ได้เคยวิพากย์ เรื่องการค้าข้าวให้ประชาชนกินกันถูกเอารัดเอาเปรียบจากพ่อค้ามานาน
ส่วนต่างระหว่างข้าวเปลือกกับข้าวสาร มันต่างกันลิบลับ ไม่มีรัฐบาลใดจัดการ ในเรื่องนี้
ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจาก ประกันราคา หรือจำนำ ซึ่งทั้งสองวิธี ต้องเอาเงินจากรัฐบาล
เข้าไป อุ้มให้กับชาวนา
รัฐไม่สามารถที่จะวางมาตรการในการทำให้ราคาเป็นธรรมเกิดขึ้น ไม่ว่ารัฐบาลชุดใด ทั้ง มาจาก
การเลือกตั้ง หรือรัฐประหาร ข้ออ้างคือจะไปแซกแซงทางการค้า กลัวว่าต่างชาติไม่เอาด้วย
เราต้องค้าแบบเสรี ประชาชนของเรายากจน แล้วการค้าเสรีจะมีประโยชน์อะไรกับประชาชน
ลองนึกดูว่า ข้าสาร 1 ตัน ต้องใช้ข้าวเปลือก ประมาณ เกือบ 2 ตัน ในการสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร
ข้าวเปลือก ที่พ่อค้าซื้อจากชาวนา ถ้าเป็นข้าวหอมธรรมดา ไม่เกิน 8 พันบาทหรือน้อยกว่านั้น ใช้ข้าว
เปลือก 1.6 หมื่นบาทต่อข้าวสาร 1 ตัน นี่ไม่คิด ไอ้ส่วนที่ตามมาในการสี ข้าวสารที่สีได้ บรรจุถุงเรียบร้อย
ขายในท้องตลาด ราคา กว่า 30 บาทขึ้นไปต่อกิโล แม้จะมีค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าขนส่ง ค่าเก็บรักษา ก้ไม่ควร
เกิน 7 บาทต่อถุง นั่นคือมีราคาต้นทุน ไม่เกิน 23 บาท พ่อค้ากำไร ถุงละ กว่า 7 บาทขึ้นไป นั่นคือกำไรต่อตัน
ไม่น้อยกว่า 1400 บาท ถึง 2000 บาทต่อตัน ถ้าเป็นหอมะลิ นี่ไปกันใหญ่ เพราะข้าวหอมมะลิในท้องตลาด
จะเป็นข้าวผสมกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่หอมมะลิ ร้อยเปอร์เซนต์ หอมมะลิผสม ที่ขายกัน กว่า 40 บาทต่อกิโล
จากข้าวเปลือก ไม่เกิน 20 บาท
คนไทยเรากินข้าว กว่า 12 ล้านตันต่อปี นั่นคือเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาท อยู่ในมือพ่อค้าทั้งสี้น ยี่งกินข้าวมาก
พ่อค้าก็เอาส่วนต่างไปเป็นของตนเองมากเท่านั้น รัฐได้แต่ออกโครงการ ประกันหรือจำนำ เพื่อช่วยชาวนา ไม่สามารถ
จัดการกับการเอารัดเอาเปรียบได้เลย และไม่ต้องสงสัยเลยว่า โครงการรับจำนำ จะถูกต่อต้าน และ เร่งที่จะให้จัดการ
กับ รัฐบาลที่ ออกโครงการแบบนี้
ไอ้ข้ออ้าง ขาดทุนจากการจำนำข้าว ถ้า ดูตัวเลข การกินข้าวของคนไทย และการเอาข้าวมาบรรจุถุงให้คนไทย จะพบ
มันไปขาดทุนตรงไหน นอกจาก การขาดกำไรของพ่อค้าข้าวเท่านั้น ใน 2 ปีครึ่งที่ รัฐบาลที่รับจำนำ พ่อค้า ขาดเงิน ส่วนต่าง
ไปกว่า 7 แสนล้านบาท ไอ้เงินจำนวนนี้ต่างหาก ที่ ไปอยู่ในมือชาวนา
เงินจำนวน 7 แสนล้านบาทที่อยู่ในมือชาวนา ถ้าคิดตามเศษฐศาสตร์เบื้องต้น เขาจะจับจ่ายใช้สอย ไม่เก็บไว้ ในธนาคาร
แบบที่อยู่ในมือพ่อค้า เงินจำนวน 7 แสนล้าน จะถูกหมุน ตามระบบไม่ต่ำกว่า 7 รอบ รัฐได้ภาษีทุกรอบ แว๊ต จะมีเข้ามา
ทุกรอบ รัฐได้ทั้งช่วยเหลือชาวนา ทั้งได้แว๊ตกลับคืนมา จากการหมุนเวียนของเงินจำนวนนั้น
ที่เอาตัวเลข 5 แสน 7 แสนล้านที่บอกว่าขาดทุน ข้าว ในสต๊อค ยังมีอยู่ ถ้าบอกว่าข้าวหาย หรือไม่มีข้าว ถามว่า มีการ
ตรวจสอบหรือไม่ เพราะสินค้าข้าว ไม่ใช่สินค้าที่ จะตงที่เหมือน รถยนต์ เครื่องจักร ย่อมมีการเสื่อมในตัวของมันเอง
แต่ ก็ยังรัปทานได้ ข้อนี้ดูตรงไหน ก. พาณิช เอาข้าวออกมาประมูลขาย กัน สองสามรอบ ในปีนี้ ถามว่า ถ้าข้าวเสื่อม
พ่อค้าจะให้ราคาดีกว่า ประมาณการหรือไม่
ข่าวของข้าวลายจุดมันไป โดนใจคนที่กินข้าวทุกคน ตรรกะของลายจุด เป็นการบอกและส่งสัญญาณไปยัง ผู้รับผิดชอบ
ในขณะนี้ว่า การเอารัดเอาเปรียบของพ่อค้าที่กระทำ ต่อประชาชน มันยังมีต่อเนื่อง เมื่อล้มโครงการจำนำไปนั้น นั่นคือรัฐบาล
จะต้องหาวิธีการ ที่จะทำให้ เงินของชาวนาจากราคาข้าวเปลือกกลับไปสู่ชาวนาได้ ไม่ไปอยู่ในมือพ่อค้าข้าว
ความมั่นคงของชาติของรัฐบาล ถ้าให้มั่นคงจริง ๆแล้ว จะต้องให้ประชาชนมั่นคง ให้ชาวนามั่นคง ขจัดการ เอารัดเอาเปรียบ
ประชาชนไม่ว่า ชาวนาหรือชาวอื่น ลายจุดเขาทำต้วอย่างออกมาแล้ว ผมคิดว่า รัฐบาล ทำเถอะครับ การขับเคลื่อน
เศษฐกิจ ต้องที่คนรากหญ้าก่อน ต้องให้เขามีเงินใช้จ่ายก่อน
คสช ท่านทำมาหลายเรื่อง เช่นการบุกรุกป่า การจัดระเบียบของสังคมที่หมักหมมมานาน เอาเรื่องนี้อีกซักที ผมชูสองมือเชียร์
เลยครับ เพราะ ในภาวะปรกติ ไม่มีใครจัดการได้ ทีนี้ จะอยู่ยาวขนาดไหน ไม่มีใคร ว่าท่านหรอกครับ เพราะท่านอยู่เพื่อ ประชาชน
ให้ได้รับความเป็นธรรม
ข้าวลายจุด
ส่วนต่างระหว่างข้าวเปลือกกับข้าวสาร มันต่างกันลิบลับ ไม่มีรัฐบาลใดจัดการ ในเรื่องนี้
ได้อย่างเป็นรูปธรรม นอกจาก ประกันราคา หรือจำนำ ซึ่งทั้งสองวิธี ต้องเอาเงินจากรัฐบาล
เข้าไป อุ้มให้กับชาวนา
รัฐไม่สามารถที่จะวางมาตรการในการทำให้ราคาเป็นธรรมเกิดขึ้น ไม่ว่ารัฐบาลชุดใด ทั้ง มาจาก
การเลือกตั้ง หรือรัฐประหาร ข้ออ้างคือจะไปแซกแซงทางการค้า กลัวว่าต่างชาติไม่เอาด้วย
เราต้องค้าแบบเสรี ประชาชนของเรายากจน แล้วการค้าเสรีจะมีประโยชน์อะไรกับประชาชน
ลองนึกดูว่า ข้าสาร 1 ตัน ต้องใช้ข้าวเปลือก ประมาณ เกือบ 2 ตัน ในการสีข้าวเปลือกเป็นข้าวสาร
ข้าวเปลือก ที่พ่อค้าซื้อจากชาวนา ถ้าเป็นข้าวหอมธรรมดา ไม่เกิน 8 พันบาทหรือน้อยกว่านั้น ใช้ข้าว
เปลือก 1.6 หมื่นบาทต่อข้าวสาร 1 ตัน นี่ไม่คิด ไอ้ส่วนที่ตามมาในการสี ข้าวสารที่สีได้ บรรจุถุงเรียบร้อย
ขายในท้องตลาด ราคา กว่า 30 บาทขึ้นไปต่อกิโล แม้จะมีค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าขนส่ง ค่าเก็บรักษา ก้ไม่ควร
เกิน 7 บาทต่อถุง นั่นคือมีราคาต้นทุน ไม่เกิน 23 บาท พ่อค้ากำไร ถุงละ กว่า 7 บาทขึ้นไป นั่นคือกำไรต่อตัน
ไม่น้อยกว่า 1400 บาท ถึง 2000 บาทต่อตัน ถ้าเป็นหอมะลิ นี่ไปกันใหญ่ เพราะข้าวหอมมะลิในท้องตลาด
จะเป็นข้าวผสมกันเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่หอมมะลิ ร้อยเปอร์เซนต์ หอมมะลิผสม ที่ขายกัน กว่า 40 บาทต่อกิโล
จากข้าวเปลือก ไม่เกิน 20 บาท
คนไทยเรากินข้าว กว่า 12 ล้านตันต่อปี นั่นคือเม็ดเงินกว่า 2 แสนล้านบาท อยู่ในมือพ่อค้าทั้งสี้น ยี่งกินข้าวมาก
พ่อค้าก็เอาส่วนต่างไปเป็นของตนเองมากเท่านั้น รัฐได้แต่ออกโครงการ ประกันหรือจำนำ เพื่อช่วยชาวนา ไม่สามารถ
จัดการกับการเอารัดเอาเปรียบได้เลย และไม่ต้องสงสัยเลยว่า โครงการรับจำนำ จะถูกต่อต้าน และ เร่งที่จะให้จัดการ
กับ รัฐบาลที่ ออกโครงการแบบนี้
ไอ้ข้ออ้าง ขาดทุนจากการจำนำข้าว ถ้า ดูตัวเลข การกินข้าวของคนไทย และการเอาข้าวมาบรรจุถุงให้คนไทย จะพบ
มันไปขาดทุนตรงไหน นอกจาก การขาดกำไรของพ่อค้าข้าวเท่านั้น ใน 2 ปีครึ่งที่ รัฐบาลที่รับจำนำ พ่อค้า ขาดเงิน ส่วนต่าง
ไปกว่า 7 แสนล้านบาท ไอ้เงินจำนวนนี้ต่างหาก ที่ ไปอยู่ในมือชาวนา
เงินจำนวน 7 แสนล้านบาทที่อยู่ในมือชาวนา ถ้าคิดตามเศษฐศาสตร์เบื้องต้น เขาจะจับจ่ายใช้สอย ไม่เก็บไว้ ในธนาคาร
แบบที่อยู่ในมือพ่อค้า เงินจำนวน 7 แสนล้าน จะถูกหมุน ตามระบบไม่ต่ำกว่า 7 รอบ รัฐได้ภาษีทุกรอบ แว๊ต จะมีเข้ามา
ทุกรอบ รัฐได้ทั้งช่วยเหลือชาวนา ทั้งได้แว๊ตกลับคืนมา จากการหมุนเวียนของเงินจำนวนนั้น
ที่เอาตัวเลข 5 แสน 7 แสนล้านที่บอกว่าขาดทุน ข้าว ในสต๊อค ยังมีอยู่ ถ้าบอกว่าข้าวหาย หรือไม่มีข้าว ถามว่า มีการ
ตรวจสอบหรือไม่ เพราะสินค้าข้าว ไม่ใช่สินค้าที่ จะตงที่เหมือน รถยนต์ เครื่องจักร ย่อมมีการเสื่อมในตัวของมันเอง
แต่ ก็ยังรัปทานได้ ข้อนี้ดูตรงไหน ก. พาณิช เอาข้าวออกมาประมูลขาย กัน สองสามรอบ ในปีนี้ ถามว่า ถ้าข้าวเสื่อม
พ่อค้าจะให้ราคาดีกว่า ประมาณการหรือไม่
ข่าวของข้าวลายจุดมันไป โดนใจคนที่กินข้าวทุกคน ตรรกะของลายจุด เป็นการบอกและส่งสัญญาณไปยัง ผู้รับผิดชอบ
ในขณะนี้ว่า การเอารัดเอาเปรียบของพ่อค้าที่กระทำ ต่อประชาชน มันยังมีต่อเนื่อง เมื่อล้มโครงการจำนำไปนั้น นั่นคือรัฐบาล
จะต้องหาวิธีการ ที่จะทำให้ เงินของชาวนาจากราคาข้าวเปลือกกลับไปสู่ชาวนาได้ ไม่ไปอยู่ในมือพ่อค้าข้าว
ความมั่นคงของชาติของรัฐบาล ถ้าให้มั่นคงจริง ๆแล้ว จะต้องให้ประชาชนมั่นคง ให้ชาวนามั่นคง ขจัดการ เอารัดเอาเปรียบ
ประชาชนไม่ว่า ชาวนาหรือชาวอื่น ลายจุดเขาทำต้วอย่างออกมาแล้ว ผมคิดว่า รัฐบาล ทำเถอะครับ การขับเคลื่อน
เศษฐกิจ ต้องที่คนรากหญ้าก่อน ต้องให้เขามีเงินใช้จ่ายก่อน
คสช ท่านทำมาหลายเรื่อง เช่นการบุกรุกป่า การจัดระเบียบของสังคมที่หมักหมมมานาน เอาเรื่องนี้อีกซักที ผมชูสองมือเชียร์
เลยครับ เพราะ ในภาวะปรกติ ไม่มีใครจัดการได้ ทีนี้ จะอยู่ยาวขนาดไหน ไม่มีใคร ว่าท่านหรอกครับ เพราะท่านอยู่เพื่อ ประชาชน
ให้ได้รับความเป็นธรรม