สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิพย์ทุกคน นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งเเรกของผม กระทู้นี้ไม่ใช่กระทู้คำถามนะครับเเต่ผมตั้งในกระทู้ทั่วไปไม่ได้เพราะไม่ได้ยืนยันตัวตนเลยต้องมาตั้งในนี้เอาครับ มันอาจจะเป็นเรื่องราวที่บางคนกลับมองว่ามันเป็นเรื่องทั่วๆไปที่ใครๆเค้าก็เจอกัน เเต่สำหรับผมเเล้วมันเป็นเรื่องราวดีๆที่ผมอยากจะนำมาเเบ่งปันให้ทุกคนได้รู้ว่าของขวัญจากฝันร้ายหน่ะมันเป็นยังไง มันอาจจะเป้นเรื่องราวที่ไม่ชอบของใครหลายๆคน เเต่ยังไงก็ มาเริ่มกันเลยครับ.....
เรื่องมันมีอยู่ว่าตัวผมเองพึ่งจบการศึกษาจากมัธยมปลายมาสดๆร้อนๆเเละได้สอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ ด้วยชีวิตที่เหมือนโลกใบใหม่ จะต้องเจออะไรใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ ตอนนั้นเองผมก็ทำตัวไม่ถูกเลยครับ มหาลัยจะใช้ชีวิตยังไงดีว้าต้องอยู่หอด้วยสิ เอาว่ะ! ลุยย
ช่วงสัปดาห์เเรกของการอยู่หอครับตัวผมเองก็เป็นคนตื่นสนามด้วย รู้สึกว่าเเหม่สถานที่มันช่างดีอะไรเช่นนี้ ได้เจอโลกใบใหม่เจอเพื่อนร่วมหอร่วมมหาลัยเดียวกันใหม่ๆ ก็เห่อเป็นธรรมดาครับ วันนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ช่วงเเรกๆของมหาลัยจะมีการรับน้องเป้นธรรมเนียมอยู่เเล้วเเล้วผมก็ดันไปรู้จักกับเพื่อนต่างคณะดันอยุ่หอเดียวกันอีกโอ้ววว วันนั้นเองมันก็ชวนผมไปร้านเหล้าเลยครับผมอยู่คณะนึงเพื่อนอยู่อีกคณะนึงเเต่พอเข้าร้านเหล้าก็เอาซะรู้จักกันทุกคณะด้วยฤทธิ์ของสุราที่เสพกันเข้าไป ส่วนตัวเเล้วผมเองกินเยอะเเต่ไม่ค่อยเมาครับ ไม่ได้โชว์นะ ฮ่าๆ เเค่ถ้ารู้สึกว่ามันเยอะก็จะง่วงๆ เเต่ประเด็นหลักเพื่อนผมมันจะชวนมานั่งดูสาวมหาลัยที่อยู่ในร้านเหล้าตามประสาเด็กเฟรชชี่เนาะ ผมเองตอนนั้นก็โสดครับ เเต่ที่มาก็เเค่เห่อเพื่อนรวมไปถึงมาสนุกๆไม่ได้จะสนใจสาวๆอะไร ก็นั่งกินกับเพื่อนไปจนร้านใกล้ปิด ผมเองก็ปกติจะเป็นคนเเบกเพื่อนกลับห้องครับ กำลังจะลุกออกจากร้านเเล้ว เเต่เพื่อนยังพิงเสาอยุ่เลย ฮ่าๆ ในขณะนั้นเองผมเหลือบไปเห็นเธอคนนึง ครั้งเเรกจากการมองนั้นเธอสวยมากสำหรับผมเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเนี่ยเเหละเค้าคนนี้เนี่ยเเหละใช่เลยต้องใช่เเน่ๆ ในใจตอนนั้นใจนึงก็อยากรู้จัก อีกใจก็เห้อปอดเเหก เลยกลับมาถามเพื่อนที่ยังหลงเหลืออยุ่ว่า เห้ยเอาไงดีวะ คนนั้นเลยกูว่าใช่เเน่ๆจะเข้าไปดีป้ะวะ เพื่อนผมก็เเหม่ เชียร์ซะ เอาดิวะ! จะรออะไร กลัวหรอกลัวกูเอานะ ฮ่าๆ เเหม่ไอเราก็เป็นคนไม่ชอบให้ใครท้า ตรงดิ่งเลยครับ เเต่ตอนนั้นเองก็คิดในใจว่าในมุมเราเค้าจะจริงใจหรือเปล่าถ้าสมมุติจีบติด มองในมุมเค้า เค้าจะคิดว่าเรามาเเค่คุยเฉยๆเเบบไปวันๆหรือเปล่า เเต่ยังไงก็เอาวะไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหมซึ่งตอนนั้นเองผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคนนั้นทำงานหรือยัง หรือยังเรียนอยู่ เเล้วเรียนอยู่ที่ไหน เเต่ตอนนี้ขอเข้าไปก่อน ถึงโต๊ะก็นั่งเลยครับ
ผม : เธอๆ เราขอไลน์หน่อยได้ไหม ( คำพูดนี่เเบบเรียบเรียงก่อนก็ได้นะ ฮ่าๆ ) ขอใช้เเทนเธอคนนั้นด้วย น เเล้วกันนะครับ
น : เอ่อออ .......
ในใจผมตอนนั้นเอาเเล้วไงเค้าไม่ให้เเน่ๆเลยหรืออาจจะมีเเฟนเเล้ว เเห้วเเน่ๆ เเต่ซักพักรุ่นพี่ของเธอซึ่งเป็นตุ๊ดคว้าโทรศัพท์ผมไปพร้อมเอาไลน์ของพี่เค้าให้เฉยเลย ฮ่าๆ เอาเเล้วโดนเเน่ๆ คิดในใจ เเต่พี่เค้าก็เชิงเมาๆเเล้ว เราก็ไม่ได้สนใจอะไรจากนั้นเราก็หันกลับมาที่เธอคนนั้นอีกรอบ
ผม : เธอเราขอไลน์เธอจริงๆนะเราไม่ได้ล้อเล่น เราพูดจริงจัง (คำพูดมาเต็ม ฮ่าๆ )
เธอไม่พูดอะไรเลยครับได้เเต่ยิ้มเเบบงงๆ เเล้วพยักหน้าเเล้วกดให้ไลน์มา ในใจผม เย้ เย้ เย้ ได้เเล้วโว้ยยยย
หลังจากนั้นผมก็ต้องทำหน้าที่กลับมาเป็นที่พักพิงให้เพื่อนเเละเเบกมันกลับห้อง เเต่ตอนนั้นเองที่อยู่ในร้านผมก็ตื่นเต้น อายด้วย เขินด้วย ไม่รู้จะทักเธอไปว่าอะไรดี เลยตัดสินใจส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มไปเลย ฮ่าๆ ซักพักเธอส่งสติ๊กเกอร์กลับมาด้วยความรวดเร็ว ผมไม่รีรอรีบถามกลับไปว่า ชื่ออะไรครับ ก็คุยกันไปซักพักเธอก็เดินออกจากร้านไปพร้อมกับเพื่อนๆเเละพี่ๆเธอส่วนผมเองได้เเต่บอกในไลน์ว่ากลับดีๆนะ ขอให้ได้เจอกันอีกนะภาวนาในใจ ฮ่าๆ ผมนี่ได้เเต่เดินยิ้มเเบกเพื่อนไปด้วยยิ้มไปด้วย โลกนี้สีชมพู ฮ่าๆ ขึ้นไปดูเวลาเเล้วตีสามโอ้ยชิวๆ มีความสุขเเล้ว นั่งซํกผ้าต่อ ฮ่าๆ
วันต่อมาผมก็ทักเธอไปถามเธอนู่นนี่ชวนคุยไปทั่วเลยครับ ชอบเธอจริงๆ เธอสวยมาก ด้วยความที่ผมเป้นคนพูดตรงๆอยู่เเล้วเวลาผมจีบใครผมจะบอกตรงๆเลยว่า เราขอจีบได้ไหม ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆเลย โชคจะเข้าข้างดีไหมนะ เธอตอบกลับมาว่าจีบได้ เเต่เรามีคนคุยเยอะนะ ถ้าเธอจะไปหรือไม่อยากคุยต่อก็ไปก็ได้เราไม่ว่านะ ปกติเเล้วคนอื่นจะคิดว่าโห่ ดูพูด เเต่สำหรับผมเเล้วผมเข้าใจที่เธอพูดมาทุกอย่าง เธอไม่เคยรั้งผม เธอไม่เคยบอกว่าเธอสวย เเต่ผมเลือกเเล้วที่จะอยู่สู้ ผมได้เเต่ย้ำเธอไปว่าเรารู้น่าา เราสู้ เเหม่ๆนางฟ้าขนาดนนั้น เเต่อย่าพึ่งมองผมผิดนะครับที่ตัดสินกันที่ความสวย ผมดูอะไรหลายๆอย่าง ผมใช้เวลาพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง เเต่ในใจตอนนั้นผมคิดว่าเธอจะเป็นคนยังไงนะ อยากคุยกับเราจริงจังหรือเปล่า หรือเเค่เอาเราไว้คุยเล่นๆไปวันๆ เเต่ผมก็เดินมาถึง ณ จุดนี้เเล้วคงไม่อยากถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกเเล้ว เลยเดินหน้าสู้ต่อไป ซึ่งตอนนั้นผมได้รู้ว่าคนที่เธอคุยด้วยหน่ะ มันถึงหลักเลขสอง คิดในใจโอ้ววว เเม่เจ้าาา เราจะเอาอะไรไปสู้ ฮ่าๆ เเต่ก็สู้ไปเเล้วจะยอมเเพ้ได้ยังไง เธอเองก็บอกผมตรงๆ เธอบอกผมมาตลอดว่าจะไปก็ได้นะ เราไม่ได้ยื้อหรือรั้งเธอไว้ เเต่ถ้าเธอจะอยู่ต่อก็ได้ เอาสิครับมีเเรงผลักดันก็ลุยต่อเลย จนกระทั่งเวลาผ่านมาเรื่อยๆเราก็คุยกันมาจนเราเริ่มนัดเจอหน้ากันไปกินข้าวกัน จนวันนึงเธอไปคุยโทรศัพท์ ซึ่งตอนนั้นเองเราก็กลัวว่าเค้าจะคุยกับใครกลัวเค้าจะหลอกเราหรือเปล่ากลัวเค้าจะไม่ชอบเรา ทำไปเพราะเเค่ความสนุก เราก็เลยเอาวะ!
เเอบฟังเลย เเต่พระเจ้าเหมือนเธอจะรู้ว่าเราเเอบฟังเธอพูดมาว่า ทำอะไรอะ! ตอนนั้นใจผมเองเต้นตุบๆติดต่อกันเหมือนพึ่งวิ่งเสร็จมาใหม่ๆ คิดในใจเอาเเล้วไงเราทำอะไรลงไปเธอคงเกลียดเราเเน่ๆ พอเธอคุยเสร็จเธอก็เดินมาเราได้เเต่พูดคำว่าขอโทษไม่ได้ตั้งใจ เเล้วเธอบอกว่าจะกลับหอเเล้วเราก็เดินไปส่งหน้าซอยด้วยความที่เรายังไม่สนิทกันมากก็ไม่กล้าไปส่งถึงหอ พอผมขึ้นมาบนห้องรีบทักไลน์เธอไปขอโทษๆๆ ย้ำอยู่เเบบนั้น เเล้วเธอก็ตอบกลับมาว่าไม่เป้นไร ตอนนั้นอารมณ์ผมเเบบด้วยความที่อึดอัด เลยดันพูดสิ่งที่เเย่ๆออกไปว่า เธอจริงจังกับเราหรือเปล่า เธอคุยกับเราคิดอะไรเเค่ไหน เธอคุยโทรศัพท์กับใคร ใครหรอ? ทำไมต้องลับล่อๆ ถ้าไม่ได้ชอบเราอย่าทำร้ายเราเลยบอกเราตรงๆ ( อย่าพึ่งมองว่าผมเป้นผู้ชายที่เเล้วนะครับ เเต่ยอมรับว่าตอนนั้นทำพูดผมเเย่มากๆๆๆๆถึงที่สุด เเต่คนมันหวังไว้มากอะเนอะ มาฟังต่อครับ) ณ ตอนนั้นเธอเงียบ เเล้วซํกพักผมได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอกลับมา สะอึกสะอื้น ผมตกใจมาก พอมานั่งคิดก็เลยคิดว่ากูพูดอะไรออกไปวะ
ง เธอๆเราขอโทษที่พูดเเบบนั้น ผมโกรธตัวเองมากจนตัดสายเธอทิ้งง พอซักพักเธอโทรกลับมา เเต่ผมด้วยความที่สร้างความผิดไว้อย่างเลวร้าย ได้เเต่เเข็งใจไม่รับสายเธอยี่สิบสายซึ่งมันมากพอสำหรับคนคุยกัน เธอเลิกความคิดที่จะโทรเเต่ส่งไลน์กลับมาว่ารับโทรศัพท์เราหน่อย นะเราขอร้อง ผมก็คิดว่าเห้ยกูเลวจังวะเอาไงดีสงสารเค้าหวะ อีกใจนึงกูก็เลวที่ทำเเบบนั้นเเต่เค้าขอร้องก็รับเลยละกันเป็นไงเป็นกัน
..............ถึงตรงนี้ คำเเรกที่ผมได้ยินจากสายปลายทาง เป็นคำพูดว่า ที่เมื่อกี้เราคุยโทรศัพท์ที่ลับๆล่อๆ เราคุยกับเพื่อนเราว่า เรา.........เราจะเลือกเธอนะ ที่เราทำลับๆล่อๆเพราะไม่อยากให้เธอรู้ตอนนั้น ฟังเสร็จผมนี่ทำอะไรไม่ถูกใจเต้น เหม่อลอยจะดีใจก็ดีใจจะเสียใจที่ทำเเบบนั้นก็เสียใจ เเต่ตอนนั้นทำได้เพียงว่า เราขอโทษนะที่ทำเเบบนั้นเเต่เราหวังไว้มากเลยทำให้เราเสียใจเเล้วพูดเเบบนั้นออกไป เธอเข้าใจในคำพูดผมเข้าใจความรู้สึก ผมรู้สึกผิดมากในตอนนั้น ทั้งๆที่เธอจะเลือกใครก็ได้ที่เธอคุยอยู่เเต่เธอกลับมาเลือกผม ผมมมม ใช่ผมจริงๆหรอ ผมพูดกับเธอว่า ขอบคุณนะที่เลือกเรา เราไม่รู้จะพูดยังไงเเต่เราขอพูดคำนึงนะ เราจะไม่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตาเพราะเราอีก เราจะดูเเลเธอให้ดีๆ เหมือนที่เธอคุยกับเรามาให้โอกาสเราจนเลือกเรานะ เราสัญญา
หลังจากนั้นมา เดี๋ยวๆ เเต่ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าที่เธอเลือกผมเรายังไม่ได้ตัดสินใจจะคบหากันนะครับเเค่จะไม่คุยกับใครอีกจะคุยกันเเค่เราสองคน เราตกลงกันว่าจะขอคุยกันไปเเบบนี้โดยมีเเค่เราสองคนเพื่อให้ต่างคนต่างได้เรียนรู้เเละรู้จักกันมากขึ้น จนเเน่ใจซะก่อน ผมเเละเธอเป็นคนที่ตรงๆเหมือนกัน ต้องการระยะเวลาในการพิสูจน์ เราคุยกันมาเเบบนั้นเหมือนจะเป็นเเฟนเเต่ยังไม่นะครับดูเเลกัน เชื่อใจกัน จนร่วมระยะเวลาห้าเดือน ผมจึงตัดสินใจวันนั้นเองซึ่งมัน่ใจเเล้วว่าวันนี้มันมาถึงเเล้วเเหละ เเต่จะบอกว่าช่วงระยะเวลาห้าเดือนที่คุยกันมานั้นเราผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย มีปัญหากันบ้างหึงหวงบ้าง
เเต่วันนั้นเองผมก็มั่นใจเเล้วว่าต้องเป้นวันนี้ ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ห้า เดือน ธันวาคม วันดีซะด้วย ผมรอจนถึงเที่ยงคืน เเล้วผมก็เรียกให้เธอหันมาหาผมตอนนั้นผมนั่งอยู่ใต้หอผมกันนะครับ ผมเรียกเธอเธอก็หันมามองผมมองใช้มือสองข้างจับไปที่หูทั้งสองข้างของเธอเหมือนในหนังเลยเเฮะ ฮ่าๆ ลูบหัวเธอเบาๆ ผมมองหน้าเธอเธอมองหน้าผม ใจผมเต้นรัวจนหยุดไม่อยู่ ผมพูดกับเธอไปว่า เธอ เราคิดว่าวันนี้มันมาถึงเเล้วนะ เรามันใจเเล้วว่าต่างคนต่างเริ่มรู้จักกันมามากจนถึงจุดหนึ่งเเล้วเนอะ ตลอดระยะเวลาห้าเดือนที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆเลยนะ เรามีความสุขมากๆเลยเวลามีเธออยู่ใกล้ตลอดเวลา ระยะเวลาห้าเดือนมันจะจบลงเเล้วนะ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่คอยทำให้ที่คอยดูเเลเรา เราพอเเล้วนะกับเวลาทั้งหมดที่ผ่านมา นับต่อจากนี้มันคือการเริ่มต้นใหม่สำหรับเราเเละเธอเเล้วนะ สำหรับเรามันคือการเริ่มต้นที่จะเเก้ไขดูเเละเธอให้มันมากขึ้นไปทุกวันๆ จะจับมือเธอไปตลอดเเละจะไม่มีวันไหนที่เราปล่อยมือเธอ เเละสำหรับเธอมันคือการเดินไปกับเราเพื่อรอรับการเเก้ตัวของเราเเละสิ่งที่เรากำลังจะมอบให้ต่อจากนี้ เดินไปกับเรานะอย่าปล่อยมือออกจากกันนะ เป็นเเฟนกับเรานะ เธอยิ้ม เขินอายย เเล้วก้ตอบตกลงครับ
................ฮ่าๆ พิมพ์มาถึงตรงนี้เมื่อยเเล้วเเฮะ เเต่ที่พิมพ์มามันเเค่เกริ่นๆครับ จุดเริ่มต้นมันคือต่อจากนี้ต่างหาก ไว้มาเล่าต่อนะครับ
ของขวัญจากฝันร้าย
เรื่องมันมีอยู่ว่าตัวผมเองพึ่งจบการศึกษาจากมัธยมปลายมาสดๆร้อนๆเเละได้สอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยเเห่งหนึ่งได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้ ด้วยชีวิตที่เหมือนโลกใบใหม่ จะต้องเจออะไรใหม่ๆ สังคมใหม่ๆ ตอนนั้นเองผมก็ทำตัวไม่ถูกเลยครับ มหาลัยจะใช้ชีวิตยังไงดีว้าต้องอยู่หอด้วยสิ เอาว่ะ! ลุยย
ช่วงสัปดาห์เเรกของการอยู่หอครับตัวผมเองก็เป็นคนตื่นสนามด้วย รู้สึกว่าเเหม่สถานที่มันช่างดีอะไรเช่นนี้ ได้เจอโลกใบใหม่เจอเพื่อนร่วมหอร่วมมหาลัยเดียวกันใหม่ๆ ก็เห่อเป็นธรรมดาครับ วันนั้นเองเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ช่วงเเรกๆของมหาลัยจะมีการรับน้องเป้นธรรมเนียมอยู่เเล้วเเล้วผมก็ดันไปรู้จักกับเพื่อนต่างคณะดันอยุ่หอเดียวกันอีกโอ้ววว วันนั้นเองมันก็ชวนผมไปร้านเหล้าเลยครับผมอยู่คณะนึงเพื่อนอยู่อีกคณะนึงเเต่พอเข้าร้านเหล้าก็เอาซะรู้จักกันทุกคณะด้วยฤทธิ์ของสุราที่เสพกันเข้าไป ส่วนตัวเเล้วผมเองกินเยอะเเต่ไม่ค่อยเมาครับ ไม่ได้โชว์นะ ฮ่าๆ เเค่ถ้ารู้สึกว่ามันเยอะก็จะง่วงๆ เเต่ประเด็นหลักเพื่อนผมมันจะชวนมานั่งดูสาวมหาลัยที่อยู่ในร้านเหล้าตามประสาเด็กเฟรชชี่เนาะ ผมเองตอนนั้นก็โสดครับ เเต่ที่มาก็เเค่เห่อเพื่อนรวมไปถึงมาสนุกๆไม่ได้จะสนใจสาวๆอะไร ก็นั่งกินกับเพื่อนไปจนร้านใกล้ปิด ผมเองก็ปกติจะเป็นคนเเบกเพื่อนกลับห้องครับ กำลังจะลุกออกจากร้านเเล้ว เเต่เพื่อนยังพิงเสาอยุ่เลย ฮ่าๆ ในขณะนั้นเองผมเหลือบไปเห็นเธอคนนึง ครั้งเเรกจากการมองนั้นเธอสวยมากสำหรับผมเหมือนมีอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกว่าเธอเนี่ยเเหละเค้าคนนี้เนี่ยเเหละใช่เลยต้องใช่เเน่ๆ ในใจตอนนั้นใจนึงก็อยากรู้จัก อีกใจก็เห้อปอดเเหก เลยกลับมาถามเพื่อนที่ยังหลงเหลืออยุ่ว่า เห้ยเอาไงดีวะ คนนั้นเลยกูว่าใช่เเน่ๆจะเข้าไปดีป้ะวะ เพื่อนผมก็เเหม่ เชียร์ซะ เอาดิวะ! จะรออะไร กลัวหรอกลัวกูเอานะ ฮ่าๆ เเหม่ไอเราก็เป็นคนไม่ชอบให้ใครท้า ตรงดิ่งเลยครับ เเต่ตอนนั้นเองก็คิดในใจว่าในมุมเราเค้าจะจริงใจหรือเปล่าถ้าสมมุติจีบติด มองในมุมเค้า เค้าจะคิดว่าเรามาเเค่คุยเฉยๆเเบบไปวันๆหรือเปล่า เเต่ยังไงก็เอาวะไม่รู้จะได้เจอกันอีกไหมซึ่งตอนนั้นเองผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอคนนั้นทำงานหรือยัง หรือยังเรียนอยู่ เเล้วเรียนอยู่ที่ไหน เเต่ตอนนี้ขอเข้าไปก่อน ถึงโต๊ะก็นั่งเลยครับ
ผม : เธอๆ เราขอไลน์หน่อยได้ไหม ( คำพูดนี่เเบบเรียบเรียงก่อนก็ได้นะ ฮ่าๆ ) ขอใช้เเทนเธอคนนั้นด้วย น เเล้วกันนะครับ
น : เอ่อออ .......
ในใจผมตอนนั้นเอาเเล้วไงเค้าไม่ให้เเน่ๆเลยหรืออาจจะมีเเฟนเเล้ว เเห้วเเน่ๆ เเต่ซักพักรุ่นพี่ของเธอซึ่งเป็นตุ๊ดคว้าโทรศัพท์ผมไปพร้อมเอาไลน์ของพี่เค้าให้เฉยเลย ฮ่าๆ เอาเเล้วโดนเเน่ๆ คิดในใจ เเต่พี่เค้าก็เชิงเมาๆเเล้ว เราก็ไม่ได้สนใจอะไรจากนั้นเราก็หันกลับมาที่เธอคนนั้นอีกรอบ
ผม : เธอเราขอไลน์เธอจริงๆนะเราไม่ได้ล้อเล่น เราพูดจริงจัง (คำพูดมาเต็ม ฮ่าๆ )
เธอไม่พูดอะไรเลยครับได้เเต่ยิ้มเเบบงงๆ เเล้วพยักหน้าเเล้วกดให้ไลน์มา ในใจผม เย้ เย้ เย้ ได้เเล้วโว้ยยยย
หลังจากนั้นผมก็ต้องทำหน้าที่กลับมาเป็นที่พักพิงให้เพื่อนเเละเเบกมันกลับห้อง เเต่ตอนนั้นเองที่อยู่ในร้านผมก็ตื่นเต้น อายด้วย เขินด้วย ไม่รู้จะทักเธอไปว่าอะไรดี เลยตัดสินใจส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มไปเลย ฮ่าๆ ซักพักเธอส่งสติ๊กเกอร์กลับมาด้วยความรวดเร็ว ผมไม่รีรอรีบถามกลับไปว่า ชื่ออะไรครับ ก็คุยกันไปซักพักเธอก็เดินออกจากร้านไปพร้อมกับเพื่อนๆเเละพี่ๆเธอส่วนผมเองได้เเต่บอกในไลน์ว่ากลับดีๆนะ ขอให้ได้เจอกันอีกนะภาวนาในใจ ฮ่าๆ ผมนี่ได้เเต่เดินยิ้มเเบกเพื่อนไปด้วยยิ้มไปด้วย โลกนี้สีชมพู ฮ่าๆ ขึ้นไปดูเวลาเเล้วตีสามโอ้ยชิวๆ มีความสุขเเล้ว นั่งซํกผ้าต่อ ฮ่าๆ
วันต่อมาผมก็ทักเธอไปถามเธอนู่นนี่ชวนคุยไปทั่วเลยครับ ชอบเธอจริงๆ เธอสวยมาก ด้วยความที่ผมเป้นคนพูดตรงๆอยู่เเล้วเวลาผมจีบใครผมจะบอกตรงๆเลยว่า เราขอจีบได้ไหม ผมก็เลยบอกเธอไปตรงๆเลย โชคจะเข้าข้างดีไหมนะ เธอตอบกลับมาว่าจีบได้ เเต่เรามีคนคุยเยอะนะ ถ้าเธอจะไปหรือไม่อยากคุยต่อก็ไปก็ได้เราไม่ว่านะ ปกติเเล้วคนอื่นจะคิดว่าโห่ ดูพูด เเต่สำหรับผมเเล้วผมเข้าใจที่เธอพูดมาทุกอย่าง เธอไม่เคยรั้งผม เธอไม่เคยบอกว่าเธอสวย เเต่ผมเลือกเเล้วที่จะอยู่สู้ ผมได้เเต่ย้ำเธอไปว่าเรารู้น่าา เราสู้ เเหม่ๆนางฟ้าขนาดนนั้น เเต่อย่าพึ่งมองผมผิดนะครับที่ตัดสินกันที่ความสวย ผมดูอะไรหลายๆอย่าง ผมใช้เวลาพิสูจน์อะไรหลายๆอย่าง เเต่ในใจตอนนั้นผมคิดว่าเธอจะเป็นคนยังไงนะ อยากคุยกับเราจริงจังหรือเปล่า หรือเเค่เอาเราไว้คุยเล่นๆไปวันๆ เเต่ผมก็เดินมาถึง ณ จุดนี้เเล้วคงไม่อยากถอยกลับไปเริ่มต้นใหม่อีกเเล้ว เลยเดินหน้าสู้ต่อไป ซึ่งตอนนั้นผมได้รู้ว่าคนที่เธอคุยด้วยหน่ะ มันถึงหลักเลขสอง คิดในใจโอ้ววว เเม่เจ้าาา เราจะเอาอะไรไปสู้ ฮ่าๆ เเต่ก็สู้ไปเเล้วจะยอมเเพ้ได้ยังไง เธอเองก็บอกผมตรงๆ เธอบอกผมมาตลอดว่าจะไปก็ได้นะ เราไม่ได้ยื้อหรือรั้งเธอไว้ เเต่ถ้าเธอจะอยู่ต่อก็ได้ เอาสิครับมีเเรงผลักดันก็ลุยต่อเลย จนกระทั่งเวลาผ่านมาเรื่อยๆเราก็คุยกันมาจนเราเริ่มนัดเจอหน้ากันไปกินข้าวกัน จนวันนึงเธอไปคุยโทรศัพท์ ซึ่งตอนนั้นเองเราก็กลัวว่าเค้าจะคุยกับใครกลัวเค้าจะหลอกเราหรือเปล่ากลัวเค้าจะไม่ชอบเรา ทำไปเพราะเเค่ความสนุก เราก็เลยเอาวะ!
เเอบฟังเลย เเต่พระเจ้าเหมือนเธอจะรู้ว่าเราเเอบฟังเธอพูดมาว่า ทำอะไรอะ! ตอนนั้นใจผมเองเต้นตุบๆติดต่อกันเหมือนพึ่งวิ่งเสร็จมาใหม่ๆ คิดในใจเอาเเล้วไงเราทำอะไรลงไปเธอคงเกลียดเราเเน่ๆ พอเธอคุยเสร็จเธอก็เดินมาเราได้เเต่พูดคำว่าขอโทษไม่ได้ตั้งใจ เเล้วเธอบอกว่าจะกลับหอเเล้วเราก็เดินไปส่งหน้าซอยด้วยความที่เรายังไม่สนิทกันมากก็ไม่กล้าไปส่งถึงหอ พอผมขึ้นมาบนห้องรีบทักไลน์เธอไปขอโทษๆๆ ย้ำอยู่เเบบนั้น เเล้วเธอก็ตอบกลับมาว่าไม่เป้นไร ตอนนั้นอารมณ์ผมเเบบด้วยความที่อึดอัด เลยดันพูดสิ่งที่เเย่ๆออกไปว่า เธอจริงจังกับเราหรือเปล่า เธอคุยกับเราคิดอะไรเเค่ไหน เธอคุยโทรศัพท์กับใคร ใครหรอ? ทำไมต้องลับล่อๆ ถ้าไม่ได้ชอบเราอย่าทำร้ายเราเลยบอกเราตรงๆ ( อย่าพึ่งมองว่าผมเป้นผู้ชายที่เเล้วนะครับ เเต่ยอมรับว่าตอนนั้นทำพูดผมเเย่มากๆๆๆๆถึงที่สุด เเต่คนมันหวังไว้มากอะเนอะ มาฟังต่อครับ) ณ ตอนนั้นเธอเงียบ เเล้วซํกพักผมได้ยินเสียงร้องไห้ของเธอกลับมา สะอึกสะอื้น ผมตกใจมาก พอมานั่งคิดก็เลยคิดว่ากูพูดอะไรออกไปวะ ง เธอๆเราขอโทษที่พูดเเบบนั้น ผมโกรธตัวเองมากจนตัดสายเธอทิ้งง พอซักพักเธอโทรกลับมา เเต่ผมด้วยความที่สร้างความผิดไว้อย่างเลวร้าย ได้เเต่เเข็งใจไม่รับสายเธอยี่สิบสายซึ่งมันมากพอสำหรับคนคุยกัน เธอเลิกความคิดที่จะโทรเเต่ส่งไลน์กลับมาว่ารับโทรศัพท์เราหน่อย นะเราขอร้อง ผมก็คิดว่าเห้ยกูเลวจังวะเอาไงดีสงสารเค้าหวะ อีกใจนึงกูก็เลวที่ทำเเบบนั้นเเต่เค้าขอร้องก็รับเลยละกันเป็นไงเป็นกัน
..............ถึงตรงนี้ คำเเรกที่ผมได้ยินจากสายปลายทาง เป็นคำพูดว่า ที่เมื่อกี้เราคุยโทรศัพท์ที่ลับๆล่อๆ เราคุยกับเพื่อนเราว่า เรา.........เราจะเลือกเธอนะ ที่เราทำลับๆล่อๆเพราะไม่อยากให้เธอรู้ตอนนั้น ฟังเสร็จผมนี่ทำอะไรไม่ถูกใจเต้น เหม่อลอยจะดีใจก็ดีใจจะเสียใจที่ทำเเบบนั้นก็เสียใจ เเต่ตอนนั้นทำได้เพียงว่า เราขอโทษนะที่ทำเเบบนั้นเเต่เราหวังไว้มากเลยทำให้เราเสียใจเเล้วพูดเเบบนั้นออกไป เธอเข้าใจในคำพูดผมเข้าใจความรู้สึก ผมรู้สึกผิดมากในตอนนั้น ทั้งๆที่เธอจะเลือกใครก็ได้ที่เธอคุยอยู่เเต่เธอกลับมาเลือกผม ผมมมม ใช่ผมจริงๆหรอ ผมพูดกับเธอว่า ขอบคุณนะที่เลือกเรา เราไม่รู้จะพูดยังไงเเต่เราขอพูดคำนึงนะ เราจะไม่ทำให้เธอต้องเสียน้ำตาเพราะเราอีก เราจะดูเเลเธอให้ดีๆ เหมือนที่เธอคุยกับเรามาให้โอกาสเราจนเลือกเรานะ เราสัญญา
หลังจากนั้นมา เดี๋ยวๆ เเต่ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าที่เธอเลือกผมเรายังไม่ได้ตัดสินใจจะคบหากันนะครับเเค่จะไม่คุยกับใครอีกจะคุยกันเเค่เราสองคน เราตกลงกันว่าจะขอคุยกันไปเเบบนี้โดยมีเเค่เราสองคนเพื่อให้ต่างคนต่างได้เรียนรู้เเละรู้จักกันมากขึ้น จนเเน่ใจซะก่อน ผมเเละเธอเป็นคนที่ตรงๆเหมือนกัน ต้องการระยะเวลาในการพิสูจน์ เราคุยกันมาเเบบนั้นเหมือนจะเป็นเเฟนเเต่ยังไม่นะครับดูเเลกัน เชื่อใจกัน จนร่วมระยะเวลาห้าเดือน ผมจึงตัดสินใจวันนั้นเองซึ่งมัน่ใจเเล้วว่าวันนี้มันมาถึงเเล้วเเหละ เเต่จะบอกว่าช่วงระยะเวลาห้าเดือนที่คุยกันมานั้นเราผ่านเรื่องราวอะไรมามากมาย มีปัญหากันบ้างหึงหวงบ้าง
เเต่วันนั้นเองผมก็มั่นใจเเล้วว่าต้องเป้นวันนี้ ผมจำได้ว่าวันนั้นเป็นวันที่ห้า เดือน ธันวาคม วันดีซะด้วย ผมรอจนถึงเที่ยงคืน เเล้วผมก็เรียกให้เธอหันมาหาผมตอนนั้นผมนั่งอยู่ใต้หอผมกันนะครับ ผมเรียกเธอเธอก็หันมามองผมมองใช้มือสองข้างจับไปที่หูทั้งสองข้างของเธอเหมือนในหนังเลยเเฮะ ฮ่าๆ ลูบหัวเธอเบาๆ ผมมองหน้าเธอเธอมองหน้าผม ใจผมเต้นรัวจนหยุดไม่อยู่ ผมพูดกับเธอไปว่า เธอ เราคิดว่าวันนี้มันมาถึงเเล้วนะ เรามันใจเเล้วว่าต่างคนต่างเริ่มรู้จักกันมามากจนถึงจุดหนึ่งเเล้วเนอะ ตลอดระยะเวลาห้าเดือนที่ผ่านมามันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆเลยนะ เรามีความสุขมากๆเลยเวลามีเธออยู่ใกล้ตลอดเวลา ระยะเวลาห้าเดือนมันจะจบลงเเล้วนะ ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่คอยทำให้ที่คอยดูเเลเรา เราพอเเล้วนะกับเวลาทั้งหมดที่ผ่านมา นับต่อจากนี้มันคือการเริ่มต้นใหม่สำหรับเราเเละเธอเเล้วนะ สำหรับเรามันคือการเริ่มต้นที่จะเเก้ไขดูเเละเธอให้มันมากขึ้นไปทุกวันๆ จะจับมือเธอไปตลอดเเละจะไม่มีวันไหนที่เราปล่อยมือเธอ เเละสำหรับเธอมันคือการเดินไปกับเราเพื่อรอรับการเเก้ตัวของเราเเละสิ่งที่เรากำลังจะมอบให้ต่อจากนี้ เดินไปกับเรานะอย่าปล่อยมือออกจากกันนะ เป็นเเฟนกับเรานะ เธอยิ้ม เขินอายย เเล้วก้ตอบตกลงครับ
................ฮ่าๆ พิมพ์มาถึงตรงนี้เมื่อยเเล้วเเฮะ เเต่ที่พิมพ์มามันเเค่เกริ่นๆครับ จุดเริ่มต้นมันคือต่อจากนี้ต่างหาก ไว้มาเล่าต่อนะครับ