http://www.isranews.org/south-news/other-news/item/37878-eod_37878.html
"ทีมข่าวอิศรา" เจาะรายงานของหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หลังเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุระเบิดโดยใช้ "คาร์บอมบ์" บริเวณชั้นจอดรถของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 10 ต่อเนื่องวันที่ 11 เม.ย.58
เริ่มจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด ประกอบด้วย
1.แผ่นป้ายทะเบียนปลอม มี 2 ด้าน ทำด้วยกระดาษแข็งพ่นสี
2.เซลล์ของแบตเตอรีรถจักรยานยนต์ขนาด 12 โวลต์ ซึ่งใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าในการจุดระเบิด
3.ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ ซึ่งใช้เป็นตัวจุดระเบิดโดยการตั้งเวลา (โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ไม่ต้องใส่ซิมการ์ด) พร้อมด้วยแผ่นรองซิมมีหมายเลขกำกับ
4.ชิ้นส่วนถังแก๊สขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัมซึ่งภายในบรรจุดินระเบิดน้ำหนักประมาณ 50- 80 กิโลกรัม
5.สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัด ขนาด 4 มิลลิเมตรคละขนาดและความยาว
6.ชิ้นส่วนรถยนต์มาสดา รุ่นบีที 50 แบบสี่ประตูที่ใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิด ซึ่งมีการพรางโดยใช้แผ่นฟิล์มเครบร้าปิดทับบริเวณฝากระโปรง
สำหรับวงจรการประกอบระเบิด คนร้ายใช้ดินระเบิดน้ำหนักประมาณ 50-80 กิโลกรัม ต่ออุปกรณ์วงจรไฟฟ้ากับแบตเตอรี่เข้ากับดินระเบิด โดยใช้โทรศัพท์เป็นตัวจุดชนวน พร้อมกับมีการตั้งเวลาของอุปกรณ์อีกทางหนึ่ง โดยมีเหล็กเส้นตัดคละขนาดเป็นสะเก็ดระเบิด ทั้งหมดรวมไว้ภายในรถยนต์กระบะ เมื่อจุดระเบิดจะทำความเสียหายเป็นวงกว้าง เพราะคาดหวังว่าจะมีรถยนต์ที่ใช้แก๊สจอดใกล้กันเป็นตัวขยาย รวมทั้งจุดที่จอดใกล้กับเสาตอม่อ มีเป้าหมายทำให้โครงสร้างอาคารเสียหายเพิ่มมากขึ้น
จากข้อมูลของรถยนต์ที่คนร้ายนำมาประกอบระเบิด เป็นรถกระบะสองตอนยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน กย 5618 ชลบุรี ซึ่งพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม โดยทะเบียนจริงของรถคันนี้ คือ กข 4892 ยะลา มีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และ อบต.ละแอ ได้แจ้งหายเอาไว้
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่า การประกอบระเบิดของคนร้าย จากวัตถุพยานที่พบมีลักษณะเหมือนกับระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมทั้งคาร์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน ธ.ค.2556 ด้วย ซึ่งมีการตั้งเวลาระเบิดวันเดียวกับที่เกิดระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์และคาร์บอมบ์รวม 3 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา คือวันที่ 22 ธ.ค.2556
สำหรับคาร์บอมบ์ที่พบที่ จ.ภูเก็ต รถกระบะที่ใช้ก็โจรกรรมมาจาก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ติดตั้งวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถังต่อพ่วงกัน ถังแก๊สซุกซ่อนไว้ใต้ที่นั่งในแคปหลังเบาะคนขับ โดยรูปแบบการประกอบระเบิด ถังแก๊สที่ใช้ และลักษณะการวางถังแก๊ส คล้ายคลึงกับคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุยเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายที่วางระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือมีความเกี่ยวข้องกันกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา รวมทั้ง จ.ภูเก็ต ซึ่งระเบิดไม่ทำงาน ส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้น ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยอีโอดีชายแดนใต้ ให้ข้อมูลด้วยว่า เหตุระเบิดที่เกาะสมุยมีความเชื่อมโยงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน จากพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ แต่ก็มีข้อมูลบางส่วนที่เชื่อได้ว่าน่าจะมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากการเคลื่อนไหวในโซเซียลมีเดียของกลุ่มการเมืองสีเสื้อที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าวก่อนจะเกิดเหตุ ลักษณะเช่นเดียวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อปีที่ผ่านมา แม้เป็นการสถานการณ์ความไม่สงบก็จริง แต่มีประเด็นแทรกซ้อนในเรื่องความขัดแย้งผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เปิดรายงานอีโอดี บึ้มสมุยโยงชายแดนใต้ คล้ายคาร์บอมบ์ภูเก็ต
"ทีมข่าวอิศรา" เจาะรายงานของหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด หลังเข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานจากสถานที่เกิดเหตุระเบิดโดยใช้ "คาร์บอมบ์" บริเวณชั้นจอดรถของศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 10 ต่อเนื่องวันที่ 11 เม.ย.58
เริ่มจากอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับวัตถุระเบิด ประกอบด้วย
1.แผ่นป้ายทะเบียนปลอม มี 2 ด้าน ทำด้วยกระดาษแข็งพ่นสี
2.เซลล์ของแบตเตอรีรถจักรยานยนต์ขนาด 12 โวลต์ ซึ่งใช้เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าในการจุดระเบิด
3.ชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นฮีโร่ ซึ่งใช้เป็นตัวจุดระเบิดโดยการตั้งเวลา (โทรศัพท์มือถือรุ่นนี้ไม่ต้องใส่ซิมการ์ด) พร้อมด้วยแผ่นรองซิมมีหมายเลขกำกับ
4.ชิ้นส่วนถังแก๊สขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัมซึ่งภายในบรรจุดินระเบิดน้ำหนักประมาณ 50- 80 กิโลกรัม
5.สะเก็ดระเบิดเป็นเหล็กเส้นตัด ขนาด 4 มิลลิเมตรคละขนาดและความยาว
6.ชิ้นส่วนรถยนต์มาสดา รุ่นบีที 50 แบบสี่ประตูที่ใช้ซุกซ่อนวัตถุระเบิด ซึ่งมีการพรางโดยใช้แผ่นฟิล์มเครบร้าปิดทับบริเวณฝากระโปรง
สำหรับวงจรการประกอบระเบิด คนร้ายใช้ดินระเบิดน้ำหนักประมาณ 50-80 กิโลกรัม ต่ออุปกรณ์วงจรไฟฟ้ากับแบตเตอรี่เข้ากับดินระเบิด โดยใช้โทรศัพท์เป็นตัวจุดชนวน พร้อมกับมีการตั้งเวลาของอุปกรณ์อีกทางหนึ่ง โดยมีเหล็กเส้นตัดคละขนาดเป็นสะเก็ดระเบิด ทั้งหมดรวมไว้ภายในรถยนต์กระบะ เมื่อจุดระเบิดจะทำความเสียหายเป็นวงกว้าง เพราะคาดหวังว่าจะมีรถยนต์ที่ใช้แก๊สจอดใกล้กันเป็นตัวขยาย รวมทั้งจุดที่จอดใกล้กับเสาตอม่อ มีเป้าหมายทำให้โครงสร้างอาคารเสียหายเพิ่มมากขึ้น
จากข้อมูลของรถยนต์ที่คนร้ายนำมาประกอบระเบิด เป็นรถกระบะสองตอนยี่ห้อมาสด้า หมายเลขทะเบียน กย 5618 ชลบุรี ซึ่งพบว่าเป็นป้ายทะเบียนปลอม โดยทะเบียนจริงของรถคันนี้ คือ กข 4892 ยะลา มีองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ละแอ อ.ยะหา จ.ยะลา เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ และ อบต.ละแอ ได้แจ้งหายเอาไว้
แหล่งข่าวซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงในหน่วยเก็บกู้ทำลายวัตถุระเบิด (อีโอดี) ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้ความเห็นว่า การประกอบระเบิดของคนร้าย จากวัตถุพยานที่พบมีลักษณะเหมือนกับระเบิดในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา รวมทั้งคาร์บอมบ์ที่เจ้าหน้าที่เก็บกู้ได้ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อเดือน ธ.ค.2556 ด้วย ซึ่งมีการตั้งเวลาระเบิดวันเดียวกับที่เกิดระเบิดมอเตอร์ไซค์บอมบ์และคาร์บอมบ์รวม 3 จุด ในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา คือวันที่ 22 ธ.ค.2556
สำหรับคาร์บอมบ์ที่พบที่ จ.ภูเก็ต รถกระบะที่ใช้ก็โจรกรรมมาจาก อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ติดตั้งวัตถุระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบใส่ถังแก๊สหุงต้ม ขนาดบรรจุ 15 กิโลกรัม จำนวน 2 ถังต่อพ่วงกัน ถังแก๊สซุกซ่อนไว้ใต้ที่นั่งในแคปหลังเบาะคนขับ โดยรูปแบบการประกอบระเบิด ถังแก๊สที่ใช้ และลักษณะการวางถังแก๊ส คล้ายคลึงกับคาร์บอมบ์ที่เกาะสมุยเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อได้ว่าคนร้ายที่วางระเบิดคาร์บอมบ์บริเวณลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย น่าจะเป็นกลุ่มเดียวกันหรือมีความเกี่ยวข้องกันกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้และ จ.สงขลา รวมทั้ง จ.ภูเก็ต ซึ่งระเบิดไม่ทำงาน ส่วนจะเป็นกลุ่มใดนั้น ต้องรอการตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีก
เจ้าหน้าที่ระดับสูงจากหน่วยอีโอดีชายแดนใต้ ให้ข้อมูลด้วยว่า เหตุระเบิดที่เกาะสมุยมีความเชื่อมโยงกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน จากพยานวัตถุที่พบในที่เกิดเหตุ แต่ก็มีข้อมูลบางส่วนที่เชื่อได้ว่าน่าจะมีประเด็นทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย จากการเคลื่อนไหวในโซเซียลมีเดียของกลุ่มการเมืองสีเสื้อที่มีการโพสต์ข้อความเกี่ยวกับเหตุระเบิดดังกล่าวก่อนจะเกิดเหตุ ลักษณะเช่นเดียวกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ และ อ.สะเดา จ.สงขลา เมื่อปีที่ผ่านมา แม้เป็นการสถานการณ์ความไม่สงบก็จริง แต่มีประเด็นแทรกซ้อนในเรื่องความขัดแย้งผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------