ความเดิมตอนที่ 10
http://ppantip.com/topic/33362666
“คนที่ฉันชอบจริงๆ คือเธอต่างหาก”
เสียงของปาร์ม กระซิบบอก บีอย่างแผ่วเบา ทว่าเด็กสาวที่ถือแก้วน้ำอัดลมที่อยู่ห่างออกไป มีสัมผัสการได้ยินที่ดีกว่าคนทั่วไป หลายเท่าจึงได้ยินมันอย่างชัดถ้อยชัดคำ
น่าแปลก...
ถ้าเป็นแต่ก่อน เธอคงโดดเข้าไปล้อแซว ทั้งคู่อย่างสนุกปากไปแล้ว แต่ตัวเธอตอนนี้กลับยืนนิ่ง ขยับตัวไม่ได้ หัวใจเต้นแรง หายใจยังรู้สึกลำบาก ทั้งๆที่แต่ก่อน เธอเคยไปต่างประเทศ ถูกอสูรต่างถิ่นรุมเป็นร้อยเพื่อหวังเอาชีวิต เธอยังไม่เคยแม้แต่จะขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
บี เผยยิ้มขึ้น พร้อมกับส่งสายตาอบอุ่นไปยังปาร์ม แม้จะคบหากันมากว่าร้อยปี ก็มีน้อยครั้งนักที่จะเห็นบีแสดงอารมณ์ออกมาอย่างนี้ ทำเอาสมิงสาวเพื่อนรักยิ้มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
เห็นแบบนั้นเธอจึงรู้ว่าตัวเองไม่ควรจะไปขัดขวางเวลาของทั้งสองคน จึงเดินไปขอกระดาษกับปากกาเขียนข้อความส่งไปหาทั้งคู่โดยฝากเด็กคนหนึ่งที่มาเที่ยวและให้น้ำอัดลมเป็นค่าตอบแทน
“พี่ร้องไห้อยู่เหรอครับ...?” เด็กผู้ชายทักขึ้นตอนเราส่งกระดาษให้
ได้ยินแบบนั้นมิ้นท์จึงยกมือขึ้นแตะหน้าตัวเอง ถึงได้รู้ว่าน้ำตาของเธอกำลังไหลอยู่ และแม้จะอยากพูดแก้ตัวแต่เสียงสะอื้นในลำคอก็ทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกเสียงไป เพื่อยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง เธอจังได้แต่ ลูบหัวเด็กชายเบาๆและจากไปโดยไม่พูดอะไร
“เฮ้อ...” บีถอนหายใจหลังออกจาก อควาเรี่ยมมาแล้ว แสงแดดอบอุ่นที่สัมผัสร่างกายทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ท้องฟ้าสีฟ้าตัดกับเมฆขาวทำให้ใจเธอรู้สึกสงบลงบ้าง ในใจของเธอตอนนี้มีความรู้สึกบางอย่างที่ขัดแย้งกันอยู่ภายใน หนึ่งคือยินดีด้วยกับ บี และปาร์ม ที่ทั้งสองมีใจตรงกัน แต่อีกความรู้สึกหนึ่งนี่ล่ะ
หมับ !
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด อ้อมกอดหนึ่งก็สวมกอดมิ้นท์จากด้านหลังโดยที่เธอไม่รู้ตัว ซึงเกิดขึ้นได้ยากมากและมีไม่กี่คนในโลกที่จะทำได้ หากจะเป็นอสูร ก็คงต้งเป็นระดับเทพหรือใกล้เคียง ซึ่งอาจารย์ของเธอตอนนี้คงไปเที่ยวยุโรป ใกล้ๆนี้ที่เธอนึกออกอีกคนก็คงเป็น...
“ไง...” เจ้าของรอยยิ้มขาว ที่กอดเธออยู่เอ่ยขึ้น เธอเป็นอยู่สาวผมดำขลับเงางาม นัยน์ตาทรงเสน่ห์ แต่ก็เป็นธรรมดาของเผ่าพันธุ์เธออยู่แล้วที่จะมีรูปกายงดงาม ซัคคิวบัส อสูรแห่งความฝัน ที่คอยดูดกลืนพลังชีวิตมนุษย์
“ยูเมะ...”
มิ้นท์เอ่ยทักผู้ที่สวมกอดเธอ ก่อนที่ทิวทัศน์รอบกายทั้งหมดจะหายวับไปเบื้องหน้า และปรากฏว่าทั้งคู่อยู่บนเตียงที่มีผ้าปูสีแดงและคนที่กอดเธอตอนนี้อยู่ในชุดหนังสีดำเรียบร้อยแล้ว มิ้นท์ถูกดึงเข้ามาในมิติแห่งความฝัน ในที่ๆอสรูแห่งความฝันเป็นใหญ่ และไม่อาจต่อกรได้
เธอจับแขนทั้งสองข้างของมิ้นท์และกดตัวเธอลง ปกติแล้ว ซักคิวบัสจะคอยดูดกลืนพลังชีวิตของมนุษย์ผู้ชาย โดยการสมสู่กับพวกเขาในความฝัน แต่ยูเมะ เธอกลับชอบเข้าฝันผู้หญิงมากกว่า โดยเฉพาะกับเด็กสาวที่รูปร่างหน้าตาดี
ทว่ากิจกรรมทุกอย่างกลับหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อมิ้นท์ได้จ้องกลับไปยังที่คนที่คร่อมตัวเธออยู่โดยไม่แม้แต่จะพูดหรือโต้ตอบอะไร ทำเอาฝ่ายตรงข้ามปล่อยมือ และลุกขึ้นถาม
“เป็นอะไรไปเหรอ ? ปกติเธอชกฉันคว่ำไปแล้วนี่” หญิงสาวผู้ที่เพิ่งคิดจะปล้ำมิ้นท์เอ่ยถาม “แล้ววิชาดาบของเธอ ถึงใช้ทำร้ายฉันไม่ได้ แต่จะหนีออกจากมิติฝันนี่เธอทำได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?”
“แค่รู้สึกเหนือยๆน่ะ... เลยไม่มีอารมณ์จะต่อกรกับเธอหรอกนะ ยูเมะ บริวารที่หนึ่งของท่านเทพอสูร”
อจินไตย ตอนที่ 11
“คนที่ฉันชอบจริงๆ คือเธอต่างหาก”
เสียงของปาร์ม กระซิบบอก บีอย่างแผ่วเบา ทว่าเด็กสาวที่ถือแก้วน้ำอัดลมที่อยู่ห่างออกไป มีสัมผัสการได้ยินที่ดีกว่าคนทั่วไป หลายเท่าจึงได้ยินมันอย่างชัดถ้อยชัดคำ
น่าแปลก...
ถ้าเป็นแต่ก่อน เธอคงโดดเข้าไปล้อแซว ทั้งคู่อย่างสนุกปากไปแล้ว แต่ตัวเธอตอนนี้กลับยืนนิ่ง ขยับตัวไม่ได้ หัวใจเต้นแรง หายใจยังรู้สึกลำบาก ทั้งๆที่แต่ก่อน เธอเคยไปต่างประเทศ ถูกอสูรต่างถิ่นรุมเป็นร้อยเพื่อหวังเอาชีวิต เธอยังไม่เคยแม้แต่จะขมวดคิ้วด้วยซ้ำ
บี เผยยิ้มขึ้น พร้อมกับส่งสายตาอบอุ่นไปยังปาร์ม แม้จะคบหากันมากว่าร้อยปี ก็มีน้อยครั้งนักที่จะเห็นบีแสดงอารมณ์ออกมาอย่างนี้ ทำเอาสมิงสาวเพื่อนรักยิ้มขึ้นมาด้วยเหมือนกัน
เห็นแบบนั้นเธอจึงรู้ว่าตัวเองไม่ควรจะไปขัดขวางเวลาของทั้งสองคน จึงเดินไปขอกระดาษกับปากกาเขียนข้อความส่งไปหาทั้งคู่โดยฝากเด็กคนหนึ่งที่มาเที่ยวและให้น้ำอัดลมเป็นค่าตอบแทน
“พี่ร้องไห้อยู่เหรอครับ...?” เด็กผู้ชายทักขึ้นตอนเราส่งกระดาษให้
ได้ยินแบบนั้นมิ้นท์จึงยกมือขึ้นแตะหน้าตัวเอง ถึงได้รู้ว่าน้ำตาของเธอกำลังไหลอยู่ และแม้จะอยากพูดแก้ตัวแต่เสียงสะอื้นในลำคอก็ทำให้เธอไม่กล้าที่จะออกเสียงไป เพื่อยอมรับความอ่อนแอของตัวเอง เธอจังได้แต่ ลูบหัวเด็กชายเบาๆและจากไปโดยไม่พูดอะไร
“เฮ้อ...” บีถอนหายใจหลังออกจาก อควาเรี่ยมมาแล้ว แสงแดดอบอุ่นที่สัมผัสร่างกายทำให้เธอรู้สึกดีขึ้น ท้องฟ้าสีฟ้าตัดกับเมฆขาวทำให้ใจเธอรู้สึกสงบลงบ้าง ในใจของเธอตอนนี้มีความรู้สึกบางอย่างที่ขัดแย้งกันอยู่ภายใน หนึ่งคือยินดีด้วยกับ บี และปาร์ม ที่ทั้งสองมีใจตรงกัน แต่อีกความรู้สึกหนึ่งนี่ล่ะ
หมับ !
ระหว่างที่กำลังครุ่นคิด อ้อมกอดหนึ่งก็สวมกอดมิ้นท์จากด้านหลังโดยที่เธอไม่รู้ตัว ซึงเกิดขึ้นได้ยากมากและมีไม่กี่คนในโลกที่จะทำได้ หากจะเป็นอสูร ก็คงต้งเป็นระดับเทพหรือใกล้เคียง ซึ่งอาจารย์ของเธอตอนนี้คงไปเที่ยวยุโรป ใกล้ๆนี้ที่เธอนึกออกอีกคนก็คงเป็น...
“ไง...” เจ้าของรอยยิ้มขาว ที่กอดเธออยู่เอ่ยขึ้น เธอเป็นอยู่สาวผมดำขลับเงางาม นัยน์ตาทรงเสน่ห์ แต่ก็เป็นธรรมดาของเผ่าพันธุ์เธออยู่แล้วที่จะมีรูปกายงดงาม ซัคคิวบัส อสูรแห่งความฝัน ที่คอยดูดกลืนพลังชีวิตมนุษย์
“ยูเมะ...”
มิ้นท์เอ่ยทักผู้ที่สวมกอดเธอ ก่อนที่ทิวทัศน์รอบกายทั้งหมดจะหายวับไปเบื้องหน้า และปรากฏว่าทั้งคู่อยู่บนเตียงที่มีผ้าปูสีแดงและคนที่กอดเธอตอนนี้อยู่ในชุดหนังสีดำเรียบร้อยแล้ว มิ้นท์ถูกดึงเข้ามาในมิติแห่งความฝัน ในที่ๆอสรูแห่งความฝันเป็นใหญ่ และไม่อาจต่อกรได้
เธอจับแขนทั้งสองข้างของมิ้นท์และกดตัวเธอลง ปกติแล้ว ซักคิวบัสจะคอยดูดกลืนพลังชีวิตของมนุษย์ผู้ชาย โดยการสมสู่กับพวกเขาในความฝัน แต่ยูเมะ เธอกลับชอบเข้าฝันผู้หญิงมากกว่า โดยเฉพาะกับเด็กสาวที่รูปร่างหน้าตาดี
ทว่ากิจกรรมทุกอย่างกลับหยุดอยู่แค่นั้น เมื่อมิ้นท์ได้จ้องกลับไปยังที่คนที่คร่อมตัวเธออยู่โดยไม่แม้แต่จะพูดหรือโต้ตอบอะไร ทำเอาฝ่ายตรงข้ามปล่อยมือ และลุกขึ้นถาม
“เป็นอะไรไปเหรอ ? ปกติเธอชกฉันคว่ำไปแล้วนี่” หญิงสาวผู้ที่เพิ่งคิดจะปล้ำมิ้นท์เอ่ยถาม “แล้ววิชาดาบของเธอ ถึงใช้ทำร้ายฉันไม่ได้ แต่จะหนีออกจากมิติฝันนี่เธอทำได้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ ?”
“แค่รู้สึกเหนือยๆน่ะ... เลยไม่มีอารมณ์จะต่อกรกับเธอหรอกนะ ยูเมะ บริวารที่หนึ่งของท่านเทพอสูร”