*:: A Book to Reader: เมื่อเราเปิดกรุสมบัติ ตอน หนังสือของ Otsuichi (โอตสึอิจิ) ::*

สวัสดีค่ะ วันนี้เราขอมารีวิวหนังสือของ Otsuichi ไว้เป็นข้อมูลให้สำหรับหนอนหนังสือและคอนิยายญี่ปุ่นกันนะคะ แต่เนื่องจากหนังสือของ Otsuichi มีหลายเล่มมาก เราขอทยอยๆ มาทีละเล่มละกันนะคะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำรวดเดียวให้ครบทุกเล่ม แต่,, ไม่ไหวค่ะ เยอะเกิน กว่าจะเสร็จพร้อมกันหมดคงได้ตั้งกระทู้ปลายปีโน่นนน เอาเป็นว่าค่อยๆ รีวิว ค่อยๆ ติดตามกันนะคะ

หัวใจ


“I was born with a reading list I will never finish”
- Maud Casey –


เมื่อเราเปิดกรุสมบัติ,,

    หากไม่ใช่ช่วงเทศกาลวันหยุดยาวเช่นนี้ คงเป็นการยากที่เราจะลุกขึ้นมารื้อ มาค้น หรือสรรหากิจกรรมใหม่ๆ มาทำเป็นแน่ เนื่องด้วยหน้าที่การงานอันเหน็ดเหนื่อย ที่เผาผลาญเรี่ยวแรงวันจันทร์ถึงศุกร์ของเราไปซะเกลี้ยง จนทำให้วันเสาร์และอาทิตย์ของเราเปี่ยมไปด้วยการพักผ่อน ไม่นอน ก็ออกไปช็อปปิ้ง ไม่ช็อปปิ้ง ก็นั่งเล่นมือถือ (ปฏิเสธไม่ได้ว่า Social Media มีผลกระทบกับชีวิตมากจริงๆ ทั้งที่อดีตก่อนโลกนี้จะมี iPhone เรามีชีวิตอยู่อย่างหนอนหนังสือแท้ๆ แต่พอชีวิตได้มารู้จักกับ iPhone ปุ๊บ หนังสือที่เคยเป็นเพื่อนรักของเราก็ค่อยๆ เลือนหายไป วันละเล็ก วันละน้อย ณ จุดนี้เราไม่ขอโทษความผิดไปที่ Apple นะคะ เราโทษตัวเองดีกว่า ที่ไม่รู้จักจัดสรรเวลาให้เพื่อนที่แสนดีอย่างหนังสือเลย แต่ไม่เป็นไร ปีนี้เรามีปณิธานแน่วแน่แล้ว ว่าเราจะกลับมาใช้เวลาอยู่กับหนังสือให้มากขึ้นอีกครั้ง แถมยังมีพลังสำหรับงานเขียนอยู่ส่วนหนึ่งด้วย คาดว่าปีนี้ทั้งหนังสือเก่า (ที่เราเริ่มเอามาปัดฝุ่น) และหนังสือใหม่ คงได้โลดแล่นอยู่ในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นแน่ๆ ค่ะ)
    
    เอาล่ะค่ะ เกริ่นมาเสียยาวเชียว ถึงเวลาเปิดกรุสมบัติของเราแล้วค่ะ  หนึ่งสิ่งที่เราได้เรียนรู้จากการเปิดกรุสมบัติ (ในที่นี้ คือ ตู้เก็บหนังสือของเราเอง) คือ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน หนังสือที่ดี มักยังคงคุณค่าและความประทับใจให้เราเสมอ แต่ละเล่มที่เราหยิบออกจากกรุสมบัตินี้ บางเล่มเรายังจำได้ดี (อาจจะด้วยเพราะหยิบออกมาอ่านหลายครั้งหลายคราว) บางเล่มมีความคุ้นใจ ในขณะที่บางเล่มสร้างความประหลาดใจให้กับเราได้ (ว่าเราเคยมีเล่มนี้จริงๆ เหรอ?) สุดท้าย เราก็หยิบจับขึ้นมาอ่านอีกครั้ง แต่ละตัวอักษรที่ผ่านตา แต่ละถ้อยคำที่อ่านไป เรียบเรียงความทรงจำในอดีตของเราให้กลับมาอีกครั้ง บางครั้งเราแอบลุ้นคนเดียวในใจเงียบๆ ว่าเรื่องจะป็นไปอย่างที่เราคาดคิดไหม หรือจะหักมุม ในขณะที่บางถ้อยคำอันคุ้นเคย ทำให้เราจดจำตอนจบของเรื่องได้ขึ้นมาทันที.. ในวันนี้ เราขอเริ่มจากหนังสือของ Otsuichi หรือ อาจารย์โอตสึ อิจิ ที่บางคนน่าจะพอรู้จักมักคุ้นอยู่บ้าง
    
โอตสึ อิจิ เป็นนักเขียนชาวญี่ปุ่น เกิดปี 1978 ที่จังหวัดฟุกุโอกะ ด้านผลงานการเขียน สำหรับเราไม่สามารถนิยามชี้ชัดลงไปได้ว่าเป็นแนวใดแนวหนึ่ง บางเรื่องดูสืบสวนชวนค้นหา บางครั้งก็แอบมีความลึกลับสยองขวัญ ในขณะที่บางเรื่องก็ชวนให้อบอุ่นหัวใจ แต่หลายต่อหลายครั้งมักหักมุมหรือชวนให้สงสัยเสมอ เรียกได้ว่ามีหลายรส หลายอารมณ์ หลายครั้งเรารู้สึกสนุกที่ได้คาดเดาตอนจบ (แม้จะเดาถูกบ้าง ผิดบ้าง) ทั้งหมดนี้คงเป็นเสน่ห์แห่งงานเขียนของ Otsuichi ที่ทำให้เราหยิบมาอ่านกี่ครั้ง ก็ยังประทับใจทุกครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่