[SR] Let's Eat รีวิว: King's Palace ชิมโจ๊กฮ่องกงต้นตำรับ ใกล้แค่เอื้อมที่ K Village

Let's Eat รีวิว: King's Palace ชิมโจ๊กฮ่องกงต้นตำรับ ใกล้แค่เอื้อมที่ K Village


หลายๆคนที่ไปฮ่องกงบ่อยๆอาจจะพอคุ้นชื่อร้านนี้กันบ้างนะครับกับร้าน King’s Palace Congee and Noodle Bar เพราะที่ฮ่องกงเองก็เปิดบริการมาเกือบ20ปีแล้ว และมีอยู่ด้วยกันถึง5สาขาในย่านสำคัญๆในฮ่องกง และที่ประเทศไทยถือเป็นสาขานอกเกาะฮ่องกงสาขาแรกเลยครับ เพราะทางเจ้าของร้านชอบเมืองไทยมาก เลยถือโอกาสนำอาหารฮ่องกงแท้ๆมาให้คนไทยได้ลิ้มรสกันโดยไม่ต้องเดินทางไปถึงฮ่องกงครับ เมนูของร้านนี้ก็เป็นอาหารพื้นๆทั่วไปที่เราสามารถพบเจอได้ตามท้องถนนทั่วไปทั้งในฮ่องกงและไทยครับ แต่ทางร้านเพิ่มความพิถีพิถันเข้าไปและเลือกใช้วัตถุดิบที่ดีเพื่อยกระดับอาหารธรรมดาๆ ให้ดูดีขึ้นและน่าทานขึ้น โดยได้เชพจากฮ่องกงแท้ๆเป็นผู้รังสรรค์มื้ออาหารให้เราได้ทานกันครับ







ร้านKing’s Palace Congee and Noodle Bar อยู่ชั้น2 ของK Village ครับ ถ้าขึ้นบันไดเลื่อนจากทาง Gourmet Market มาก็จะเจอร้านอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยครับ ตัวร้านตกแต่งเป็นโทนไม้ออกขรึมๆ ภูมิฐานหน่อยครับ มีที่นั่งรองรับลูกค้าได้เกือบ100ที่ และที่นี่มีห้องรับรองไว้ให้บริการอีก1ห้องด้วยครับ เผื่อใครต้องการความเป็นส่วนตัว















อย่างที่เกริ่นไว้ตอนต้นว่าเมนูในร้านเป็นเมนูเบสิคธรรมดาๆทั่วไปที่เราสามารถพบเห็นได้ทั่วไป อย่างเมนูหลักๆที่ขึ้นชื่อของที่นี่ก็คือโจ๊กและบะหมี่ตามชื่อร้านเลยครับ หลักๆที่ผมสั่งทานวันนี้ก็จะเป็นโจ๊กและเมนูเส้นทั้งหลายครับ เริ่มจากโจ๊กลูกชิ้นหมูสูตรฮ่องกงใส่ไข่เยี่ยวม้า (225+บาท) โจ๊กที่นี่เป็นโจ๊กต้นตำรับจากฮ่องกงแท้ครับ ชามค่อนข้างใหญ่เอาเรื่องอยู่ครับ เนื้อโจ๊กเนียนและนุ่มมากๆครับ ไม่เห็นเป็นตัวข้าวเลย ซึ่งข้อนี้น่าจะเป็นข้อแตกต่างระหว่างโจ๊กไทยและโจ๊กฮ่องกงครับ ตัวหมูก้อนจะคล้ายๆหมูเด้งมากกว่าครับ ซึ่งทางร้านเรียกลูกชิ้นหมู แต่ความรู้สึกผมมันอาจจะไม่ถึงขนาดเป็นลูกชิ้น อาจจะแค่นวดๆๆหมูให้แค่พอเด้งเท่านั้น แต่รสสัมผัสของหมูยังอยู่ครบเต็ม ไม่ได้รู้สึกถึงความเป็นแป้งเหมือนลูกชิ้นหมูทั่วๆไปครับ หมูมาชิ้นใหญ่เกือบจะล้นออกปากแล้วครับ และให้มาเยอะมากๆ ส่วนไข่เยี่ยวม้าถูกซ่อนตัวไว้อยู่ก้นชาม ไข่มาฟองไม่ใหญ่ครับ โรยหน้าด้วยขิงและต้นหอมซอย เมนูโจ๊กของที่นี่สามารถเปลี่ยนเป็นหมูฝอย เห็ด ตับ กระเพาะ ไก่เนื้อวัว ปลา กุ้ง หอยนางรม หรือแม้กระทั่งเป๋าฮื้อครับ หรืออาจจะMix and Match ได้ตามใจชอบเลย ราคาโจ๊กเริ่มต้นตั้งแต่190บาท ไปจนถึง700บาทครับ แต่ถ้าเป็นเมนูเป๋าฮื้อแบบเป็นหม้อทานทั้งครอบครัวราคาก็จะสูงสุดอยู่ที่960บาท




ก๋วยเตี๋ยวหลอดปาท่องโก๋ (160+บาท) เมนูนี้อาจจะไม่ใช่เมนูที่คนไทยคุ้นชินเท่าไหร่ครับ แต่สำหรับอาหารจีนแล้ว ถือว่านิยมมากๆ ซึ่งก็ถือว่าเป็นเมนูโปรดของผมเมนูนึงเลยครับ ซึ่งขั้นตอนและวิธีการทำก็ดูแล้วออกจะง่ายและดูไม่ยุ่งยากเลยครับ ตัวแป้งก๋วยเตี๋ยวหลอดนุ่มมากๆ กับไส้ปาท่องโก๋ที่ยังคงความกรอบอยู่ตอนเคี้ยว ราดด้วยซอสสูตรของทางร้าน อร่อยเลยครับ เมนูนี้สามารถเลือกไส้อื่นได้ทั้งห่านอบ หมูแดง หรือหมูกรอบ กุ้ง เนื้อวัว ตับ หรือจะผสมกันก็ได้นะครับ








ห่านอบ (430บาท) เป็นอีกเมนูที่ขาดไม่ได้เลยครับสำหรับร้านนี้ ทีแรกผมนึกว่าใช้วิธีย่างครับ เลยถามทางร้านไปจึงได้คำตอบว่าที่นี่ใช้อบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห่าน หมูแดงหรือแม้กระทั่งหมูกรอบครับ (ร้านนี้ไม่มีเป็ดขายนะครับ) เมนูนี้ถือเป็นเมนูขึ้นชื่อจริงๆ อบออกมาได้หนังกรอบกำลังดี เนื้อก็หอมหวานดีครับ อร่อยเลยครับ เมนูนี้ถ้ามาเป็นครอบครัวใหญก็สามารถสั่งแบบเป็นครึ่งตัวก็ได้ครับ (990บาท)









บะหมี่แห้งขาหมูตุ๋น(220+บาท) เมนูนี้จะแยกน้ำซุปให้มาด้วยถ้วยนึงนะครับ ตัวขาหมูจะเป็นส่วนขาล่างครับ ซึ่งเนื้อจะน้อย จะเป็นหนังและเอ็นมากกว่า รสชาติออกจะเค็มๆไปซักนิดนึงสำหรับผม รวมถึงน้ำที่ราดมาบนเส้นด้วย เส้นก็ออกจะแข็งไปซักหน่อย อาจจะเป็นเพราะมัวแต่ถ่ายรูปมั้งครับ กว่าจะได้ทานกัน5555 ถ้าออกมาตอนร้อนๆแล้วทานเลยคงดีกว่าไม่น้อยครับ






บะหมี่น้ำเกี้ยวกุ้งสด (190+บาท) เมนูนี้เป็นเมนูเบสิคมากๆครับ แต่ส่วนตัวชอบและติดใจเส้นบะหมี่ที่เป็นเส้นเล็กๆแบบนี้ พอเส้นมาอยู่ในซุปก็จะนุ่มดีครับ ไม่เหมือนเมนูที่เป็นบะหมี่แห้ง เกี้ยวกุ้งของที่นี่แป้งบางและตัวใหญ่เต็มปากมากๆครับ เท่าที่ผมสัมผัสได้น่าจะมีกุ้งสองตัวนะครับ รสชาติดีครับ




บะหมี่น้ำหมูแดง/หมูกรอบ (300+บาท) เมนูนี้เป็นบะหมี่น้ำแยกมากับหมูแดงหมูกรอบครับ ตัวหมูแดงรสชาติเข้มข้นดีครับ แต่ที่บ้านเค้าติดว่าเค็มไป เพราะเค้าอาจจะทานเปล่าๆก็ได้ แต่ส่วนตัวผมทานกับเส้นและน้ำซุปมันเลยพอดีครับ ส่วนหมูกรอบก็กรอบอร่อยดี แม้จะทิ้งไว้พอสมควรแล้วก็ยังกรอบดีครับ








น้ำซุปของที่นี่ใช้กระดูกหมูมาต้มกับเปลือกกุ้งและหัวกุ้ง พร้อมกับปลาตาเดียวตากแห้งและขิงแก่ครับ มานำตุ๋นและเคี่ยวรวมกันแบบไม่ปิดฝาครับ น้ำซุปของที่นี่เลยหวานและกลมกล่อมธรรมชาติมากๆครับ  



เครื่องดื่มจะเป้นเก็กฮวยรีฟิว(55+บาท) ใครชอบเก็กฮวยแบบหวานๆผิดหวังแน่นอนครับ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นเก็กฮวยแต่ไม่ชอบหวานก็น่าจะโอเคครับ ส่วนตัวผมชอบแบบไม่หวานเลย หรือแบบที่ไม่ใส่น้ำตาลมาเลยครับ ร้านอาหารหรือโรงแรมหลายๆที่ก็จะแยกน้ำเชื่อมมาให้เติม แล้วแต่ความหวานตามชอบได้ครับ ถ้าเป็นแบบนั้นผมก็จะไม่ใส่น้ำเชื่อมเลยด้วยซ้ำ

ส่วนชามะนาว(110+บาท) แก้วนี้มารสชาติอ่อนและบางจริงๆครับ ชาไม่เข้มข้น มะนาวไม่ถึง หรือนี่เป็นสูตรฮ่องกงที่เราคนไทยอาจจะไม่คุ้นชินก็ได้ครับ เพราถ้าเป็นชามะนาวบ้านเรานี่รสชาเข้มข้น เปรี้ยวหวานนำเข้มข้นมากๆ แม้น้ำแข็งจะละลายไปแล้วครึ่งแก้วก็ตาม 55555





รวมๆแล้วอาหารค่อนข้างดีครับ หลายเมนูผมชื่นชอบมากๆด้วย บางเมนูอาจจะมีข้อด้อยนิดๆหน่อยๆ ส่วนเรื่องบริการจากพนักงานผมว่ายังเป็นข้อเสียสำหรับผมเลยครับ พนักงานให้ความสนใจในตัวลูกค้าน้อยไปหน่อย ผมเรียกหลายครั้งมากๆ ก็จะสนใจและเดินมาบริการ หรืออาจจะเพราะไม่มีService Charge มั้งครับ ทั้งหมดนี้ตัวผมเองเป็นคนตัดสินด้วยตัวผมเอง ซึ่งอาจจะไม่ตรงใจและอาจจะไม่เหมือนความคิดคนอื่นๆที่ได้ไปลองนะครับ ร้านนี้ไม่มี Service charge มีแค่Vat 7%ครับ

ฝากติดตามรีวิวร้านอื่นๆของเราได้เพิ่มเติมอีกสองช่องทางนะครับ
1. ทางเฟส http://www.facebook.com/LetsEatThailand และ
2. ทางBlog http://www.LetsEatThailand.com ด้วยนะคร้าบบบบ ขอบคุณครับ
ชื่อสินค้า:   King's Palace
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่