หลายวันก่อนผมกำลังเสิร์ชหาข้อมูลเพลงกับแผ่นเสียง ก็ไปเจอกับเว็บนี้ครับ
http://www.discogs.com/sell/list
และหลังจากไล่ดูราคาแผ่นเสียงที่หมายปองอยู่ก็ต้องทึ่งกับความเยอะมากมายของแผ่น ทั้งเก่าใหม่
และที่สำคัญที่สุดคือ "ราคา" ที่ถือว่าย่อมเยามาก เพราะส่วนใหญ่ราคาถ้าเป็นแผ่นมือสองจะอยู่ที่ 100-300 บาทไปจนถึงแผ่นใหม่ 600-700 บาทเท่านั้น
ในขณะที่ถ้าซื้อใน ebay ราคาจะเกิน 1000 บาทขึ้นไปแทบทั้งหมด แต่พอจะเสิร์ชหาวิธีการซื้อเป็นภาษาไทยกลับแทบไม่มี ก็เลยอยากจะมาบอกเล่าแหล่งสำหรับคนที่ชื่นชอบการซื้อเก็บแผ่นเพลงกันครับ
เอาละมาเข้าเรื่องแบบเป็นทางการกัน
Discogs เป็นเว็บรวมข้อมูลต่างๆ ของแผ่นเพลงสากล เป็นช่องทางทำหรับซื้อและขายแผ่นเพลงทุกฟอร์แม็ต ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเสียง เทปคลาสเซ็ต ซีดี ดีวีดี และอื่นๆ ตามแต่ที่ร้านต่างๆ จะลงขาย ซึ่งลักษณะจะเคล้าย ebay คือมีร้านต่างๆ มาลงขายกับทาง Discogs และเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนซื้อเพลง สามารถสร้างคอลเล็คชั่นเพลงที่เรามีอยู่ได้ (ซึ่งตรงนี้จะไม่ขอพูดถึงเพราะผมก็ไม่ค่อยได้ใช้เลยไม่ค่อยรู้มาก)
สำหรับการซื้อแผ่นเพลงก็เริ่มจาก เสิร์ชแผ่นที่เราสนใจ จะเสิร์ชจากชื่อเพลง ชื่ออัลบัม หรือชื่อศิลปินก็แล้วแต่ ซึ่งการเสิร์ชก็มี 2 ทางคือ
เสิร์ชกันตรงๆ ในช่อง search ก็จะเจอกับข้อมูลศิลปิน อัลบัม หรือซิงเกิ้ลนั้นๆ ตามที่เราเสิร์ช กับเสิร์ชใน marketplace ซึ่งเดี๋ยวจะมาพูดกันทีหลัง
มาดูการเสิร์ชแบบแรก อย่างเช่นผมเสิร์ช Daft Punk ก็จะมีข้อมูลศิลปิน Daft Punk และอัลบัมต่างๆ
เราสามารถค้นหาผลงานต่างๆ (discography) ของศิลปินได้ในช่องทางซ้าย ซึ่งเราสามารถใช้ฟิลเตอร์ต่างๆ ช่วยเราหาได้
แล้วถ้าเราคลิกเลือกผลงานซักผลงานนึงก็จะไปยังรายละเอียดของผลงานนั้นๆ และสำหรับผลงานที่ไม่โบราณมากนักส่วนใหญ่ก็จะมี YouTube ตัวอย่างเพลงให้ฟังด้วย และสามารถดูรีวิวหรือเขียนรีวิวผลงานนั้นๆ ได้
ทีนี้ถ้าอยากจะหาซื้อแผ่นเพลงอัลบัมนี้ก็คลิกปุ่มสีฟ้าๆ ทางขวาได้เลย
แต่ถ้าเราสนใจว่าอัลบัมนี้มีแผ่นกี่เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นไหน ฟอร์แม็ตอะไรผลิตที่ไหนปีไหนก็เลื่อนลงมาดูก่อนได้ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อมูลที่ผู้ขายเอามาลงไว้ดังนั้น บางทีเราจะเห็นข้อมูลเวอร์ชั่นพวกนี้ดูสะเปะสะปะอยู่บ้าง สำหรับคนซื้อแผ่นเสียงใหม่หรือซีดีอาจจะข้ามเรื่องพวกนี้ไปก็ได้ครับ แต่สำหรับพวกซื้อแผ่นเสียงเก่าๆ อาจจะสนใจข้อมูลตรงนี้ก็ลองไล่ๆ ดู แล้วถ้าเจอ release ที่ตัวเองต้องการแล้วก็คลิกเข้าไปเลย
(ไม่ขอลงรูปนะครับ เพราะรูปยาวมาก 555)
คราวนี้ก็จะเจอรายละเอียดชนิดเจาะลึกยาวเหยียด มีทั้งชื่อแทร็ค รายชื่อศิลปินที่มีส่วนร่วมทำผลงานในแต่ละแทร็ค รายชื่อโปรดิวเซอร์ ชื่อสตูดิโอบันทึกเสียง บริษัทจัดจำหน่าย เครดิตต่างๆ ราคากลาง ราคาสูงสุดต่ำสุด เรียกได้ว่าแทบจะเป็นวิกิพีเดียของแผ่นนั้นๆ เลยทีเดียว และถ้านั่งดูจนพอใจแล้วต้องการซื้อก็คลิกซื้อปุ่มสีฟ้าทางด้านขวาได้เลย
ทีนี้ถ้าเราเสิร์ชจาก marketplace ก็จะเจอหน้าตาในลักษณะนี้เหมือนกันเพียงแต่เราไม่ได้เลือก release version ของแผ่น ก็จะเจอของที่ค่อนข้างสะเปะสะปะพอสมควร ซึ่งเราสามารถใช้ฟิลเตอร์ทางด้านซ้ายหาสิ่งที่เราต้องการได้
และสำหรับคนที่จะมาหาแผ่นเพลงโดยไม่เจาะจงศิลปินคนไหน ก็สามารถเข้าหน้า marketplace แล้วใช้ฟิลเตอร์หาสิ่งที่ต้องการได้เช่น อยากหาแผ่นเพลงแจ๊ส เพลงแดนซ์ เป็นแผ่นเสียง ซีดี เทป ของยุคไหนปีไหนสภาพไหนก็สามารถใช้ฟิลเตอร์ช่วยหาได้เลย
ก่อนจะไปถึงเรื่องการซื้อ เรามาดูระบบตะกร้าของที่นี่ก่อนครับ
ระบบตะกร้าที่นี่ไม่เหมือนของ ebay ครับ คือจะไม่ได้เป็นตะกร้ารวมแต่จะเป็นตะกร้าแยกร้าน มันสำคัญยังไง..
สำคัญตรงค่าขนส่งครับ สมมติซื้อสามแผ่น ถ้าซื้อจากร้านเดียวกันเค้าจะคิดค่าส่งครั้งเดียว แต่ถ้าซื้อแยกร้านก็หมายความว่าเราต้องจ่ายค่าขนส่ง 3 รอบเลยซึ่งก็ค่อนข้างแพงอยู่พอสมควรดังนั้นถ้าเราซื้อหลายแผ่น ลองพยายามหาร้านที่มีแผ่นที่เราต้องการครบมากที่สุดครับ จะช่วยประหยัดค่าขนส่งได้เยอะทีเดียว
ส่วนจะใช้วิธีไหนหาร้านที่มีแผ่นที่เราต้องการก็ต้องหาวิธีที่ตัวเองถนัดดูครับ แต่สำหรับวิธีผมคือลองดูร้านที่ทีจำนวนเรตติ้งสูงๆ หมายถึงจำนวนคนให้คะแนนนะครับ ถ้าจำนวนมีเยอะก็เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นร้านใหญ่ น่าจะมีตัวเลือกแผ่นเยอะก็ลองเข้าไปในร้านนั้นแล้วเสิร์ชหาเพลงอื่นๆ ที่อยากได้ดู
ทีนี้นอกจากจะดูว่าร้านไหนมีแผ่นที่เราต้องการแล้ว สิ่งที่ต้องดูให้ละเอียดก็คือ รายละเอียดการส่งครับว่า ร้านใช้บริการส่งของของอะไร ส่งไปที่ประเทศเรามั้ย คิดราคาเท่าไหร่ยังไง ประมาณกี่วันถึง ฯลฯ และที่สำคัญถ้าเป็นแผ่นเสียงอัลบัม x2 LP เค้านับเป็นแผ่นเดียวหรือสองแผ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะนับเป็น 2 แผ่นครับด้วยเหตุผลในเรื่องของน้ำหนักพัสดุ
บางร้านอาจจะคิดแผ่นแรกแพงหน่อยแต่แผ่นต่อๆ ไปเพิ่มค่าส่งนิดหน่อย แต่บางร้านก็ยิ่งหลายแผ่นค่าส่งก็ยิ่งแพงเป็นเท่าตัว ซึ่งถ้าเราเจอแต่แบบหลัง การซื้อแยกร้านกับซื้อจากร้านเดียวค่าส่งอาจไม่ต่างเท่าไหร่ ก็ต้องพิจารณากันเองครับ
หรือถ้ามีอะไรสงสัยนอกจากที่เค้าแจ้งไว้ก็สามารถส่งข้อความติดต่อถามเค้าได้ครับเช่น ขอใช้บริการส่งของอื่นได้มั้ย ตอนส่งมี tracking number ให้รึเปล่าก็ถามไปครับ
หลังจากเราเลือกแผ่นใส่ตะกร้าจนพอใจแล้ว เราอาจจะบอกอะไรกับเจ้าของร้าน ก็บอกเค้าไปครับ จากนั้นก็ Place order วางบิลได้เลย
เราก็รอทางร้านคำนวณเงินทั้งหมดให้ครับ แล้วเค้าจะแจ้งมาทางอีเมลเพื่อยืนยันการซื้อ แล้วตัดเงินเราไป เอ้อลืมบอกครับ เว็บนี้ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือ PayPal เท่านั้นนะครับตามแบบเว็บซื้อของออนไลน์ต่างประเทศทั่วไป ซึ่งถ้าใครไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถทำบัตรเครดิตเสมือนได้ครับ อันนี้ก็ลองหาข้อมูลดูกันเองละกัน
หลังจากนี้ก็รอไปครับ ระหว่างนี้ถ้ายังลุ้น ตื่นเต้น หรือเหงาเปล่าเปลี่ยวก็ message ไปหาเจ้าของร้านในหน้า message ได้เรื่อยๆ ครับ ถ้าเค้าไม่รำคาญซะก่อนนะ.. กว่าของจะถึงไทยโดยทั่วไปก็ประมาณ 10-20 วันครับ แล้วแต่ร้าน
แล้วแผ่นที่ผมสั่งก็มาถึงครับ ไม่ได้ถ่ายตอนแกะจากกล่องพัสดุครับ แบบว่าตื่นเต้นเลยรีบแกะแล้วเอาไปทิ้งซะก่อน 5555
สรุปแล้ว Discogs เป็นคลังข้อมูลเพลงที่ข้อมูลแน่น การซื้อแผ่นที่มีตัวเลือกเยอะ แผ่นมากมาย ร้านหลากหลาย หลายๆ แผ่นไม่มีใน ebay แต่ที่นี่ก็มี และมี "ฟิลเตอร์" เป็นของดีเลยครับ สำหรับใครที่อยากหาแผ่นมาฟังแต่ไม่รู้จะเอาแผ่นไหนก็ฟิลเตอร์นี่แหละ
และสำหรับแผ่นเสียง ราคาถูกจนน่าแปลกใจ ถึงจะบวกค่าขนส่งแล้วก็ยังถูกกว่าซื้อ ebay, amazon หรือร้านในไทยทั้งหลาย เรียกได้ว่าน่าจะเป็นสวรรค์ของคนชอบซื้อแผ่นเพลงฟังเลยทีเดียว
[CR] มาหาซื้อแผ่นเพลงใน Discogs กัน
http://www.discogs.com/sell/list
และหลังจากไล่ดูราคาแผ่นเสียงที่หมายปองอยู่ก็ต้องทึ่งกับความเยอะมากมายของแผ่น ทั้งเก่าใหม่
และที่สำคัญที่สุดคือ "ราคา" ที่ถือว่าย่อมเยามาก เพราะส่วนใหญ่ราคาถ้าเป็นแผ่นมือสองจะอยู่ที่ 100-300 บาทไปจนถึงแผ่นใหม่ 600-700 บาทเท่านั้น
ในขณะที่ถ้าซื้อใน ebay ราคาจะเกิน 1000 บาทขึ้นไปแทบทั้งหมด แต่พอจะเสิร์ชหาวิธีการซื้อเป็นภาษาไทยกลับแทบไม่มี ก็เลยอยากจะมาบอกเล่าแหล่งสำหรับคนที่ชื่นชอบการซื้อเก็บแผ่นเพลงกันครับ
เอาละมาเข้าเรื่องแบบเป็นทางการกัน
Discogs เป็นเว็บรวมข้อมูลต่างๆ ของแผ่นเพลงสากล เป็นช่องทางทำหรับซื้อและขายแผ่นเพลงทุกฟอร์แม็ต ไม่ว่าจะเป็นแผ่นเสียง เทปคลาสเซ็ต ซีดี ดีวีดี และอื่นๆ ตามแต่ที่ร้านต่างๆ จะลงขาย ซึ่งลักษณะจะเคล้าย ebay คือมีร้านต่างๆ มาลงขายกับทาง Discogs และเป็นคอมมูนิตี้สำหรับคนซื้อเพลง สามารถสร้างคอลเล็คชั่นเพลงที่เรามีอยู่ได้ (ซึ่งตรงนี้จะไม่ขอพูดถึงเพราะผมก็ไม่ค่อยได้ใช้เลยไม่ค่อยรู้มาก)
สำหรับการซื้อแผ่นเพลงก็เริ่มจาก เสิร์ชแผ่นที่เราสนใจ จะเสิร์ชจากชื่อเพลง ชื่ออัลบัม หรือชื่อศิลปินก็แล้วแต่ ซึ่งการเสิร์ชก็มี 2 ทางคือ
เสิร์ชกันตรงๆ ในช่อง search ก็จะเจอกับข้อมูลศิลปิน อัลบัม หรือซิงเกิ้ลนั้นๆ ตามที่เราเสิร์ช กับเสิร์ชใน marketplace ซึ่งเดี๋ยวจะมาพูดกันทีหลัง
มาดูการเสิร์ชแบบแรก อย่างเช่นผมเสิร์ช Daft Punk ก็จะมีข้อมูลศิลปิน Daft Punk และอัลบัมต่างๆ
เราสามารถค้นหาผลงานต่างๆ (discography) ของศิลปินได้ในช่องทางซ้าย ซึ่งเราสามารถใช้ฟิลเตอร์ต่างๆ ช่วยเราหาได้
แล้วถ้าเราคลิกเลือกผลงานซักผลงานนึงก็จะไปยังรายละเอียดของผลงานนั้นๆ และสำหรับผลงานที่ไม่โบราณมากนักส่วนใหญ่ก็จะมี YouTube ตัวอย่างเพลงให้ฟังด้วย และสามารถดูรีวิวหรือเขียนรีวิวผลงานนั้นๆ ได้
ทีนี้ถ้าอยากจะหาซื้อแผ่นเพลงอัลบัมนี้ก็คลิกปุ่มสีฟ้าๆ ทางขวาได้เลย
แต่ถ้าเราสนใจว่าอัลบัมนี้มีแผ่นกี่เวอร์ชั่น เวอร์ชั่นไหน ฟอร์แม็ตอะไรผลิตที่ไหนปีไหนก็เลื่อนลงมาดูก่อนได้ ซึ่งข้อมูลตรงนี้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นข้อมูลที่ผู้ขายเอามาลงไว้ดังนั้น บางทีเราจะเห็นข้อมูลเวอร์ชั่นพวกนี้ดูสะเปะสะปะอยู่บ้าง สำหรับคนซื้อแผ่นเสียงใหม่หรือซีดีอาจจะข้ามเรื่องพวกนี้ไปก็ได้ครับ แต่สำหรับพวกซื้อแผ่นเสียงเก่าๆ อาจจะสนใจข้อมูลตรงนี้ก็ลองไล่ๆ ดู แล้วถ้าเจอ release ที่ตัวเองต้องการแล้วก็คลิกเข้าไปเลย
(ไม่ขอลงรูปนะครับ เพราะรูปยาวมาก 555)
คราวนี้ก็จะเจอรายละเอียดชนิดเจาะลึกยาวเหยียด มีทั้งชื่อแทร็ค รายชื่อศิลปินที่มีส่วนร่วมทำผลงานในแต่ละแทร็ค รายชื่อโปรดิวเซอร์ ชื่อสตูดิโอบันทึกเสียง บริษัทจัดจำหน่าย เครดิตต่างๆ ราคากลาง ราคาสูงสุดต่ำสุด เรียกได้ว่าแทบจะเป็นวิกิพีเดียของแผ่นนั้นๆ เลยทีเดียว และถ้านั่งดูจนพอใจแล้วต้องการซื้อก็คลิกซื้อปุ่มสีฟ้าทางด้านขวาได้เลย
ทีนี้ถ้าเราเสิร์ชจาก marketplace ก็จะเจอหน้าตาในลักษณะนี้เหมือนกันเพียงแต่เราไม่ได้เลือก release version ของแผ่น ก็จะเจอของที่ค่อนข้างสะเปะสะปะพอสมควร ซึ่งเราสามารถใช้ฟิลเตอร์ทางด้านซ้ายหาสิ่งที่เราต้องการได้
และสำหรับคนที่จะมาหาแผ่นเพลงโดยไม่เจาะจงศิลปินคนไหน ก็สามารถเข้าหน้า marketplace แล้วใช้ฟิลเตอร์หาสิ่งที่ต้องการได้เช่น อยากหาแผ่นเพลงแจ๊ส เพลงแดนซ์ เป็นแผ่นเสียง ซีดี เทป ของยุคไหนปีไหนสภาพไหนก็สามารถใช้ฟิลเตอร์ช่วยหาได้เลย
ก่อนจะไปถึงเรื่องการซื้อ เรามาดูระบบตะกร้าของที่นี่ก่อนครับ
ระบบตะกร้าที่นี่ไม่เหมือนของ ebay ครับ คือจะไม่ได้เป็นตะกร้ารวมแต่จะเป็นตะกร้าแยกร้าน มันสำคัญยังไง..
สำคัญตรงค่าขนส่งครับ สมมติซื้อสามแผ่น ถ้าซื้อจากร้านเดียวกันเค้าจะคิดค่าส่งครั้งเดียว แต่ถ้าซื้อแยกร้านก็หมายความว่าเราต้องจ่ายค่าขนส่ง 3 รอบเลยซึ่งก็ค่อนข้างแพงอยู่พอสมควรดังนั้นถ้าเราซื้อหลายแผ่น ลองพยายามหาร้านที่มีแผ่นที่เราต้องการครบมากที่สุดครับ จะช่วยประหยัดค่าขนส่งได้เยอะทีเดียว
ส่วนจะใช้วิธีไหนหาร้านที่มีแผ่นที่เราต้องการก็ต้องหาวิธีที่ตัวเองถนัดดูครับ แต่สำหรับวิธีผมคือลองดูร้านที่ทีจำนวนเรตติ้งสูงๆ หมายถึงจำนวนคนให้คะแนนนะครับ ถ้าจำนวนมีเยอะก็เดาได้เลยว่าน่าจะเป็นร้านใหญ่ น่าจะมีตัวเลือกแผ่นเยอะก็ลองเข้าไปในร้านนั้นแล้วเสิร์ชหาเพลงอื่นๆ ที่อยากได้ดู
ทีนี้นอกจากจะดูว่าร้านไหนมีแผ่นที่เราต้องการแล้ว สิ่งที่ต้องดูให้ละเอียดก็คือ รายละเอียดการส่งครับว่า ร้านใช้บริการส่งของของอะไร ส่งไปที่ประเทศเรามั้ย คิดราคาเท่าไหร่ยังไง ประมาณกี่วันถึง ฯลฯ และที่สำคัญถ้าเป็นแผ่นเสียงอัลบัม x2 LP เค้านับเป็นแผ่นเดียวหรือสองแผ่น ซึ่งส่วนใหญ่จะนับเป็น 2 แผ่นครับด้วยเหตุผลในเรื่องของน้ำหนักพัสดุ
บางร้านอาจจะคิดแผ่นแรกแพงหน่อยแต่แผ่นต่อๆ ไปเพิ่มค่าส่งนิดหน่อย แต่บางร้านก็ยิ่งหลายแผ่นค่าส่งก็ยิ่งแพงเป็นเท่าตัว ซึ่งถ้าเราเจอแต่แบบหลัง การซื้อแยกร้านกับซื้อจากร้านเดียวค่าส่งอาจไม่ต่างเท่าไหร่ ก็ต้องพิจารณากันเองครับ
หรือถ้ามีอะไรสงสัยนอกจากที่เค้าแจ้งไว้ก็สามารถส่งข้อความติดต่อถามเค้าได้ครับเช่น ขอใช้บริการส่งของอื่นได้มั้ย ตอนส่งมี tracking number ให้รึเปล่าก็ถามไปครับ
หลังจากเราเลือกแผ่นใส่ตะกร้าจนพอใจแล้ว เราอาจจะบอกอะไรกับเจ้าของร้าน ก็บอกเค้าไปครับ จากนั้นก็ Place order วางบิลได้เลย
เราก็รอทางร้านคำนวณเงินทั้งหมดให้ครับ แล้วเค้าจะแจ้งมาทางอีเมลเพื่อยืนยันการซื้อ แล้วตัดเงินเราไป เอ้อลืมบอกครับ เว็บนี้ชำระเงินผ่านบัตรเครดิตหรือ PayPal เท่านั้นนะครับตามแบบเว็บซื้อของออนไลน์ต่างประเทศทั่วไป ซึ่งถ้าใครไม่มีบัตรเครดิตก็สามารถทำบัตรเครดิตเสมือนได้ครับ อันนี้ก็ลองหาข้อมูลดูกันเองละกัน
หลังจากนี้ก็รอไปครับ ระหว่างนี้ถ้ายังลุ้น ตื่นเต้น หรือเหงาเปล่าเปลี่ยวก็ message ไปหาเจ้าของร้านในหน้า message ได้เรื่อยๆ ครับ ถ้าเค้าไม่รำคาญซะก่อนนะ.. กว่าของจะถึงไทยโดยทั่วไปก็ประมาณ 10-20 วันครับ แล้วแต่ร้าน
แล้วแผ่นที่ผมสั่งก็มาถึงครับ ไม่ได้ถ่ายตอนแกะจากกล่องพัสดุครับ แบบว่าตื่นเต้นเลยรีบแกะแล้วเอาไปทิ้งซะก่อน 5555
สรุปแล้ว Discogs เป็นคลังข้อมูลเพลงที่ข้อมูลแน่น การซื้อแผ่นที่มีตัวเลือกเยอะ แผ่นมากมาย ร้านหลากหลาย หลายๆ แผ่นไม่มีใน ebay แต่ที่นี่ก็มี และมี "ฟิลเตอร์" เป็นของดีเลยครับ สำหรับใครที่อยากหาแผ่นมาฟังแต่ไม่รู้จะเอาแผ่นไหนก็ฟิลเตอร์นี่แหละ
และสำหรับแผ่นเสียง ราคาถูกจนน่าแปลกใจ ถึงจะบวกค่าขนส่งแล้วก็ยังถูกกว่าซื้อ ebay, amazon หรือร้านในไทยทั้งหลาย เรียกได้ว่าน่าจะเป็นสวรรค์ของคนชอบซื้อแผ่นเพลงฟังเลยทีเดียว