จะผิดมั้ยที่จะบอกว่า Leave the World Behind (2023) ทั้งชอบและเป็นหนังที่ดูสนุกมาก
เห็นในโซเชียล ที่พูดถึงหนังเรื่อง Leave the World Behind (2023) original Netflix 90 กว่าเปอร์เซนต์เรียกได้ว่าสับเละไม่มีชิ้นดี หนังน่าเบื่อ อย่างงี้ หนังอืด ทำมาทำไม 2 ชั่วโมงครึ่ง บางคนหนักกว่าคือเปิดไปได้สักพักและข้ามไปดู5นาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว และที่สำคัญที่สุด ด่ายับกับฉากจบแถมบอกมันต้องมีภาค 2 แน่ๆเลย ทำเอาผมที่ตอนแรกเปิดมาเจอในหน้าแรกของ Netflix ยังต้องลังเลใจจะดุเลย แม้ว่าหน้าหนังจะได้เจ๊บานฉ่ำมาช่วยดึงความอยากดูได้มากโข( ฉ่ำ คําฮิตอันดับ1ในปี 2023 ฉ่ำ (68,658,379 เอ็นเกจเมนต์ มันมีคนใช้คำนี้จริงๆเหรอนี่)
แต่จนแล้วจนรอดผมก็เปิดมันดูจนได้ หนังว่าด้วยเรื่องของ ครอบครัวหนึ่งที่หนีความวุ่นวายไปพักผ่อนที่คฤหาสน์สุดหรูในย่านชานเมือง ระหว่างนั้น พวกเขาก็ไปอาบแดดกันที่ชายหาด โดยมีเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มุ่งตรงมา แล้วก็เกยตื้นที่ชายหาด หลังจากนั้นพวกเขาก็พบว่า สัญญาณมือถือก็ขาดหายไป ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไวไฟ แถมโทรทัศน์ก็ใช้การไม่ได้
พอตกกลางคืน พวกเขาก็ต้องเจอเรื่องแปลกๆ เมื่อ จอร์จ ชายมาดหรู ที่ดูท่าทางสุภาพ ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านพร้อมกับ รูธ ลูกสาวของเขา และอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ จอร์จมาขออาศัยอยู่ที่ชั้นใต้ดิน โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่สามารถอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ที่นิวยอร์กได้ เพราะที่ไฟดับ ทำให้ลิฟต์ใช้ไม่ได้ ฟังดุแปลกดีนะ
หนังทำทุกอย่างออกมาได้อย่างเรียบๆง่าย เหมือนนั่งดูชีวิตคนประจำวัน ไม่แปลกที่จะมีคนบ่นว่าน่าเบื่อ แต่ผมกลับชอบแฮะเหมือนได้ดูหนังของ m.night สมัยก่อนเลย แต่การที่มีตัวละครแปลกหน้า มันทำให้คนดูอย่างเรา รู้สึกถึงความไม่สบายใจ ไม่ไว้วางใจในหนังได้ตลอดเวล เรียกได้ว่าพ่อลูกจอร์จทำให้เราดูหนังเรื่องนี้ไปด้วยความวิตก ยิ่งคนเป็นพ่อสุภาพมากเท่าไหร่ เรายิ่งเพิ่มความไม่ไว้ใจมากขึ้นไปเท่านั้น อึดอัดและทำให้อยากรู้พอควร แต่ผู้ชมรู้แล้วละว่ามีจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกนั้น
แต่สุดท้ายหนังไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงอะไรกับเหตุกราณ์ วิบัติ โลกแตกอะไรนั้น หนังทำให้เราได้รู้สึกได้เลยว่า ไอ้ที่เราหนีตายในหนังโลกแตกหลายเรื่องก่อน อืม เอาแบบ 2012 ที่หนีกันไปค่อนโลก หรือ อย่างที่โลกวุ่นวายเจอมนุษย์ที่เผยสันดานดิบแบบ walking dead ไม่อ่ะ หนังไม่ได้จะบอกอะไรอย่างนั้น สุดท้ายมันก็มีแค่ตัวเรานั่นแหละ เราต้องพยายามขนาดนั้นด้วยเหรอในการที่โลกข้างนอกก็วุ่นวายจะตายห่าอยู่แล้ว ด้วยสุดท้ายลูกสาว น้องเล็กของบ้าน Rose Sandford ก็สอนเราอย่างจังๆว่าความสุขของชั้นนะมันเรียบง่าย มันก็แค่นี้แหละ แม้ความสุขเล็กๆของเธอจะไม่มีใครสนใจเลย แม้กระทั้งพี่ชายจอมหมกหมุ่นของเธอ
ชอบนะที่ผู้กำกับ เอาชื่อ The Last One มารวมไว้ใน 2 ประเด็น
ปล หนังจบสมบูรณ์แล้วล่ะ แล้วก็คิดว่าคงไม่มีภาค 2เหมือนที่ใครหลายคนคาดเดาไว้ครับ
[CR] จะผิดมั้ยที่จะบอกว่า Leave the World Behind (2023) ทั้งชอบและเป็นหนังที่ดูสนุกมาก
เห็นในโซเชียล ที่พูดถึงหนังเรื่อง Leave the World Behind (2023) original Netflix 90 กว่าเปอร์เซนต์เรียกได้ว่าสับเละไม่มีชิ้นดี หนังน่าเบื่อ อย่างงี้ หนังอืด ทำมาทำไม 2 ชั่วโมงครึ่ง บางคนหนักกว่าคือเปิดไปได้สักพักและข้ามไปดู5นาทีสุดท้ายกันเลยทีเดียว และที่สำคัญที่สุด ด่ายับกับฉากจบแถมบอกมันต้องมีภาค 2 แน่ๆเลย ทำเอาผมที่ตอนแรกเปิดมาเจอในหน้าแรกของ Netflix ยังต้องลังเลใจจะดุเลย แม้ว่าหน้าหนังจะได้เจ๊บานฉ่ำมาช่วยดึงความอยากดูได้มากโข( ฉ่ำ คําฮิตอันดับ1ในปี 2023 ฉ่ำ (68,658,379 เอ็นเกจเมนต์ มันมีคนใช้คำนี้จริงๆเหรอนี่)
แต่จนแล้วจนรอดผมก็เปิดมันดูจนได้ หนังว่าด้วยเรื่องของ ครอบครัวหนึ่งที่หนีความวุ่นวายไปพักผ่อนที่คฤหาสน์สุดหรูในย่านชานเมือง ระหว่างนั้น พวกเขาก็ไปอาบแดดกันที่ชายหาด โดยมีเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มุ่งตรงมา แล้วก็เกยตื้นที่ชายหาด หลังจากนั้นพวกเขาก็พบว่า สัญญาณมือถือก็ขาดหายไป ไม่มีอินเทอร์เน็ต ไวไฟ แถมโทรทัศน์ก็ใช้การไม่ได้
พอตกกลางคืน พวกเขาก็ต้องเจอเรื่องแปลกๆ เมื่อ จอร์จ ชายมาดหรู ที่ดูท่าทางสุภาพ ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าบ้านพร้อมกับ รูธ ลูกสาวของเขา และอ้างตัวว่าเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้ จอร์จมาขออาศัยอยู่ที่ชั้นใต้ดิน โดยให้เหตุผลว่า เขาไม่สามารถอยู่ที่อพาร์ตเมนต์ที่นิวยอร์กได้ เพราะที่ไฟดับ ทำให้ลิฟต์ใช้ไม่ได้ ฟังดุแปลกดีนะ
หนังทำทุกอย่างออกมาได้อย่างเรียบๆง่าย เหมือนนั่งดูชีวิตคนประจำวัน ไม่แปลกที่จะมีคนบ่นว่าน่าเบื่อ แต่ผมกลับชอบแฮะเหมือนได้ดูหนังของ m.night สมัยก่อนเลย แต่การที่มีตัวละครแปลกหน้า มันทำให้คนดูอย่างเรา รู้สึกถึงความไม่สบายใจ ไม่ไว้วางใจในหนังได้ตลอดเวล เรียกได้ว่าพ่อลูกจอร์จทำให้เราดูหนังเรื่องนี้ไปด้วยความวิตก ยิ่งคนเป็นพ่อสุภาพมากเท่าไหร่ เรายิ่งเพิ่มความไม่ไว้ใจมากขึ้นไปเท่านั้น อึดอัดและทำให้อยากรู้พอควร แต่ผู้ชมรู้แล้วละว่ามีจะต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นข้างนอกนั้น
แต่สุดท้ายหนังไม่ได้ให้ข้อเท็จจริงอะไรกับเหตุกราณ์ วิบัติ โลกแตกอะไรนั้น หนังทำให้เราได้รู้สึกได้เลยว่า ไอ้ที่เราหนีตายในหนังโลกแตกหลายเรื่องก่อน อืม เอาแบบ 2012 ที่หนีกันไปค่อนโลก หรือ อย่างที่โลกวุ่นวายเจอมนุษย์ที่เผยสันดานดิบแบบ walking dead ไม่อ่ะ หนังไม่ได้จะบอกอะไรอย่างนั้น สุดท้ายมันก็มีแค่ตัวเรานั่นแหละ เราต้องพยายามขนาดนั้นด้วยเหรอในการที่โลกข้างนอกก็วุ่นวายจะตายห่าอยู่แล้ว ด้วยสุดท้ายลูกสาว น้องเล็กของบ้าน Rose Sandford ก็สอนเราอย่างจังๆว่าความสุขของชั้นนะมันเรียบง่าย มันก็แค่นี้แหละ แม้ความสุขเล็กๆของเธอจะไม่มีใครสนใจเลย แม้กระทั้งพี่ชายจอมหมกหมุ่นของเธอ
ชอบนะที่ผู้กำกับ เอาชื่อ The Last One มารวมไว้ใน 2 ประเด็น
ปล หนังจบสมบูรณ์แล้วล่ะ แล้วก็คิดว่าคงไม่มีภาค 2เหมือนที่ใครหลายคนคาดเดาไว้ครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้