ผมว่าสิ่งที่หนัง Leave the World Behind จะสื่อ ไม่ใช่เรื่อง sci-fi การเมือง หรือภัยพิบัติโลกแตก แต่เป็น.. [Spoil]

พฤติกรรมของคนในยุคที่มีอินเตอร์เน็ต กับ ยุคที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต

ที่ผมสังเกตเห็นคือ
1 ช่วงที่มีอินเตอร์เน็ต ผู้คนจะต่างคนต่างอยู่ และมีความระแวงต่อกันและกัน ไม่อยากใช้ชีวิตร่วมกันเท่าไหร่ รวมถึงไม่แชร์ข้อมูลให้กันและกันเพราะระแวง ที่เห็นในหนังคือ 
   1.1 ครอบครัวนี้พ่อแม่ยุ่งกันมาก ลูกชายคนโตเล่นเกม ลูกสาวคนเล็กติดซีรีย์ จนพอได้มาพักร้อนกะทันหันถึงจะได้อยู่ร่วมกัน
   1.2 ตอนที่เจ้าของบ้านมาขอพัก/ขอบ้านคืนตอนช่วงต้นเรื่อง คนเป็นแม่ยังไงก็ไม่ยอม คนเป็นลูกเจ้าของบ้านก็ระแวงครอบครัวนี้เหมือนกัน  
   1.3 ในช่วงต้นเรื่องครอบครัวนี้ไม่เล่าเหตุการณ์เจอเรือขนส่งน้ำมันวิ่งแล่นเข้าหน้าชายหาด ในขณะที่เจ้าของบ้านก็ไม่เล่าข้อมูลที่เขาได้มาจากลูกค้าของเขา 
   1.4 ทั้งหมดนี้มันก็เข้าทางแผนขั้นตอนที่ 3 ของพวกก่อการร้ายที่ต้องการให้คนอเมริการะแวงกันเอง ซึ่งขั้นตอนนี้จะไม่เกิดขึ้นถ้าคนอเมริกันไม่ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างเก็บข้อมูลไว้ที่ตัว และพูดคุยกันมากขึ้น  
   1.5 ซึ่งช่วงกลางๆและท้ายๆ หนังจะให้เห็นในช่วงที่ไม่มีอินเตอร์เน็ต (เหมือนกลับไปยุคก่อนอินเตอร์เน็ต)  ไม่มีอะไรทำ ตัวละครถึงได้มีโอกาสมานั่งคุยกันแล้วก็พบว่า จริงๆ แล้วก็คุยและใช้ชีวิตร่วมกันได้นิ่ แชร์ข้อมูลกัน ช่วยเหลือกันได้นิหว่า

2 คนเป็นแม่ที่เป็นพวกเกลียดผู้คน ก็เพราะซึมซับมาจากงานของตัวเองที่ต้องพบปะผู้คน ผู้คนที่ตื่นเช้ามาเพื่อทำชีวิตของตัวเองให้สำเร็จในโลกที่ข้อมูลเชื่อมต่อกันหมด (ถ้าผมจำไม่ผิด เหมือนคนเป็นแม่ไม่ชอบพวกที่ไม่จริงใจ) พอไม่มีอินเตอร์เน็ตคนเป็นแม่ได้พูดคุยกันกับเจ้าของบ้านแบบไม่รู้ว่าโลกภายนอกเป็นอย่างไร ได้เปิดใจกัน ก็ทำให้คนเป็นแม่รู้สึกผ่อนคลาย

3 ลูกชายคนโตเลือกที่จะแอบถ่ายลูกสาวเจ้าของบ้านแล้วเก็บไป..... ซึ่งถ้าเป็นยุคไม่มีมือถือก็คงเลือกเดินเข้าไปหา พูดคุย และอาจจบด้วย xxx ไปแล้ว
4 คนที่ใช้ชีวิตในยุคอินเตอร์เน็ต พอไม่มีอินเตอร์เน็ตขับรถแปบเดียวก็หลง ไม่มีแผนที่ก็ต้องถามทางคน
5 หนังใช้แผ่นเสียงกับแผ่นดีวีดีแสดงให้เห็นว่าแม้ว่าไม่มีอินเตอร์เน็ตคนเราก็ยังหาความสุขกันได้จากแผ่นเสียง แผ่นดีวีดี
    5.1 ตอนจบเหมือนผู้กำกับตั้งใจปิดด้วยฉากลูกสาวคนเล็กเลือกเปิด DVD ดูตอนจบของซีรีย์ แล้ว Leave the world behind หรือ ช่างโลกแ_ง มันไป ฉันมีความสุขที่ฉันต้องการได้ซักที (ตอนที่ลูกสาวคนเล็กรู้ว่าตัวเองอาจจะไม่ได้ดูตอนจบของซีรี่ย์เแล้วก็ได้ ก็ไม่มีผู้ใหญ่คนไหนเล่าตอนจบให้ฟัง)

 
- อีก 2 ประเด็นที่น่าสนใจคือ 
1.ถ้าคุณมีข้อมูลมากกว่าคนอื่น และเตรียมตัวมากกว่าคนอื่น เมื่อถึงเวลานั้นจริงๆ คุณจะช่วยเหลือเขา แบ่งปันทรัพยากรที่ตัวเองเตรียมไว้ไหม? 
2.ลูกๆ แม้ยังเด็ก แต่เขาควรมีสิทธิที่จะรู้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเท่ากับที่ผู้ใหญ่รู้หรือไม่ (ในหนังผู้ปกครองต่างเลือกจะไม่บอก)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่