สวัสดีค่ะทริปนี้จะพาไปเที่ยวสะพาน Kintaikyo ที่ Iwakuni กันนะคะ
สะพานคินไตเคียว(Kintai-kyo Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำนิชิกิ(Nishiki River) และข้ามไปยังปราสาทอิวาคูนิ(Iwakuni Castle) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ (เราไม่ได้ไปถึงปราสาทนะคะ) สะพานคินไตเคียวเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นใช้วิธีสร้างแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยการเข้าชิ้นด้วยสลัก มีทั้งหมด 5 โค้ง ตัวสะพานมีความยาว 193 เมตร แต่ละโค้งกว้าง 5 เมตร และวงโค้งบนสุดสูงจากแม่น้ำประมาณ 12 เมตร หลังจากที่สะพานสร้างเสร็จในปี 1673 ยังคงสภาพเดิมจนมีอายุถึงปี 1950 จึงถูกพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงพัดถล่ม ในระหว่างนั้นญี่ปุ่นอยู่ในช่วงสงคราม การบำรุงรักษาสมบัติที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมก็ถูกละเลย สะพานที่พังจึงไม่มีการซ่อมแซมเกือบ 400 ปี หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านก็เริ่มทำการฟื้นฟูสะพานที่เป็นหัวใจของเมืองขึ้น เสร็จสมบูรณ์ในปี 1953 เมื่อเร็วๆนี้สะพานคินไตเคียวได้รับการบูรณะเป็นครั้งแรกหลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม ปี 2004 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2 ร้อยล้านเยน โดยผู้เข้าชมจะต้องจ่ายค่าเดินผ่านด้วย
เครดิต:
http://www.talonjapan.com/kintai-kyo-bridge/
เป็นอีกหนึ่งที่หมายที่ประทับใจสุดๆอีกที่นึงในการไปเยือนญี่ปุ่นช่วงซากุระบาน แม้ซากุระที่นี่จะไปเยอะมากเท่ากับในหลายๆแห่ง แต่ด้วยมนต์เสน่ห์ความขลังของสะพานไม้โบราณกับซากุระที่บานสะพรั่งทอดกายอยู่เคียงข้างสะพาน ทำให้หัวใจเบิกบานพองโตได้มากเลยหล่ะค่ะ ตามไปชมกันเลยนะคะ
[CR] ❤️ Fall in love Cherry Blossom @ Kintaikyo ❤️
สะพานคินไตเคียว(Kintai-kyo Bridge) เป็นสะพานที่ทอดข้ามแม่น้ำนิชิกิ(Nishiki River) และข้ามไปยังปราสาทอิวาคูนิ(Iwakuni Castle) ที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ (เราไม่ได้ไปถึงปราสาทนะคะ) สะพานคินไตเคียวเป็น 1 ใน 3 สะพานที่สวยที่สุดของญี่ปุ่นใช้วิธีสร้างแบบดั้งเดิม ซึ่งไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว โดยการเข้าชิ้นด้วยสลัก มีทั้งหมด 5 โค้ง ตัวสะพานมีความยาว 193 เมตร แต่ละโค้งกว้าง 5 เมตร และวงโค้งบนสุดสูงจากแม่น้ำประมาณ 12 เมตร หลังจากที่สะพานสร้างเสร็จในปี 1673 ยังคงสภาพเดิมจนมีอายุถึงปี 1950 จึงถูกพายุไต้ฝุ่นที่รุนแรงพัดถล่ม ในระหว่างนั้นญี่ปุ่นอยู่ในช่วงสงคราม การบำรุงรักษาสมบัติที่สำคัญทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมก็ถูกละเลย สะพานที่พังจึงไม่มีการซ่อมแซมเกือบ 400 ปี หลังจากนั้นไม่นานชาวบ้านก็เริ่มทำการฟื้นฟูสะพานที่เป็นหัวใจของเมืองขึ้น เสร็จสมบูรณ์ในปี 1953 เมื่อเร็วๆนี้สะพานคินไตเคียวได้รับการบูรณะเป็นครั้งแรกหลังจากที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แล้วเสร็จในเดือนมีนาคม ปี 2004 ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงถึง 2 ร้อยล้านเยน โดยผู้เข้าชมจะต้องจ่ายค่าเดินผ่านด้วย
เครดิต:http://www.talonjapan.com/kintai-kyo-bridge/
เป็นอีกหนึ่งที่หมายที่ประทับใจสุดๆอีกที่นึงในการไปเยือนญี่ปุ่นช่วงซากุระบาน แม้ซากุระที่นี่จะไปเยอะมากเท่ากับในหลายๆแห่ง แต่ด้วยมนต์เสน่ห์ความขลังของสะพานไม้โบราณกับซากุระที่บานสะพรั่งทอดกายอยู่เคียงข้างสะพาน ทำให้หัวใจเบิกบานพองโตได้มากเลยหล่ะค่ะ ตามไปชมกันเลยนะคะ