คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
บทความนี้คุณวอหลักสี่เขียนเมื่อ 6 ปีที่แล้วยังทันสมัยอยู่ครับ
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2010/08/X9536530/X9536530.html
ถ้าชอบสินค้าก้อซื้อใช้ส่วนตัวพอ
ถ้าอยากรวยก้อ (รายได้เกิน 50,000 ต่อเดือน) ต้องเป็น 800 คนแรก ใน 4 แสนสี่ หรือพูดง่ายๆ คือต้องหาคนมาต่อประมาณ 550 คน มาต่อ (440,000 หาร 800) โดยที่ทั้ง 550 คนต้องซื้อของเป็นประจำทุกเดือนครับ
http://topicstock.ppantip.com/wahkor/topicstock/2010/08/X9536530/X9536530.html
ถ้าชอบสินค้าก้อซื้อใช้ส่วนตัวพอ
ถ้าอยากรวยก้อ (รายได้เกิน 50,000 ต่อเดือน) ต้องเป็น 800 คนแรก ใน 4 แสนสี่ หรือพูดง่ายๆ คือต้องหาคนมาต่อประมาณ 550 คน มาต่อ (440,000 หาร 800) โดยที่ทั้ง 550 คนต้องซื้อของเป็นประจำทุกเดือนครับ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 15
ที่ว่าสินค้าดีนั้น ต้องดูราคาประกอบด้วยครับ
ให้แบรนด์บ้านๆทั่วไปทำสินค้าให้ดีแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ราคาก็จะไม่ถูกแล้วนะ
ทีนี้เมื่อเราเข้าใจว่าของดีไม่ดีนั้น บริษัทไหนก็ทำได้เพราะไม่ใช่เทคนิคลึกลับอะไร แล้วเงินที่คุณจ่ายไปแพงกว่าแล้วได้สินค้าที่ว่าดีกลับมานั้น มันดีสมราคาจริงหรือเปล่า หรือว่าเพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบเพราะเห็นว่าใช้ดีหน่อยก็เลยคิดว่าของเขาดีจริง ทั้งที่หากบริษัทอื่นผลิตได้ดีเหมือนกันแต่ราคาย่อมถูกกว่า ต่ำกว่าแน่นอน เพราะเขาไม่ต้องไปแบ่งค่าหัวให้ลูกข่ายครับ
เคยมีคนถามว่าทำไมสินค้าอิเลคทรอนิค หรือยานยนต์ถึงไม่ทำออกมาทีเดียวให้ทนใช้กันเป็นหลายๆสิบปียันร้อยปีไปเลย ทำไม่ได้หรือไร
คำตอบคือเขาทำได้ครับ อย่างรถนี่จะให้ใช้ทนเป็นสิบๆปีแบบซ่อมบำรุงน้อยมากก็ได้ แต่ ราคาที่คุณจ่ายมันจะแพงกว่ารถในราคาปัจจุบันอีกหลายเท่านะครับ คุณจะยอมจ่ายเพื่อความทนอันนี้ไหม
สำหรับผมนั้นซื้อสินค้าแค่พอใช้ได้คุณภาพไม่ต่ำก็พอ เพราะว่าคำว่าดีนั้นมันจะดีกว่าสินค้าปกติสักเท่าไร เช่นดีกว่าสัก 10 เปอร์เซ็นต์แต่จ่ายแพงขึ้นเป็นสองสามเท่า ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีกว่านั้นเพียงแค่เล็กน้อยครับ แต่ถ้าเงินเหลือไม่มีที่เก็บจะใช้สินค้าดีๆราคาแพงๆแบบนั้นก็ตามใจเลยครับ ถือว่าหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองสมกับฐานะแล้ว
ให้แบรนด์บ้านๆทั่วไปทำสินค้าให้ดีแบบนั้นก็ได้ครับ แต่ราคาก็จะไม่ถูกแล้วนะ
ทีนี้เมื่อเราเข้าใจว่าของดีไม่ดีนั้น บริษัทไหนก็ทำได้เพราะไม่ใช่เทคนิคลึกลับอะไร แล้วเงินที่คุณจ่ายไปแพงกว่าแล้วได้สินค้าที่ว่าดีกลับมานั้น มันดีสมราคาจริงหรือเปล่า หรือว่าเพราะไม่มีตัวเปรียบเทียบเพราะเห็นว่าใช้ดีหน่อยก็เลยคิดว่าของเขาดีจริง ทั้งที่หากบริษัทอื่นผลิตได้ดีเหมือนกันแต่ราคาย่อมถูกกว่า ต่ำกว่าแน่นอน เพราะเขาไม่ต้องไปแบ่งค่าหัวให้ลูกข่ายครับ
เคยมีคนถามว่าทำไมสินค้าอิเลคทรอนิค หรือยานยนต์ถึงไม่ทำออกมาทีเดียวให้ทนใช้กันเป็นหลายๆสิบปียันร้อยปีไปเลย ทำไม่ได้หรือไร
คำตอบคือเขาทำได้ครับ อย่างรถนี่จะให้ใช้ทนเป็นสิบๆปีแบบซ่อมบำรุงน้อยมากก็ได้ แต่ ราคาที่คุณจ่ายมันจะแพงกว่ารถในราคาปัจจุบันอีกหลายเท่านะครับ คุณจะยอมจ่ายเพื่อความทนอันนี้ไหม
สำหรับผมนั้นซื้อสินค้าแค่พอใช้ได้คุณภาพไม่ต่ำก็พอ เพราะว่าคำว่าดีนั้นมันจะดีกว่าสินค้าปกติสักเท่าไร เช่นดีกว่าสัก 10 เปอร์เซ็นต์แต่จ่ายแพงขึ้นเป็นสองสามเท่า ผมคิดว่ามันไม่จำเป็นต้องจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีกว่านั้นเพียงแค่เล็กน้อยครับ แต่ถ้าเงินเหลือไม่มีที่เก็บจะใช้สินค้าดีๆราคาแพงๆแบบนั้นก็ตามใจเลยครับ ถือว่าหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองสมกับฐานะแล้ว
แสดงความคิดเห็น
แฟนผมเข้าสัมมนา amway ทีเดียวออกมาเป็นคนละคนเลย T^T
เรื่องของเรื่องคือทางแม่ของแฟนผมเนี่ยกับญาติเค้าไป ทำ amway แล้วทีนี้ที่ amway สาขาตรงบางกะปิอะครับเค้าจัดประชุมไรก็ไม่รู้ครับ แม่เค้าก็ชวนแฟนผมเข้าไปประชุม แฟนผมก็บอก "ไม่ไป ไม่อยากไป ไปทำไมไม่ชอบขายตรง" สุดท้ายนางก็ต้องไปเพราะสู้แรงกดดันแม่และน้า อา ไม่ไหว
งานประชุมเริ่ม 6 โมงเย็นครับ เสร็จก็ประมาณ 5 ทุ่ม .... นางเดินออกมาครับพร้อมกับการสมัครสมาชิกและได้แคตตาล็อกสินค้ามาด้วยพร้อมกับใครก็ไม่รู้เป็นคนดูดีครับ มาเป็นเพื่อนในไลน์แฟนผมเรียบร้อย ต่อมาครับนางก็คุยกับพี่ดูดีคนนั้น บ้างไรบ้าง พูดไรก็เป็น amway ไปหมด อาหารเสริมที่เคยกิน ก็กลายเป็นของไม่ดีให้โทษต่อร่างกายไปซะงั้น สุดท้ายนางเลิกกินทุกอย่าง
สุดท้ายผมต้องเป็นคนกินทั้งหมด (ปกติผมไม่ค่อยกินหรอกครับอาหารเสริมเน้นออกกำลังกายแต่ได้มาก็ดีสบายเป๋า 5555)
บางวันก็มีพี่ดูดีคนเนี๊ยมาแต่งหน้าให้ นวดหน้า พูดคุยกัน บลา บลา บอกทั้งบ้านเค้าหน๊ะทำ amway กันทั้งบ้าน ลูกๆเรียนจบ จุฬาฯ ทำงานกันเดือนละ 4หมื่น 5หมื่น ยังต้องออกมาทำ amway มามอบสิ่งดีๆ เราไม่ได้หวังขายสินค้า แต่เราต้องการมอบสิ่งดีๆให้คนรอบข้าง ต้องเริ่มจากคนในครอบครัวอะไรประมาณนี้ (ผมก็ฟังโหยสุดยอดคนดีจริงๆเงินเดือนครึ่งแสนไม่เอาแต่มามอบสิ่งดีๆ ถ้ามีคนแบบนี้เยอะก็ดีซิ )
ต่อมาแฟนผมเปลี่ยนทุกอย่างครับพวกเครื่องแต่งสวยของใช้ในห้องน้ำ ย้ำเลยนะครับทุกอย่างจริงๆ ทุกอย่างเป็นของ amway
แต่ของเค้าใช้ดีจริงๆนั่นหล๊ะครับ ส่วนตัวผมชอบโฟมล้างหน้ากับยาสีฟันนะครับ จัดเลยว่าเด็ดแต่ราคาอย่าพูดถึงครับ 555555555+
นี่ยังน้อยนะครับ ในห้องนอนยังอีกพรึ๊บ โปรตีน วิตามิน ครีม ตอนซื้อนางก็ให้เหตุผลว่า มีที่ไหนซื้อของแล้วคืนตังค์ ผมว่า amway ฉลาดมากครับ เพียงแค่คำว่าคืนตังค์เหมือนจี้โดนจุดของแฟนผม ครับจัดหนัก พูดได้ว่าเข้าไปนี่อย่างกับซ้อ ออกมานี่แทบจะลอย ผมเห็นราคาก็อึ้งอะครับ อย่างว่าละครับของดีไม่มีถูกๆหรอก
ก็โอเครครับเขามีความสุขผมก็ดีใจนอนตาหลับ การใช้ชีวิตก็เหมือนเดิมในทุกๆวันนะครับ ... อยู่มาวันนึงพี่คนที่ดูดีๆ เขาก็โทรหาแฟนผมเป็นระยะ ไลน์มาบ้าง ถามเชิงว่า " เป็นไงบ้างเหนื่อยกับงานที่ทำไหม พี่อยากไม่อยากให้น้องต้องทนเป็นลูกจ้างเขา ทำงานให้เขาแต่เราไม่ได้มีความก้าวหน้าเลย " มาแนวนี้ครับ เป็นระยะๆ โทรมาก็ถามถึงเรื่องงาน ว่าเหนื่อยไหมเป็นไงบ้าง แฟนผมก็ซึ้งในน้ำใจพี่แกเหลือเกิน 5555+ (ยังดีนะที่แฟนผมไม่ออกจากงาน) ก็เป็นแบบนั้นเรื่อยๆครับ
ผมจึงค่อนข้างสงไสครับ จากคนที่ไม่สนใจธุรกิจประเภทนี้เลย เมื่อก่อนนี่ถึงกับไม่ชอบเลยก็ว่าได้แต่เพียงเพราะการเข้าประชุมเข้างานเจอกับใครก็ไม่รู้มาแนะนำ ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้ ???