ในยุคดิจิตอลแบบนี้ ใครที่ชอบฟังเพลงหลากหลายแนว และมักจะค้นหาเพลงใหม่ๆมาฟัง
ประตูสู่การเข้าถึงเพลงและศิลปินหน้าใหม่คงหนีไม่พ้นแอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ใช้กันจนคุ้นเคยอย่าง iTunes, Soundcloud หรือ Bandcamp ที่ถือเป็นตัวช่วยให้การค้นหาเพลงและอัพเดตผลงานศิลปินที่เราติดตามเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น แต่ในบ้างครั้ง เพลงที่ใช่ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว การนึกถึงแต่ทำนอง และจดจำได้แค่บางท่อนของเพลง แล้วเก็บไปค้นหาคงไปเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้วสำหรับยุคนี้ เพราะตัวช่วยอย่าง Shazam Application ที่สามารถโหลดลงเครื่องได้อย่างง่ายดาย สามารถเก็บข้อมูลท่วงทำนองเพลงที่เราได้ฟังแล้วประมวลผลออกมาเป็นชื่อเพลงและศิลปินให้เราได้หายสงสัยในเวลาไม่นาน ไม่ต้องเก็บกลับบ้านแล้วเอาไปถามคนข้างๆให้เสียเวลา เพราะการเข้าถึงบทเพลงและแนวเพลงที่น่าสนใจในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ความสวยงามในท่วงทำนอง ที่มาพร้อมกับความบังเอิญ
ผมเชื่อเสมอว่า อะไรที่มันเป็นของเรา สักวันมันก็จะผ่านเข้ามาให้เราได้เป็นเจ้าของ ได้สัมผัส ได้ใช้ประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งบทเพลงก็เช่นเดียวกัน…โดยส่วนตัวแล้วผมชอบค้นหาเพลงใหม่ๆมาลองฟังอยู่เสมอ ผมเสียเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละอาทิตย์ไปกับการค้นหาเพลงใหม่ๆใน Apple Music เพื่อหาลิงค์แนะนำศิลปินจากเพลงหรือนักร้องที่ผมชื่นชอบ แต่การมาเจอกับเพลงที่ผมชอบในครั้งนี้แตกต่างออกไปในขณะที่ผมกำลังค้นหาแผ่นเสียงไปเรื่อยๆ ที่ร้าน coconuts disk ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อัลบั้มหนึ่งก็เข้ามาปรากฎอยู่ในโสตประสาทของผมโดยไม่ได้ตั้งใจ แผ่นเสียงแผ่นนี้ถูกเปิดโดยพนักงานของทางร้าน ท่วงทำนองที่สวยงามและเสียงร้องที่มีเสน่ห์ เพลงแล้วเพลงเล่าจบลงและวนเวียนเปลี่ยนเพลงไปสักระยะ ผมมักจะมีคำถามเสมอเวลาได้ยินเพลงลอยผ่านเข้าหูแบบไม่ได้ตั้งใจว่าผมหลงรักเพลงนั้นมากน้อยแค่ไหน พอผมหยุดค้นแผ่นเสียงและหันมาตั้งใจฟังเพลงที่กำลังเปิดอยู่ ผมเหมือนถูกสะกดให้ดำดิ่งไปกับท่วงทำนองที่ไพเราะถึงแม้ผมจะไม่เข้าใจความหมายของเนื้อร้องเลยก็ตาม
การตัดสินใจต่อมากับเพลงใหม่ๆที่ผมได้ยินครั้งแรกและรู้สึกชอบคือ มันเป็นเพลงของใคร และผมอยากได้ยินมันซ้ำๆอีกหรือไม่ ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นานกับเพลงของศิลปินคนนี้ ผมเลยตัดสินใจเดินไปถามพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ว่าเพลงที่เขาเปิดอยู่เป็นเพลงของใคร ผมใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร เขาไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ ภาษากายเลยเป็นอีกหนึ่งภาษาที่เรานำมาช่วยในการเป็นสื่อเพื่อขยายบทสนทนาให้ฟังดูเข้าใจมากยิ่งขึ้น
‘ผมชอบเพลงที่เปิดอยู่มากๆ อยากรู้ว่าเป็นเพลงของใคร’ ปากขยับ มือก็ต้องทำท่าประกอบ แต่ผลปรากฎที่ได้คือเขาพยักหน้าตอบกลับ ดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจคำถามมากขึ้น เขาหันไปหยิบหน้าปกของแผ่นเสียงที่วางอยู่ข้างๆเครื่องเล่นแผ่นเสียง ลักษณะของปกไม่มีภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นเลยสักนิด มีแค่ภาพวาดดอกไม้และใบไม้หลากสีในลักษณะหม่นๆเป็นองค์ประกอบของหน้าปก ผมเลยให้เขาเขียนชื่อนักร้องลงบนกระดาษให้แทน
คำว่า may.e ถูกเขียนลงบนกระดาษแล้วยื่นมาตรงหน้าผม
ผมถามกลับไปในทันทีว่าทางร้านมีแผ่นเพลงนี้ขายไหม เขาตอบมาว่าหมดไปนานแล้ว เพราะออกมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 ผมเลยถามต่อว่าผมว่าจะสามารถหาซื้อแผ่นเสียงนี้ได้จากที่ไหน ด้วยความเป็นศิลปินแนวอินดี้ การจะไปเดินหาซื้อจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยังดีที่พนักงานให้ความช่วยเหลือดีมากครับ เขาชี้ไปที่สติ้กเกอร์ราคาเล็กๆที่แปะอยู่บนปก บ่งบอกว่าทางร้านได้แผ่นเสียงนี้มากจากร้านไหน ผมเลยหยิบกระดาษที่เขาเขียนชื่อ may.e บนโต๊ะใส่กระเป๋าเสื้อ และมุ่งตรงไปยังเป้าหมายต่อไปอย่าง Jet Set ในทันที
ปฏิบัติการเดินตามหาแผ่นเสียง
เชื่อไหมว่าตอนเดินหาแผ่นเสียง ผมคิดตลอดทางว่าถ้าไม่ได้แผ่นนี้กลับไปนอนฟังที่เมืองไทยเนี่ย คงค้างคาใจไปตลอดแน่ๆ จึงเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นในใจว่ายังไงผมก็ต้องได้แผ่นนี้ไปครอบครอง ระหว่างเดินทางไปร้านดังกล่าว ผมก็พยายามจะหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เนตเพื่อเป็นแนวทางว่าถ้าไม่ได้แผ่นเสียงแผ่นนี้ยังพอจะสามารถฟังเพลงของ may.e ได้จากที่ไหนบ้าง ข้อมูลที่สามารถหาได้ในอินเตอร์เนตเกี่ยวกับ may.e ในขณะนั้นมีน้อยมาก แผนที่วางไว้ว่าจะแวะร้านแผ่นเสียงอื่นถูกพับเก็บไปโดยอัตโนมัติ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายมาเดินตามหาร้าน Jet Set ตามที่พนักงานบอกไว้อย่างเดียวเลย โดยร้าน Jet Set ที่ผมหานั้นอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวออกไป ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการเดินทางไปถึง เพราะต้องเปลี่ยนรถไฟอยู่หลายสายกว่าจะไปถึงย่านที่เรียกว่า Shimokitazawa ซึ่งเป็นย่านร้านค้าเล็กๆ ขายพวกเสื้อผ้าแนววินเทจ มีคาแฟ่และผับเล่นดนตรีสดจำนวนมาก โดยจากสถานีรถไฟที่ผมลงมานั้น ต้องใช้เวลาเดินอยู่สักพักตามเส้นทางกูเกิลแมพจนมาถึงร้านในช่วงเย็น ตอนเจอร้าน สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยคือดีใจมากๆ แม้ว่า Jet Set จะเป็นร้านที่อยู่ในลิสต์ แต่ก็ไม่ใช่ร้านหลักที่ผมจะต้องมาให้ได้ พูดง่ายๆคือข้ามไปก็ได้นะ แต่พอมามาตอนนี้ ผมทั้งตื่นเต้นทั้งลุ้นมากตอนที่จะเดินเข้าไปในร้าน เพราะนั่นหมายถึงว่า ผมจะได้แผ่นเสียงของ may.e กลับไปหรือเปล่า
โดยที่ตั้งของร้าน Jet Set จะอยู่บริเวณชั้นสองของตึกแถวขนาดหนึ่งคูหา ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ผมไม่รอช้า รีบเปิดประตูเข้าไปในร้าน เดินตรงไปที่เคาท์เตอร์พร้อมยื่นกระดาษที่พกมาให้ด้วยความหวัง ยิ่งพอได้รู้ว่าพนักงานหญิงที่ยืนประจำอยู่นั้นสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ก็รีบบอกถึงสิ่งที่ผมกำลังหาอยู่ในทันที แต่สุดท้ายเธอกลับตอบมาว่า “เสียใจด้วยค่ะ แผ่นนี้ออกมาประมาณปีกว่าแล้ว และทางร้านก็ขายหมดไปนานแล้ว”
สีหน้าของผมในตอนนั้นคงดูเศร้ามากหลังจากที่ได้ยินเธอตอบ บวกกับความเหนื่อยจากการเดินทางอันซับซ้อนที่แบกเอาความหวังมาอย่างเต็มเปี่ยม แปรเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น ตัดสินใจบอกพนักงานว่าได้ยินเพลงของศิลปินคนนี้มากจากร้าน Coconuts Disk แล้วก็ชอบมากๆ ทำอย่างไรถึงจะหาแผ่นเสียงนี้เจอ มีที่อื่นแนะนำบ้างไหม หรือไม่ก็เพลงเป็นเพลงแนวนี้ เพราะไหนๆก็มาถึงแล้ว ผมไม่อยากกลับไปมือเปล่า
ด้วยความที่เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่อง การสนทนาในแบบให้คำแนะนำจึงเป็นไปอย่างสนุกสนาน เธอแนะนำแผ่นเสียงให้ผมอยู่หลายแผ่น โดยโจทย์ของการค้นหาที่นอกจากจะเป็นแนวเพลงแบบ may.e แล้ว ผมบอกเธอไปว่าอยากได้ที่เป็นศิลปินญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งพนักงานสาวคนนี้ก็ทำตามโจทย์ที่ให้ไปอย่างดีเยี่ยม เธอตั้งใจหามากๆครับ แต่สุดท้ายคงผิดที่ผมเองที่ไม่ถูกใจเลยสักแผ่นที่เธอเสนอมา เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับเพลงของ may.e ที่ได้ฟังแล้ว เสน่ห์ของการฟังครั้งแรกมันยังไม่โดนใจเท่าไหร่ ซึ่งเวลาที่เราฟังเพลงที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของเราหรือไม่ใช่ภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ เรามักจะฟังไม่เข้าใจในภาษาและเนื้อหาแน่นอน แต่สิ่งเดียวที่จะกำหนดความชอบที่มีต่อเพลงนั้นได้ก็คือ เมโลดี้หรือน้ำเสียงของคนร้องนั่นเอง ซึ่งถ้ามันคลิกเพียงไม่กี่ตัวโน้ต จังหวะของเพลงก็จะเริ่มสะกดให้เราหยุดฟังในทันที
ท้ายที่สุดแล้วในร้าน Jet Set ผมได้แผ่นเสียงมาสองสามแผ่นจากกองลดราคา เป็นแผ่นเสียงเพลงสากล ซึ่งไม่ใช่แนวที่ตามหาเลย ก่อนจะเริ่มปลงว่าคงหาแผ่นเสียงของ may.e ไม่เจออย่างแน่นอน กลับไปก็คงหาฟังบางเพลงได้จากในเว็บยูทูบ (Youtube.com) หรือซาวคลาวด์ (Soundcloud) เท่านั้น สรุปแล้วในวันนั้น ผมจบการเดินค้นหาแผ่นเสียงด้วยการกลับไปที่ร้าน Disk Union ร้านขายแผ่นเสียงชื่อดัง สาขาใหญ่ที่ Shinjuku
แต่เพราะผมไปถึงในเวลา 2 ทุ่ม (วันที่ไปถึงเนื่องจากดึกแล้วเลยไม่ได้ถ่ายภาพ ภาพที่เห็นเป็นอีกวันที่กลับไปอีกรอบเพื่อถ่ายภาพร้านมาให้ชมกันครับ) ซึ่งจะหมายความว่า มีเวลาเดินเล่นหาแผ่นเสียงอยู่ในร้านแค่เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ความคาดหวังที่จะเจอแผ่นเสียงของ may.e ถูกพับเก็บไปเป็นที่เรียบร้อย การมาที่นี่จึงเป็นการมาหาแผ่นเสียงอื่นๆมากกว่า
ร้าน Disk Union สาขา Shinjuku มีอยู่หลายสาขามากๆครับ นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายสาขาที่มีถึง 8 ชั้น แล้วแต่ละชั้นจะแยกแนวเพลงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผมได้แผ่นเสียงจำนวนมากจากที่นี่ ขึ้นลงลิฟท์แบบทำเวลาจนเกือบจะ 3 ทุ่ม พอตั้งใจว่าจะกลับลงไปชั้น 1 สายตาก็เหลือบไปเห็นว่ายังมีชั้นใต้ดินที่ยังไม่ได้เดิน ซึ่งเป็นชั้นที่ขายแผ่นเสียงของศิลปินญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะลงไปดีไหม ไหนๆก็มาแล้ว ผมเลยแวะลงไปดูสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งด้วยความที่ร้านจะปิดแล้ว ผมไม่รู้จะเดินไปตรงไหนก่อน แล้วมันก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ผมเดินวนอยู่ประมาณหนึ่งรอบแบบมองไปทั่วๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก เลยตัดสินใจเดินไปหน้าเคาท์เตอร์ ลองยื่นกระดาษแผ่นเดิมที่พกมาตั้งแต่กลางวันให้พนักงาน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอก็แทบจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่พอรับกระดาษไป ก็คงพอจะเข้าใจถึงสิ่งที่ผมต้องการ เธอเลยรีบหันไปเสิร์ชหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ให้ทันที
ผมยืนรอคำตอบแบบสองจิตใจสองใจ ทั้งตื่นเต้นและไม่อยากคาดหวัง คิดอย่างเดียวครับว่า ‘ถ้าแผ่นเสียงนั่นจะเป็นของผม ยังไงมันก็ต้องเป็นของผม แต่ถ้าไม่ใช่ หวังไปก็เท่านั้น’ และก่อนจะตัดใจ อยู่ๆ พนักงานก็เรียกผมแล้วชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเเตอร์ ถามด้วยภาษามือประมาณว่าแผ่นนี้หรือเปล่าที่ผมหา เท่านั้นแหละ! ผมรีบพยักหน้าตอบว่าใช่ในทันที ‘แผ่นนี้แหละครับ’
เธอรีบละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตรงไปยังโซนของแผ่นเสียงที่คิดว่าจะเป็นชั้นวางของแผ่นที่ผมกำลังตามหาอยู่ เชื่อไหมว่าผมเอาแต่จ้องทุกอิริยาบถของเธอ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็มองตามตลอด ทุกครั้งที่เลื่อนหาแผ่น ย้ายจากจุดนั้นมาจุดนี้ ก็มองตามด้วยความหวังว่าจะเห็นหน้าปกนั้นปรากฎอยู่ตรงข้างหน้า ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มตรง ร้านจะปิดแล้ว เธอเดินมามองหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อจะเช็คอีกครั้งว่าแผ่นอาจจะเก็บไว้บริเวณไหนบ้าง พนักงานชายอีกคนที่ดูแลชั้นนั้นเริ่มหันไปพูดคุยกับพนักงานหญิง
การสื่อสารระหว่างพวกเขาที่เกิดขึ้นผมเดาได้ประมาณว่า แผ่นเสียงที่กำลังหาอยู่นั้นมีข้อมูลอยู่ในคอมพิวเตอร์ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของร้าน พวกเขาคุยกันสักพัก ก่อนที่พนักงานหญิงคนเดิมที่ช่วยเหลือผมมาตั้งแต่แรกจะเดินไปยังโซนแผ่นเสียงที่ลดราคา และเริ่มต้นหามันอีกครั้ง เชื่อไหมครับ ว่าเหมือนฝันเป็นจริง เพียงอึดใจภาพของแผ่นเสียง may.e ก็ปรากฎอยู่ในโซนแผ่นเสียงที่ลดราคา ตอนที่ผมเห็นสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นคือรอยยิ้มบนใบหน้าที่บ่งบอกว่าผมโคตรดีใจเลยจริงๆครับ ใจเต้นรุนแรงมาก ไม่ใช่แค่เจอแผ่นเสียงนะ แต่แบบเป็นเรื่องที่พวกเขาช่วยกันหาของให้ ผมรีบโค้งขอบคุณเป็นการใหญ่อยู่หลายรอบในการทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมของพวกเขา พูดออกไปว่าเดินหาแผ่นนี้แผ่นเดียวมาทั้งวัน ไปมาหลายที่ก็หาไม่เจอ ตอนนี้ดีใจมากๆ สุดท้ายก็เดินออกมาจากร้านด้วยรอยยิ้มปล่อยให้เขาได้ปิดร้าน พร้อมกับพาแผ่นเสียงกลับที่พักด้วยราคา 2250 เยน ซึ่งราคาลดลงมา 10% จากราคาเต็ม
[may.e]ความสวยงามในท่วงทำนอง ที่มาพร้อมกับความบังเอิญ
ในยุคดิจิตอลแบบนี้ ใครที่ชอบฟังเพลงหลากหลายแนว และมักจะค้นหาเพลงใหม่ๆมาฟัง
ประตูสู่การเข้าถึงเพลงและศิลปินหน้าใหม่คงหนีไม่พ้นแอพพลิเคชั่นบนมือถือที่ใช้กันจนคุ้นเคยอย่าง iTunes, Soundcloud หรือ Bandcamp ที่ถือเป็นตัวช่วยให้การค้นหาเพลงและอัพเดตผลงานศิลปินที่เราติดตามเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น แต่ในบ้างครั้ง เพลงที่ใช่ก็มาแบบไม่ทันตั้งตัว การนึกถึงแต่ทำนอง และจดจำได้แค่บางท่อนของเพลง แล้วเก็บไปค้นหาคงไปเรื่องที่ล้าสมัยไปแล้วสำหรับยุคนี้ เพราะตัวช่วยอย่าง Shazam Application ที่สามารถโหลดลงเครื่องได้อย่างง่ายดาย สามารถเก็บข้อมูลท่วงทำนองเพลงที่เราได้ฟังแล้วประมวลผลออกมาเป็นชื่อเพลงและศิลปินให้เราได้หายสงสัยในเวลาไม่นาน ไม่ต้องเก็บกลับบ้านแล้วเอาไปถามคนข้างๆให้เสียเวลา เพราะการเข้าถึงบทเพลงและแนวเพลงที่น่าสนใจในยุคเทคโนโลยีแบบนี้ จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
ความสวยงามในท่วงทำนอง ที่มาพร้อมกับความบังเอิญ
ผมเชื่อเสมอว่า อะไรที่มันเป็นของเรา สักวันมันก็จะผ่านเข้ามาให้เราได้เป็นเจ้าของ ได้สัมผัส ได้ใช้ประสบการณ์ร่วมกัน ซึ่งบทเพลงก็เช่นเดียวกัน…โดยส่วนตัวแล้วผมชอบค้นหาเพลงใหม่ๆมาลองฟังอยู่เสมอ ผมเสียเวลาหลายชั่วโมงในแต่ละอาทิตย์ไปกับการค้นหาเพลงใหม่ๆใน Apple Music เพื่อหาลิงค์แนะนำศิลปินจากเพลงหรือนักร้องที่ผมชื่นชอบ แต่การมาเจอกับเพลงที่ผมชอบในครั้งนี้แตกต่างออกไปในขณะที่ผมกำลังค้นหาแผ่นเสียงไปเรื่อยๆ ที่ร้าน coconuts disk ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น อัลบั้มหนึ่งก็เข้ามาปรากฎอยู่ในโสตประสาทของผมโดยไม่ได้ตั้งใจ แผ่นเสียงแผ่นนี้ถูกเปิดโดยพนักงานของทางร้าน ท่วงทำนองที่สวยงามและเสียงร้องที่มีเสน่ห์ เพลงแล้วเพลงเล่าจบลงและวนเวียนเปลี่ยนเพลงไปสักระยะ ผมมักจะมีคำถามเสมอเวลาได้ยินเพลงลอยผ่านเข้าหูแบบไม่ได้ตั้งใจว่าผมหลงรักเพลงนั้นมากน้อยแค่ไหน พอผมหยุดค้นแผ่นเสียงและหันมาตั้งใจฟังเพลงที่กำลังเปิดอยู่ ผมเหมือนถูกสะกดให้ดำดิ่งไปกับท่วงทำนองที่ไพเราะถึงแม้ผมจะไม่เข้าใจความหมายของเนื้อร้องเลยก็ตาม
การตัดสินใจต่อมากับเพลงใหม่ๆที่ผมได้ยินครั้งแรกและรู้สึกชอบคือ มันเป็นเพลงของใคร และผมอยากได้ยินมันซ้ำๆอีกหรือไม่ ผมใช้เวลาตัดสินใจไม่นานกับเพลงของศิลปินคนนี้ ผมเลยตัดสินใจเดินไปถามพนักงานหน้าเคาท์เตอร์ว่าเพลงที่เขาเปิดอยู่เป็นเพลงของใคร ผมใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางในการสื่อสาร เขาไม่ค่อยเข้าใจภาษาอังกฤษสักเท่าไหร่ ภาษากายเลยเป็นอีกหนึ่งภาษาที่เรานำมาช่วยในการเป็นสื่อเพื่อขยายบทสนทนาให้ฟังดูเข้าใจมากยิ่งขึ้น
‘ผมชอบเพลงที่เปิดอยู่มากๆ อยากรู้ว่าเป็นเพลงของใคร’ ปากขยับ มือก็ต้องทำท่าประกอบ แต่ผลปรากฎที่ได้คือเขาพยักหน้าตอบกลับ ดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจคำถามมากขึ้น เขาหันไปหยิบหน้าปกของแผ่นเสียงที่วางอยู่ข้างๆเครื่องเล่นแผ่นเสียง ลักษณะของปกไม่มีภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่นเลยสักนิด มีแค่ภาพวาดดอกไม้และใบไม้หลากสีในลักษณะหม่นๆเป็นองค์ประกอบของหน้าปก ผมเลยให้เขาเขียนชื่อนักร้องลงบนกระดาษให้แทน
คำว่า may.e ถูกเขียนลงบนกระดาษแล้วยื่นมาตรงหน้าผม
ผมถามกลับไปในทันทีว่าทางร้านมีแผ่นเพลงนี้ขายไหม เขาตอบมาว่าหมดไปนานแล้ว เพราะออกมาตั้งแต่ช่วงปี 2014 ผมเลยถามต่อว่าผมว่าจะสามารถหาซื้อแผ่นเสียงนี้ได้จากที่ไหน ด้วยความเป็นศิลปินแนวอินดี้ การจะไปเดินหาซื้อจึงไม่ใช่เรื่องง่าย ยังดีที่พนักงานให้ความช่วยเหลือดีมากครับ เขาชี้ไปที่สติ้กเกอร์ราคาเล็กๆที่แปะอยู่บนปก บ่งบอกว่าทางร้านได้แผ่นเสียงนี้มากจากร้านไหน ผมเลยหยิบกระดาษที่เขาเขียนชื่อ may.e บนโต๊ะใส่กระเป๋าเสื้อ และมุ่งตรงไปยังเป้าหมายต่อไปอย่าง Jet Set ในทันที
ปฏิบัติการเดินตามหาแผ่นเสียง
เชื่อไหมว่าตอนเดินหาแผ่นเสียง ผมคิดตลอดทางว่าถ้าไม่ได้แผ่นนี้กลับไปนอนฟังที่เมืองไทยเนี่ย คงค้างคาใจไปตลอดแน่ๆ จึงเกิดความรู้สึกคาดหวังขึ้นในใจว่ายังไงผมก็ต้องได้แผ่นนี้ไปครอบครอง ระหว่างเดินทางไปร้านดังกล่าว ผมก็พยายามจะหาข้อมูลเพิ่มเติมในอินเตอร์เนตเพื่อเป็นแนวทางว่าถ้าไม่ได้แผ่นเสียงแผ่นนี้ยังพอจะสามารถฟังเพลงของ may.e ได้จากที่ไหนบ้าง ข้อมูลที่สามารถหาได้ในอินเตอร์เนตเกี่ยวกับ may.e ในขณะนั้นมีน้อยมาก แผนที่วางไว้ว่าจะแวะร้านแผ่นเสียงอื่นถูกพับเก็บไปโดยอัตโนมัติ แล้วเปลี่ยนเป้าหมายมาเดินตามหาร้าน Jet Set ตามที่พนักงานบอกไว้อย่างเดียวเลย โดยร้าน Jet Set ที่ผมหานั้นอยู่ห่างจากใจกลางโตเกียวออกไป ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการเดินทางไปถึง เพราะต้องเปลี่ยนรถไฟอยู่หลายสายกว่าจะไปถึงย่านที่เรียกว่า Shimokitazawa ซึ่งเป็นย่านร้านค้าเล็กๆ ขายพวกเสื้อผ้าแนววินเทจ มีคาแฟ่และผับเล่นดนตรีสดจำนวนมาก โดยจากสถานีรถไฟที่ผมลงมานั้น ต้องใช้เวลาเดินอยู่สักพักตามเส้นทางกูเกิลแมพจนมาถึงร้านในช่วงเย็น ตอนเจอร้าน สิ่งแรกที่รู้สึกได้เลยคือดีใจมากๆ แม้ว่า Jet Set จะเป็นร้านที่อยู่ในลิสต์ แต่ก็ไม่ใช่ร้านหลักที่ผมจะต้องมาให้ได้ พูดง่ายๆคือข้ามไปก็ได้นะ แต่พอมามาตอนนี้ ผมทั้งตื่นเต้นทั้งลุ้นมากตอนที่จะเดินเข้าไปในร้าน เพราะนั่นหมายถึงว่า ผมจะได้แผ่นเสียงของ may.e กลับไปหรือเปล่า
โดยที่ตั้งของร้าน Jet Set จะอยู่บริเวณชั้นสองของตึกแถวขนาดหนึ่งคูหา ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น ผมไม่รอช้า รีบเปิดประตูเข้าไปในร้าน เดินตรงไปที่เคาท์เตอร์พร้อมยื่นกระดาษที่พกมาให้ด้วยความหวัง ยิ่งพอได้รู้ว่าพนักงานหญิงที่ยืนประจำอยู่นั้นสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี ก็รีบบอกถึงสิ่งที่ผมกำลังหาอยู่ในทันที แต่สุดท้ายเธอกลับตอบมาว่า “เสียใจด้วยค่ะ แผ่นนี้ออกมาประมาณปีกว่าแล้ว และทางร้านก็ขายหมดไปนานแล้ว”
สีหน้าของผมในตอนนั้นคงดูเศร้ามากหลังจากที่ได้ยินเธอตอบ บวกกับความเหนื่อยจากการเดินทางอันซับซ้อนที่แบกเอาความหวังมาอย่างเต็มเปี่ยม แปรเปลี่ยนไปทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น ตัดสินใจบอกพนักงานว่าได้ยินเพลงของศิลปินคนนี้มากจากร้าน Coconuts Disk แล้วก็ชอบมากๆ ทำอย่างไรถึงจะหาแผ่นเสียงนี้เจอ มีที่อื่นแนะนำบ้างไหม หรือไม่ก็เพลงเป็นเพลงแนวนี้ เพราะไหนๆก็มาถึงแล้ว ผมไม่อยากกลับไปมือเปล่า
ด้วยความที่เธอสื่อสารภาษาอังกฤษได้คล่อง การสนทนาในแบบให้คำแนะนำจึงเป็นไปอย่างสนุกสนาน เธอแนะนำแผ่นเสียงให้ผมอยู่หลายแผ่น โดยโจทย์ของการค้นหาที่นอกจากจะเป็นแนวเพลงแบบ may.e แล้ว ผมบอกเธอไปว่าอยากได้ที่เป็นศิลปินญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งพนักงานสาวคนนี้ก็ทำตามโจทย์ที่ให้ไปอย่างดีเยี่ยม เธอตั้งใจหามากๆครับ แต่สุดท้ายคงผิดที่ผมเองที่ไม่ถูกใจเลยสักแผ่นที่เธอเสนอมา เพราะเมื่อเปรียบเทียบกับเพลงของ may.e ที่ได้ฟังแล้ว เสน่ห์ของการฟังครั้งแรกมันยังไม่โดนใจเท่าไหร่ ซึ่งเวลาที่เราฟังเพลงที่ไม่ใช่ภาษาแม่ของเราหรือไม่ใช่ภาษาสากลอย่างภาษาอังกฤษ เรามักจะฟังไม่เข้าใจในภาษาและเนื้อหาแน่นอน แต่สิ่งเดียวที่จะกำหนดความชอบที่มีต่อเพลงนั้นได้ก็คือ เมโลดี้หรือน้ำเสียงของคนร้องนั่นเอง ซึ่งถ้ามันคลิกเพียงไม่กี่ตัวโน้ต จังหวะของเพลงก็จะเริ่มสะกดให้เราหยุดฟังในทันที
ท้ายที่สุดแล้วในร้าน Jet Set ผมได้แผ่นเสียงมาสองสามแผ่นจากกองลดราคา เป็นแผ่นเสียงเพลงสากล ซึ่งไม่ใช่แนวที่ตามหาเลย ก่อนจะเริ่มปลงว่าคงหาแผ่นเสียงของ may.e ไม่เจออย่างแน่นอน กลับไปก็คงหาฟังบางเพลงได้จากในเว็บยูทูบ (Youtube.com) หรือซาวคลาวด์ (Soundcloud) เท่านั้น สรุปแล้วในวันนั้น ผมจบการเดินค้นหาแผ่นเสียงด้วยการกลับไปที่ร้าน Disk Union ร้านขายแผ่นเสียงชื่อดัง สาขาใหญ่ที่ Shinjuku
แต่เพราะผมไปถึงในเวลา 2 ทุ่ม (วันที่ไปถึงเนื่องจากดึกแล้วเลยไม่ได้ถ่ายภาพ ภาพที่เห็นเป็นอีกวันที่กลับไปอีกรอบเพื่อถ่ายภาพร้านมาให้ชมกันครับ) ซึ่งจะหมายความว่า มีเวลาเดินเล่นหาแผ่นเสียงอยู่ในร้านแค่เพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ความคาดหวังที่จะเจอแผ่นเสียงของ may.e ถูกพับเก็บไปเป็นที่เรียบร้อย การมาที่นี่จึงเป็นการมาหาแผ่นเสียงอื่นๆมากกว่า
ร้าน Disk Union สาขา Shinjuku มีอยู่หลายสาขามากๆครับ นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายสาขาที่มีถึง 8 ชั้น แล้วแต่ละชั้นจะแยกแนวเพลงที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งผมได้แผ่นเสียงจำนวนมากจากที่นี่ ขึ้นลงลิฟท์แบบทำเวลาจนเกือบจะ 3 ทุ่ม พอตั้งใจว่าจะกลับลงไปชั้น 1 สายตาก็เหลือบไปเห็นว่ายังมีชั้นใต้ดินที่ยังไม่ได้เดิน ซึ่งเป็นชั้นที่ขายแผ่นเสียงของศิลปินญี่ปุ่นโดยเฉพาะ ลังเลอยู่ครู่หนึ่งว่าจะลงไปดีไหม ไหนๆก็มาแล้ว ผมเลยแวะลงไปดูสักหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง ซึ่งด้วยความที่ร้านจะปิดแล้ว ผมไม่รู้จะเดินไปตรงไหนก่อน แล้วมันก็มีแต่ภาษาญี่ปุ่น ผมเดินวนอยู่ประมาณหนึ่งรอบแบบมองไปทั่วๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก เลยตัดสินใจเดินไปหน้าเคาท์เตอร์ ลองยื่นกระดาษแผ่นเดิมที่พกมาตั้งแต่กลางวันให้พนักงาน ซึ่งดูเหมือนว่าเธอก็แทบจะสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษไม่ได้เลย แต่พอรับกระดาษไป ก็คงพอจะเข้าใจถึงสิ่งที่ผมต้องการ เธอเลยรีบหันไปเสิร์ชหาข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ให้ทันที
ผมยืนรอคำตอบแบบสองจิตใจสองใจ ทั้งตื่นเต้นและไม่อยากคาดหวัง คิดอย่างเดียวครับว่า ‘ถ้าแผ่นเสียงนั่นจะเป็นของผม ยังไงมันก็ต้องเป็นของผม แต่ถ้าไม่ใช่ หวังไปก็เท่านั้น’ และก่อนจะตัดใจ อยู่ๆ พนักงานก็เรียกผมแล้วชี้ไปที่หน้าจอคอมพิวเเตอร์ ถามด้วยภาษามือประมาณว่าแผ่นนี้หรือเปล่าที่ผมหา เท่านั้นแหละ! ผมรีบพยักหน้าตอบว่าใช่ในทันที ‘แผ่นนี้แหละครับ’
เธอรีบละจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ ตรงไปยังโซนของแผ่นเสียงที่คิดว่าจะเป็นชั้นวางของแผ่นที่ผมกำลังตามหาอยู่ เชื่อไหมว่าผมเอาแต่จ้องทุกอิริยาบถของเธอ ไม่ว่าจะหยิบจับอะไรก็มองตามตลอด ทุกครั้งที่เลื่อนหาแผ่น ย้ายจากจุดนั้นมาจุดนี้ ก็มองตามด้วยความหวังว่าจะเห็นหน้าปกนั้นปรากฎอยู่ตรงข้างหน้า ซึ่งในขณะนั้นเป็นเวลา 3 ทุ่มตรง ร้านจะปิดแล้ว เธอเดินมามองหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อจะเช็คอีกครั้งว่าแผ่นอาจจะเก็บไว้บริเวณไหนบ้าง พนักงานชายอีกคนที่ดูแลชั้นนั้นเริ่มหันไปพูดคุยกับพนักงานหญิง
การสื่อสารระหว่างพวกเขาที่เกิดขึ้นผมเดาได้ประมาณว่า แผ่นเสียงที่กำลังหาอยู่นั้นมีข้อมูลอยู่ในคอมพิวเตอร์ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหนของร้าน พวกเขาคุยกันสักพัก ก่อนที่พนักงานหญิงคนเดิมที่ช่วยเหลือผมมาตั้งแต่แรกจะเดินไปยังโซนแผ่นเสียงที่ลดราคา และเริ่มต้นหามันอีกครั้ง เชื่อไหมครับ ว่าเหมือนฝันเป็นจริง เพียงอึดใจภาพของแผ่นเสียง may.e ก็ปรากฎอยู่ในโซนแผ่นเสียงที่ลดราคา ตอนที่ผมเห็นสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นคือรอยยิ้มบนใบหน้าที่บ่งบอกว่าผมโคตรดีใจเลยจริงๆครับ ใจเต้นรุนแรงมาก ไม่ใช่แค่เจอแผ่นเสียงนะ แต่แบบเป็นเรื่องที่พวกเขาช่วยกันหาของให้ ผมรีบโค้งขอบคุณเป็นการใหญ่อยู่หลายรอบในการทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยมของพวกเขา พูดออกไปว่าเดินหาแผ่นนี้แผ่นเดียวมาทั้งวัน ไปมาหลายที่ก็หาไม่เจอ ตอนนี้ดีใจมากๆ สุดท้ายก็เดินออกมาจากร้านด้วยรอยยิ้มปล่อยให้เขาได้ปิดร้าน พร้อมกับพาแผ่นเสียงกลับที่พักด้วยราคา 2250 เยน ซึ่งราคาลดลงมา 10% จากราคาเต็ม