[แปล] คอร์ทนี่ย์ ทอมป์สัน Court & Spark #3 เพื่อนและศัตรูไม่ถาวรในแคมป์ทีมชาติ

ฮาร์มอตโต้(ดิ๊กสัน) กล่าวว่า “ครั้งแรกที่ฉันได้เห็นคอร์ทนี่ย์เล่น เราเล่นกันอยู่คนละทีม เธอเล่นให้กับทีมวอชิงตัน รอบสุดท้ายของพื้นที่นั้น พอจบเกม ฉันได้แต่คิดว่า ไม่น่าเชื่อเลย เธอเตะก้นฉันซะกระเด็น”


ระดับไฮสกูล นักกีฬาเล่นให้กับสังกัดค่อนข้างหลากหลาย สแตนฟอร์ด เพนน์สเตท เนบราสก้า เป็นต้น ทุกๆช่วงฤดูร้อน นักกีฬาที่ทำผลงานได้ดีในปีนั้นจะได้รับเชิญเข้ามาเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติเมื่อพวกเธอได้รับคำเชิญมาอยู่ร่วมกัน จากศัตรูจึงกลายเป็นเพื่อนใหม่

คริสติน เฮลเดแบรนด์ กล่าวว่า “ฉันไม่มีวันลืมเลย ตอนแม่ของฉันเสียปี 2012 คอร์ทนี่ย์เล่นลีคเปอร์โตริโก้อยู่ ณ ตอนนั้น เธอจองตั๋วแทบจะทันทีจากเปอร์โตริโก้ มารัฐยูท่าห์ เพื่อที่จะกอดฉัน(น้ำตาคลอ) ไม่ใช่ว่าเพื่อนทุกคนจะทำให้คุณแบบนี้ เธออยู่ที่ยูท่าห์ 13 ชั่วโมงก่อนจะบินกลับไป ค่าตั๋วเดินทางแพงมาก เธอมีหน้าที่การงานอยู่ที่นั่น แต่เธอก็มาเพื่อที่จะกอดฉัน นั่นคงจะเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดแล้วที่เพื่อนซักคนจะทำให้ฉัน”


จะเล่นต่อ หรือรีไทร์ นักกีฬาทุกชาติจะคำนึงถึง 4 ปี นับจากมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเป็นหลัก พวกเธออาจจะเป็นเพื่อนกันในแคมป์แต่เป้าหมายสูงสุดของทุกคนก็คงหนีไม่พ้นโอลิมปิกครั้งหน้า นักกีฬาในแคมป์มีเป็นจำนวนมาก แต่นักกีฬาที่ไปได้มีแค่ 12 คนเท่านั้น ยิ่งเวลาใกล้โอลิมปิกมากขึ้นเท่าไหร่ ความสัมพันธ์ของนักกีฬาในแคมป์ก็เริ่มตึงเครียด จากที่เป็นเพื่อนช่วงแรกก็เริ่มกลับมาแข่งขันกันอีกรอบ

“มันเป็นเรื่องยากมาก เพราะคุณไม่ใช่จะเก่งได้อยู่คนเดียวเท่านั้น แต่ต้องพัฒนาไปพร้อมกับทีม เล่นในแบบที่ทำให้ทีมดีขึ้นด้วย คุณกำลังแข่งขันกับเพื่อนๆ แต่ก็ต้องทำให้เพื่อนๆแข็งแกร่งขึ้นด้วย มันเป็นอะไรที่ต้องจัดสมดุลย์ให้ได้” คาร์ช คิลารี่กล่าว

“ปีแรกที่ฉันได้รับเชิญเข้าแคมป์ มันยากมากๆ ฉันเคยเป็นตัวเล่นหลักของทีม เป็นคนคุมเกมของทีม ฉันไม่เคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่มีคนมากมายพร้อมท้าทายที่จะเข้ามาอยู่ในตำแหน่งของฉัน ฉันเคยทำพลาดอยู่บ้างในช่วงชีวิตที่เคยเล่นมา แต่ในช่วงเวลานั้นมันมาถึงจุดที่ทุกอย่างดูจะมีแต่แย่ลงเรื่อยๆ เมื่อถึงจุดหนึ่งฉันคิดว่า ฉันคงไปได้แค่นี้ ทุกคนไม่เข้าใจฉัน ทุกคนเกลียดฉัน

ฉันจำได้ว่า ฉันโทรหาพ่อ บอกท่านว่า พ่อคะ หนูจะพยายามลองอีกซักอาทิตย์ ถ้าไม่ไหวจริงๆ หนูขอออกจากแคมป์นะคะ แต่หลังจากนั้นอาทิตย์ผ่านไป และทุกอย่างก็แน่นอนว่า แย่ลงกว่าเดิม ฉันโทรหาพ่ออีก ฉันจำได้ว่า ฉันร้องไห้ สะอึกสะอื้นตลอดการสนทนา หนูไม่ไหว หนูเล่นห่วยมาก หนูอยากกลับบ้าน หนูเกลียดที่นี่ โค้ชเกลียดหนู ทุกคนเกลียดหนู วอลเลย์บอลไม่สนุกอีกแล้ว


พ่อถามฉันว่า ถ้าลูกทำได้ดี ลูกจะอยากกลับรึเปล่า ฉันก็ตอบว่า พ่อคะ ถ้าทำได้ดี หนูก็อยากอยู่ที่นี่อยู่แล้ว พ่อบอกต่อว่า ลูกรัก พ่อรักลูกนะ พ่อรู้ว่ามันยาก ชีวิตมันยาก แต่นี่แหละชีวิตจริง ลูกกำลังเข้าสู่ช่วงยากลำบาก แต่นี่ก็เป็นโอกาสที่หาค่าไม่ได้ ทุกคนต่างก็มีช่วงเวลานี้ด้วยกันทั้งนั้น ชีวิตมันไม่ง่าย แต่เราก็ไม่ควรวิ่งหนีจากสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันยาก

ฉันเกลียดพ่อมากเลยในตอนนั้น ฉันบอกเขาว่า พ่อไม่เข้าใจหนูซักนิด ทั้งกายและใจของหนูเรียกร้องให้ออกจากที่นี่ เขาก็เอาแต่พูดว่า พ่อรู้ พ่อเข้าใจ พ่อรักลูก แต่พ่อปล่อยให้ลูกทำแบบนั้นไม่ได้ หลังจากนี้ เมื่อเวลาผ่านไป ลูกก็จะคิดได้ว่าไม่อยากออกจากแคมป์นี้เหมือนกัน สิ่งที่ลูกสามารถทำได้ คือทำให้ดีที่สุด เรียนรู้จากสิ่งที่เราผิดพลาด และนั่นทำให้ฉันได้เรียนรู้สิ่งที่สำคัญอย่างใหญ่หลวง ถ้ามันยาก เราควรจะหายใจลึกๆ ตั้งสติ แล้วลุกขึ้นมาเริ่มใหม่ต่อไป เราจะหนีปัญหานั้นเพียงเพราะเราไม่ชอบไม่ได้”

เหล่าโค้ช กล่าวว่า ในฐานะผู้ปกครอง การที่เราเข้าข้างปกป้องลูกจากทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแล้วที่สามารถเกิดขึ้นได้กับลูกของคุณเอง ความพ่ายแพ้จะสอนให้ลูกของคุณ เรียนรู้ที่จะลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง พร้อมกับความแข็งแกร่งที่มากขึ้น ทุกคนอยากให้ลูกของตนได้รับชัยชนะ ได้เหรียญโอลิมปิก แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การได้รับชัยชนะอย่างเดียวทำให้พวกเค้าไม่พร้อมรับกับความพ่ายแพ้ พวกเขาควรที่จะพัฒนาตัวเอง และการที่จะทำแบบนั้นได้คือการยอมรับความพ่ายแพ้ ทุกครั้งที่ผู้ปกครองป้องกันไม่ให้ลูกพบกับความพ่ายแพ้ คุณทำให้ลูกหยุดการพัฒนาไปด้วย


“พยายามฝึกต่อไป ทำพลาดบ้างก็ได้ เพราะมันเป็นเรื่องปกติ(ของกีฬา) ถ้าอยากเก่ง ก็ต้องหัดทำพลาดบ้าง เชื่อชั้นสิ ฉันทำพลาดมาตลอดชีวิต” คอร์ทนี่ย์หัวเราะขณะสอนเด็กสาวสองคนที่กำลังหัดเล่นวอลเลย์บอล


เวลาต่อมาคอร์ทนี่ย์ได้รับเชิญไปพูดเป็นวิทยากร ในโรงยิมที่สมัยเด็กเธอเคยมาฝึกซ้อม “ฉันรู้สึกเหลือเชื่อ เพราะเหมือนว่าไม่กี่วันที่ผ่านมา ฉันเคยนั่งอยู่ในพื้นที่ที่คุณเคยนั่ง คลับนี้ถือว่าค่อนข้างเล็ก แต่ตอนนั้นฉันวาดฝันเอาไว้ใหญ่โต ฉันรักวอลเลย์บอล ช่วงเวลาของฉันในแคมป์ทีมชาติ ไม่ถือว่าง่ายดายเลย ฉันไม่เคยได้ติดทีมชาติชุดแรกจนกระทั่งปีนี้

วันหนึ่งตอนฉันนั่งโป๊ะน้ำแข็งจากแผลที่เกิดจากการซ้อมในห้องพยาบาล ลินเซย์ เบิร์กเดินเข้ามาหาฉัน ตอนนั้นเบิร์กเป็นมือเซ็ตอันดับหนึ่ง ส่วนฉันน่าจะประมาณอันดับห้า เธอถามว่า ‘คอร์ทนี่ย์ทำไมเธอยังสู้อยู่ในแคมป์นี้ได้นะ เธอไม่ได้ติดทีมชาติไม่ว่าชุดไหนเลยมาสองปีแล้ว ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอยังลุกขึ้นมาสู้อยู่ในแคมป์นี้ได้ทุกวัน’


ฉันบอกเธอว่า ฉันคุยกับฮิวช์(โค้ชประจำทีม)ว่า ฉันพยายามเต็มที่ที่สุดแล้ว ฉันไม่อยากเป็นแมสคอตประจำทีม ที่มีชื่อในแคมป์แต่ไม่เคยถูกเรียกไปแข่งในนามทีมชาติในรายการใดๆเลย ฉันรู้ว่าฉันทำได้ และทำได้ดี แต่คุณอาจจะไม่คิดแบบนั้น ถ้าคุณรู้ว่าฉันไม่มีหวังเลยก็ช่วยบอกที ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะได้ไปจากที่นี่

ฮิวช์ ตอบว่า รู้ไหม คอร์ทนี่ย์ มันยังมีโอกาสนะ แม้จะนิดเดียว แต่มันก็มีโอกาส ที่เธอจะได้ไปโอลิมปิกที่ลอนดอน

คุณเคยเห็นตัวละครจาก Dumb & Dumber ไหม คุณบอกว่ามีโอกาสใช่ไหม(เสียงตื่นเต้น) ถึงจะหนึ่งในล้านแต่ฉันก็พร้อมจะสู้ ฉันกลับถึงห้องแล้วคิดว่า มันยังมีโอกาส ฉันไม่อยากเลิกกลางคัน ฉันจะทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อให้ทีมสามารถเล่นได้ดีขึ้น ในตอนนั้นฉันเลิกคิดไปเลยเรื่อง โค้ชเกลียดฉันรึเปล่า หรือฉันเล่นได้ห่วยแค่ไหน ฉันจะพยายามสร้างแรงกระตุ้นให้กับทีมให้มากที่สุด มันเปลี่ยนแนวความคิดไปเลย นี่ไม่ใช่ฉันเพียงแค่คนเดียวอีกต่อไป นี่คือทีมของเรา แทบจะในทันที การเซ็ตของฉันก็ดีขึ้นมาก นี่เป็นจุดเปลี่ยนของอาชีพฉันเลย”

พวกโค้ชกล่าวชมเธอจากนั้นว่า เธอสร้างแรงกระตุ้นต่อทีมได้มาก เธออ่านเกมและแปลกลยุทธ์ของโค้ชได้ดี ฮาร์มอตโต้ กล่าวถึงว่า สิ่งสำคัญที่สุดของคอร์ทนี่ย์ คือแรงกระตุ้นที่มีต่อทีมเวลาเธอปรากฎตัวในสนาม สุดท้ายแล้ววันหนึ่ง โค้ชก็เรียกทุกคนมารวมตัวเพื่อประกาศผู้จะติดทีมไปโอลิมปิก 2012 ที่ลอนดอน

“ฉันจำได้ว่า วันนี้คงจะเป็นวันที่หนักมาก เราซ้อมกันมาก็หนักแล้ว นักกีฬาเองก็คาดเดากันไปต่างๆนานา ที่ยืนข้างๆนี่ก็เพื่อนฉันทั้งนั้น และตั้งกว่าครึ่งที่จะอดไป ฉันอธิบายความรู้สึกไม่ถูกเลย พอโค้ชเรียกชื่อฉันเท่านั้นแหละ ฉันอยากจะร้องไห้ อยากจะกรีดร้อง แต่ก็ทำไม่ออกซักอย่าง ฉันมองไปที่หน้าโค้ช แล้วโค้ชก็ส่งสายตามาแบบว่า อย่าเชียวนะ ฉันขนลุกไปทั้งตัว ไม่มีวันที่จะลืมความรู้สึกนั้นไปได้เลยตลอดชีวิต”

ตอนหน้าเป็นเรื่องของเหตุการณ์โอลิมปิก 2012 ครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่