เคยประสบพบเจอกับตัว สายการบินนึง บินไปจาก กทม-นครศรีธรรมราชเมื่อวันที่ 2 เมษายนช่วงเย็นแดดกำลังแยงตา ซึ่งดิฉันนั่งหน้าเด็กสองคนแล้วแม่น้องๆเค้าแม่ลูกใช้ภาษาอังกฤษคุยกัน ที่นั่งของดิฉันจะครึ่งๆกลางๆหน้าต่าง ครึ่งหนึ่งของหน้าต่างแถวฉันจะอยู่ด้านหลังแดดส่องลงตรงที่วางขาพวกเขาและส่องเข้าหลังฉันเต็มๆ เริ่มแรกถึงเบาะเด็กก็ส่งเสียงดังแหกปากคุยซึ่งดิฉันก็ไม่อะไรยังแอบขำแต่สักพัก เด็กๆทุบเบาะกระแทกเบาะฉันไม่หยุด ถีบเบาะ พูดๆๆร้องแหกปาก ซึ่งแดดมันร้อนมากฉันต้องเอื้อมมือปิดหน้าต่างด้านหน้าฉัน(ฉันนั่งติดหน้าต่าง) เพราะโดนคนนั่งฝั่งตรงข้ามเขาหลับอยู่ ดวงอาทิตย์จะตกสาดเข้าหน้าต่างมาจังๆร้อนมากกกกก ส่วนหน้าต่างที่ อยู่ครึ่งๆ กลางๆเด็กพวกนั้นเขาไม่ยอมปิดเลย พี่แอร์โฮตเตจพยายามมาบอกหลายครั้งว่าปิดม่านหน้าต่างได้นะคะ สามสี่ครั้งพวกเขาก็ยังเฉยทั้งแม่ลูก ฉันต้องโค้งตัวซบกับที่วางหนังสือที่ฉันดึงออกมาแทบตลอดทาง เด็กๆถีบร้องไห้แหกคอไม่หยุด สักพักมีขวดนมลอยลิ่วตกข้างๆฉัน คนนั่งฝั่งตรงข้ามมองหน้าฉันด้วยความเป็นห่วงทุกครั้งที่เด็กๆแหกปาก และทุบยันเก้าอี้ ฉันหันไปมองหน้าครั้งมากแม่เขาก็รู้แต่แม่เขาก็ไม่พูดอะไรเลย แย่มาก วันนั้นฉันเหนื่อยยิ่งกว่าขับรถเอง นอกจากเกทในสนามบินจะอยู่ไกลแล้วยังเปลี่ยนเกทไปมาต้องลงมาด้านล่าง เครื่องดีเลย์ ซึ่งแน่นอนเกทด้านล่างต้องนั่งรถไปขึ้นเครื่องอีก บ้าเอ้ยยยยยยฉันอยากจะพักบนเครื่องแต่มาเจอ อะไรพวกเนี้ย เหนื่อย
พอลงเครื่องฉันยืนหันไปค้อนและถอนหายใจยาวๆใส่ทีนึงแต่คุณแม่ของพวกเขาก็ยังเฉยเมยเดินลงไป ทุกคนมองหน้าฉันเหมือนจะปลอบใจทุกคนหยุดให้ฉันลุกก่อนแน่นอนฉันจะเป็นลมอยู่แล้วแดดเผาหลังแสบไปซะหมด
แน่นอนอาจจะโทษเด็กไม่ได้ แต่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลสั่งสอนเด็กๆของท่านไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น
พฤติกรรมเด็กบนเครื่อง..ผลพวงจากพ่อแม่ไม่สั่งสอน
พอลงเครื่องฉันยืนหันไปค้อนและถอนหายใจยาวๆใส่ทีนึงแต่คุณแม่ของพวกเขาก็ยังเฉยเมยเดินลงไป ทุกคนมองหน้าฉันเหมือนจะปลอบใจทุกคนหยุดให้ฉันลุกก่อนแน่นอนฉันจะเป็นลมอยู่แล้วแดดเผาหลังแสบไปซะหมด
แน่นอนอาจจะโทษเด็กไม่ได้ แต่ผู้ปกครองควรที่จะดูแลสั่งสอนเด็กๆของท่านไม่ให้สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น