Review Dior Diorskin Nude Air Serum

กระทู้สนทนา


http://youtu.be/k_Uo4xk9Gic

รีวิวรองพื้นตัวใหม่ล่าสุดจาก Dior ที่เห็นเพียงชื่อก็อยากใช้แล้วล่ะค่ะกับ Diorskin Nude Air Healthy Glow Ultra-Fluid Serum Foundation SPF 25 มาในรูปแบบขวดแก้วที่มีหัวดรอปเปอร์ไว้ใช้ดูดเนื้อรองพื้นเพื่อใช้งานได้สะดวกและรวดเร็วมากๆ อีกทั้งยังทำให้รู้สึกถึงความเป็นเซรั่มบำรุงผิวอย่างไงอย่างนั้นเลยค่ะ และต้องยอมรับเลยค่ะว่า ดิออร์ ทำออกมาได้สวยมากๆ มากกว่าแบรนด์อื่นๆที่ทำรองพื้นเนื้อเซรั่มเหมือนกันออกมา ซึ่งก็เป็นไปตามแบบฉบับของดิออร์เขาละค่ะ



ซึ่งเขาเครมว่าเบาบางดุจราวกับอากาศ ด้วย Oxygen Active Complex ซึ่งดิออร์กล่าวไว้ว่า ใช้เวลาคิดค้นเนื้อรองพื้นด้วยเทคโนโลยีนี้เป็นเวลานานถึง 2 ปี กว่าจะได้การเบล็นด์ส่วนผสมให้เข้ากันของ Vitamins, Minerals, Hyper-Oxygenated Oils, และสารสกัดที่สำคัญอย่างสารสกัดจากแครนเบอร์รี่ หรือ Cranberry Oil ดิออร์ กล่าวว่า "เทคโนโลยีนี้มีความมหัศจรรย์ตรงที่ เมื่อเนื้อรองพื้นสัมผัสกับผิว น้ำมันที่เป็นส่วนประกอบของรองพื้นนี้ก็จะระเหยหายไปในทันที เหลือทิ้งไว้เพียงเม็ดสีไว้บนผิวเท่านั้น ดังนั้นผิวจึงเบาสบายดุจราวกับอากาศ"



มาพูดถึงเนื้อรองพื้นกันค่ะ: อย่างที่บอกว่ารองพื้นตัวนี้มีส่วนผสมหลักคือน้ำมัน ดังนั้นเมื่อสัมผัสกับเนื้อรองพื้น จึงรู้สึกว่าเนื้อเหลวมาก มีการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่าง เซรั่ม, น้ำมัน, และซิลิโคน แต่ทว่าเบาสบายนุ่มนวล บวกกับเทคโนโลยี Oxygen Active Complex เมื่อสัมผัสกับผิวจึงรู้สึกอุ่นๆอย่างบอกไม่ถูก และตัวนี้มีส่วนผสมของน้ำหอมและ แอลกอฮอล์ ความรู้สึกกลิ่นเหมือน อารมณ์แป้งๆ แต่กลิ่นค่อนข้างแรงพอสมควร มีกลิ่นติดผิวสักระยะ ประมาณ 20-25 นาที คนที่แพ้น้ำหอม หรือมีผิวที่แพ้ง่ายมากๆอาจจะต้องเลี่ยงตัวนี้ไปนะค่ะ



การลงผิวจริง: รองพื้นตัวนี้ลงง่ายมาก ด้วยนิ้วมือก็เนียนเรียบเสมอกันได้ พอลงทั่วหน้าแล้ว ก็สามารถนำฟองน้ำลงรองพื้น ทั้งแบบแห้งและเปียก มากดซับๆที่ผิว จะให้ผิวที่เนียนเรียนมากขึ้นจนคุณแปลกใจ
การเทสครั้งนี้ไม่ได้ใช้ไพรเมอร์ลงเพื่อเตรียมผิวก่อน แต่การเทสครั้งนี้จะให้ Chanel Le Blanc Multi-Use illumination Base ลงในใบหน้าข้างซ้าย (เพราะเบสตัวนี้สามารถใช้แทนเป็นไพร์เมอร์ได้ แถมยังช่วยอำพรางรูขุมขน, ควบคุมความมัน และปรับผิวกระจ่างใสขึ้นได้) แต่ข้างขวาจะไม่ใช่เบสและไม่ลงไพร์เมอร์เพื่อเทสความคงทน



จะเห็นได้ว่า เมื่อลงเพียง 1 ชั้น ผิวเรียบเนียนและดูดีขึ้น รูขุมขนกระชับขึ้น สีผิวสม่ำเสมอขึ้น แลมีผิวเสมือนผิวจริง แต่ยังคงเห็นเส้นเลือดฝอยอยู่บ้าง



Finished Look: ให้ลุคแบบ Matte-Velvet คือเนื้อกำมะหยี่ หลังใช้ไม่ได้ทำให้หน้าวาวขึ้น หรือ หน้าแมทจนเหมือนรูปปั้นแต่อย่างใด ซึ่งชอบมาก



All Day: ระหว่างวันที่ได้ทดลองใช้ (09:00-16:00) ยังให้ความคงทนแม้จะมีเหงื่อไหลออกมาก มีผิวที่มันมากขึ้น ให้ลุคที่โกลด์ขึ้น กำลังดี ในภาพนี้ ไม่ผ่านการซับหน้าแต่อย่างใด



ข้อดี - ข้อเสีย

ข้อดี
1. เนื้อดีงามตั้งแต่ที่ได้เทสครั้งแรก บนหลังฝ่ามือ
2. เนื้อเกลี่ยง่าย แม้เพียงใช้แค่นิ้วมือ
3. เบาสบายผิว แม้จะลงทับเพิ่มการปกปิด ก็ยังคงเบาสบายผิว
4. ให้ลุคมีผิวสวยเรียบเนียน แต่ยังคงแลมีผิวที่เสมือนผิวจริง
5. ระหว่างวัน ยังคงทน แม้จะมีอากาศร้อนถึงเหงื่อออกมาก มีผิวมันขึ้น ก็ไม่เป็นคราบ เพียงซับความมันส่วนเกินออก แล้วใช้นิ้วมือกดๆในส่วนที่มีปัญหา ผิวก็กลับมาเนียนดีเหมือนเดิม ซึ่งต่างจาก "Bobbi Brown Intensive Skin Serum Foundation" ซึ่งตัวนั้นเวลาเหงื่อออกมากๆจะเห็นเป็นคราบของเส้นน้ำไหลของเหงื่อ
6. เนื้อมีส่วนผสมของน้ำมันเป็นหลัก แต่ก็ไม่ได้ทำให้มีความรู้สึกเนื้อรองพื้นเหมือนน้ำม้น
7. อำพรางรูขุมขนได้ดี
8. สีไม่เปลี่ยนระหว่างวัน
9. บรรจุภัณฑ์สวยงาม และใช้งานสะดวก ไม่มีปัญหาเรื่องของหัวดรอปเปอร์ใช้งานมีปัญหา
10. ราคาน่าคบเมื่อเทียบคุณภาพและเคาน์เตอร์แบรนด์อื่นๆ โดยมีราคา 2,200฿ 30 มล.

ข้อเสีย.
1. มีน้ำหอมและแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม คนที่แพ้ควรเลี่ยง
2. คนที่มีผิวแห้งควรได้รับการบำรุงเป็นอย่างดี ก่อนลงรองพื้นตัวนี้ เพราะในบริเวณที่มีผิวแห้ง รองพื้นตัวนี้จะยิ่งเน้นให้เห็นเป็นขุย (รอยสิว, ปีกจมูก, หน้าผาก, คาง)
3. อาจมีการตกร่องในส่วนของปีกจมูกได้บ้างถ้าผิวแห้งหรือมีสิวเสี้ยน
4. ในเคาน์เตอร์ประเทศไทย มีเฉดสีให้เลือกน้อย โดยมีเฉดสีโทนธรรมชาติเท่านั้น เช่น (020, 030, 040) ส่วนโทนสีเหลืองไม่มีจำหน่ายในไทย เช่น (021,031,041) ดังนั้น อาจจะได้เฉดสีที่ไม่ตรงกับสีผิวมากนัก

สรุป: ถือว่าเรื่องรองพื้นต้องขอยกให้ คริสเตียนดิออร์ ซึ่งดิออร์ นำเสนอรองพื้นที่น่าสนใจและมีคุณภาพมาโดยเสมอ ตั้งแต่ Diorskin Nude, Dior Forever, หรือแม้แต่รองพื้นที่ออกวางจำหน่ายไปเมื่อกลางปี 2014 ที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับว่าเป็นรองพื้นที่ดีเยี่ยมอีกตัวของดิออร์ นั่นคือ Dior Star Foundation นั่นเอง ซึ่งตัวนี้พั้นซ์ก็รักเขามากเช่นกัน ถือว่าดิออร์สอบผ่านเรื่องความเป็นผู้นำด้านรองพื้นเพื่อผิวสวยอีกแบรนด์หนึ่ง ที่หลายๆคนก็ควรจะมีไว้ครอบครองเพื่อแบ่งปันความสวยในทุกๆวันค่ะ

สุดท้ายฝากเพจด้วยนะค่ะ

Facebook: Beauty & Glamor By Punchy
Instagram: @punchy_smith
Pantip: PunchyPunchy

ขอบคุณมากๆนะค่ะที่ติดตามกัน รีวิวทุกรีวิวอาจจะยาวสักหน่อยแต่ตั้งใจรีวิว เพื่อหลายๆคนอาจจะได้ไม่พลาดเหมือนกับพั้นซ์ที่อาจจะเคยพลาย เอาไว้พิจารณาเพื่อประกอบการตัดสินใจในการซื้อสินค้าความงามนะค่ะ เพราะปัจจุบันสินค้าเคาน์เตอร์แบรนด์มีราคาสูง ดังนั้นอ่านและทำความเข้าใจ ลองเล่นจนพอใจแล้วจงซื้อค่ะ จะได้มีสินค้าที่ดีควรคู่กับผิวที่ดีค่ะ ยังไงมีคำถามหรือข้อเสนอแนะใดๆฝากไว้ได้นะค่ะ แล้วจะรีบมาตอบนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่