก็ต้องมียากินต่อเนื่องหกเดือน ยังไงก็ต้องรับยาเยอะ ต้องเอาใบมา ก็ไปค่ะ ไปคลินิค นายก.ดูใบนัดบอกว่าแค่นัดฟังผลไม่ต้องใช้ใบส่งตัว เราก็ย้ำไปตามคุณป้าพยาบาลบอกว่าต้องมีรับยาด้วยค่ะถ้าไม่ใช่มะเร็ง ถ้าใช่ก็ต้องรักษากันไป นายก.บอกว่าถ้ารับยาให้เอาใบสั่งยามาที่นี่ ถ้าต้องรักษาก็ค่อยมาเอาใบ เราก็โอเคค่ะ
ถึงวันไปฟังผล บอกป้าพยาบาลค่ะไม่มีใบส่งตัวค่ะ เค้าบอกแค่ฟังผลเลยไม่ออกให้ แต่หนูบอกไปแล้วว่ามียาเค้าบอกให้เอาใบสั่งยาไป คุณป้าแกกุมขมับ ทำไมทำงานกันอย่างนี้เนี้ย อีกแล้วเหรอ (เคยมีปัญหาตั้งแต่ไม่ออกใบส่งตัวให้ตอนไปหาครั้งแรก ทั้งๆที่ควรให้พบหมอที่คลินิคแล้วส่งตัวไปรพ.เราก็ไม่ต้องไปถึงสถาบันมะเร็งในตอนแรก ทำให้เราต้องวิ่งหลายรอบ ครั้งแรกที่สถาบันมะเร็งคุณหมอไม่คิดเงินด้วยค่ะ ใจดีมาก) คุณป้าแกจำคนไข้ได้หมดค่ะ ใจดี ห่วงสิทธิของคนไข้มาก แกจะพยายามบอกคนไข้ในการใช้สิทธิเสมอว่าเราไม่จำเป็นต้องเสียนะ ทำยังไงๆบ้าง (แต่ งง ว่าทำไมคลินิคที่ควรจะทำสิทธิให้คนไข้กลับไม่ใส่ใจเลย) แกก็เข้าไปบอกหมอค่ะสักพักก็เข้าห้องฟังผลตรวจ ออกใบสั่งยาให้ (ไม่ใช่มะเร็ง) พยาบาลก็ยื่นเอกสารที่ต้องนำไปยื่นที่คลินิค
ค่ะ กลับมาคลินิคอีก รอพบหมอ ยื่นใบสั่งยาเรียบร้อย หมอที่คลินิคออกยาให้ไม่ได้ค่ะ บอกว่าเราไม่มีเอกสารสรุปการตรวจจากสถาบันมะเร็งเหมือนทุกครั้ง (จะมีได้ไงก็นายก.ไม่ออกให้ไม่เขียนให้) แฟนเราก็บอกค่ะว่า นายก.บอกว่าให้เอาแค่ใบสั่งยามารับยาที่นี่ หมอบอกไม่ได้นะ ต้องเอามาด้วย (แทรกนะคะ** มีหนนึงช่วงที่ต้องมาเอาใบส่งตัวก่อนไปเจาะเนื้อเยื่อ นายก.บอกให้เราไปรพ.ย่านปากเกร็ดอีกรอบ แล้วกลับมาคลินิค แล้วค่อยไปสถาบันมะเร็ง คุณหมอที่คลินิคเดินมาเห็นพอดี นางหยิบปากกาขีดทิ้งทั้งที่นายก. ยังจับปากกาเขียนคามืออยู่เลยค่ะ นางขีดทิ้งอย่างไม่ใยดีแล้วบอกว่า จะส่งไปหลายที่ทำไม ก็ส่งไปสถาบันมะเร็งเลยทีเดียว ไม่ต้องเขียนแบบนี้ เข้าใจมั้ย นายก.ก็หน้าบูดค่ะ เหมือนจะหยิบลิควิดมาลบ แต่ก็ตัดสินใจหยิบใบใหม่มาเขียน) แฟนเดือดมากค่ะ นายก.นี่คือทำงานสะเพร่า ทำเหมือนรู้ แต่จริงๆมั่วมากค่ะ เคยเห็นคนอื่นมาโวยวายเหมือนกันแรกๆ เราก็สงสาร คงเจอเยอะ ตอนนี้คิดว่ายังน้อยไปด้วยซ้ำ เราก็โทหาป้าพยาบาลเลยค่ะ นางเดือดมากก โทเข้าไปคลินิคเอง ทางคลินิคทำไงรู้มั้ยคะ คนที่รับสายบอกว่าเราก็จ่ายยาไปให้แล้วนี่ค่ะ!!! วางสายใส่ป้าพยาบาล ที่ให้มาอ่ะ วิตามินบี 2 ค่ะ จากรายการหลัก 5 ตัวยา คือใจคอจะให้แค่วิตามิน แล้วยาที่เหลือ??? หมอให้เร่งกินวันนี้ด้วย ป้าพยาบาลโทกลับหาเราแกเดือดมากค่ะ โมโหจนบอกว่าป้าไม่รู้จะช่วยยังไงดีแล้ว เดี๋ยวแฟกซ์เอกสารไปให้คลินิคแล้วกัน เราก็วิ่งไปคลินิคอีกค่ะ เห็นนายก. นั่งเขียนยุกยิกๆ เราก็เข้าไปบอกมารับเอกสารที่พยาบาลแฟกซ์มาให้ทำเรื่องค่ะ ฮีตอบมาว่า "รู้แล้วค่ะ กำลังเขียนอยู่" เราก็นั่งรอ "รับใบส่งตัว" เราก็เดินไปหยิบซองพร้อมเอ่ยขอบคุณค่ะ อย่างสุภาพ ฮีสวน "ไม่ต้องมาขอบคุณชั้น ไปขอบคุณนางพยาบาลที่โทมาดีกว่า!!!!" เราก็ไม่สนใจ ทั้งๆที่ในใจโมโหมากกกกกก ...นั่งรถไปสถาบันมะเร็งอีกรอบในวันเดียวกันเพื่อรับยา เจอหน้าป้าพยาบาล นางโมโหค่ะ โมโหทางคลินิคมาก แต่ก็ช่วยเหลือเราอย่างดีมาตลอด
เท่าที่ดู เค้าไม่รู้ขั้นตอนโดยละเอียด หรือขี้เกียจมากก็ไม่ทราบค่ะ เราต้องรักษาอีกยาวนาน ต่ำๆก็ครึ่งปี เจอคนทำเรื่องแบบนี้ เราสงสารแฟนค่ะไม่สบายต้องวิ่งไปๆ มาๆ ระหว่างแถวม.ธุรกิจฯ-พญาไท ไม่ได้ร้องขอบริการที่ประทับใจ แต่ต้องการให้มีจรรยาบรรณมากกว่านี้ ต้องทำยังไงถึงจะแก้ไขเรื่องนี้ได้คะ มันเหลือเกินจริงๆ นายก. ตัดสินการทำเรื่องเองโดยไม่ปรึกษาคุณหมอหรือใคร ซึ่งการตัดสินใจนั้นผิดหลายครั้งหลายคราด้วยกัน ไม่ฟังคำพูดใคร ไม่ฟังเหตุผลใดๆ แถมบอกขั้นตอนคนไข้แบบผิดๆ วุ่นวายมาก หมั่นไส้ รึขี้เกียจ รึอะไรไม่อยากให้คนแบบนี้อยู่ทำงานที่เกี่ยวข้องกับชีวิตเราจริงๆ เราพอจะฟ้องหรือร้องเรียนทางใดได้บ้างมั้ยคะ
เราพูดตามที่โดนกับตัวเองมาจริงๆ แล้ววันนี้ก็เหลืออดมากแล้ว โดนพูดจาไม่ดีใส่ ทั้งๆ ที่เราไม่ได้เป็นคนผิด ที่พิมมาอาจจะสับสนตรงไหนขออภัยนะคะ แต่เรารู้สึกแย่จริงๆ กับการที่เห็นแฟนต้องรักษาขนาดนี้ อายุก็ยังน้อย(22) สภาพจิตใจก็แย่มากแล้วค่ะ มาเจอการกระทำแบบนี้อีก บรรยายเป็นคำพูดทั้งหมดไม่ได้จริงๆ
ไม่มีเจตนาทำลายชื่อเสียงคลินิคนะคะ แต่ไม่ต้องการให้บุคคลอื่นๆ หลายๆคน ที่ไปคลินิคนั้นซึ่งเชื่อเหลือเกินว่า เราไม่ใช่คนเดียวที่เจอ ไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แค่ทำเรื่องก็เหนื่อยพอแล้ว ขอคำแนะนำจากผู้รู้แล้วก็ผู้ที่ได้อ่านหน่อยนะคะ ถ้าใครเคยเจอหรือคิดว่าเป็นคลินิคเดียวกันก็มาคุยกันได้ค่ะ แชร์ๆ กัน เราว่าเรื่องนี้สำคัญนะ เจอคนที่ไร้ความสามารถในการประกอบวิชาชีพแบบนี้ แถมไม่มีจรรยาบรรณ คนไข้คนป่วยคนเจ็บก็แย่สิแบบนี้
ปล.คลินิคเวชกรรม คา**รา**คลินิค หลังม.ธุรกิจฯ
ติดต่อหลังไมค์ได้ค่ะ
Line: ornnalint
หรือฝากข้อความผ่านทางนี้ก็ได้นะคะ เราจะมาอัพเดตเรื่อยๆ
ถ้าผิดกฎ เสี่ยงกระทู้โดนหิ้วตรงไหนท้วงติงได้นะคะ
ผิด หรือสับสนวกวนยังไง ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ