กระทู้รีวิวนี้ เราตั้งใจรีวิว รวมถึงเล่าเรื่องเกี่ยวกับคำว่า ระหว่างทางซะมากกว่า
และอยากบอกว่า 'จุดหมายปลายทางอาจไม่สำคัญเท่าความสุขใจระหว่างทางก็ได้'
รูปภาพเกือบทั้งหมดเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มของเราและเพื่อนร่วมทางค่ะ
สลับกับบางช่วงที่เราใช้มือถือถ่ายบ้าง
ทำไมถึงเป็นแม่กำปอง?
เราอยากจะไปแม่กำปองเพราะเราเห็นรูปถ่ายจากเพื่อนสาวคนหนึ่ง ที่ถ่ายมอส บนหลังคา
เราอยากจะไปเห็นมอสบนหลังคาด้วยตัวเอง
credit : เพื่อนสาวคนสวย Rin ค่ะ
ส่วนเพื่อนร่วมทางของเรา วันนึงเค้ามาบอกเราให้ดูเอ็มวี ของเบิร์ด แล้วถามเราว่า รู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน
เค้าอยากไปมากเลย หลังจากเราเปิดดู เราก็รู้สึกว่า มันต้องใช่แน่ๆ เอ็มวีนี้ถ่ายที่แม่กำปองแน่นอน
เราเลยคุยกัน และเราก็ตกลงว่า ที่นี่แหละ ที่เราจะเดินทางไปเก็บความทรงจำร่วมกัน
สาระนิดหน่อย
แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่งใน อ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา
และมีน้ำตกไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เพราะเป็นแบบนี้ หมู่บ้านจึงมีความชื้น อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
หมู่บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย มันทำให้เราเข้าใจกับคำว่า โฮมสเตย์ จริงๆ
from : pngskrn films
ก่อนเดินทางไป 1 วัน เราได้รับข้อความชวนขนลุกจากพี่ที่ออฟฟิส
ทำให้แอบกลัวเบาๆ ว่ารถไฟฟรี
“ กลิ่นฉี่นี่คละคลุ้ง คนเบียดกัน บางคนนอนคนเดียวเก้าอี้นึง ถ้าได้นั่งหน้าขบวนนะ เหม็นควันไปตลอดทาง นั่งๆ ไปหญ้าเข้าปาก ทั้งหญ้าทั้งฝุ่น ”
จากคำกล่าวทั้งหมดและภาพประกอบจาก internet ทำให้เรารู้สึกเห้ยเราจะต้องเจออะไรแบบนี้เลยหรอ
รูปภาพประกอบที่พี่ที่ออฟฟิสแกล้งเปิดมาขู่ให้ใจสั่นค่ะ
ถึงกับคิดเปลี่ยนใจ ไปตู้นอน หรือไม่ก็เสียตังไปเลยทีเดียว
แต่!!
ตามที่เพือนร่วมทางกล่าว “คนมันจะไปเชียงใหม่กันทำไมวันพุธ”
เราจึงได้ข้อสรุป ที่เคยสรุปไปรอบแล้วว่า
การเดินทางไปเชียงใหม่ต้องเป็นรถไฟฟรีจริงๆ นะเออ!
คืนนั้นไหว้พระ ขอพร(อย่างที่ไม่เคยทำ)
ขอให้พรุ่งนี้คนรถไฟน้อยๆ ขอให้ได้นั่งโบกี้กลางๆ ขอให้ไม่เหม็นกลิ่นฉี่ไปตลอดทางเถอะ
สาธุ!!
14 มกราคม 2558 : รถไฟฟรีไปแม่กำปอง
แล้วก็ถึงวันเดินทาง
หลังจากที่ตื่นเต้น เร่งรีบมาจองตั๋ว ตั้งแต่ 9.30 แลกบัตรประชาชนและรับตั๋ว
เราก็ได้ตั๋วมาค่ะ
รูปจากมือถือค่ะ
ตั๋วรถไฟรถด่วน ขบวน 109 ที่นั่งชั้น 3 โบกี้ที่ 3 เลขที่ 51-52
จากนั้นก็ไม่มีอะไรอื่นๆ นอกไปจากการ
.....รอ
.................รอ
.........................แล้วก็
......................................รอ
ระหว่างที่รอ เราสองคนก็เดินไปเดินมาถ่ายรูปเล่น เก็บภาพไปเรื่อยเปื่อย
from : pngskrn films
คุณลุงสองคนนี้น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เพราะเราสองคนนั่งพิจารณากันอยู่ด้านหลังว่า เธอว่าลุงเป็นคนที่ไหน
ฟังเสียงได้ยินแบบเบาๆ บวกกับการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ แหม่ ลุงเท่มากจริงๆ ค่ะชอบ
มองจากด้านหลัง รู้สึกว่า เป็นการคุยกันสองคนที่ดูอบอุ่นดีค่ะ
มาหัวลำโพงก็น่าจะต้องถ่ายมุมยอดฮิตจริงไหมคะ?
from : pngskrn films
บรรยากาศที่สถานีในวันพุธ คนไม่เยอะมาก อากาศไม่ร้อน เพราะช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาวค่ะ
หรือใครหิว จะไปหาอะไรทานก่อนก็ได้ค่ะ เพราะที่นี่มีร้านอาหารเยอะแยะ เราเองก็กินอะไรง่ายๆ ก่อนไป เพราะกลัวจะหิว
from : pngskrn films
รู้ตัวอีกที 11.30 คงต้องไปจับจองที่ทางด้วยที่นั่งของเรา
นั่งนับถอยหลังจนกระทั่ง นาฬิกาตีตรงเป๋งเวลา 12.45 น.
บนตั๋วเดินทาง ระบุว่าเราจะถึงในเวลา ตี 4.05 นาทีค่ะ
รถไฟออกตรงเวลา.....แต่ไม่ได้แปลว่า มันจะถึงตรงเวลานะ
พร้อมแล้ว ไปกันเลยเนอะ!!
from : pngskrn films
[CR] มุ่งหน้าไป 'แม่กำปอง' อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
และอยากบอกว่า 'จุดหมายปลายทางอาจไม่สำคัญเท่าความสุขใจระหว่างทางก็ได้'
รูปภาพเกือบทั้งหมดเป็นภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มของเราและเพื่อนร่วมทางค่ะ
สลับกับบางช่วงที่เราใช้มือถือถ่ายบ้าง
ทำไมถึงเป็นแม่กำปอง?
เราอยากจะไปแม่กำปองเพราะเราเห็นรูปถ่ายจากเพื่อนสาวคนหนึ่ง ที่ถ่ายมอส บนหลังคา
เราอยากจะไปเห็นมอสบนหลังคาด้วยตัวเอง
ส่วนเพื่อนร่วมทางของเรา วันนึงเค้ามาบอกเราให้ดูเอ็มวี ของเบิร์ด แล้วถามเราว่า รู้ไหมว่าที่นี่ที่ไหน
เค้าอยากไปมากเลย หลังจากเราเปิดดู เราก็รู้สึกว่า มันต้องใช่แน่ๆ เอ็มวีนี้ถ่ายที่แม่กำปองแน่นอน
เราเลยคุยกัน และเราก็ตกลงว่า ที่นี่แหละ ที่เราจะเดินทางไปเก็บความทรงจำร่วมกัน
สาระนิดหน่อย
แม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่งใน อ.แม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ หมู่บ้านตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา
และมีน้ำตกไหลผ่านกลางหมู่บ้าน เพราะเป็นแบบนี้ หมู่บ้านจึงมีความชื้น อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี
หมู่บ้านแม่กำปองเป็นหมู่บ้านโฮมสเตย์ที่สมบูรณ์มากแห่งหนึ่งในประเทศไทย มันทำให้เราเข้าใจกับคำว่า โฮมสเตย์ จริงๆ
ก่อนเดินทางไป 1 วัน เราได้รับข้อความชวนขนลุกจากพี่ที่ออฟฟิส
ทำให้แอบกลัวเบาๆ ว่ารถไฟฟรี
“ กลิ่นฉี่นี่คละคลุ้ง คนเบียดกัน บางคนนอนคนเดียวเก้าอี้นึง ถ้าได้นั่งหน้าขบวนนะ เหม็นควันไปตลอดทาง นั่งๆ ไปหญ้าเข้าปาก ทั้งหญ้าทั้งฝุ่น ”
จากคำกล่าวทั้งหมดและภาพประกอบจาก internet ทำให้เรารู้สึกเห้ยเราจะต้องเจออะไรแบบนี้เลยหรอ
ถึงกับคิดเปลี่ยนใจ ไปตู้นอน หรือไม่ก็เสียตังไปเลยทีเดียว
แต่!!
ตามที่เพือนร่วมทางกล่าว “คนมันจะไปเชียงใหม่กันทำไมวันพุธ”
เราจึงได้ข้อสรุป ที่เคยสรุปไปรอบแล้วว่า
การเดินทางไปเชียงใหม่ต้องเป็นรถไฟฟรีจริงๆ นะเออ!
คืนนั้นไหว้พระ ขอพร(อย่างที่ไม่เคยทำ)
ขอให้พรุ่งนี้คนรถไฟน้อยๆ ขอให้ได้นั่งโบกี้กลางๆ ขอให้ไม่เหม็นกลิ่นฉี่ไปตลอดทางเถอะ
สาธุ!!
14 มกราคม 2558 : รถไฟฟรีไปแม่กำปอง
แล้วก็ถึงวันเดินทาง
หลังจากที่ตื่นเต้น เร่งรีบมาจองตั๋ว ตั้งแต่ 9.30 แลกบัตรประชาชนและรับตั๋ว
เราก็ได้ตั๋วมาค่ะ
ตั๋วรถไฟรถด่วน ขบวน 109 ที่นั่งชั้น 3 โบกี้ที่ 3 เลขที่ 51-52
จากนั้นก็ไม่มีอะไรอื่นๆ นอกไปจากการ
.....รอ
.................รอ
.........................แล้วก็
......................................รอ
ระหว่างที่รอ เราสองคนก็เดินไปเดินมาถ่ายรูปเล่น เก็บภาพไปเรื่อยเปื่อย
คุณลุงสองคนนี้น่าจะเป็นคนญี่ปุ่นค่ะ เพราะเราสองคนนั่งพิจารณากันอยู่ด้านหลังว่า เธอว่าลุงเป็นคนที่ไหน
ฟังเสียงได้ยินแบบเบาๆ บวกกับการแต่งตัวที่เป็นเอกลักษณ์ แหม่ ลุงเท่มากจริงๆ ค่ะชอบ
มองจากด้านหลัง รู้สึกว่า เป็นการคุยกันสองคนที่ดูอบอุ่นดีค่ะ
มาหัวลำโพงก็น่าจะต้องถ่ายมุมยอดฮิตจริงไหมคะ?
บรรยากาศที่สถานีในวันพุธ คนไม่เยอะมาก อากาศไม่ร้อน เพราะช่วงที่ไปเป็นหน้าหนาวค่ะ
หรือใครหิว จะไปหาอะไรทานก่อนก็ได้ค่ะ เพราะที่นี่มีร้านอาหารเยอะแยะ เราเองก็กินอะไรง่ายๆ ก่อนไป เพราะกลัวจะหิว
รู้ตัวอีกที 11.30 คงต้องไปจับจองที่ทางด้วยที่นั่งของเรา
นั่งนับถอยหลังจนกระทั่ง นาฬิกาตีตรงเป๋งเวลา 12.45 น.
บนตั๋วเดินทาง ระบุว่าเราจะถึงในเวลา ตี 4.05 นาทีค่ะ
รถไฟออกตรงเวลา.....แต่ไม่ได้แปลว่า มันจะถึงตรงเวลานะ
พร้อมแล้ว ไปกันเลยเนอะ!!