ชี้3รปภ.พันบึ้มเซ็นทรัลสมุย เชื่อมโยงนักการเมืองใต้

ชี้3รปภ.พันบึ้มเซ็นทรัลสมุย เชื่อมโยงนักการเมืองใต้

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/643093

หน่วยข่าวกรองชี้ 3 รปภ.ผู้ต้องสงสัยบึ้มเซ็นทรัลสมุย มีความเชื่อมโยง 3 อดีตนักการเมืองในพื้นที่ชายแดนใต้
พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยถึงความคืบหน้าเหตุคาร์บอมบ์ บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ในส่วนที่เกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่ทำหน้าที่ในการปล้นชิงรถยนต์จากพนักงานขับรถขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา ซึ่งเป็นรถยนต์คันที่ใช้ในการประกอบเป็นคาร์บอมบ์ ห้างเซ็นทรัลเกาะสมุยว่า ได้รับรายงานจากชุดซักถามของกรมทหารพรานที่ 41 เกี่ยวกับการซักถาม นายอับดุลรอซะ ดูมิแด พนักงานขับรถ อบต.ละแอ ซึ่งได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จนทราบแล้วว่า คนร้ายบางส่วนที่ทำการปล้นชิงรถไปทำคาร์บอมบ์เป็นใคร และกลุ่มไหน ทั้งนี้พบว่าไม่ใช่เป็นการปล้น แต่เป็นการจัดฉาก เพื่อกันคนขับรถให้พ้นความผิด ทำให้สามารถหาความเชื่อมโยงกับกลุ่มที่อยู่เกาะสมุย เพราะมีความเกี่ยวพันที่เป็นเครือข่าย มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดีก่อนที่จะมีการปฏิบัติการ เช่นเดียวกับการทำคาร์บอมบ์ ที่โรงแรมลีการ์เดนส์ พลาซ่า หาดใหญ่ ที่โรงแรมเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ที่ข้างโรงแรมสาธิตที่ อ.สะเดา และการทำจักรยานยนต์บอมบ์ที่โรงพักหาดใหญ่ ซึ่งลักษณะการปฏิบัติการแบบเดียวกัน พล.ท.ปราการ กล่าวว่า ในส่วนการสอบสวน 3 รปภ.ห้างเซ็นทรัล ซึ่งเป็นคนจาก 3 จังหวัดชายแดนใต้ ที่เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ควบคุมตัวเพื่อขยายผลถึงการเกี่ยวข้องต่อการวางระเบิดหรือไม่นั้น ได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า ทั้ง 3 คน ให้การเป็นประโยชน์กับรูปคดี รวมถึงการเชื่อมโยงของกลุ่มแนวร่วมใน 3 จังหวัด แต่ยังไม่สามารถเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เข้ามาก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังคงควบคุมตัวเอาไว้โดยอำนาจ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อสอบถามรายละเอียดต่อไป

ขมวดปมบึ้มสมุยเหลือ“การเมือง-ไฟใต้”
ขณะเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนคดีของ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ จเรตำรวจ เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเด็นการก่อเหตุแคบเข้ามาแล้ว โดยมีการตัดประเด็นการก่อเหตุจากความขัดแย้งของกลุ่มอิทธิพลในเกาะสมุย และความขัดแย้งในการไล่ รปภ.ออก เหลือเพียงเรื่องการว่าจ้างจากผู้ที่ต้องการก่อกวนเพื่อนสร้างความปั่นป่วนให้แก่บ้านเมือง และเรื่องการปฏิบัติการก่อการร้ายของขบวนการโจรแบ่งแยกดินแดนภาคใต้ ขณะเดียวที่หน่วยข่าวความมั่นคงของ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และ ตำรวจสันติบาล รวมทั้งชุดประสานงานชายแดน ออกหาข่าวความเชื่อมโยงจากแกนนำขบวนการบีอาร์เอ็น และพูโล ทั้งใน 3 จังหวัดภาคใต้ และในประเทศมาเลเซีย โดยมีการส่งนายทหารที่เกาะติดความเคลื่อนไหวของแกนนำของบีอาร์เอ็น และพูโล ไปพบกับนายตำรวจระดับ พ.ต.อ.ผู้หนึ่ง ที่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเคยเป็นผู้ที่มีบทบาทต่ออำนาจเก่า ในการประสานงานให้แกนนำบีอาร์เอ็น และพูโล ได้พบกับผู้นำอำนาจเก่า ก่อนที่บีอาร์เอ็น จะมีการพูดคุยกับตัวแทนรัฐบาลเพื่อไทย เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา รวมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับ พ.ต.อ.ผู้นี้ เป็นผู้ที่ประสานงานอยู่กับชมรมต้มยำกุ้ง ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีบทบาทกับกลุ่มอำนาจเก่า เพื่อหาข้อมูลของการจ้างวาน แนวร่วมในพื้นที่ 4 จังหวัดก่อเหตุ ส่วนหน่วยข่าวกรองในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตรวจสอบรายชื่อของกลุ่มแกนนำที่ถูกระบุว่า เป็นผู้วางแผนในการระเบิดห้างเซ็นทรัล เช่น นายอูไบดีละ รอมลี นายอาบัส เจะอาลี นายปอเซ็ง เจ๊ะมะ นายรุสลัน ใบหมะ ว่ามีความใกล้ชิดกับกลุ่มการเมืองอำนาจเก่า ในพื้นที่ 3 จังหวัดหรือไม่ ซึ่งขณะนี้หน่วยข่าวกรองได้โฟกัสไปที่อดีตนักการเมืองใน จ.นราธิวาส และยะลา 3 คน ที่พบว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มบีอาร์เอ็น กลุ่มนี้ที่มีศักยภาพในการใช้ หรือจ้างวานให้ก่อเหตุได้

รถคาร์บอมบ์ผ่านด่านสิงหานคร
ที่ห้องประชุมเฉวง สภ.บ่อผุด อ.เกาะสมุย พล.ต.ต.สมชาย นิตยบวรกุล รอง ผบช.ภ.8 ได้แถลงการณ์ความคืบหน้าคดี หลังได้เรียกประชุมตำรวจชุดคลี่คลายคดีคาร์บอมบ์เซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย ว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามด่านตรวจต่างๆ ตั้งแต่เขต จ.สงขลา จ.นครศรีธรรมราช มาจนถึงท่าเรือเฟอร์รี่ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี พบรถกระบะยี่ห้อมาสด้าคันที่ถูกปล้นมาจาก อบต.ละแอ ขับผ่านด่านตรวจ อ.สิงหานคร จ.สงขลา เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 9 เม.ย. แต่ไม่เห็นหน้าคนขับ ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากด่านตรวจอื่นๆ แต่ยังไม่พบ นอกจากภาพที่พบจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ฝั่งดอนสัก เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 10 เม.ย.เท่านั้น หลังจากนั้นรถคันดังกล่าวได้ขับขึ้นบนฝั่งเกาะสมุยเมื่อเวลา 08.30 น. แล้วคนขับได้ขับรถเรื่อยๆ และไปจอดหยุดรอบริเวณพรุเฉวง ฝั่งตรงข้ามกับห้างเซ็นทรัล อยู่นานประมาณ 33 นาที ก่อนที่คนขับจะขับรถเข้าไปจอดลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างเซ็นทรัล ซึ่งทางตำรวจชุดคลี่คลายคดีทุกชุดกำลังทำงานกันอย่างเต็มที่ ขณะนี้คาดว่าจะสามารถคลี่คลายคดีได้เร็วๆ นี้แน่

“ชายเสื้อน้ำเงิน”ยันไม่เกี่ยวคาร์บอมบ์
พล.ต.ต.สมชาย กล่าวด้วยว่า ส่วนประเด็นการตรวจสอบกล้องวงจรปิดของห้างเซ็นทรัล เกาะสมุย พบชายเสื้อสีน้ำเงินต้องสงสัยเป็นคนขับรถคาร์บอมบ์นั้น เมื่อกลางดึกวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ชายสวมเสื้อสีน้ำเงิน ได้เดินทางมาพบตำรวจ โดยแจ้งว่าชื่อ นายวีระ พันธุ์เจริญ เป็นคน ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่า ภาพที่ปรากฏในกล้องวงจรปิด เป็นตัวเองจริง โดยวันเกิดเหตุได้ปั่นจักรยานไปเที่ยวห้างเซ็นทรัล เพราะขับรถยนต์ไม่เป็น พร้อมยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับเหตุคาร์บอมบ์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามทางตำรวจได้ทำการตรวจเก็บดีเอ็นเอของนายวีระ ไว้เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอที่เก็บจากที่เกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนที่จะปล่อยตัวนายวีระ กลับไป

คุม3รปภ.สอบเข้มในค่ายทหาร
พล.ต.ต.สมชาย กล่าวอีกว่า สำหรับ รปภ.ของห้างเซ็นทรัล 3 คน ล่าสุดทางทหารได้คุมตัวไปสอบเพิ่มเติมอย่างละเอียดในค่ายวิภาวดีรังสิต อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และทางตำรวจได้ขออนุญาตทางทหารขอเข้าไปสอบปากคำ รปภ.ทั้ง 3 คน เพื่อขยายผลว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง และมีใครอยู่เบื้องหลังขบวนการ คาดว่าหลังสอบปากคำเสร็จ อาจนำไปสู่การออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องต่อไป “ขอยืนยันว่า การเข้าตรวจค้นบ้านพักของ รปภ.ทั้ง 3 คน ไม่พบสารผลิตระเบิดตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด พบเพียงแผนผังของห้างเพราะ 1 ใน 3 รปภ.มีหน้าที่รับผิดชอบเรื่องกล้องวงจรปิดของห้าง จึงต้องมีแผนผังของห้างไว้ด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังแกะรอยจากประเด็นนี้”

“สมยศ”ระบุยังไม่ออกหมายจับใคร
ทางด้านพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ตอนนี้ยังไม่มีการออกหมายจับใคร การออกหมายจับจะรีบร้อนไม่ได้ เพราะหากออกหมายจับไปแล้วเกิดความผิดพลาดจะเป็นผลเสียต่อกระบวนการสืบสวน ทั้งนี้จากการสอบสวนผู้ต้องสงสัยยังมีประเด็นที่ต้องมีการสอบสวนให้ละเอียดอีกมาก เพื่อให้ได้หลักฐานที่ชัดเจนและนำไปสู่การออกหมายจับคนร้ายต่อไป พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ตอนนี้ทางตำรวจยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง เพราะจากการรวบรวมข้อมูลและทำการวิเคราะห์เหตุการณ์นั้น เชื่อว่าจะเป็นการสร้างสถานการณ์ เพื่อให้เกิดความสับสนวุ่นวาย เพราะเหตุระเบิดดังกล่าว คล้ายกับเหตุระเบิดหน้ารามคำแหง ปี 2556 คือ ตัวคนร้ายไม่ได้มีความประสงค์ที่จะก่อเหตุ แต่มีบุคคลที่คอยบงการอยู่เบื้องหลัง

ผวาพัสดุต้องสงสัยส่งถึงรปภ.ห้างเซ็นทรัล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ รปภ.ห้างเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย ได้นำกล่องพัสดุที่ส่งมาให้กับ 1 ใน 3 รปภ.ต้องสงสัย ที่ถูกควบคุมไว้ในค่ายทหารไปมอบให้ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคาร์บอมบ์ และสงสัยว่า พัสดุดังกล่าวอาจจะเป็นส่วนประกอบของระเบิด จึงประสานเจ้าหน้าที่ชุดอีโอดี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์พิสูจน์หลักฐาน ตำรวจภูธรภาค 8 มาตรวจสอบ โดยใช้เวลา 10 นาที เจ้าหน้าที่จึงได้แกะกล่องพัสดุ พบภายในมีนาฬิกาข้อมือแบบอนาล็อก 1 เรือน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดีได้นำพัสดุดังกล่าวไปเก็บไว้ เพื่อตรวจหาร่องรอยลายนิ้วมือแฝงและตรวจสอบถึงที่มาของพัสดุที่ถูกส่งมาในเวลาคาบเกี่ยวกับเหตุคาร์บอมบ์นี้อีกครั้ง - See more at: http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/643093#sthash.54iE7OeH.dpuf
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่